สกู๊ปพิเศษ : “ยายแฟง” หน้าตึง กระแทกเครื่องบูชาใส่ “สมเด็จโต” !
เรื่องจริงนี้ เกิดขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 4 อาจไม่มีในละคร “คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านไม่ใช่หงส์ ” ทางช่อง 3 หลังธุรกิจ “โรงแม่แฟง” ประสบความสำเร็จจากการทำหอนางโลมที่ตรอกเต๊า !
ในละคร รินลณี ศรีเพ็ญ รับบท “แม่แฟง” บุคคลในประวัติศาสตร์สมัยรัชกาลที่ 3 เนื้อเรื่องในละครแค่อิงชื่อและสถานที่ อื่นใดเกิดจากจินตนาการขึ้นใหม่ทั้งหมด ! เพราะไม่เหลือหลักฐานใด
ยายแฟง เป็นบรรพบุรุษของ “ตระกูลเปาโรหิตย์” และศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เป็นลูกหลานสายตรงคนหนึ่งของยายแฟง!
“แม่แฟง” หรือ อำแดงแฟง เป็นหญิงไทย เมียเจ้าสัวเอี๋ยน (แซ่ตัน) บรรพบุรุษเจ้าสัวเอี๋ยนมีอาชีพทำสวนพลูอยู่ฝั่งธนบุรี เมื่อพระเจ้าตากสินต้องการที่ดินสร้างพระราชวัง จึงย้ายมาตั้งบ้านในฝั่งพระนคร ต่อมา ชาวบ้านเรียกซอยที่อยู่อาศัยของเจ้าสัวว่า “ตรอกอำแดงแฟง” ซึ่งทุกวันนี้ ไม่มีใครรู้ว่า ตั้งอยู่ในแห่งหน พิกัดใดของสำเพ็ง เพราะถูกไฟไหม้เยาวราชครั้งใหญ่ไปในสมัยนั้น
เจ้าสัวเอี๋ยนและอำแดงแฟง มีลูกสาว 2 คน คือ เอม กับ กลีบ !
ตอกเต๊า ซอยลับไม่แต่ลึก ตั้งอยู่ที่ เยาวราชซอย 8 เดินตรงอย่างเดียวจากซอยเล็กแคบแออัด มีรถ 3 ประเภทที่ผ่านได้คือ รถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ และรถเข็น เดินไม่ถึง 20 ก้าว ซ้ายมือ ผ่านวัดจีนแห่งแรกในกรุงรัตนโกสินทร์ “วัดบำเพ็ญจีนพรต” หรือ “ย่งฮกยี่” เดินเรื่อยบนทางแคบๆ จนสู่ทางที่กว้างขึ้น ขวามือจะพบ “ประตูสัมมุขาสังฆพัฒนา” ซึ่งเป็นประตูข้างของวัดกันมาตุยาราม เดินตรงไปจะทะลุถึงปากซอยเจริญกรุง 14 หรือซอยข้างขวาของร้านอาหารฮั่วเซ่งฮง
ในสมัยรัชกาลที่ 3 สำเพ็ง-เยาวราช เจริญมาก เพราะเป็นแหล่งตลาดจีนที่ผู้คนในหลายประเทศเข้ามาค้าขาย
ตรอกเต๊าที่ผู้ชายทุกคนรู้จักดี สมัยนั้นเป็นห้องแถวไม้เรียงยาวตลอดทั้งตรอก มีสำนักกิจการโคมเขียวหลายเจ้า แต่เจ้าที่ถูกพูดถึงจนเป็นตำนานในทุกวันนี้คือ “โรงแม่แฟง” สำนัก “คุณนายโสฯ” อันดับหนึ่งในสมัยนั้น แม้ว่า อาชีพหยำฉ่า สมัยนั้นจะถูกกฎหมาย สร้างภาษีให้กับรัฐ ปีๆหนึ่งไม่น้อยเลย แต่สังคมก็มักจะดูถูกหญิงงามเมืองพวกนี้ เธอมักจะโดนด่าอย่างดูถูกว่า “อีสำเพ็ง” !
โรงแม่แฟง ถ้าเทียบสมัยนี้ น่าจะมีกลิ่นของคลับเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ชั้นดีของคนมีระดับ ! เพราะแม่แฟง เมียเจ้าสัวเอี๋ยน มีบารมี ร่ำรวยเป็นทุนเดิม โรงแม่แฟงจึงนิยมจับจ่ายข้าวของเครื่องใช้อย่างดีมาประโคมสำนัก เพื่อบำรุง บำเรอทางอารมณ์ชายในหอนางโลม ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะเครื่องแป้ง น้ำอบ น้ำปรุง ที่นอน หมอนมุ้ง กระโถน ล้วนมีความสะอาดสะอ้าน และเป็นของดีต่างจากสำนักอื่น ยามค่ำคืน อุปมาเหมือนผู้ชายถูกเชื้อเชิญเข้าห้องหอกับลูกสาวคหบดี ยังไงอย่างนั้น ยิ่งลูกสาวแม่ไม่ต้องพูดถึง สวยเด็ดเผ็ดทุกนาง รวมถึงการแสดงที่คัดสรรมาแสดงให้นักเที่ยวชม ... ใครมาเที่ยวโรงแม่แฟง ย่อมแสดงถึงรสนิยมชั้นดี
รุ่นต่อมา ลูกสาวคนเล็กคือ แม่กลีบ มารับช่วงกิจกรรมของแม่แฟง ! ความเลอค่าไม่ยิ่งหย่อนกว่ารุ่นแม่เลย
แม่แฟง ทำบุญไม่เคยขาดตั้งแต่สมัยเปิดโรงแม่แฟง นำเงินส่วนตัว และเงินจากลูกสาวที่เคยทำงานในหอนางโลมและสมัครใจมาร่วมกันสร้างวัด ย่านพลับพลาไชย เรียก “วัดใหม่ยายแฟง” !
