กว่าจะมาเป็นภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป
ดิว จงดล - รัตน์ นพรัตน์ 2 ผู้กำกับ “Love Stuck รักวนลูป”
ภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์เรื่อง The Map of Tiny Perfect Things ซึ่งในเวอร์ชั่นต้นฉบับได้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจ มีแนวคิดที่แตกต่างไปจากภาพยนตร์หรือซีรีส์แนววนลูปทั่วไป ในเรื่องนี้เน้นเล่าถึงความสัมพันธ์ของคนที่ติดอยู่ในลูปด้วยกัน
ดิว - จงดล สุกุลวรภัทร (ผู้กำกับภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป) ได้บอกเล่าการตีความ ดัดแปลง และปรับเปลี่ยนเรื่องราวมาสู่เวอร์ชั่นไทยว่า
“ผมชื่นชอบหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับอยู่แล้ว ทั้งไอเดียในตัวหนัง วิธีการนำเสนอตัวละคร ดูแล้วรู้สึกว่าตัวละครในเรื่องมีมิติที่น่าสนใจ รวมไปถึงเงื่อนไขที่ทำให้ทั้งสองคนติดอยู่ในลูปเวลาด้วยกัน โดยเรายังคงคอนเซ็ปต์ที่เป็นหัวใจหลักของหนังต้นฉบับไว้ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนสถานการณ์ เส้นเรื่อง รวมไปถึงบริบทต่างๆให้เชื่อมโยงและเข้ากับความเป็นไทย แต่ยังมีความเป็นสากลอยู่
ปรับเปลี่ยนหลักๆเลยคืออายุของตัวละครในเรื่อง จากเดิมพระเอกนางเอกจะเป็นเด็กไฮสคูล แต่เราปรับให้เป็นวัยทำงานตอนต้น เริ่มค้นหาตัวตนของตัวเองเมื่อก้าวเข้าสู่วัยทำงาน มีพลังงานอยู่เต็มเปี่ยม ต้องการอิสระ ไม่อยากให้หนังดูเด็กเกินไป เพื่อให้คนดูทุกวัยรู้สึกเชื่อมโยงกับหนังของเราได้”
รัตน์ - นพรัตน์ รามวงค์ (ผู้กำกับร่วม ภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป) กล่าวเสริมว่า
“อีกจุดหนึ่งที่เรามีการปรับ คือความเร็วในการดำเนินเรื่อง เล่าให้กระชับขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นลงไปในเรื่องราวบางช่วง โทนโดยรวมของเวอร์ชั่นไทยจะมีความจริงจังที่ดูสนุก”
ดิว - จงดล เล่าเสริมว่า “ความพิเศษอีกจุดหนึ่งคือ เลือกวันที่ตัวละครติดลูปที่ไม่ใช่วันธรรมดาทั่วไป ซึ่งถ้าดูเวอร์ชั่นต้นฉบับเขาจะไม่ได้ระบุว่าเป็นวันอะไร แต่เราอยากให้วันของการติดลูปมันมีนัยยะบางอย่าง เลยเลือกวันสิ้นปี ที่วันปีใหม่ไม่เคยมาถึง และความพิเศษของวันสิ้นปีคือบรรยากาศมวลรวมของความรู้สึก รอบตัวจะมีกลิ่นอายของการเฉลิมฉลอง การตกแต่งประดับประดา แสงสีบรรยากาศของความรัก ความอบอุ่น และความหวัง แต่พอตัวละครต้องติดอยู่ในวันสิ้นปี และ ไม่มีโอกาสก้าวข้ามไปสู่วันใหม่..มันยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและความหมายให้กับเรื่องราวโดยรวม”
@ช่วงเวลาเล็กๆที่สมบูรณ์แบบ
ภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป ยังนำเสนอเรื่องราวของการตามหา..ช่วงเวลาเล็กๆที่สมบูรณ์แบบ..ความสมบูรณ์แบบหรือความสุขที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่ แต่เป็นเรื่องราวเล็กน้อยที่พบเจออยู่รอบตัว
