ไม่แปลกหากคุณจะรู้สึกเอียนๆ กับซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่ผลิบานเป็นดอกเห็นฤดูฝน แต่เชื่อเถอะว่าซีรีส์สัญชาติอังกฤษเรื่องนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิง ‘Supacell’ เป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่ผิวสีสุดมันจาก Netflix ที่ไม่ได้มีดีแค่ฉากแอ็คชั่นเท่ๆ พลังเหนือโลกมันๆ แต่ยังสอดแทรกประเด็นทางสังคมและความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างน่าสนใจ พลังพิเศษของคนธรรมดาที่ต้องการทำเพื่อตัวเองและคนรักมากกว่าจะมากอบกู้โลก เหมาะสำหรับคอซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังมองหาอะไรใหม่ๆ ดูเพลินๆ แถมได้แง่คิดดีๆ กลับไปด้วย
สปอยล์กรุบกริบ : ส่วนตัวมองว่า ซีซั่นแรกอาจจะไม่ตรงใจคนที่คาดหวังอยากดูฉากต่อสู้มันๆ หรือพลังพิเศษแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แต่ผู้กำกับฯ เลือกที่จะนำเสนอปมชีวิต ประเด็นทางสังคม การแบ่งแยกชนชั้น จนถึงความดราม่าและเรื่องน่าปวดหัวที่เราต่างต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของซีรีส์เรื่องนี้ เพื่อปูทางไปสู่ซีซั่น 2 ที่คาดว่าน่าจะสู้กันมันเดือดแน่นอน!
ยอดมนุษย์ซูปาเซลล์ : แค่เรื่องตัวเองก็ปวดหัวพอแล้ว จะเอาเวลาไหนไปกู้โลก!
Supacell (ยอดมนุษย์ซูปาเซลล์-2024) เล่าเรื่องราวของกลุ่มคนผิวสีชาวลอนดอนเนอร์ 5 คน ที่จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองมีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ขึ้นมาซะอย่างงั้น! ไม่ใช่พลังพิเศษที่มีมาตั้งแต่กำเนิด แต่แทนที่พวกเขาจะกลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจมหาชนเหมือนซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป พวกเขากลับต้องใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวว่าจะถูกเอาเปรียบและดูถูกจากสังคมที่เต็มไปด้วยการแบ่งแยกชนชั้นและการเลือกปฏิบัติกับคนผิวสี หนำซ้ำยังมีองค์กรลึกลับที่คอยจับตาดูพวกเขาตลอดเวลา พยายามควบคุม และถึงขั้นลงมือฆ่าพวกเขาอีกด้วย
แน่นอนว่าซูเปอร์ฮีโร่ก็ต้องมีผู้นำเหมือนหนังแนวนี้ทั่วไป แต่กลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ผิวสีมีผู้นำเป็นคนธรรมดาๆ อย่าง ไมเคิล (รับบทโดย Tosin Cole) ดีลิเวอรี่แมนผู้มีพลังเทเลพอร์ต (เดินทางข้ามเวลา) และหยุดเวลาได้ด้วย เรียกว่าเป็นตัวเทพของซีรีส์เลยก็ว่าได้ ตอนแรกมิเชลก็ยังใหม่และสับสนกับพลังพิเศษของตัวเองอย่างมาก อยู่ดีๆ เขาก็ได้พลังนี้มาและเดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางสงครามที่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ที่แน่ๆ เขาได้พบกับตัวเองในอนาคตและได้รู้ว่าแฟนสาวของเขาจะมีชีวิตได้อีกไม่นาน เขาจึงพยายามค้นหาทุกวิถีทางเพื่อจะหยุดยั้งการตายของแฟนสาวและพยายามเปลี่ยนแปลงอนาคต
