xs
xsm
sm
md
lg

ทำนายสงกรานต์ปีนี้ -ฝนแล้ง ไร่นาเสียหาย ฆ่าฟันกันตาย !

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สกู๊ปพิเศษ - ทำนายสงกรานต์ปีนี้ -ฝนแล้ง ไร่นาเสียหาย ฆ่าฟันกันตาย !

ฟังคำทำนายวันสงกรานต์ปีนี้แล้วชวนสยอง เข้าใจแบบง่ายๆคือ “ฝนแล้ง เรือกสวนไร่นาเสียหายจากแมลงรบกวนถึง 5 ส่วน ได้ผลผลิตเพียงส่วนเดียว ผู้คนในบ้านเมืองมีเหตุให้ต้องฆ่าฟันกันตาย ชีวิตพลัดพราก และฉิบหาย!”
เป็นจริงดังคำทำนายหรือไม่ รอการพิสูจน์หนึ่งปีจากนี้ !

ยอมรับกันว่า สงกรานต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับอิทธิพลจากเทศกาลสาดสี หรือ โฮลี เฟสติวัล ของอินเดีย (วันแรม 1 ค่ำเดือน 4) ไม่กี่ปีมานี้ ไทยเริ่มมีการเล่นสาดสีกัน ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา และในปีนี้ผ่านมาแล้วมีการจัดงาน “เทศกาลแห่งสีสัน” วันที่ 23 มี.ค. 2567 ณ บริเวณชายหาดพัทยา ถนนพัทยากลาง จ.ชลบุรี และ 24 มี.ค. ณ ลานจัดกิจกรรม เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร โฮลีเป็นหนึ่งในเทศกาลของฤดูใบไม้ผลิ เล่าเป็นตำนานว่า พระกฤษณะปราบนางอสูรโฮลิกา (น้องสาวของ 2 อสูรคือ หิรัณยากษะและ หิรัณยักษิปุ) นางอสูรถูกไฟเผาจนสิ้นชีวิต จึงมีการเฉลิมฉลองขึ้น ฝุ่นสีที่ใช้ในการละเล่นนี้ ทำมาจากพืชสมุนไพร เช่น ขมิ้น มะตูม หญ้าฝรั่น สะเดา ฯลฯ ซึ่งมีคุณสมบัติในการขจัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และทั้งยังนิยมดื่มนม และนมเปรี้ยวในงานนี้อีกด้วย !

ตำนานวันสงกรานต์

งานประเพณีสงกรานต์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แปลงจากการสาดสีเป็นสาดน้ำ เพราะเชื่อว่า “น้ำ” สามารถชำระสิ่งชั่วร้าย กำจัดสิ่งสกปรกได้ วัฒนธรรมความเชื่อของไทยให้ความสำคัญกับน้ำมาก ทั้งในพิธีหลวง ตลอดจนถึงงานประเพณีต่างๆของชาวบ้านคนไทยก็เกี่ยวข้องกับน้ำ เราใช้น้ำเพื่อการดำรงอยู่ทุกช่วงวัยของชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย

ประเพณีของ กัมพูชา , ลาว , เมียนมาร์ รวมถึงกลุ่มชาติไท อาจจะมีธรรมเนียมปฏิบัติที่คล้ายคลึงและแตกต่างกัน อย่าง กัมพูชา มีตำนานเรื่อง “ธรรมบาลกุมารและท้าวกบิลพรหม” เช่นเดียวกับไทย ส่วนกลุ่มชาติไท เล่าแตกต่างว่า ขุนสางถูกเมียคนที่ 7 ตัดศีรษะ ส่วนชาติไทใหญ่ว่า พญามารถูกเมียคนที่ 12 ถอนเส้นผมมารัดคอพญามารจนถึงแก่ความตาย แล้วตัดศีรษะ

เรื่องท้าวกบิลพรหม-ธรรมบาลกุมาร-นางสงกรานต์ เป็นการสร้างนิทาน (เรื่องราว) แฝงคติธรรม ผูกด้วยความเชื่อทางโหราศาสตร์ เพื่อทำนาย ทายทัก เปิดศักราชใหม่ !

