หลังจากที่ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งมาหลายวัน วันนี้ก็มีข่าวว่า “แนท เกศรินทร์” นางเอกหนังวีซีดีผู้อื้อฉาวจะเข้ามาให้ปากคำกับตำรวจที่กองทะเบียนเวลา 13.00 แต่เพื่อป้องกันความผิดพลาดผู้สื่อข่าวทั้งหลายก็เลยแห่มาทำข่าวกันตั้งแต่ 10.00 น. ทว่ารอจนบ่ายสองก็ยังไม่มีวี่แววว่าน้องแนทจะมาตามคำสัญญา
จนในที่สุด พ.ต.อ.วิสุทธิ์ วาณิชบุตร รองผบก.ท. ก็เลยต้องเปิดแถลงข่าวซะเองเพราะกระแสข่าวที่ผ่านมาหลายวันนั้นค่อนข้างคลาดเคลื่อน บ้างก็ว่าแนทจะโดนจับข้อหาค้าประเวณี บ้างก็ว่าโดนคดีอนาจาร งานนี้ท่านผู้พิทักษ์สันติราษฎ์ก็เลยขอเคลียร์ทุกข้อสงสัย
“อย่างที่ทุกคนทราบอยู่ว่ากองทะเบียนมีอำนาจเกี่ยวกับซีดี ดีวีดีภาพยนตร์ และทุกคนก็เคยไปจับหนังกับผมมาแล้วเมื่อ 5 – 6 เดือนก่อน ครั้งนั้นผมจับได้หนังซีดีเอ็กซ์ หนังลามกได้ 300 กว่าราย จากนั้นก็ได้ไปทำการจับอีก 4 รายได้ผู้ต้องหามา 3 ราย แต่อีกรายไม่มีผู้ต้องหาตรวจยึดได้แต่ซีดีที่เขียนหน้าปกว่า “แนท เกศรินทร์” สุดยอดนางแบบ เจ้าของสัดส่วน 38 – 24 – 36”
“จากนั้นสื่อมวลชนก็บอกว่านี่น้องแนทที่เล่นซีดีเรื่องโมราตอนแรกผมก็คิดว่าไม่ใช่ คือข้างหน้าอาจจะเป็นแนทเนื้อในอาจไม่ใช่ แต่พอผมเอามาตรวจสอบปรากฏว่าเป็นแนทจริงๆ ซึ่งผมขอบอกเลยว่านี่ไม่ใช่หนังโป๊แต่เป็นหนังลามก ถือว่าการกระทำเช่นนี้เป็นความผิด”
“เมื่อเป็นแบบนี้เราก็เลยต้องจับกุม วัตถุประสงค์ก็คือ ผู้ถ่ายทำ ผู้สร้าง นายทุนมากกว่าน้องแนทเพราะเราคิดว่าน้องแนทอาจจะเป็นเหยื่อ และประเทศไทยเราก็เป็นสมาชิก MOU. ซึ่งเป็นข้อบันทึกที่ตกลงเป็นแนวทางปฏิบัติร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกรณีการค้าผู้หญิงและเด็กที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามการเป็นเหยื่อก็อาจถือเป็นความผิดได้ แต่ตามหลักเราต้องกันไว้เป็นพยายนเพื่อจับนายทุนและผู้สร้าง”
“ขั้นตอนต่อมาเราก็เลยทำหนังสือเชิญน้องแนทมาให้ปากคำข้อเท็จจริงว่าทำไมไปอยู่ในหนังแผ่นเรื่องนี้ได้ และจากการสืบสวนเบื้องต้นเราพบว่ามีต่างชาติญี่ปุ่นมาติดต่อให้คนไทยซึ่งก็คือน้องแนทเล่น โดยได้ลงนามไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม และส่งทางไปรษณีย์ไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เพื่อให้มาให้ปากคำวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมาเวลา 10.00 น.”
“ปรากฏว่าระหว่างนั้นหนังสือพิมพ์ก็ได้ประโคมข่าวและมีผู้บอกว่าน้องแนทจะเข้ามาให้ปากคำวันนี้เวลา 13.00 น. พอเวลา 14.00 น.น้องแนทก็ได้โทรมาหาผมและบอกว่า ขณะนี้กำลังสับสนเมื่อเช้าป่วยเป็นไมเกรนพึ่งไปหาหมอมา นอกจากนั้นแล้วก็บอกว่าอยากจะดำเนินคดีกับคนที่หลอกแกมาถ่าย และจะมาให้ปากคำวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.”
ทำหนังสือเชิญไปแล้วครั้งหนึ่งแต่ก็ยังไม่มา นี่ถ้าเป็นรายอื่นมีหวังอาจจะโดนส่งเรื่องไปให้ฝ่ายสืบสวนออกหมายเรียกเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับน้องแนทตำรวจกลับค่อนข้างจะใจดีเป็นพิเศษ
“เหตุที่ผมยังไม่ดำเนินการก็เพราะว่าอยากจะช่วยเหลือน้องแนท ถ้าผมอยากจะดำเนินการโดยที่ไม่รอผมก็สามารถส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนกองปราบดำเนินคดีได้ แต่เหตุที่ไม่ส่งเพราะเนื่องจากว่า เราต้องการทราบข้อเท็จจริงว่าใครอยู่เบื้องหนังจะได้ไปสืบสวนจับกุมและกันให้น้องแนทเป็นพยาน”
“อย่างที่สองน้องแนทอายุยังน้อย ถ้าพิจารณาตามหลัก MOU. น้องแนทถือว่าเป็นเหยื่อฉะนั้นเจ้าที่ของรัฐต้องช่วยเหยื่อ ถึงกระทำผิดก็ต้องกันไว้เป็นพยานเพื่อหาผู้บงการต่อไป”
ตำรวจสรุปว่าน้องแนทเป็นเหยื่อและยืนยันว่าจะกันไว้เป็นพยานเพื่อสาวไปถึงการใหญ่ต่อไป แล้วถ้าบังเอิญว่าไปตรวจสอบเจอว่าน้องแนทไม่ได้เล่นหนังลามกเหล่านี้แค่เรื่องเดียวล่ะ....ตำรวจจะว่าอย่างไร?
“ตอนนี้ก็คงจะเอาแค่หนังแผ่นเรื่องนี้เองเดียวก่อน ถ้าเห็นแผ่นอื่นค่อยว่ากันอีกที จริงๆ เรื่องนี้ผมไม่อยากจะให้พูดถึงประเดี๋ยวน้องแนทจะเข้าใจผิด อยากจะพูดเฉพาะกรณีนี้กรณีเดียว”
“อย่างไรก็ตามเราคงต้องรอสอบปากคำน้องแนทในวันพรุ่งนี้ก่อนว่าจะได้ความคืบหน้าอย่างไรบ้าง แต่ถ้าเกิดว่าน้องแนทไม่มาอีกเราก็จะทำหนังสือเรียกไปโดยให้เวลาสั้นๆ และถ้ายังไม่มาก็อาจจะรวบรวมหลักฐานที่มีทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามข้อหาต่อไป ส่วนจะโดนข้อหาอะไรบ้างนั้น ก็เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนจะพิจารณา แต่ตอนนี้ใครๆ ก็จับน้องแนทไม่ได้ เพราะเดี๋ยวนี้ตำรวจจะจับได้แค่สองกรณีคือ การกระทำความผิดซึ่งหน้า หรือมีหมายศาลเท่านั้น ฉะนั้นบอกน้องแนทได้เลยว่าไม่ต้องกลัว”