“ช่วงแรกที่ตัวละครติดอยู่ในลูป เค้าได้ทำอะไรสนุกๆ แปลกๆ ที่ไม่เคยได้ลองทำในวันธรรมดา แต่พอติดอยู่ในลูปนานเข้า ความสนุกจากอะไรเหล่านั้นก็กลายเป็นความน่าเบื่อ แต่ความช่างสังเกตและขี้เล่นของทอย (เจมส์-ธีรดนย์) ทำให้เขาพบเจอความพิเศษที่เกิดขึ้นกับเรื่องราวเล็กน้อยรอบตัวที่ซ่อนอยู่ เป็นช่วงเวลาเล็กๆที่สมบูรณ์แบบ..คอนเซ็ปต์นี้มันช่วยให้ทั้งตัวละครและคนดู..ที่ถึงแม้จะไม่ได้ติดอยู่ในลูปเวลา แต่อาจจะติดกับลูปการใช้ชีวิต แล้วลืมสังเกตสิ่งรอบๆตัว ได้ย้อนคิดถึงคุณค่าบางอย่าง ที่จะช่วยให้ชีวิตที่ดูเหมือนแสนธรรมดา..มีความพิเศษขึ้นมาได้” ดิว จงดล บอกเล่า
@ ส่องตัวตนของ 2 ผู้กำกับ
ดิว - จงดล สุกุลวรภัทร (ผู้กำกับภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป)
“กราฟฟิคดีไซเนอร์ สู่ผันตัวเองมาเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอ และต่อยอดสู่ผู้กำกับโฆษณา ล่าสุด สานฝันเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต”
ดิวเป็นเด็กลพบุรีที่บ้านอยู่ตรงข้ามโรงหนัง ทำให้ได้ใช้ชีวิตผูกพันอยู่ในโรงหนังตั้งแต่เด็ก การดูหนังทำให้เขามีความสุขเหมือนหลุดไปอยู่โลกจินตนาการและค่อยๆซึมซับกลายเป็นความรักในภาพยนตร์โดยไม่รู้ตัว
ในยุคที่การฝึกฝนทำหนังด้วยตัวเองดูจะเป็นเรื่องยาก ด้วยเทคโนโลยีและเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ เขาเลยพาตัวเองเข้าใกล้โลกแห่งภาพยนตร์ ด้วยการฝึกทำมิวสิควิดีโอด้วยตัวเอง จากนั้นค่อยขยับเข้าสู่การทำหนังสั้น จนมีโอกาสได้ลองส่งหนังสั้นเข้าประกวดในโครงการประกวดภาพยนตร์โฆษณา Junior Tact award ร่วมกับโรงภาพยนตร์อีจีวี หัวข้องดใช้มือถือในโรงภาพยนตร์ ด้วยไอเดียที่แปลกใหม่ทำให้ได้รับรางวัลที่หนึ่งและที่สามในคราวเดียวกัน
ยุคเริ่มต้นเขาได้ลองทำหนังสั้นหลากหลายรูปแบบ ทั้งอนิเมชั่น สต็อปโมชั่น ผสมผสานหลายเทคนิคการเล่าเรื่อง เพื่อฝึกฝีมือและทดลองแนวทางแปลกใหม่ รวมถึงหาแนวทางที่ใช่ให้กับตัวเอง ถึงแม้ตอนมหาวิทยาลัย เขาจะเรียนทางด้านกราฟฟิคดีไซน์ แต่ดิวเลือกที่จะทำวิทยานิพนธ์เป็นหนังสั้น จากการ์ตูนไทยเรื่อง “ฮีชีอิท” ของ วิศุทธิ์ พรนิมิต
หลังจากเรียนจบดิวได้ยึดบทบาทกราฟฟิคดีไซน์เนอร์เป็นอาชีพหลักอยู่สักพัก ก่อนที่จะผันตัวมาเป็นผู้กำกับมิวสิควิดีโอ และก้าวเข้าสู่วงการโฆษณา นับเป็นอีกหนึ่งผู้กำกับที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในวงการโฆษณาและมิวสิควิดีโอ โดยระหว่างนั้นดิวได้มีโอกาสกำกับหนังสั้น โดยได้รับเลือกให้ร่วมโปรเจกต์พิเศษกับมูลนิธิระดับโลก A21 (องค์กรเอกชนระหว่างประเทศเพื่อกำจัดการค้ามนุษย์) จากประเทศอังกฤษ ในแคมเปญ Can You see ME เผยแพร่ในประเทศต่างๆของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งได้ร่วมกำกับโปรเจกต์ภาพยนตร์สั้นเทิดพระเกียรติ 'เราเกิดบนแผ่นดินรัชกาลที่๙' โดยกำกับในเรื่อง “ตื่น”
และล่าสุดกับการรับหน้าที่ผู้กำกับในภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป ของ Prime Video ซึ่งเป็นผลงานภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกในชีวิตของเขา
การทำงาน
2001 – 2002: กราฟฟิคดีไซน์ – Bakery Music
2002 – 2007: ผู้กำกับมิวสิควิดีโอ – Jinks Film House
2007 – 2012: ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา – Maison Films and Production
2013 – ปัจจุบัน: ผู้กำกับอิสระ
+++++
