xs
xsm
sm
md
lg

ข้อมูลซีรีส์ : Fallout (ฟอลล์เอาท์ ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชื่อเรื่อง: Fallout (ฟอลล์เอาท์ ภารกิจฝ่าแดนฝุ่นมฤตยู)

โชว์รันเนอร์ และ ผู้สร้าง: Geneva Robertson-Dworet, Graham Wagner
ผู้สร้าง: Jonathan Nolan, Lisa Joy, Athena Wickham, Todd Howard, James Altman
นักแสดง: Ella Purnell, Walton Goggins, Aaron Moten, Moisés Arias, Kyle MacLachlan, Sarita Choudhury, Michael Emerson, Leslie Uggams, Frances Turner, Dave Register, Zach Cherry, Johnny Pemberton, Rodrigo Luzzi, Annabel O'Hagan, Xelia Mendes-Jones
ผลิตโดย: Amazon MGM Studios and Kilter Films produce in association with Bethesda Game Studios and Bethesda Softworks
กำหนดสตรีมบน Prime Video: วันพฤหัสที่ 11 เมษายน 2024
จำนวนตอน: 8 ตอน (สตรีมพร้อมกันวันเดียวครบทั้ง 8 ตอน)

“การสูญพันธุ์คือกฎ การอยู่รอดคือข้อยกเว้น”
“การสูญพันธุ์นั้นแน่นอน การอยู่รอดคือข้อยกเว้น”
– คาร์ล เซแกน (Carl Sagan)

Fallout เป็นซีรีส์ที่จากสร้างจากหนึ่งในวิดีโอเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล บอกเล่าเรื่องราวของความมั่งมีและขัดสนในโลกที่แทบไม่มีอะไรหลงเหลือ 200 ปีหลังวันสิ้นโลก เหล่าผู้อาศัยผู้อ่อนโยนในสถานหลบภัยแสนสะดวกสบายจำเป็นต้องกลับออกมาสู่โลกภายนอกอันโหดร้ายซึ่งได้รับผลกระทบจากรังสีที่ตกทอดมาจากรุ่นบรรพบุรุษ และต้องตกใจเมื่อได้พบกับโลกที่ซับซ้อนอย่างเหลือเชื่อ แปลกประหลาด และเต็มไปด้วยความรุนแรง


เกี่ยวกับซีรีส์

ผลงานจากผู้อำนวยการสร้างซีรีส์ Westworld และผู้เขียนบทที่อยู่เบื้องหลังซีรีส์ The Office และภาพยนตร์ Captain Marvel นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในจักรวาลอันกว้างใหญ่ของ Fallout แฟรนไชส์วิดีโอเกมซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม Fallout จะพาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวการเอาชีวิตรอดของมนุษยชาติในโลกหลังหายนะนิวเคลียร์ผ่านประสบการณ์ทางภาพยนตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดื่มด่ำไปกับเรื่องราวที่แตกต่างกันของสามตัวละครหลักซึ่งมาบรรจบกันในโลกอันแปลกประหลาด ด้วยอารมณ์ขันแบบตลกร้าย และฉากแอ็กชั่นที่โดดเด่นทรงพลัง

ในลอสแอนเจลิส ปี 2296: 219 ปีหลังการทำลายล้างของนิวเคลียร์ ชีวิตนั้นสะดวกสบาย มีระเบียบ และค่อนข้างเป็นปกติสุขสำหรับประชากรกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับอภิสิทธิ์ซึ่งอาศัยอยู่ในห้องใต้ดินอันหรูหราอันเป็นหลุมหลบภัยจากรังสี แต่สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่บนพื้นโลก แต่ละวันคือการดิ้นรนฟันฝ่าเพื่อเอาชีวิตรอด ในโลกไร้กฎหมายที่มีการต่อสู้ไม่หยุดหย่อนเพื่อแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำกัด

ซีรีส์ Fallout อำนวยการสร้างโดย Jonathan Nolan และ Lisa Joy (Westworld) และสร้างโดยผู้อำนวยการสร้างและโชว์รันเนอร์ร่วมอย่าง Geneva Robertson-Dworet (Captain Marvel) และ Graham Wagner (The Office, Silicon Valley) นอกจากนี้ Jonathan Nolan ยังรับหน้าที่กำกับซีรีส์สามตอนแรกอีกด้วย โดย Fallout นับว่าเป็นซีรีส์ต้นฉบับ ซึ่งสร้างจากโลกอันเปิดกว้างและสมจริงของแฟรนไชส์วิดีโอเกมที่สั่นสะเทือนวงการและเป็นที่ชื่นชอบของคอเกมมาอย่างยาวนาน

เรื่องราวกล่าวถึงตัวละครหลักทั้ง 3 คนที่ต้องฝ่าฟันท่ามกลางความซับซ้อนของโลกใหม่ซึ่งได้รับผลกระทบจากรังสีนิวเคลียร์ ได้แก่ “Lucy” (รับบทโดย Ella Purnell จาก Yellowjackets) ผู้อาศัยในหลุมหลบภัยที่มีพลังความสามารถและค่อนข้างอ่อนต่อโลก ซึ่งพบกับความประหลาดใจเมื่อขึ้นมาบนพื้นผิวโลกเป็นครั้งแรก “Maximus” (รับบทโดย Aaron Moten จาก Emancipation) ทหารใหม่ผู้ปฏิญาณตนว่าจะรับใช้และปฏิบัติภารกิจของกลุ่ม Brotherhood of Steel ให้ลุล่วง จนเมื่อเขาพบการกระทำที่ไม่ถูกต้องของกองทหารและเริ่มตั้งคำถามถึงเป้าหมายของตัวเอง และ “The Ghoul” (รับบทโดย Walton Goggins จาก The Hateful Eight) มนุษย์กลายพันธุ์นอกกฎหมายในรูปลักษณ์น่าสะพรึงกลัวซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นชายผู้มีเกียรติ เขาสนใจเพียงแค่ให้ตัวเองมีชีวิตรอด และพร้อมจะสังหารใครก็ตามที่มาขวาง

นอกเหนือจากสามนักแสดงแล้ว ยังรวมทีมนักแสดงชั้นนำอย่าง Kyle MacLachlan, Sarita Choudary, Michael Emerson และ Moises Arias ส่วน Jonathan Nolan นั้นนอกจากจะรับหน้าที่ผู้กำกับ 3 ตอนแรกของซีรีส์ซีซั่นแรกซึ่งมีทั้งหมด 8 ตอนแล้ว เขายังเป็นผู้นำทีมศิลปินซึ่งมุ่งมั่นในการนำโลกในวิดีโอเกมต้นฉบับที่มีความยิ่งใหญ่และแปลกประหลาดนี้ มาถ่ายทอดในซีรีส์ด้วยความเคารพในต้นฉบับอีกด้วย โดยผู้กำกับเพิ่มเติมในซีซั่นนี้ ได้แก่ Daniel Gray Longino, Claire Kilner, Frederick E.O. Toye และ Wayne Yip






คำศัพท์ในซีรีส์ Fallout

Brotherhood of Steel: กลุ่มลัทธิทางทหารที่พยายามฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยกลับมาสู่พื้นโลกโดยการยึดอำนาจเพื่อตนเอง

Ghoul: มนุษย์กลายพันธุ์ซึ่งเกิดขึ้นและมีชีวิตอยู่ในรูปลักษณ์ที่หลากหลายจากการถูกรังสี และคาดเดาไม่ได้

Great War: ชื่อเรียกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 23 ตุลาคม 2077

Gulper: ซาลาแมนเดอร์กลายพันธุ์ขนาดยักษ์ที่มีความสุขกับการล่าและกินเนื้อมนุษย์

RadAway: ยาที่มีฤทธิ์ต่อสู้และกำจัดรังสีในกระแสเลือดในร่างกาย

Smoothskin: ชื่อเล่นที่พวก Ghoul ใช้เรียกมนุษย์ธรรมดาทั่วไป

Vault dweller: หรือเป็นรู้จักในชื่อ "Vaultie" หรือ "Vaulter" หมายถึงผู้มีสิทธิพิเศษเพียงไม่กี่คนที่ได้รับการปกป้องจากความน่าสะพรึงกลัวของ Great War ที่อาศัยอยู่ใต้พื้นผิวหลายร้อยฟุตในโลกใต้ดินอันสวยงามและเป็นระเบียบ