วัดใหม่ยายแฟง สร้างเมื่อปี 2376 ในสมัยรัชกาลที่ 4 นางใจฟู อิ่มบุญ ชื่นชมกับวัดที่ตัวเองสร้าง จึงได้นิมนต์ สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) มาเทศน์ฉลองวัด ! นางแฟงถามถึงอานิสงส์ในการสร้างวัด ท่านว่า อานิสงส์บกพร่องไม่เต็มหน่วย เทียบเงินบาทได้แค่สลึงเฟื้อง! พูดตรงอย่างนี้ก็แทงใจดำน่ะสิ ! แม่แฟงหน้าแดง ตัวตึง หน้าเชิด มือไม้สั่น มือยกเครื่องบูชาถวายกัณฑ์เทศน์กระแทกลงกับพื้น ดังโครม ! วันนี้ พ.ศ. 2568 ... ถ้าใครได้เข้าไปในวิหารหลวงพ่อดำ วัดคณิกาผล จะเห็น “รูปหล่อหลวงพ่อโตประจันหน้าคนละฝั่งกับยายแฟง” ! ทางวัดรู้หรือเปล่า ขรัวโตกับอุบาสิกาแฟง เคยมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกันอยู่ !
ผ่านมาแล้วตั้ง 192 ปีแล้ว แหม ! ขรัวโตยังตามย้ำความอยู่ได้ ! ...
ไม่จบ ! ไม่ยอม .. แม่แฟงนิมนต์ทูลกระหม่อมพระ หรือพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมัยผนวชมาแสดงธรรมเทศนาอีก ถามอีกที ย้ำอีกที ท่านว่า “สองไพ” ! น้อยกว่า สลึงเฟื้องอีก ....
โอ๊ย ! นายแม่แฟง ฟังแล้ว จะเป็นลมต้องเรียกยาหอมเป็นการด่วน!
ในฐานะของอุบาสิกา แฟงและเหล่าสตรีได้แสดงความเลื่อมใสในพุทธศาสนา หมายจะสร้างวัดเพื่อค้ำจุนและบำรุงพระศาสนา ปัจจุบัน ฐานะของ “ย่าแฟง หรือ ยายแฟง” ถูกล่าวถึง มีชื่อเสียงโด่งดังกว่าพุทธปฏิมาใดๆในวัดเสียอีก ในวันพิเศษ นานๆครั้ง ผู้มีจิตศรัทธา หรือลูกหลานที่เคยมาขอพรและลัมฤทธิ์ผลจะนำการแสดงมาถวายคุณยายแฟง และทีมงาน-นักแสดงจาก“คุณพี่เจ้าขา ดิฉันเป็นห่านไม่ใช่หงส์ ”ก็มาขอพรคุณยายแฟงที่นี่
ยายแฟงไม่เหมาะสำหรับชายแท้ แต่สาวๆที่มาวัดคณิกาผล จะมาเดี่ยว หรือมากลุ่ม พร้อมเพื่อนผู้หญิงและเพื่อนชาว LGBTQ+ สังเกตดูได้ ไม่ขี้เหร่นะจ๊ะ โถ...ลูกสาวแม่ ! หน้าตาดีทุกคน ยายแฟงให้คุณในเรื่อง “เมตตามหานิยม” มากกว่าอย่างอื่นใด ! อย่าลืมชุดบูชาขอพร ซึ่งมีดอกไม้ , น้ำอบ, หมากพลู, สร้อยมุก และถ้าสำเร็จเสร็จสมอารมณ์หมายอาจเพิ่มเงินเติมด้วย ตลับแป้ง เครื่องสำอาง ประทินโฉมหน้า รวมถึงชุดไทยสำเร็จรูปก็ยังได้ !
ฝ่ายลูกสาว “แม่กลีบ” เจริญตามรอยแม่ เริ่มสร้างวัดในปี 2407 (รัชกาลที่ 4) ใช้เวลา 12 ปีจึงแล้วเสร็จ ในปีพ.ศ. 2419 (รัชกาลที่ 5) ได้นิมนต์ “พระจีนอุปนันทะโก” จากวัดโสมนัสราชวรวิหารไปเป็นสมภาร ท่านจำพรรษาได้แค่ 4 เดือนก็ต้องเผ่น ! เพราะทนเสียงอึกทึกของดนตรีและการแสดงในหอบุปผชาติ และตลอดจนเสียงทะเลาะกันไม่ไหว !
ลูกชายนางกลีบชื่อ “กัน” หรือ พระดรุณรักษา รับราชการได้มีโอกาสติดตามกองทัพไทยไปปราบฮ่อที่หนองคาย กลับมาได้รับตำแหน่ง “หลวงบริคุตวรภัณฑ์” เจ้ากรมภาษี และได้ทูลถวาย “วัดยาย-วัดแม่” ให้เป็นวัดหลวง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า วัดหลวงมีมากแล้ว แต่พระราชทานชื่อวัดทั้ง 2 แห่งว่า
“วัดคณิกาผล” - วัดที่สร้างจากผลประโยชน์ของนางคณิกา (โสเภณี)
“วัดกันมาตุยาราม” - วัดของมารดานายกัน (พระดรุณรักษา)
เหตุและผล จากชื่อวัดทั้ง 2 แห่ง ยังคงความหมายอยู่จนถึงวันนี้ !
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์