ปฏิบัติการค้นหาเพื่อนร่วมทีมของไมเคิลจึงเริ่มต้นขึ้น เขาได้ทำตามคำแนะนำของตัวเองในอนาคตแล้วออกตามหาผู้มีพลังพิเศษอีก 4 คน ไม่ใช่เพื่อกอบกู้โลกแต่เพื่อปกป้องชีวิตของแฟนสาว ไม่ว่าจะเป็น
“เทเซอร์” (รับบทโดย Josh Tedeku) มนุษย์ล่องหนและวัยรุ่นเกเรที่ฝันอยากเป็นตัวพ่อแห่งวงการค้ายา เขาเป็นคนรักพวกพ้องและมีปมฝังใจเกี่ยวกับแม่ที่ทิ้งเขาไปตั้งแต่เด็ก รวมถึงมีจุดอ่อนคือ ยายแท้ๆ ที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็ก
“ซาบริน่า” (รับบทโดย Nadine Mills) พยาบาลฝึกหัดที่ทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ เธอเป็นพี่สาวแสนดีของน้องสาวสุดเซ็กซี่ที่คบหากับเจ้าพ่อค้ายาขี้คุก และมีพลังเทเลคิเนซิส (Telekinesis) หรือพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุโดยไม่ต้องสัมผัส เธอมีปมทั้งเรื่องงานและน้องสาวที่ต้องทุ่มเทให้กับทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน
“อันเดร” (รับบทโดย Eric Kofi Abrefa) คุณพ่อลูกหนึ่งที่พยายามพิสูจน์ตัวเองอย่างหนักทั้งในฐานะพ่อและลูกจ้าง หลังบริษัทไล่เขาออกเพียงเพราะเคยติดคุกมาก่อน ทำให้เขาตกงานและไม่มีใครจ้าง ปมของอันเดรคือการพิสูจน์ตัวเองในฐานะอดีตคนคุก (ในโทษที่เขาไม่ได้ก่อ แต่ติดคุกเพราะเป็นคนดำ) เขามีพลังมหาศาลถึงขนาดทำลายกำแพงและตู้เซฟได้ด้วยหมัดเดียว
“ร็อดนีย์” (รับบทโดย Calvin Demba) หนุ่มลูกครึ่งผิวสีผู้รันวงการสตรีทกัญชา (พ่อค้ากัญชาข้างถนน) เมื่อเขาได้พลังสปีดเหมือนกับ The Flash เขาจึงใช้ประโยชน์จากความเร็วจี๋ยิ่งกว่าดีลิเวอรี่เจ้าใดในโลกด้วยการส่งกัญชาด่วนภายใน 5 นาที ปมของเขาคือการที่แม่แท้ๆ ไม่ยอมรับเข้าบ้าน เพียงเพราะพ่อเลี้ยงไม่ชอบคนผิวสี
จะเห็นได้ว่า ทุกตัวละครล้วนเป็นคนธรรมดาๆ ที่ไม่ได้โดดเด่น ร่ำรวย อัจฉริยะ เหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แถมทุกตัวละครต่างก็มีปมฝังใจและชีวิตที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แต่ละคนถึงปฏิเสธการร่วมทีมซูเปอร์ฮีโร่ของไมเคิลในตอนแรก ส่วนไมเคิลเองก็ต้องยอมรับว่าทุกการเปลี่ยนแปลงในไทม์ไลน์ย่อมส่งผลกระทบแบบ Butterfly Effect
พลังพิเศษแบบบ้านๆ : จุดเด่นที่ทำให้ Supacell แตกต่าง!