Vault-Tec: บริษัทป้องกันก่อนสงคราม เป็นผู้ออกแบบและขาย Vault สถานที่หลบภัยใต้ดินเพื่อปกป้องประชากรในกรณีที่เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ด้วยนิวเคลียร์

Wasteland: คำที่ใช้เรียกแดนร้างไร้กฏหมายบนพื้นโลกที่ถูกผลกระทบจากรังสีหลัง Great War














เกี่ยวกับโปรดักชั่น

จุดเริ่มต้นอันกล้าหาญ: ต้นกำเนิดของ Fallout
นานมาแล้วก่อนที่จะมีใครคิดถึงหรือแม้แต่เห็นความเป็นไปได้ในการดัดแปลงวิดีโอเกมมาเป็นซีรีส์เรื่องนี้ ผู้อำนวยการสร้าง โจนาธาน โนแลน (Jonathan Nolan), เจนีวา โรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต (Geneva Robertson-Dworet) และ แกรม วากเนอร์ (Graham Wagner) ต่างก็รู้สึกหลงใหลในโลกอันเปิดกว้าง และการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่พวกเขาได้สัมผัสขณะที่เล่นเกม Fallout

“สำหรับผม มันเริ่มต้นจาก Fallout 3 เลย” โนแลนกล่าวพร้อมพูดติดตลกว่าเกม Fallout 3 ที่ได้รับรางวัลในปี 2008 คือต้นเหตุที่ทำให้เขาไม่ได้เขียนบทภาพยนตร์เลยเป็นเวลาสองปี “ก่อนหน้านั้นผมแทบไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเกมนี้ แล้วผมก็อยู่ในอารมณ์ที่อยากหาอะไรทำเพลินๆ พอดี ผมคิดว่าตอนนั้นคริส (คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับภาพยนตร์และพี่ชาย) มอบหมายให้ผมเขียนบท The Dark Knight Rises ดังนั้นถ้าหนังเรื่องนั้นออกช้าสักหน่อย ส่วนหนึ่งก็อาจจะเป็นเพราะ Fallout 3 ด้วยนะครับ"
ผู้สร้าง Westworld รู้สึกทึ่งกับขอบเขตอันกว้างใหญ่ของเกม บรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการหักมุมต่างๆ ที่สร้างความประหลาดใจในเกม “การทำงานในธุรกิจนี้ทำให้เราได้ดูภาพยนตร์และรายการทีวีมากมาย มันยากที่จะทำให้เราจะแปลกใจกับอะไรได้ แต่เกมนี้ทำให้คุณประหลาดใจอย่างต่อเนื่อง มันมืดมน รุนแรง แต่ก็เสียดสี และในบางทีก็เกือบจะขำ ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในเกมเกมเดียว มันเป็นเกมที่ทะเยอทะยานมาก และผมก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย”

ราวสิบปีต่อมา โนแลนได้พบกับ ท็อดด์ ฮาวเวิร์ด (Todd Howard) ผู้พัฒนาเกม Fallout 3 และผู้อำนวยการสร้างจาก Bethesda Game Studios เพื่อพูดคุยเรื่องการนำ Fallout มาดัดแปลงเป็นซีรีส์ “เขาชอบงานของผม ผมชอบงานของเขา มันเป็นการพบกันที่ยอดเยี่ยม” โนแลนเล่า “เราจบการพูดคุยด้วยข้อสรุปว่า 'โอเค เราจะทำงานนี้ด้วยกันแน่นอนและจะเอาเรื่องนี้ไปคิดต่อ'”

“ตอนที่ผมคุยกับโจนาห์ครั้งแรก พูดตามตรง เขาดูเหมือนคนที่ผมรู้จักมานาน” ฮาวเวิร์ดเล่า “เห็นได้ชัดว่าเขาเล่นเกมมาเยอะมาก และตั้งแต่เริ่มต้น แนวทางของเขาก็สอดคล้องกับสิ่งที่ผมกำลังคิดเลย”