รัตน์ - นพรัตน์ รามวงค์ (ผู้กำกับร่วม ภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป)
“นักดนตรีผู้ค้นพบว่าตัวเองมีใจรักในภาพยนตร์ จากคนเบื้องหลังวงการโทรทัศน์ สู่วงการโฆษณา และก้าวแรกในวงการภาพยนตร์”
เขาเป็นคนลพบุรีเช่นเดียวกับดิว เขามีความผูกพันกับภาพยนตร์ตั้งแต่อายุยังน้อย เนื่องจากได้รับอิทธิพลมาจากคุณพ่อผู้หลงใหลในการดูหนัง ทำให้รัตน์ซึมซับความรักในภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็ก แต่เขาไม่ได้มีความฝันที่จะเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เนื่องจากรู้สึกว่าการทำหนังเป็นเรื่องที่ไกลตัวเกินไปสำหรับเด็กต่างจังหวัดอย่างเขา
ช่วงวัยรุ่น รัตน์เริ่มมีความหลงใหลในเสียงดนตรี เขาได้ร่วมก่อตั้งวงดนตรีกับเพื่อน และรับหน้าที่เป็นมือกีตาร์ประจำวง รัตน์กับวงดนตรีของเขาได้มีโอกาสเข้าร่วมการประกวดดนตรีในหลายรายการ และสามารถคว้ารางวัลติดไม้ติดมือกลับมาตลอด
เมื่อก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย รัตน์ตัดสินใจเลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เอกวิทยุโทรทัศน์ โดยไม่ได้มีพื้นฐานความชอบอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่คิดว่าเป็นคณะที่มีความใกล้เคียงกับเส้นทางนักดนตรีของเขา รัตน์มาค้นพบว่าตัวเองชอบงานด้านกำกับและเบื้องหลัง เมื่อเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 เพราะมีโอกาสได้กำกับสารคดีและมิวสิควิดีโอในวิชาเรียน แต่ตอนนั้นเขาจะย้ายไปเรียนเอกภาพยนตร์ก็ไม่ทันแล้ว จึงพยายามขวนขวายและฝึกฝีมือด้วยตัวเอง เพื่อเข้าไปให้ใกล้กับวงการภาพยนตร์มากที่สุด
รัตน์เริ่มต้นอาชีพหลังเรียนจบด้วยการเป็นคนเบื้องหลังวงการโทรทัศน์ ทำมาแล้วหลากหลายหน้าที่ ทั้งตัดต่อ กำกับรายการ และโปรดิวเซอร์ จากนั้นจึงได้ผันตัวมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา ทุกครั้งที่มีโอกาสรัตน์จะเลือกนำเสนอโฆษณาในรูปแบบหนังสั้น ตามความชื่นชอบของตัวเอง ผนวกกับความสามารถและเซนส์ในการแมทช์เพลงกับภาพ ที่มีติดตัวมาจากการเป็นนักดนตรีในช่วงวัยรุ่น ทำให้ผลงานหนังสั้นโฆษณาของเขามีความน่าสนใจและถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่าประทับใจ จนได้รับการทาบทามจากดิว ให้มาร่วมกำกับภาพยนตร์ Love Stuck รักวนลูป ร่วมกัน
การทำงาน
2011: เริ่มต้นทำงานกำกับภาพ และตัดต่อรายการต่างๆ เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์
2012 – 2014: เริ่มต้นรับงานกำกับโฆษณา หนังสั้น คลิปวิดีโอต่างๆ ที่เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์
2015 – 2018: ผลิตรายการโทรทัศน์ในตำแหน่งควบคุมการผลิตและกำกับรายการ
2018 – ปัจจุบัน: ผู้กำกับและตัดต่อภาพยนตร์โฆษณาอิสระ
@ เหตุผลการเลือก “นักแสดง” กับ Love Stuck รักวนลูป
ดิว และ รัตน์ 2 ผู้กำกับฯ ได้เล่าถึงนักแสดงแต่ละคนที่มาถ่ายทอดเรื่องราวใน Love Stuck รักวนลูป ว่า
เจมส์-ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ : ทอย
