xs
xsm
sm
md
lg

Scoop พิเศษ : Squid Game ซีซั่นสุดท้าย: ปิดตำนาน “เกมลุ้นตาย” หรือเริ่มปฐมบทใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





เมื่อเกมยังไม่จบ โลกต้องจับตา! การกลับมาของ Squid Game ซีซั่น 3 (สควิกเกม เล่นลุ้นตาย - 2025) ไม่ใช่แค่ปรากฏการณ์ แต่คือการสิ้นสุดมหากาพย์เกมแห่งชีวิตและความตายที่สะกดคนทั้งโลกมานานหลายปี ซีซั่นนี้ไม่ใช่การปิดฉากของซีรีส์สุดระทึกขวัญ แต่คือการส่งสารที่ทรงพลังถึงผู้ชมทั่วโลก เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางครั้งสุดท้ายในโลกของ Squid Game และร่วมเป็นสักขีพยานในบทสรุปที่โลกต้องจดจำ ออนแอร์พร้อมกันทั่วโลกวันที่ 27 มิถุนายนนี้!

รวบตึง 1 นาที: ย้อนรอยความสำเร็จของ Squid Game ซีซั่น 1-2
จากปฐมบทแห่งความบ้าคลั่งของ Squid Game หรือ “เล่นลุ้นตาย” ซีซั่น 1-2 ซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญเอาชีวิตรอด ที่กลายเป็นปรากฎการณ์ระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว เรื่องราวการแข่งขันเกม reality show ที่มีผู้เล่นมากถึง 456 คน ทุกคนล้วนแล้วแต่ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักและจมปลักอยู่ในกองหนี้สินนับล้านวอน พวกเขาถูกล่อลวงจากคนแปลกหน้าอย่างชายในชุดสูทหรือ “ตักจีแมน” ให้มารวมตัวกันเพื่อร่วมแข่งขันเกมเด็กเล่นที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ผู้แพ้ในเกมจะต้องถูก “กำจัด” (ตาย) ทิ้งทันที โดยทุกครั้งที่มีผู้เล่นเสียชีวิต เงินรางวัลรวมจะเพิ่มขึ้นถึง 100 ล้านวอน!

แม้จะเห็นคนตายเลือดสาดต่อหน้าต่อตา แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็ยังคงเลือกที่จะเล่นเกมในด่านต่อๆ ไปอยู่ดี เพื่อหวังที่จะปลดหนี้และพลิกชีวิตเป็นมหาเศรษฐี ซีรีส์ยังนำเสนอปมชีวิตของผู้เข้าแข่งขันกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนล้วนมีทั้งความดีงาม ความเห็นแก่ตัว ความกลัว และความหวัง ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อมโยงและเอาใจช่วยตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ซีรีส์ยังนำเสนอแง่มุมของมิตรภาพ ความไว้ใจ การหักหลัง หรือแม้แต่ความรัก ทำให้เรื่องราวใน Squid Game มีทั้งดรามาเข้มข้น สะเทือนอารมณ์ และน่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ

หลังจากตัวละครนำในซีซั่น 1 อย่างผู้เล่นหมายเลข 456 อย่าง “ซองกีฮุน” (รับบทโดย อีจองแจ) กลายเป็นผู้ชนะและผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวที่คว้าเงินรางวัล 456 ล้านวอนไปครอง แต่เขากลับเลือกที่จะทิ้งชีวิตใหม่ในอเมริกา เพื่อกลับมาโค่นล้มเกมลุ้นตายในซีซั่น 2 แล้วยังรวมตัวกับผู้เล่นกลุ่มหนึ่งก่อกบฏช่วงชิงอาวุธจากผู้คุมเพื่อหวังจะปิดจบ Squid Game แบบถอนรากถอนโคน แต่กลับกลายเป็นว่า ซองกีฮุนและเพื่อนร่วมอุดมการณ์กลับถูกฟรอนต์แมน (รับบทโดย อีบยองฮอน) ที่ปลอมตัวเป็นผู้เล่นเกมทำลายแผนการณ์ และพลิกสถานการณ์จนพวกเขากลายเป็น “ผู้แพ้” อีกครั้ง

ในซีซั่น 3 ซองกีฮุนและผองเพื่อนที่เหลือรอดไม่กี่คน จะสามารถพลิกกลับมากลายเป็น “ผู้ชนะ” สควิดเกมที่เหลือได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วซองกีฮุนจะกลายเป็นฟรอนต์แมนคนต่อไปกันแน่ (เหมือนตัวอย่างภาพหลุดของซีซั่น 3 ที่ได้เห็นซองกีฮุนในชุดฟรอนต์แมน)

สุดท้ายมหากาพย์เกมลุ้นตายซีซั่น 3 จะดุเดือดเลือดสาดแค่ไหน เราจะได้หายคาใจกันสักที