จากนั้นโนแลนจึงว่าจ้าง เจนีวา โรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต และแกรม วากเนอร์ โชว์รันเนอร์ทั้งสองคนมาเริ่มงาน ทั้งสองคนเห็นตรงกันว่าการดัดแปลงเกมนี้เป็นซีรีส์มีเพียงวิธีเดียว คือต้องบอกเล่าเรื่องราวใหม่ที่เกิดขึ้นในจักรวาล Fallout “เราไม่อยากที่จะนำสิ่งที่ทำมาแล้วอย่างสวยงามในเกมมาเล่าซ้ำใหม่” โนแลนกล่าว “ดังนั้น คำถามจึงมีอยู่ว่า เราจะพาเรื่องราวนี้ไปได้ไกลแค่ไหน โดยมีเจนีวาและแกรมเข้ามารับช่วงต่อ”

โรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต พยายามจะร่วมงานกับโนแลนและวากเนอร์มานานหลายปีแล้ว และ Fallout ก็เป็นโอกาสยอดเยี่ยมที่พวกเขาจะได้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน โนแลนและโรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต ซึ่งเป็นผู้เขียนบท Captain Marvel นำความเชี่ยวชาญของตัวเองในด้านไซไฟและการสร้างโลกในภาพยนตร์มาหลอมรวมเข้ากับวากเนอร์ ซึ่งตลอดหลายปีที่ผ่านมาได้สร้างผลงานในรูปแบบที่เขาเรียกว่า "บูติกคอเมดี" ออกมาหลายชิ้น โดยเป็นมือเขียนบทและผู้อำนวยการสร้าง Portlandia, The Office และ Silicon Valley

คุณคือผู้รอดชีวิตจากหายนะนิวเคลียร์…
ตามชื่อของซีรีส์ เรื่องราวใน Fallout เริ่มต้นที่การสิ้นสุดของโลก: หายนะนิวเคลียร์ ก่อนจะกระโดดข้ามไป 219 ปีต่อมา โดยเส้นเรื่องมีศูนย์กลางอยู่ที่ผู้รอดชีวิตสามคน ซึ่งมีประสบการณ์ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงทั้งในโลกข้างบนที่ถูกรังสีและใต้พื้นโลก

“(ในซีรีส์) เราได้เห็นว่าสังคมถูกลดทอนกลายเป็นแบบไหน” ไคล์ แม็คลัคแลน (Kyle MacLaughlin) อธิบาย “มีผู้รอดชีวิตที่อาศัยอยู่ในห้องนิรภัยใต้ดิน ห่างไกลจากรังสี พยายามอย่างสุดความสามารถด้วยทัศนคติแบบอเมริกัน ส่วนคนอื่นๆ บนโลกถูกเนรเทศให้ไปอยู่บนพื้นโลกซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาด การทำลายล้างที่น่าตกใจ และผู้รอดชีวิตถูกบีบบังคับให้ทำสิ่งเลวร้ายเพียงเพื่อจะมีชีวิตอยู่ต่อ”

“มันเป็นเรื่องราวของคนที่มีเกือบทุกอย่างและคนที่แทบไม่มีอะไรเลย” เจนีวา โรเบิร์ตสัน-ดวอเร็ต (Geneva Robertson-Dworet) กล่าว “ฉันชอบมากที่เกม (Fallout) เปรียบเทียบให้เราเห็นประเด็นนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม”
ความแตกต่างนี้สามารถเห็นได้ชัดเจนเมื่อตัวละครขึ้นไปยังบนพื้นผิวโลก ที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในพื้นที่ที่รู้จักกันในชื่อ Wasteland (แดนร้าง) นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบในเกมอีก 2 อย่างที่ทีมครีเอทีฟตั้งใจนำมาบอกเล่าในซีรีส์ นั่นคือภูมิทัศน์ที่กว้างใหญ่ที่ผู้เล่นสามารถท่องไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด และความสามารถในการเชื่อมโยงกับเหล่าตัวละครที่จะนำทางผู้ชมไปพบกับเรื่องราวต่างๆ