“เป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งเลยที่ได้เจมส์มาเล่นบททอย เพราะทอยเป็นหนึ่งในตัวละครที่โอบอุ้มเรื่องราวในเรื่อง เป็นบทที่ท้าทายนักแสดงมาก เจมส์มีการแสดงที่โดดเด่น เป็นคนมีของ และเขาทุ่มเทให้กับทุกบทบาทที่ได้รับ ตัวทอยจะมีทั้งส่วนของความรอมคอมและความดราม่าผสมกันอยู่ข้างใน ดังนั้นนักแสดงที่จะมารับบทนี้ต้องเป็นคนที่ลึกซึ้งประมาณนึง เราได้มีโอกาสดูช่อง YouTube ของเจมส์ ได้เห็นแง่มุมความเป็นมนุษย์ของเจมส์ในหลายๆมิติ เราเลยตกลงกันว่าอยากให้เจมส์ลองเข้ามาอ่านบทดู แล้วดูว่าเจมส์อยากจะร่วมงานกับเรามั้ย พอได้คุยถึงทิศทางและมุมมองหนังที่เราอยากจะถ่ายทอด เจมส์ก็ตกลงทันที ซึ่งเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ และเจมส์ก็ห่างหายจากบทแนวนี้นานพอสมควร ผู้ชมน่าจะอยากเห็นเจมส์แสดงหนังแนวรอมคอม”
จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน : วี
“เราชอบสายตาของจูเน่ในการถ่ายทอดตัวละครวีมาก ตัววีเขาจะดูเหมือนมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ จูเน่ไปตีความและทำการบ้านมาอย่างหนัก ในเรื่องนี้จูเน่มีการแสดงที่แตกต่างออกไปจากเรื่องก่อนๆอย่างสิ้นเชิง เราได้เห็นอินเนอร์ความเป็นตัววีฉายออกมา เราได้เห็นศักยภาพด้านการแสดงของจูเน่ ทั้งในมุมโรแมนติกและด้านดราม่า วีเป็นอีกหนึ่งตัวละครหลักที่ขับเคลื่อนหนัง และจูเน่ถ่ายทอดวีออกมาได้อย่างน่าติดตาม ที่สำคัญเคมีจูเน่กับเจมส์มีความเข้ากันมาก พอสองคนอยู่ด้วยกันมันมีเสน่ห์บางอย่างที่อยากให้ผู้ชมได้สัมผัสด้วยตัวเอง”
ใบปอ-ธิติยา จิระพรศิลป์:ริน
“ใบปอเป็นนักแสดงที่โดดเด่นและมีความเป็นธรรมชาติมาก เมื่อมีโอกาสเราเลยส่งบทไปให้อ่าน ปรากฏว่าน้องชอบบทและคอนเซ็ปต์ต่างๆในหนัง ก็เลยตกลงรับเล่น ในขณะเดียวกันตัวใบปอเองก็ตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ อย่าง เจมส์ จูเน่ พี่ดู๋ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่น้องรับเล่นเรื่องนี้ ในเรื่องใบปอจะมีซีนอารมณ์ ซึ่งน้องทำได้ดีมาก และใบปอเล่นเป็นน้องสาวเจมส์ได้อย่างน่ารัก เป็นน้องสาวที่หลายๆคนอยากมี”
ดู๋-สัญญา คุณากร: เมธ (พ่อทอย)
“เราเห็นแง่มุมการแสดงที่มีความอบอุ่นและมีความลึกของพี่ดู๋ เป็นนักแสดงในดวงใจ ที่คิดว่าถ้ามีโอกาสได้ทำหนังจะต้องมีพี่ดู๋ และรู้สึกโชคดีที่พี่ดู๋ตอบรับ พี่ดู๋เป็นคนที่น้อยแต่มาก เรื่องนี้พี่ดู๋ได้มอบการแสดงที่น่าประทับใจ ถ่ายทอดความรู้สึกของพ่อได้อย่างลึกซึ้งและส่งความรู้สึกออกมาถึงคนดู”
เกรซ มหาดำรงค์กุล: แม่วี
“เราอยากได้คนที่ดูมีอะไรพิเศษซ่อนอยู่ในแววตา มีความเป็นแม่ที่อบอุ่นแต่บางมุมก็ดูเหมือนซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ เป็นคนที่ดูเอาใจใส่และแคร์ความรู้สึกของลูก เราตามหาคนที่เหมาะกับบทนี้อยู่นานมาก แต่สุดท้ายมาลงตัวที่พี่เกรซ และพี่เกรซใช่อย่างที่เราตามหาเลย”
ไปป์-มนธภูมิ สุมนวรางกูร: แจ็ค
“ไปป์เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกกามิกาเซ่มาก่อน เขามีจังหวะการแสดงที่เฉพาะตัวมาก เราอยากได้เพื่อนของทอยที่อยู่ตรงกลางระหว่างความยียวนกวนประสาท กับความแคร์เป็นห่วงเพื่อนแบบจริงจัง ไปป์มีมิติบางอย่างที่พอจับมาคู่กับเจมส์แล้ว สามารถสร้างเคมีที่น่าสนใจออกมาได้ เขาทำให้ตัวแจ็คดูมีเลือดเนื้อมีชีวิตจิตใจและกวน....มาก