xs
xsm
sm
md
lg

โดนข้อหาดังแล้วหยิ่ง "จา" ลั่น ผมยังเป็นคนเดิม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอ่ยถามชื่อดาราไทยคนไหนที่มาแรงชนิดฉุดไม่อยู่ในตอนนี้? แน่นอนว่าชื่อของ หนุ่ม "จา พนม ยีรัมย์" นั้นต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

เพราะไม่แต่เพียงแค่เมืองไทยเท่านั้นที่รู้จักหนุ่มคนนี้ทั้งบ้านทั้งเมือง แม้แต่ฝรั่งตาน้ำข่าวเองก็รู้จักเขาด้วยเช่นกันในฐานะของดาราหนังแอ็กชั่นคนใหม่ที่ทุกช็อตทุกฉากล้วนแล้วแต่มาจากความสามารถเฉพาะตัวทั้งสิ้น

จากเรื่อง "องค์บาก" เจ้าตัวเตรียมสานต่อความดังและความมันอีกครั้งใน "ต้มยำกุ้ง" ที่กำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมการณ์กันอยู่

แต่อย่างว่ามีคนรักก็ต้องมีคนคอยจับผิด เพราะมีข่าวแว่วมาว่าเดี๋ยวนี้หนุ่ม "จา" เขาเปลี่ยนไปแล้ว นอกจากแอบไปหลบเหลี่ยมจนสาวฝรั่งตามกรี๊ด ตอนนี้แว่วมาว่าเวลาไปไหนมาไหนต้องมีบอร์ดี้การ์ดส่วนตัวคอยเดินตามแถมยังเรื่องมากขึ้นกว่าเดิมจนหลายคนต้องตั้งข้อหา "ดังแล้วหยิ่ง" ให้

โดนเข้าแบบนี้เจ้าตัวเลยต้องรีบออกมาปฏิเสธกันยกใหญ่ว่ายังเป็น "จา-พนม" คนหน้าเหลี่ยมอยู่ พร้อมยืนยันยังเป็นคนเดิมที่ไม่เคยลืมตัว

"ผมว่าผมก็ทำตัวปกตินะครับ เมื่อก่อนเป็นยังไงเดี๋ยวนี้ก็เป็นยังงั้น แต่อาจมีความแตกต่างตรงที่ตอนนี้มีคนรู้จักเรามากขึ้น ไปไหนมาไหนก็จะมีคนเข้ามาทัก ซึ่งบางครั้งเราอยู่ตรงนี้ก็ทำตัวค่อนข้างลำบากเหมือนกัน เพราะบางทีก็จะมีพี่ที่เขาคอยดูแลฃตามไปด้วยแต่ไม่ถึงกับเป็นบอร์ดี้การ์ดหรอก คือเราปล่อยตัวมากไปก็ไม่ได้ดูไม่ดี พอไม่พูดก็ดูเหมือนว่าเราหยิ่งไปเลยผมไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย"

"มีเวลาว่างกลับบ้านก็ยังเดินไปคุยกับคนโน้น คนนี้อย่างที่เคยทำ ผมถือว่าตรงนี้มันเป็นอาชีพเป็นความฝันของผม ไม่ใช่ว่าพอมาเข้ามาวงการเริ่มมีชื่อเสียง แล้วจะแกล้งจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยเป็นใครมาก่อน ผมเคยเป็นเด็กบ้านนอกยังไงวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ ผมว่าเป็นเรื่องไร้สาระเรามาวัดกันที่ความสามารถดีกว่า"

เดินไปไหนก็มีแต่คนเข้ามาทักจนมีเสียงลือว่าเจ้าตัวนั้นเกิดอาการเบื่อหน่ายถึงขนาดที่มีคนแอบเห็นพระเอกนักบู๊คนนี้วีนใส่แฟนคลับจนถึงกับร้องไห้กันเลยทีเดียว
"ไม่มีแน่นอนครับ ผมว่าอาจเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า เพราะเคยมีอยู่ครั้งหนี่งไปเดินเที่ยวห้างแล้วไปเจอแฟนๆ ที่เขาติดตามผลงานของเรามาตลอด วิ่งเข้ามาทักเป็นเด็กผู้หญิงยังเรียนมัธยมอยู่เลยมาขอลายเซ็นบอกอยากคุยด้วย พอดีวันนั้นผมมีธุระต้องรีบไปเลยบอกปัด เขาก็ร้องไห้ก็เลยมีการปลอบกันนิดหน่อยไม่มีอะไรเลย"

สรุปว่ายังดีเหมือนเดิม ทักได้ คุยได้ เจ้าตัวบอกยึดคติมีคนรักดีกว่ามีคนเกลียด
"แน่นอนครับ เจอกันเข้ามาคุยกันได้ ไม่เคยคิดว่าเราจะต้องมีแฟนคลับเยอะแยะ มีคนรักเยอะแยะมีคนสักกลุ่มหนึ่งที่เข้าใจในสิ่งที่ผมถ่ายทอดออกไปเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวของไทยแล้วให้ความสนใจแค่นี้ก็ดีใจจะแย่อยู่แล้ว ยังไงผมว่ามีคนรักก็ดีกว่ามีคนเกลียดแน่นอน"

ภาพยนตร์เรื่อง "ต้มยำกุ้ง" หนังไทยเรื่องที่ 2 ของสหมงคลฟิล์มที่จะโกอินเตอร์นั้นก็เป็นอีกเรื่องที่หนุ่ม "จา" เขาตั้งใจมาก ถึงขนาดเก็บตัวฝึกฝนกระบวนท่านานร่วมเดือนเพื่อให้ออกมาสมบูรณ์แบบและดีที่สุด

"ตอนนี้ก็มีหนังเรื่องต้มยำกุ้ง ของสหมงคลฯ เรื่องนี้จะเกี่ยวกับศิลปะแม่ไม้มวยไทยเยอะมาก ผมกล้าพูดได้เลยว่าดีกว่าองค์บาก เพราะเรื่องนี้เหมือนกับว่าเราเก็บความผิดพลาดจากครั้งก่อนมาปรับปรุงให้ดีขึ้น อีกทั้งผมและทีมงานก็มีการเก็บตัวฝึกซ้อมกันนานร่วมเดือนเพื่อให้เกิดความชำนาญ"

"มีการประยุกต์ท่าทาง ผสมผสานให้ดูแปลกขึ้นแต่ยังคงไว้ซึ่งการต่อสู้แบบไทยๆ ที่มีความแข็งแรงอยู่ ผมตั้งใจกับเรื่องนี้ไม่ใช่ว่าต้องการให้มันโกอินเตอร์เพื่อให้คนต่างชาติเห็นอย่างเดียว แต่อยากให้คนไทยหันมาให้ความสนใจศิลปะด้านนี้กันมากขึ้น สนับสนุนหนังเข้าฉายก็อย่าลืมไปดูกันเยอะๆ นะครับ"
กำลังโหลดความคิดเห็น