“โดยปกติแล้วเวลาที่คุณจะดัดแปลงอะไรสักอย่างเป็นซีรีส์ เช่น นิยาย คุณจะต้องเพิ่มบางอย่างเข้าไป” โนแลนกล่าว "คุณอาจจะต้องเสียบางองค์ประกอบในต้นฉบับไปบ้าง แต่โดยหลักๆ แล้วคือคุณต้องเพิ่มแสง ภาพ บุคลิก และความเป็นมนุษย์ลงไปในซีรีส์ ในการนำวิดีโอเกมมาดัดแปลง คุณต้องเอาหลายอย่างออกไปจากต้นฉบับ เช่น ความรู้สึกเป็นอิสระของผู้ชม แนวคิดพื้นฐานทั้งหมดของเกมอย่าง Fallout คือการที่มันเป็นเกมแบบ open world ซึ่งเปิดกว้างให้คุณสามารถเดินไปทางไหนก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ในซีรีส์คุณไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ ความสามารถนั้นถูกยกออกไป ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเราคือเราจะถ่ายทอดความเป็นอิสระของเกมต้นฉบับออกมาในซีรีส์ได้อย่างไร ทั้งในแง่ของโลก และในแง่ตัวละครด้วย”

ทางออกของพวกเขาคือ การเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ 3 ตัวละครที่แตกต่างกัน ได้แก่ ลูซี่ แม็กซิมัส และเดอะกูล “นี่เป็นแนวคิดที่คุ้นเคยในแวดวงโทรทัศน์ แต่ไม่ค่อยมีให้เห็นนักในวงการเกม” โนแลนกล่าว “เราสามารถทำมันออกมาได้ในระดับที่ผมคิดว่าทำได้ดีมากในการถ่ายทอดความซับซ้อนทางศีลธรรมของเกม เพราะคุณจะเลือกเป็นคนดี เลือกเป็นคนเลว หรือเลือกอยู่ตรงกลางก็ได้หมด แล้วก็สามารถเปลี่ยนไปมาได้ด้วย"


ตัวละครหลักของ Fallout

เอลลา เพอร์เนล (Ella Purnell) รับบท “Lucy” 
ลูซี่เป็นหนึ่งในผู้อาศัยในหลุมหลบภัยหมายเลข 33 (Vault 33) ซึ่งเกิดและเติบโตมาในสถานหลบภัยนี้มาตลอดชีวิตโดยไม่เคยขึ้นไปบนพื้นโลกหรือเห็นอะไรในโลกภายนอกเลย เธอเป็นคนดีที่ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเชื่อในกฏเหล็กที่ว่า “จงปฏิบัติกับผู้อื่นเหมือนอย่างที่คุณปฏิบัติกับตัวเอง” เธอมาจากสังคมที่ดี มีความสุข รายล้อมด้วยคนดีๆ ซึ่งเชื่อเรื่องการปฏิรูปและการศึกษา พวกเขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเหล่าผู้อาศัยใน Vault หรือลูกๆ หรือหลานๆ ของพวกเขา จะได้ขึ้นไปบนพื้นผิวโลกและสร้างอเมริกาขึ้นมาใหม่อีกครั้ง แต่จิตใจที่มองโลกในแง่ดีและยึดมั่นในอุดมการณ์ของลูซี่กำลังจะถูกทดสอบเมื่อคนที่เธอรักถูกทำร้าย

บทสัมภาษณ์
“ก่อนที่ฉันจะได้อ่านบท ฉันได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเกมนี้มาก่อนแล้ว ทั้งเพื่อนๆ พี่ชายและน้องชายของฉันเคยเล่นเกมนี้ แต่ตัวฉันเองไม่เคยเล่น แล้วฉันก็ได้พบกับโจนาห์ เจนีวา และแกรม เราคุยกันเรื่อง Fallout และพวกเขาก็เล่าเรื่องตัวละครในซีรีส์ให้ฉันฟัง ฉันอ่านบทและตกหลุมรักมันทันที ไม่ได้ตกหลุมรักแค่ตัวละคร แต่ยังรวมถึงเรื่องราวในซีรีส์ มันทั้งฉลาดและตลก โลกในซีรีส์ โทนการเล่าเรื่อง รวมถึงวิธีที่พวกเขาสร้างสมดุลระหว่างความดราม่าจริงจังกับความตลก”
“และหลังจากได้บทมา ฉันก็ได้เล่นเกม Fallout 4 ด้วยนิดหน่อย แต่ฉันเล่นไม่ค่อยเก่งเท่าไร นั่นคือปัญหาเลย ฉันคิดว่าฉันคงจะอยากจะเข้าไปเล่นมากกว่านี้อีก แต่พอเล่นๆ ไปก็ตายอยู่เรื่อย ฉันก็เลยหงุดหงิดและเซ็งสุดๆ สุดท้ายก็เลยลงเอยด้วยการนั่งดูคนอื่นเล่นอย่างเดียว”
“สำหรับฉัน การได้แสดงเป็นลูซี่ที่ทำตัวดีถูกต้องตามกฎที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงแรกของซีรีส์ มันทำให้มีพื้นที่เหลือให้ฉันได้เล่นและแสดงพัฒนาการของตัวละครอีกเยอะมากจนจบซีซั่น เพราะพอเธอได้พบกับแม็กซิมัสและเดอะกูล มันทำให้เธอได้กลับมาคิดพิจารณาจริงๆ ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้พวกเขาเป็นแบบนั้น และเธอจะยอมให้ตัวเองกลายเป็นเหมือนพวกเขาหรือเปล่า”