Squid Game SS3: เกมใหม่ โหดกว่า แล้วคุณจะยังศรัทธาในตัวมนุษย์อยู่หรือเปล่า?
แน่นอนว่า เรื่องราวใน Squid Game ซีซั่น 3 จะดำเนินเรื่องต่อจากการกบฏที่ล้มเหลวและการสูญเสียเพื่อนสนิทของกีฮุน ส่วน “อินโฮ” ก็กลับไปสวม cosplay ฟรอนต์แมนเพื่อทำหน้าที่ต้อนรับแขก VIP จอมซาดิสม์อีกครั้ง

นอกจากนี้เรื่องราวในซีซั่น 3 ยังเจาะลึกถึงสภาพจิตใจอันแหลกสลายของกีฮุน แม้จะล้มเหลวในการก่อกบฎ แต่เกมก็ไม่มีวันหยุดให้เขาได้ฮีลใจ Squid Game ยังคงเปิดฉากความบันเทิงสุดสยองต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเหลือผู้รอดตายเพียงหนึ่งเดียว

ผู้กำกับฯ ฮวังดงฮยอก ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศว่า “ซีซั่นนี้ซองกีฮุนต้องทนแบกรับความรู้สึกผิดและความล้มเหลวครั้งใหญ่ในชีวิต ความพยายามทั้งหมดของเขาล้มเหลว แล้วเขาจะยอมแพ้หรือยืนหยัดสู้จนตัวตาย ในซีซั่น 3 เราจะได้เห็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เพราะกีฮุนจะไม่ได้เป็นคนๆ เดียวกับที่เขาเคยเป็นในซีซั่น 2 อย่างแน่นอน รวมถึงเรื่องราวที่ทั้งเข้มข้นและสนุกสนานมากขึ้น ผมอยากให้คุณรอดูตอนจบของ Squid Game”

นอกจากนี้ Squid Game ยังว่าด้วยปฏิบัติการลับของหน่วยเฉพาะกิจ ที่ตามล่าเกาะปริศนากลางทะเลเพื่อหวังจะกวาดล้าง Squid Game นำทีมโดย “จุนโฮ” (รับบทโดย วีฮาจุน) น้องชายแท้ๆ ของฟรอนต์แมน ทว่าในทีมของจุนโฮเองก็มี “ไส้ศึก” ที่คอยปั่นให้พวกเขาหลงทางกลางทะเลอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังลอบฆ่าเพื่อนร่วมทีมของเขาอีกด้วย

สุดท้ายแล้วจุนโฮจะตามหาเกาะปริศนาเจอหรือไม่ และเขาจะตัดสินใจเช่นไรเมื่อต้องเลือกระหว่างความถูกต้องและพี่ชายที่เป็นดังไอดอลในชีวิต

อีกหนึ่งตัวละครใหม่ที่ปล่อยทีเซอร์ให้ชมมาก่อนหน้านี้อย่าง “ยองฮี” ตัวละครจากตำราเรียนของเกาหลี ที่จะมารับไม้ต่อจาก “ชอลซู” หรือ "น้องโกโกวา" หุ่นยนต์เด็กหญิงตัวใหญ่ที่ทำหน้าที่สอดส่องและสังหารผู้เล่นในเกม ทั้ง “ยองฮี” และ “ชอลซู” ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในแบบเรียนภาษาเกาหลีสมัยเด็กและเป็นตัวละครคู่กันกับยองฮี เหมือนกับที่แบบเรียนภาษาไทยที่มี “มานะ” กับ “มานี” นั่นเอง

เชื่อกันว่าการปรากฏตัวของชอลซูในซีซั่น 3 จะทำให้เกมมีความซับซ้อนและน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก รวมถึงยองฮีน่าจะมีบทบาทสำคัญในการควบคุมและสังหารผู้เล่นในเกมใหม่ๆ ที่ต้องมาลุ้นกันว่าจะโหดร้ายแค่ไหนกันเชียวเจ้าหนูน้อย!