แน่นอนว่าซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ส่วนใหญ่มักมาพร้อมกับพลังเหนือจินตนาการ แต่สำหรับ Supacell นั้นกลับเลือกที่จะนำเสนอพลังพิเศษแบบบ้านๆ ที่เราอาจจะเคยคิดเล่นๆ ในชีวิตประจำวันอย่าง พลังวาร์ปได้ พลังว่องไวในวันรถติดหนักๆ พลังหายตัวไปในวันเจ้านายบ่น หรือแม้แต่พลังมองเห็นอนาคตโดยไม่ต้องพึ่งหมอดู
วิธีการนำเสนอพลังพิเศษในรูปแบบนี้ ทำให้ Supacell มีความแตกต่างและแปลกใหม่ ไม่ซ้ำซากจำเจ แถมยังทำให้เราได้เห็นการนำพลังพิเศษธรรมดาๆ ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์ โดยพลังยอดมนุษย์ใน Supacell มาจากผู้ป่วยโรคเม็ดเลือดรูปเคียว (Sickle Cell Disease) โรคที่เกิดจากยีนที่ควบคุมการสร้างฮีโมโกบิล ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ในเม็ดเลือดแดงของคนเราเกิดความผิดปกติ ทำให้ฮีโมโกลบินมีรูปร่างผิดปกติ เม็ดเลือดแดงแข็ง และมีรูปร่างคล้ายเคียว โดยซีรีส์เรื่องนี้เชื่อมโยงโรคเม็ดเลือดรูปเคียวกับกลุ่มคนผิวสีในลอนดอน ที่มีภูมิหลังแตกต่างกันไปและส่งผลให้พวกเขามีพลังพิเศษแตกต่างกันอีกด้วย
สิ่งที่ชอบมากๆ ในส่วนของเนื้อเรื่องคือการนำเสนอประเด็นความหลากหลายและความเหลื่อมล้ำทางสังคม ผ่านตัวละครที่มีความแตกต่างกันทั้งเชื้อชาติ ฐานะทางสังคม หรือแม้แต่พลังพิเศษที่ได้รับ ทำให้เราได้เห็นมุมมองของคนแต่ละกลุ่มที่มีต่อพลังที่ได้รับมา รวมถึงการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ที่น่าสนใจคือ เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้มีพลังพิเศษก็ไม่ได้คิดจะปิดบังคนรอบตัวเหมือนในหนังซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป ตรงกันข้ามพวกเขากับเลือกที่จะบอกกับเพื่อนสนิทและครอบครัวด้วยซ้ำ
3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด Supacell ยอดมนุษย์ซูปาเซลล์
ถ้าคุณยังไม่หมดรักหนังหรือซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่แล้วล่ะก็ Supacell จะมอบประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ และกล้าที่จะนำเสนอความแตกต่างเพื่อเป็นทางเลือกให้กับคุณ นั่นคือซูเปอร์ฮีโร่ก็คนธรรมดาเหมือนเราๆ นี่ล่ะ ถ้าต้องเลือกระหว่างกอบกู้โลกกับเรื่องส่วนตัวขอเลือกแก้ปัญหาชีวิตก่อนตัวเองก่อนได้ไหม? รวมถึงการชวนให้เราฉุกคิดถึงประเด็นทางสังคมที่เกิดขึ้นจริง แต่บางครั้งเราก็เลือกที่จะมองข้ามเพราะแค่เรื่องส่วนตัวก็ปวดหัวจะแย่! และนี่คือ 3 เหตุผลที่เราไม่อยากให้คุณพลาดซีรีส์ Supacell
เนื้อเรื่องแปลกใหม่ น่าติดตาม : Supacell นำเสนอเรื่องราวของซูเปอร์ฮีโร่ในมุมมองที่แตกต่าง ผ่านพลังพิเศษแบบบ้านๆ ที่เราอาจจะเคยคิดเล่นๆ ในชีวิตประจำวัน
สะท้อนประเด็นสังคมอย่างคมคาย : ซีรีส์เรื่องนี้แฝงไปด้วยประเด็นทางสังคมที่น่าสนใจ เช่น ความหลากหลาย ความเหลื่อมล้ำ และการเลือกปฏิบัติ
ตัวละครมีมิติ น่าเอาใจช่วย : แม้จะเป็นซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่ แต่ Supacell ก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวละคร ทำให้เรารู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยตัวละครทุกตัว
แล้วคุณล่ะ คิดว่าพลังพิเศษแบบไหนที่เหมาะกับชีวิตประจำวันมากที่สุด? มาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะ หรือตามไปชมซีรีส์ไซไฟผสมดราม่าของเหล่าคนธรรมดาพลังซูปาเซลล์กันได้ในซีรีส์ Supacell (ยอดมนุษย์พลังซูปาเซลล์) ทาง Netflix
ร้อยเรียงเรื่องราว : Rassarin
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
https://fangirlish.com/2024/07/21/five-reasons-you-should-watch-netflixs-supacell/
https://www.tomsguide.com/entertainment/netflix/netflix-top-10-shows-here-are-the-3-worth-watching-right-now-july-2-2024
https://www.okayafrica.com/supacell-netflix/ https://www.gloria.hr/gl/kultura/vodici/novi-hit-za-ljeto-netflixova-nova-serija-gledanija-je-od-bridgertona-15479927
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์