แอรอน โมเทน (Aaron Moten) รับบท “Maximus” 
แม็กซิมัส ทหารหนุ่มผู้เก็บซ่อนอดีตอันน่าเศร้าของตัวเองไว้ในขณะปฏิบัติหน้าที่ในกองทหารที่ชื่อว่า Brotherhood of Steel เขาเชื่อในภารกิจอันสูงส่งของกองทัพในการนำกฎระเบียบและความสงบเรียบร้อยมาสู่ Wasteland และจะทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น

บทสัมภาษณ์
“ผมใช้เกมในการจินตนาการถึงภาพบรรยากาศในเรื่องมาตลอดเลย ฮาวเวิร์ดสร้างโลกขึ้นในเกมให้เกิดขึ้นในชีวิตจริงที่นี่ได้ยอดเยี่ยมมาก ผมหมายถึงขอบเขตของฉากต่างๆ ตั้งแต่หลุมนิรภัยไปจนถึง Brotherhood of Steel รวมถึงสิ่งที่เราต้องไปถ่ายทำกันในนามิเบีย มันยิ่งใหญ่มากๆ”
“แน่นอนว่า สำหรับแม็กซิมัสแล้วโลกคือสถานที่ที่โหดเหี้ยมทางร่างกาย จากทุกบทบาทที่ผมเคยแสดงมา ผมจะมีทีมงานที่ทำงานด้วยกันในการเตรียมพร้อมร่างกายของผมให้พร้อม แต่งานนี้แตกต่างจากงานอื่นๆ เพราะผมต้องผ่านการฝึกซ้อมอย่างการชกมวย ผมจำเป็นต้องได้สัมผัสความรู้สึกของการต่อสู้ ซึ่งมันต่างจากการแค่เพิ่มหรือลดน้ำหนัก นี่เป็นความโหดร้ายแบบหนึ่งที่ผมคิดว่ามีอยู่ในตัวของ Maximus ซึ่งผมอยากจะมีโอกาสได้สวมบทบาท นอกเหนือจากการฝึกฝนร่างกายด้วยการทำงานร่วมกับครูมวยและครูฝึกยกน้ำหนักแล้ว มันก็ไม่เหมือนการฝึกสตั๊นท์เท่าไร แต่เป็นเรื่องของการมาแต่เช้าเพื่อประชุมและทำงานร่วมกับทีมผู้ประสานงานสำหรับฉากแอ็กชั่นในซีรีส์ของเรามากกว่า”
"มันเป็นซีรีส์ที่เคารพวิดีโอเกมต้นฉบับอย่างมาก และในขณะเดียวกันก็แตกต่างจากต้นฉบับจริงๆ" โมเทนกล่าว “ผมหวังว่าผู้ชมจะได้รับความสุขจากการรับชมซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกันกับที่ผมรู้สึก”


