xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “Doubt” (2024) ซีรีส์จิตวิทยาอาชญากรยอดเยี่ยมแห่งปี คอซีรีส์สืบสวนไม่ควรพลาด!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





เอาใจคอซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวนด้วย “Doubt” (เคลือบแคลง - 2024) ซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่จาก Netflix จำนวน 10 ตอน แค่ออนแอร์ไป 2 อีพีก็ทำเอาติ่งซีรีส์ใจเต้นรัวไปกับสไตล์การเล่าเรื่องชวนติดตาม ผสมผสานหลักจิตวิทยาและหลักนิติวิทยาศาสตร์เข้ากับงานโปรดักชั่นสุดปราณีต

Doubt พาเราดำดิ่งสู่โลกของนักพฤติกรรมอาชญากร (Criminal Profiler) และการไขปริศนาสุดซับซ้อน เมื่อพ่อสงสัยว่าลูกสาวคนเดียวจะเป็นฆาตกรต่อเนื่องในคดีฆาตกรรมอำมหิต สุดท้ายจะลงเอยเช่นไร? บอกเลยว่า เรื่องนี้ไม่ดูไม่ได้แล้วววว!

"Doubt" เคลือบแคลงเรื่องอะไร? ทำไมติ่งซีรีส์สืบสวนถึงพลาดไม่ได้!

Doubt เปิดฉากด้วยคดีฆาตกรรมปริศนาที่ทำเอานักพฤติกรรมอาชญากรหรือ Profiler มืออันดับต้นของเกาหลีใต้อย่าง “จางแทซู” (รับบทโดย ฮันซอกกยู) ถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเห็นโครงกระดูกของหญิงสาววัยรุ่นที่ไม่หลงเหลือหลักฐานใดๆ ให้พิสูจน์ DNA ของเหยื่อได้เลย ถึงอย่างนั้น เขาก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีนี้อาจจะเชื่อมโยงไปถึง “จางฮาบิน” (รับบทโดย แชวอนบิน) ลูกสาววัยมัธยมปลายของเขา

ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ-ลูกตระกูลจางกลับไม่อบอุ่นเหมือนครอบครัวอื่นๆ ตรงกันข้ามมันเป็นความสัมพันธ์ที่แสนเย็นชาเหมือนคนแปลกหน้าในบ้านเดียวกัน จางแทซูเป็นคนเก็บตัวและพูดน้อย ขณะที่จางฮาบินเองก็ดูจะเย็นชาและไม่แคร์เวิลด์ เรียกว่าพ่อ-ลูกต่างเป็นชาว introvert ด้วยกันทั้งคู่ ต่างฝ่ายต่างตั้งแง่และหวาดระแวงกันตลอดเวลา แทซูคิดว่าลูกสาวเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายคนเล็กและภรรยาเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ ขณะที่ฮาบินก็คาดหวังให้ผู้เป็นพ่อเชื่อใจและเลิกหวาดระแวงเธอในฐานะ ‘ฆาตกร’

นอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีรอยร้าวเป็นบาดแผลฝังใจ ความสัมพันธ์ในที่ทำงานของจางแทซูก็มีปัญหาเช่นกัน ความที่เขาไม่ค่อยสุงสิงกับเพื่อนร่วมงานและไม่เข้าหาเจ้านาย ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างสันโดษและขาดความเป็นทีม ราวกับจางแทซูกีดกันตัวเองออกจากทุกความสัมพันธ์บนโลก เหลือไว้แต่บทสนทนากับภาพหลอนถึง ‘ภรรยา’ ในจิตนาการของเขา ที่ยังเหนี่ยวรั้งเขาไว้กับจางฮาบิน

ส่วนจางฮาบินก็มีบาดแผลฝังใจในวัยเด็กที่ทำให้เธอกลายเป็นคนเย็นชา อีกทั้งจางแทซูยังคอยจับตาดูพฤติกรรมของเธอตลอดเวลา และเชื่อว่าเธอเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของวัยรุ่นสาวคนหนึ่ง แทซูยังสงสัยด้วยว่า ฮาบินอาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ของกลุ่มสาววัยรุ่นที่หนีออกจากบ้าน ทำให้เธอตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม รวมถึงลูกน้องของจางแทซูที่เริ่มจะพุ่งเป้าคดีคนหายไปที่จางฮาบินด้วยเช่นกัน

เมื่อผู้ต้องสงสัยกลายเป็นลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง Profiler มือต้นอย่างจางแทซูจะทำเช่นไร? วิธีการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของนักพฤติกรรมอาชญากรนี่เอง ที่ทำให้เราเห็นถึงเบื้องลึกความคิดของฆาตกรได้ลึกขึ้น เช่น ทำไมเขาถึงลงมือฆ่า? อะไรคือแรงจูงใจ? และเขาวางแผนการทั้งหมดไว้อย่างไร? ซึ่งบอกเลยว่าแต่ละคดีใน Doubt ค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อน จนเราต้องคอยลุ้นคอยเดาไปพร้อมๆ กับตัวละครในเรื่องเลยล่ะ

เจาะการทำงานของนักพฤติกรรมอาชญากรกับซีรีส์ Doubt!

หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้ Doubt แตกต่างจากซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นๆ คือ การนำเสนอการทำงานของนักพฤติกรรมอาชญากรหรือ “Criminal Profiler” ซึ่งเป็นอาชีพที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยนัก โดยในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นการวิเคราะห์พฤติกรรมของฆาตกรอย่างละเอียด การตีความเบาะแสต่างๆ ผ่านมุมมองของนักพฤติกรรมอาชญากร ซึ่งบอกเลยว่าสมจริงจนขนลุก!

ขยายความกันสักหนึ่งกรุบ “นักพฤติกรรมอาชญากร” คือผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาที่ใช้หลักการทางจิตวิทยา สังคมวิทยา และพฤติกรรมศาสตร์ มาประกอบการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้กระทำความผิด เพื่อนำมาสร้างโปรไฟล์ (Profile) หรือภาพลักษณ์ของผู้กระทำผิดรายนั้นๆ เพื่อช่วยในการสืบสวนและทำให้ตำรวจระบุกลุ่มเป้าหมายในการสืบสวนได้แคบลง โดยอาศัยหลักฐานทางกายภาพ พยานหลักฐาน และฉากทัศน์ในการคดีฆาตกรรม ที่สำคัญ Profiler ยังช่วยในการศึกษาพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด และนำไปสู่การค้นหามาตรการป้องกันอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้

จริงๆ แล้วซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของ Profiler ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด หลายคนอาจจะคุ้นเคยจากซีรีส์ชื่อดังอย่าง Criminal Minds, How to get away with Murder หรือ Through the Darkness มาแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ Doubt แตกต่างจากซีรีส์แนวเดียวกัน คืองานโปรดักชั่นและวิธีการเล่าเรื่องที่ปราณีตเหมือนงานคราฟต์ มีจังหวะที่เล่นกับมุมกล้องหลอนๆ เหมือนหนังผี และเปิดพื้นที่ให้ความเงียบเข้ามาแทนที่บทสนทนา แม้แต่ฝนและความมืดก็เติมเต็มบทสนทนาระหว่างพ่อ-ลูกได้อย่างลุ่มลึก แม้ไม่ต้องมีบทพูดเลยก็ตาม!

ใครคือฆาตกรตัวจริงใน Dobut?

นี่คือคำถามที่ค้างคาใจเรามากที่สุด! เพราะ Doubt เล่นกับความเชื่อของคนดูได้อย่างแนบเนียน ตอนแรกเราอาจจะสงสัยจางฮาบิน เพราะวิธีการเล่าเรื่องชี้นำให้เธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง แต่แล้วซีรีส์ก็จะดึงสติให้เรากลับมาด้วยคำพูดของคนในครอบครัวที่บอกจางแทซูว่า “เชื่อใจจางฮาบินหน่อยสิ” เพราะดูเหมือนจางฮาบินก็ต้องการให้พ่อเชื่อมั่นว่าเธอไม่ใช่ฆาตกร

ถึงอย่างนั้น หลายๆ ซีนก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า จางฮาบินทำไมต้องสร้างสถานการณ์แปลกๆ ขึ้นมา? เธอยังดูฉลาดเกินเด็กมัธยมปลาย มีความรู้ทันการทำงานของ Profiler เผลอๆ เธอคงจะอ่านหนังสือที่พ่อเขียนจนช่ำชอง แล้วนำมาใช้ซ้อนแผนในการฆาตกรรมให้ซับซ้อนจนยากจะสาวมาถึงตัวเองได้

แต่พอเรื่องดำเนินไปกลับพบว่า หลายตัวละครล้วนมีเบื้องหลังและมีความลับซ่อนอยู่เช่นกัน แม้แต่จางแทซูก็มีความน่าสงสัยในการตายของภรรยา ยิ่งดูยิ่งต้องตั้งคำถามและเก็บรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ฟิลเหมือนเราร่วมไขคดีไปกับ 3 นักพฤติกรรมอาชญากรที่ทำให้เราอยากรู้ว่า ใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้? บอกเลยว่า Doubt เป็นซีรีส์ที่ดูจบแล้วต้องรีบหาคนมาคุยด้วย เพราะมันอัดอั้นไปด้วยความเคลือบแคลงจริงๆ!

สรุปแล้ว Doubt เป็นซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนสอบสวนที่ครบรส แถมยังได้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของนักพฤติกรรมอาชญากรอีกด้วย ใครที่เป็นแฟนซีรีส์แนวนี้ บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด! ตามไปตำกันได้แล้วทาง Netflix

ร้อยเรียงเรื่องราว : Rassarin
เรื่องและภาพ :
https://www.hancinema.net/
https://mydramalist.com/

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์




























กำลังโหลดความคิดเห็น