ด้วยพื้นฐานเดิมที่เล่นเพลง "cover" เป็นหลักจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากผลงานที่ออกมาของพวกเขา "แคลช" จะมีซาวนด์-สำเนียงที่ไปคล้ายกับวงดนตรีวงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นผลงานทั้งสองอัลบั้มที่ผ่านมาทั้ง "One" และ "Soundshake"
รวมทั้งอัลบั้มล่าสุดอย่าง "Brainstorm" ด้วยเช่นกัน
เป็นอะไรที่คุ้นหูไปซะแล้วกับการที่ศิลปินร็อกในบ้านเราหลายต่อหลายกลุ่มที่ทำเพลงในรูปแบบที่เรียกกันว่า "นู เมทัล" โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลจากวงร็อกชื่อดังอย่าง "Linkin Park" หรือ "Korn" แต่จะเด่นชัดเท่ากับ "รักจริงรักปลอม" หรือ "ใส่ร้ายป้ายสี" 2 แทร็กแรกใน "Brainstorm" นี้หรือเปล่า(คนฟังเพลง)ต้องตัดสินใจกันเอาเอง
แทร็กที่สาม "ไออุ่นรัก" เพลงนี้น่าจะต้องขอบคุณความฮิตจาก "เช็ดน้ำตา" ต่อกันด้วย "ร่ำร้อง" ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ทางด้านเสียงร้องของหนุ่มแบงค์(แบบลากหางเสียงที่คนหมั่นไส้แซวว่า "หอน") ทั้ง 4 แทร็กจะบอกว่าเป็นไฟท์บังคับในอัลบั้ม(ที่ต้องมี)ก็คงจะไม่ผิดนัก ในขณะที่เหลือก็ล้วนแล้วแต่เป็นสีสันที่น่าสนใจไม่ใช่เล่น(แม้จะมีคนวิจารณ์ว่าท่อนฮุคของเพลง "หนาว" จะไปเหมือนเด๊ะกับ Anata ของ L'arc en ciel ก็ตาม)
ทั้ง 12 แทร็ก ในส่วนเนื้อหาของเพลงและดนตรีต้องบอกว่าหนักแน่นขึ้นมากๆ ระบบการบันทึกเสียงที่บินไกลไปถึงประเทศออสเตรเลียออกมาดีเยี่ยม ไม่น่าผิดหวัง แต่โดยรวมแล้วงานชุดนี้ก็ยังคงมองเรื่องของ "ตลาด" เป็นหลัก
รวมทั้งยังไม่อาจจะบอกได้ว่าตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาเป็นอย่างไร แต่การเป็น "เจ ร็อก" จ๋าในงานชุดแรกบนกระแสที่สังคมวัยรุ่นบ้านเรากำลังคลั่งไคล้แฟชั่นทั้งเสื้อผ้า ดนตรี ตามแบบวัยรุ่นแดนปลาดิบ กับการเป็น "นู เมทัล" อย่างชัดเจนในช่วงที่กระแสเพลงในแนวนี้กำลังได้รับความนิยม เหตุผลนี้ก็อาจจะทำให้ใครบางคนหรืออาจจะถึงหลายคนเดาได้ไม่ยากว่างานเพลงในชุดต่อไปของพวกเขาจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร?
และนี่ก็อาจจะเป็นสูตรการทำเพลงของ "แคลช" ก็เป็นไปได้
กับกรณีของเพลงที่ "ไปเหมือน" "ละม้าย" "คล้าย" กับศิลปินคนอื่นๆ ของ "แคลช" ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าคิดเพราะสมาชิกของแต่ละคนในวงนี้ล้วนแล้วต่างก็มีฝีไม้ลายมือไม่เป็นสองรองใคร(ด้วยรางวัลมากมายจากหลายเวทีการประกวด หรือแม้กระทั่งรางวัล "สีสัน อวอร์ดส์" สาขาเพลงร็อกยอดเยี่ยม จากเพลง "Love Scene" ปี 2545 ที่สำคัญต้องยอมรับว่าในยุคนี้พวกเขาไม่ใช่ธรรมดา มีแฟนเพลงวัยรุ่นมากมายที่เฝ้าติดตามผลงานรวมทั้งหลายต่อหลายคนต่างก็ยกให้เขาเป็น "ต้นแบบ" ทั้งเรื่องของงานเพลง แฟชั่นการแต่งตัว สไตล์การร้อง
ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับพวกเขาอยู่เหมือนกันถ้าเรื่องจริง "ฮีโร่" ของเขาเกิดกลายเป็นของปลอมขึ้นมา