เห็นชื่อเรื่องซีรีส์จีนใหม่ ที่มาแนวหวานหยอดย้อยอย่าง “เธอผู้เปล่งประกายกว่าแสงดาว” ( As Beautiful As You - 2024) ใครที่ไม่ใช่สายชอบดูซีรีส์แนวรักโรแมนติก อย่าเพิ่งสไลด์ผ่าน เพราะถึงชื่อจะมาแนวหวานไม่เกรงใจใครแบบนี้ แต่กดเข้าไปดูแค่ตอนแรก จะพบว่า ซีรีส์เรื่องนี้เข้มข้น ครบรส ไม่ได้เน้นขายเรื่องราวความรักของพระ-นางเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกเรื่องราวสังคมทำงาน ที่ไม่ได้สวยหรูอย่างที่เห็น ไปจนถึงเรื่องราวของการต่อสู้ในโลกธุรกิจ ที่ดูแล้ว มีหลายซีนเชื่อว่าจะทำให้หลายคนสะท้อนใจว่า เหมือนเอาชีวิตจริงมาเล่าผ่านซีรีส์ ขณะเดียวกันดูแล้วยังได้แง่คิดดีๆ เอาไปปรับใชั
สำหรับ “เธอผู้เปล่งประกายกว่าแสงดาว” ว่าด้วยเรื่องราวของจี้ซิง (รับบทโดย ถานซงอวิ้น) บัณฑิตปริญญาโทไฟแรง ที่มีแพชชั่นแรงกล้าต่อการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์รักษาโรค ขณะเดียวกันเธอก็มุ่งมั่นสร้างผลงาน เพื่อหวังจะเก็บหอมรอมริบ ช่วยแฟนหนุ่มซื้อบ้าน เพื่อสร้างครอบครัวอบอุ่น แต่แม้จี้ซิงจะมีความสามารถและความขยันแค่ไหน แต่ขึ้นชื่อว่าโลกการทำงาน ทุกอย่างไม่ได้ราบรื่นดั่งใจคิดเสมอไป เธอต้องรับมือกับคนที่คอยจ้องจะแย่งชิงผลงาน คอยขัดแข้งขัดขา และหลอกใช้สารพัด แต่จุดที่เหมือนเป็นฟางเส้นสุดท้ายคือการที่เธอถูกหัวหน้าอีกแผนกในที่ทำงานคุกคามทางเพศ จนกลายเป็นเรื่องที่คนในที่ทำงานเอาไปเม้าท์กันสนุกปากไม่พอ แถมยังโดนนายใหญ่ตรรกะป่วยกลั่นแกล้ง สุดท้ายจี้ซิงจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่รัก
ในช่วงที่กำลังหลงทาง เธอได้รับความช่วยเหลือจากหานถิง (รับบทโดย สวีข่าย) ประธานหนุ่มรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเดียวกัน และเคยร่วมทีมกันสร้างผลงานจนคว้ารางวัลมาแล้ว จริงๆ หานถิงตกหลุมรักจี้ซิงตั้งแต่สมัยเรียน และอยากจะขอเป็นแฟน แต่ดันมีเหตุให้ต้องไปเรียนต่อที่เยอรมนีแบบกระทันหัน ไม่ทันได้ร่ำลาต่อหน้า ได้แต่ส่งต่อความในใจผ่านข้อความแต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับ ทำให้แอบน้อยใจจี้ซิงมาตลอด จนพอกลับมาเจอกัน หานถิงแกล้งทำเป็นจำจี้ซิงไม่ได้ แต่สุดท้ายก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว เป็นฝ่ายเข้าหาจี้ซิงอยู่ตลอด
แต่การกลับมาพบกันครั้งนี้กลับไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะจี้ซิงดันมีแฟนอยู่แล้ว แถมยังเปิดตัวในลุคแฟนผู้แสนดี พร้อมซัพพอร์ตจี้ซิงจนทำให้ผู้ชมอดใจแป๊วไม่ได้ว่า พระเอก-นางเอกจะได้รักกันตอนกี่โมง หรือ บางคนถึงขั้นแซวว่า หรือจริงๆแล้ว หานถิงจะเป็นมือที่สาม
แต่สุดท้ายด้วยชีวิตคนเรามีบททดสอบเข้ามามากมาย พอจี้่ซิงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิต เลือกหันหลังให้กับการเป็นมนุษย์เงินเดือน มาสร้างธุรกิจของตัวเอง ซึ่งลึกๆ แล้ว แฟนหนุ่มไม่ได้เห็นด้วย แค่ไม่อยากขัด แต่พอคนเราทำอะไรที่ฝืนใจ นานไปก็ไม่รอด จากความรักที่เคยราบรื่น เริ่มสะดุด ขณะที่หานถิงกลับคอยช่วยเหลือจี้ซิงตลอด แม้ภายนอกจะดูปากร้าย แต่เบื้องหลังคำพูดใบมีดกลับให้บทเรียนมากมายกับจี้ซิง จนเมื่อจี้ซิงกลับมาโสด ความรักของทั้งคู่ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ว่าแต่ความรักที่เพิ่งผลิดอกนี้ จะหอมหวานหรือมีรสขมมาทำให้ต้องเสียน้ำตาแค่ไหน ต้องตามไปเกาะจอรอลุ้นกันในเรื่อง