สงกรานต์ที่แพร่หลายในประเทศไทย มาจาก”จารึกเรื่องมหาสงกรานต์” ที่เป็นลายลักษณ์อักษร ณ คอสองในประธานของศาลาล้อมพระมณฑปทิศเหนือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ ท่าเตียน) ซึ่งจารึกนี้เป็นภาษาไทย มีจำนวน 7 แผ่น สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวคราวทรงบูรณะพระอารามเมื่อปี 2374 เนื้อหาเกี่ยวกับท้าวกบิลพรหมลงมาทายปริศนา 3 ข้อกับพระธรรมบาลกุมาร

ต้นเรื่องว่า เศรษฐีคนหนึ่งใจบุญสุนทานอยู่เนืองๆ แต่ไม่มีบุตรสืบสกุล ส่วนเพื่อนบ้าน ยากจน เป็นนักเลงสุรา กลับมีลูกถึง 2 คน ผิวพรรรณดี เพื่อนบ้านนี้มักจะกล่าวเหน็บแนมท่านเศรษฐีเป็นประจำ ว่ารวยแล้วไม่มีลูกย่อมไม่มีประโยชน์อันใด ต่อมา ท่านเศรษฐีจึงตั้งพิธีบูชา สุริยัน-จันทรา ล่วง 3 ปีก็หามีบุตรไม่ จนวันหนึ่ง ท่านเศรษฐีก็ได้ไปขอบุตรกับรุกขเทวดาที่ต้นไทรใหญ่ ฝ่ายรุกขเทวดาก็เห็นใจ เหาะเอาคำขอนี้ไปบอกกล่าวกับพระอินทร์ พระอินทร์จึงมีเทวโองการให้ธรรมบาลเทวบุตรไปเกิดเป็นลูกเศรษฐี เรียก “ธรรมบาลกุมาร” เศรษฐีปลูกปราสาท 3 ชั้นใกล้ต้นไทรให้ลูกอยู่ เมื่อเจริญวัย อายุ 7 ขวบก็เรียนจบพระเวททั้งสาม เรียกว่า “ไตรเพท” อันได้แก่ ฤคเวท (บทสรรเสริญเทพเจ้า), ยชุรเวท (บทสวดอ้อนวอนในพิธีบูชายัญ) และ สามเวท (บทสวดในพิธีบูชายัญ) เป็นที่เลื่อมใสและที่พึ่งของชาวบ้านมาก นอกจากนี้ยังรู้ในภาษานก

ที่พรหมโลก ท้าวกบิลพรหม เห็นว่า มนุษย์ให้ความเคารพนับถือธรรมบาลกุมารมากขึ้นทุกที ก็เกิดจิตที่เป็นอกุศลหมายคิดจะกำจัดกุมารผู้นี้ จึงลงมายังโลก ถามปัญหา 3 ข้อว่า เช้า – เที่ยง – ค่ำ “ศรี”อยู่ที่ใด โดยให้เวลา 7 วันในการขบคิด เดิมพันว่า หากธรรมบาลแพ้ ต้องตัดหัว! แต่ถ้าธรรมบาลกุมารชนะ ท้าวกบิลธรรมจะตัดพระเศียรให้ กุมารใช้เวลาการพิจารณาปัญหานั้น จนล่วงถึงวันที่ 6 ก็ยังไม่มีคำตอบ จึงไปเที่ยวเล่นในป่าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจบชีวิตในวันรุ่งขึ้น

เดินจนเหนื่อย ก็นั่งและล้มตัวลงนอนใต้ต้นตาล ระหว่างที่สะลือสะลืออยู่นั้น ก็มีเหยี่ยวผัวเมียคู่หนึ่งบินมาเกาะที่กิ่งไม้ ผัวว่า พรุ่งนี้จะครบ 7 วันของการเดิมพันของท้าวกบิลพรหมกับธรรมบาลกุมาร ยังไงเราก็จะมีลาภปากได้กินเนื้อมนุษย์แน่ กุมารตอบปัญหานี้ไม่ได้แน่ ! ธรรมบาลกุมารซึ่งรู้ภาษานกก็นอนฟังความต่อไป นกเหยี่ยวตัวเมียก็ถามผัวว่า แล้วพี่รู้คำตอบของปัญหานี้หรือไม่ ? นกตัวผู้บอกว่ารู้ พร้อมทั้งเอ่ยคำตอบให้เมียฟัง ! ฝ่ายธรรมบาลกุมารรู้คำตอบ จึงกลับบ้านด้วยความยินดี

เช้า – ราศีอยู่ที่ใบหน้า มนุษย์จึงเอาน้ำล้างหน้า, เที่ยง – ราศีอยู่ที่หน้าอก มนุษย์จึงนำเครื่องหอมมาประพรมที่หน้าอก ให้คลายร้อน, ค่ำ – ราศีอยู่ที่เท้า มนุษย์จึงล้างเท้าก่อนขึ้นเรือน เข้านอน

ท้าวกบิลพรหมได้ทำตามสัจวาจาที่ลั่นไว้ เรียกลูกสาวทั้ง 7 คนมาเข้าเฝ้า แล้วบอกว่า เศียรพ่อที่
ตัดเพื่อบูชาธรรมบาลกุมารนี้ หากตั้งบนแผ่นดิน ไฟจะลุกไหม้ทั่วโลกธาตุ, อยู่บนอากาศ ฝนฟ้าก็จะแล้ง , ตกในมหาสมุทรก็จะเหือดแห้ง เพื่อรักษาโลกให้ปลอดภัย จึงมีบัญชาให้ลูกสาวทั้ง7 หมุนเวียนกันมาเชิญพานรับพระเศียรเวียนรอบเขาพระสุเมรุ (แกนกลางจักรวาลตามคติพราหมณ์) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง และนำพระเศียรไปเก็บไว้ที่ ถ้ำคันธุลี เขาไกรลาศ
นิทานนี้ ผนวกด้วยการคำนวณ และคำทำนายเกี่ยวกับวันสงกรานต์ ส่วนต่างๆ เช่น การดูวันมหาสงกรานต์, ดูวันเนาสงกรานต์, ดูวันเฉลิงศก , พระสุริยาทิตย์เสด็จ , นางสงกรานต์ทั้ง 7 รวมถึงอิริยบทต่างๆ และเกณฑ์ฝนเกณฑ์น้ำ ซึ่งมีรายละเอียดมาก

ในแต่ละปี จะดูว่า วันสงกรานต์ตรงกับวันอะไรก็จะเป็นหน้าที่ของลูกสาวคนนั้น

วันอาทิตย์ - นางทุงษเทวี ทัดดอกทับทิม เครื่องประดับปัทมราช(แก้วทับทิม) ภักษาหารอุทุมพร (ผลมะเดื่อ) อาวุธขวาจักร ซ้ายสังข์ พาหนะครุฑ

วันจันทร์ - นางโคราคเทวี ทัดดอกปีบ เครื่องประดับมุกดา ภักษาหารเตละ (น้ำมัน) อาวุธขวาพระขันธ์ ซ้ายไม้เท้า พาหนะพยัคฆ์ (เสือ)

วันอังคาร – นางรากษสเทวี ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับแก้วโมรา ภักษาหารโลหิต(เลือด) อาวุธขวา ตรีศูล (หลาว 3 ง่าม) ซ้ายธนู พาหนะ วราหะ (หมู)

วันพุธ - นางมัณฑาเทวี ทัดดอกจำปา เครื่องประดับแก้วไพฑูรย์ ภักษาหารนมเนย อาวุธขวาเข็ม ซ้ายไม้เท้า พาหนะคัทรภะ (ลา)

วันพฤหัสบดี – นางกิริณีเทวี ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับมรกต ภักษาหารถั่วงา อาวุธขวาขอ ซ้ายปืน พาหนะคช (ช้าง)