ตัวละครไหนจะกลับมาเจิดจรัสใน Squid Game ซีซั่น 3
อย่างที่รู้กันดีว่า กีฮุน ฟรอนต์แมน และจุนโฮ ยังคงได้ไปต่อในซีซั่น 3 รวมถึงเหล่าผู้รอดชีวิตจากตอนจบของซีซั่น 2 ที่จะกลับมาโลดแล่นแอ่นแอ๊นกันอีกครั้ง ทั้งคู่แม่ลูก หมายเลข 007 และ 149, คิมจุนฮี (รับบทโดย โจยูริ) วัยรุ่นท้องแก่ หมายเลข 222 และแฟนเก่าจอมป่วน หมายเลข 333, อดีตนาวิกโยธินที่หวาดกลัวสงคราม หมายเลข 388 (รับบทโดย คังฮานึล พระเอกซีรีส์ Tastefully Yours-ปรุงรสให้เธอรัก), อดีตหน่วยรบพิเศษและตัวแทนสตรีข้ามเพศ หมายเลข 120 (รับบทโดย พัคซองฮุน ตัวร้ายสุดหล่อจาก The Glory และ Queen of Tears) และคุณพ่อลูกหนึ่งที่ตัดสินใจเข้าร่วมเกม เพื่อหวังหาเงินไปรักษาลูกที่กำลังป่วย หมายเลข 246 (รับบทโดย อีจินอุค นักแสดงนำจาก Sweet Home ทั้ง 3 ซีซั่น) แม้ว่าในซีซั่น 2 อีจินอุคยังไม่มีบทเด่นเท่าไหร่ แต่ต้องลุ้นกันว่าในซีซั่น 3 เขาจะมีส่วนร่วมอย่างไรในการปิดฉาก Squid Game

นอกจากนี้ ในตัวอย่างที่ปล่อยออกมาเราจะได้เห็นผู้เข้าแข่งขันใหม่ สวมเสื้อหมายเลข 96, 100 และ 353 ต้องมาลุ้นกันว่า ตัวละครใหม่ทั้ง 3 เป็นใครกันบ้าง พวกเขาจะเป็นเหล่าผู้ร่วมอุดมการณ์ หรือไส้ศึกคนใหม่ของซีซั่น 3 กันแน่?
 
ผู้ชมจะได้บทเรียนอะไรจาก “Squid Game” ทั้งสามซีซั่น
Squid Game ไม่ใช่เพียงแค่ซีรีส์แนวเอาชีวิตรอด (Survival) แต่ยังเป็นซีรีส์เสียดสีสังคมทุนนิยมอย่างแหลมคม สะท้อนปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและหนี้สิน การแสวงหาประโยชน์จากผู้ด้อยโอกาส ธรรมชาติของมนุษย์และความเห็นแก่ตัว รวมถึง “ทางเลือกที่ไม่มีทางเลือก” แม้ผู้เล่นจะสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมเกมได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า เพราะชีวิตภายนอกเต็มไปด้วยความสิ้นหวังไม่แพ้กัน นี่คือการเสียดสีถึง “อิสรภาพ” และ “ทางเลือก” ที่สร้างขึ้นโดยสังคมทุนนิยมในปัจจุบัน

ไม่เพียงแค่ความบันเทิงจากเกมโหดเลือดสาด Squid Game ยังสะท้อนประเด็นทางสังคมที่ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงได้อย่างแยบยล เช่น การนำ “เกมเด็กเล่น” มาพลิกผันสู่ “เกมเอาชีวิตรอด” ที่โหดร้ายและสะเทือนใจ กลายเป็นแนวคิดที่น่าสนใจและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกัน การออกแบบฉากที่เต็มไปด้วยสีสันสดใสคล้ายกับ “สนามเด็กเล่น” แต่กลับเป็นสถานที่เล่นเกมเต็มไปด้วยความรุนแรงและความตาย สร้างความรู้สึกขัดแย้งให้กับผู้ชม รวมถึงชุดวอร์มสีเขียวของผู้เล่นเกม และชุดสีชมพูของเหล่าผู้คุม ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่จดจำง่ายจนเกิดกระแส cosplay ฟีเวอร์ไปทั่วโลก

บทพิสูจน์ความสำเร็จที่ทำให้ Squid Game กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก ไม่ใช่ความตื่นเต้นและพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ แต่เป็นเพราะมันสามารถเชื่อมโยงกับประสบการณ์ร่วมของผู้คนทั่วโลก ที่เผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและความไม่เท่าเทียมกันในสังคมทุนนิยมได้ ผ่านตัวละครหมายเลขต่างๆ ที่ทำให้ผู้ชมได้ขบคิดถึงคุณค่าของชีวิตและธรรมชาติของมนุษย์ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สุดท้ายแล้ว ทุกชีวิตใน Squid Game จะปิดฉากลงเช่นไร เกมลุ้นตายจะกลายเป็นเกมที่มีเครือข่ายระดับสากลและแพร่หลายไปหลายประเทศทั่วโลกหรือไม่ กีฮุนจะพ่ายแพ้ให้กับด้านมืด หรือเขาจะกลายเป็นผู้ปฏิวัติที่โค่นล้มองค์กร Squid Game ได้สำเร็จ อีกไม่นานเกินรอก็จะรู้คำตอบใน Squid Game ซีซั่น 3 แน่นอน!

อ้างอิงภาพ : https://www.hancinema.net/

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์












































กำลังโหลดความคิดเห็น