แต่ที่ไม่ต้องลุ้น คือ เรื่องนี้สวี่ข่าย ไม่ทำให้ผิดหวิง ใช้คำว่าหล่อได้เปลืองมาก ออกมากี่ซีนก็สะกด ไม่ว่าจะลุคท่านประธาน สวมสูทสุดเนี้ยบ ลุคนักบาสสุดสปอร์ต หรือ ชุดลำลอง ก็ทำเอาหลายคนละสายตาไม่ไหว ขณะที่นางเอกถานซงอวิ้น ต้องบอกว่าเรื่องนี้ สวยผิดหูผิดตา แม้จะยังคงความน่ารัก สไตล์สาวร่างเล็กไซส์มินิ แต่ไม่ได้ดูแบ๊วจนไม่เข้ากับบทนักพัฒนาหุ่นยนต์ เรื่องอินเนอร์ในการแสดง ไม่ต้องพูดถึงเคมีเข้ากับสวี่ข่ายแบบเหลือเชื่อ
เพราะฉะนั้น ถ้าถามว่าอะไรคือสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้ทำถึงสุดๆ ต้องยกให้การจับคู่พระนางตัวท็อปอย่างสวีข่ายและถานซงอวิ้นมาคู่กัน เพราะใครที่เป็นแฟนซีรีส์จีนอยู่แล้ว นอกจากจะคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งสองนักแสดงเป็นอย่างดี เรื่องฝีไม้ลายมือยังหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ย้อนยุคหรือซีรีส์ปัจจุบันก็เอาอยู่ แต่ที่ทำเอาแฟนๆ เซอร์ไพรส์ คือ การโคจรมาพบกันเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ ซึ่งต้องบอกว่าเคมีดีสุด ๆ
อีกหนึ่งความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้ คือ การสอดแทรกมุมการใช้ชีวิตและการทำงานที่หลากหลายของตัวละครได้แบบเรียลมากๆ ที่สำคัญ คือ ถ้าใครไม่โดนพระเอกตกด้วยความหล่อไปซะก่อน จะพบว่าซีรีส์เรื่องนี้ มีคำคมที่ชวนให้คิดและนำไปปรับใช้เยอะมากๆ อย่างตอนที่นางเอกตัดสินใจลาอกจากงาน และตัดใจจากโปรเจกต์ที่ตั้งใจทำมาถึง 3 ปี เธอบอกว่า “ฉันไม่ได้ชอบงาน หรือไม่ชอบการทำงานในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่ฉันไม่ชอบคนพวกนั้น ฉะนั้นฉันจะเดินตามความฝัน”
หรืออย่างตอนที่พระเอกเสนอตัวจะช่วยนางเอก แล้วนางเอกปฏิเสธอย่างสุภาพ ก่อนจะบอกว่า หวังว่าจะได้ร่วมมือกันในโอกาสอื่น เพราะต่อให้ค้าขายไม่สำเร็จมิตรภาพก็ยังคงอยู่ แต่หานถิงกลับตอกกลับอย่างเจ็บแสบว่า “ไม่มีมิตรภาพ ในสนามธุรกิจไม่ใช่มิตรก็คือศัตรู” ทำเอานางเอกหน้าชาไม่พอ พอนางเอกบอกว่า เธอแสดงความเชื่อมั่นในไอเดียธุรกิจที่ทำ และอ้างภาษิตโบราณที่ว่า “ทองคำยังไงก็ส่องแสงสว่างอยู่เสมอ” หานถิงก็ตอบอย่างไม่ไว้หน้าว่า “คุณอาจเป็นทองคำ แต่อย่าลืมว่าในเมืองแห่งนี้ทุกที่เต็มไปด้วยคำถาม”
บอกเลยทั้งหมดนี้เป็นแค่น้ำจิ้มทั้งนั้น ยังมีซีนที่พระเอกโชว์ความปากแจ๋ว แต่ละคำที่ออกมาทำเอานางเอกเจ็บจุก อย่างตอนที่ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์กับนางเอกบ่อยๆ ก็บอกว่า “ไม่เป็นไร เพราะสอนคุณก็เหมือนสอนเด็กประถม” หรือ ตอนเอาของขวัญภาพวาดไปให้นางเอก ก็บอกว่า “เส้นที่ยุ่งเหยิงในภาพเหมือนความคิดของนางเอกในยามปกติ”
เอาเป็นว่าใครที่อยากฟินกับความหล่อของสวีข่ายและความน่ารักของถานซงอวิ้น บอกเลยไม่ผิดหวัง หรืออยากลับสมอง เติมมุมมองเรื่องธุรกิจ โดยเฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ตอัพ เทคโนโลยีด้านเฮลท์แคร์ เรื่องนี้ จัดเต็มทั้งเนื้อหาสาระมาเสิร์ฟถึงหน้าจอ
“เธอผู้เปล่งประกายกว่าแสงดาว” มีทั้งหมด 40 ตอน รับชมแบบซับไทยได้ทาง WeTV และ IQIYI ใครที่เป็นสายขี้เกียจอ่านซับ เพราะไม่อยากละสายตาจากความหล่อของสวี่ข่าย ทาง WeTV จัดพากย์ไทยให้แล้ว เริ่มตอนแรก 29 กรกฎาคมนี้
ร้อยเรียงเรื่องราว : Mickey Mouse
อ้างอิงเรื่องและภาพ : mydramalist.com/
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์