วันศุกร์ - นางกิมิทาเทวี ทัดดอกจงกลนี เครื่องประดับบุษราคัม ภักษาหารกล้วยน้ำ อาวุธขวาพระขรรค์ ซ้ายพิณ พาหนะมหิงส์ (ควาย)

วันเสาร์ - นางมโหธรเทวี ทัดดอกสาวหาว (ดอกผักตบชวา) เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย อาวุธขวาจักร ซ้ายตรีสูล พาหนะมยุระ (นกยูง)

อิริยบทของนางสงกรานต์จะกำหนดตามเวลามหาสงกรานต์ตามที่คำนวณได้ มีเกณฑ์ดังนี้

-ถ้าเวลามหาสงกรานต์เป็นเวลารุ่งสางถึงเที่ยง (06:00–11:59 น.) นางสงกรานต์ “ยืนมา”
-ถ้าเป็นเวลาเที่ยงถึงเย็น (12:00–17:59 น.) นางสงกรานต์ “นั่งมา”
-ถ้าเป็นเวลาค่ำถึงเที่ยงคืน (18:00–23:59 น.) นางสงกรานต์ “นอนลืมตามา”
-ถ้าเป็นเวลาเที่ยงคืนถึงเช้ามืด (00:00–05:59 น.) นางสงกรานต์ “นอนหลับตามา”

ปีนี้ กระทรวงวัฒนธรรม เปิดตัว นางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี 2567”

“ละครออนไลน์” ร่วมเฉลิมฉลองในวันหยุดตรุษสงกรานต์ ด้วย “สารคดีบันเทิง วันสงกรานต์” ชิ้น
นี้

อ้างอิง ประเพณีสงกรานต์ : กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม 2564
ภาพ – ข้อมูลบางส่วนจากอินเทอร์เนต

ข้อมูลจำเพาะ

วันมหาสงกรานต์ปี 2567 ตรงกับ วันเสาร์ที่ 13 เมษายน เวลา 22 นาฬิกา 17 นาที 24 วินาที
(จันทรคติ ตรงกับ วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะโรง)

นางสงกรานต์นามว่า นางมโหธรเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จนอนลืมตา มาเหนือหลังมยุรา (นกยูง) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ อังคาร เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 300 ห่า ตกในเขาจักรวาล 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 90 ห่า ตกในมหาสมุทร 60 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 30 ห่า

เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีตุล ชื่อวาโย (ธาตุลม) น้ำพอประมาณ พายุจัด

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีนี้ นาคราชให้น้ำ 7 ตัว ทำนายว่า ฝนแล้ง

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ วิบัติ ข้าวกล้าในไร่นา จะเกิดกิมิชาติ คือ มีด้วงแมลงรบกวน ข้าวกล้า จะได้ผล 1 ส่วน เสีย 5 ส่วน

บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราชจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแลฯ

วันเถลิงศก ตรงกับ วันอังคารที่ 16 เมษายน เวลา 2 นาฬิกา 15 นาที 0 วินาที (จันทรคติ ตรงกับ วันจันทร์ ขึ้น ๗ ค่ำ เดือนห้า(๕) ปีมะโรง)

นางสงกรานต์อัญเชิญเศียรท้าวกบิลพรหม



ฝุ่นผงสีจากพืชสมุนไพร

เทศกาลแห่งสีสัน ลานจัดกิจกรรม เซ็นทรัลเวิลด์ ปีนี้!

สรงน้ำเศียรท้าวกบิลพรหม ตามประเพณีทางเหนือ

วันอาทิตย์ – นางทุงษเทวี

วันจันทร์ – นางโคราคเทวี

วันอังคาร – นางรากษสเทวี



วันพฤหัสบดี – นางกิริณีเทวี

วันศุกร์ – นางกิมิทาเทวี

วันเสาร์ – นางมโหธรเทวี

ประกาศสงกรานต์ 2567

นางสาวแอนโทเนีย โพซิ้ว รองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็น “นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำปี 2567






กำลังโหลดความคิดเห็น