วอลตัน กอกกินส์ (Walton Goggins) รับบท “The Ghoul” 
กูล (Ghoul คือมนุษย์ที่ได้รับผลกระทบจากรังสี) ที่เอาชีวิตรอดใน Wasteland ด้วยการล่าเงินรางวัลค่าหัวเป็นอาชีพ เขาไม่ใช่แค่นักล่าเงินค่าหัวธรรมดาๆ แต่เป็นนักล่าที่เก่งกาจจนชื่อเสียงลือกระฉ่อน ชื่อจริงของเขาคือคูเปอร์ ฮาวเวิร์ด (Cooper Howard) เป็นคนจริงจัง โหดเหี้ยม และมีอารมณ์ขันที่ชั่วร้าย เขามีชีวิตอยู่บนโลกมาตั้งแต่ก่อนเกิดหายนะนิวเคลียร์ และอยู่ในแดนร้าง Wasteland มานานกว่า 200 ปี

บทสัมภาษณ์
“หลังจากพูดคุยกันว่าลุคของผมในซีรีส์จะออกมาเป็นแบบไหน เชื่อไหมครับว่าเราได้ข้อสรุปว่าจะไปทางเซ็กซี่ (หัวเราะ) เขาเป็นคนที่ดูโผงผางมั่นใจ ซึ่งเข้ากับเสน่ห์และอารมณ์ขันของเขา และเราอยากให้ผู้ชมพยายามดื่มด่ำไปกับเขา เราอยากให้ผู้ชมเริ่มตั้งใจมองใบหน้าของเดอะกูลจริงๆ และสังเกตเห็นรอยแผลที่หู เริ่มตั้งคำถามว่ามันที่มายังไง หรือสิ่งนี้คืออะไร สิ่งที่อยู่บนหัวของเขาทุกครั้งที่เขาถอดหมวก เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับตัวเขาจะค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา และทุกอย่างก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวพันกับช่วงเวลาที่ผ่านมาของเขาใน Wasteland”
“อุปสรรคใหญ่ที่สุดสองอย่างสำหรับผมในการแสดงซีรีส์เรื่องนี้คือ ผมไม่รู้เลยว่าหลังจากที่แต่งหน้าเสร็จแล้วและกล้องเริ่มถ่าย ผู้ชมจะสามารถตีความหรือเข้าใจว่าผมกำลังรู้สึกยังไงได้หรือเปล่า และมันไม่ใช่แค่เรื่องของใบหน้าของผมที่เหมือนผืนผ้าใบซีดๆ ว่างเปล่าเท่านั้น แต่ผมรู้สึกไม่มั่นใจมากๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ช่วงสองหรือสามวันแรกหลังจากถ่ายจบทุกเทค ผมจะมองไปที่โจนาธาน โนแลน ผู้กำกับของเราแล้วถามเขาว่า "โจนาห์...คุณเห็นมันหรือเปล่า" และเขาบอกผมว่า "เราเห็นมันหมดเลยวอลตัน ทุกอย่าง(ที่คุณอยากจะสื่อ)อยู่ในดวงตาของคุณแล้ว" ดังนั้นเมื่อผมรู้สึกสบายใจและไม่กังวลเรื่องนี้อีกแล้ว มันก็ง่ายขึ้นมาก แต่อีกอย่างที่ลำบากมากคือรีเทนเนอร์ที่ผมต้องใส่ไว้ในปาก จริงๆ ผมยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กับใครเลย แต่รีเทนเนอร์มันทำให้น้ำลายหายไปจากปากผมหมดเลย (หัวเราะ) …คือแค่ต้องพูดโดยมีใบหน้าเทียมก็ยากแล้ว ยังต้องใส่รีเทนเนอร์พวกนี้อีก ซึ่งทำให้ออกเสียงยากมากๆ”
"เรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่สับสนวุ่นวายมาก เราเห็นการเสื่อมถอยทางศีลธรรม และการมองโลกในแง่ดีเป็นเรื่องยากขึ้นเรื่อยๆ…แต่ Fallout กำลังสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่กำลังเป็นไปรอบตัวเราในบางมุม ผมหวังว่าเราจะไม่ถลำลึกไปไกลกว่านั้น และหวังว่าเราจะยึดหยัดอยู่ในจุดที่เราอยู่ในวันนี้ แต่นั่นแหละคือสิ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจเกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ คำถามที่ซีรีส์หยิบยกขึ้นมา…สำหรับผม ผมอยากรู้มากๆ เลยว่าการสร้างสังคมขึ้นมาใหม่ในเกมและในซีรีส์เรื่องนี้ มันจะเกิดขึ้นยังไงและดำเนินต่อไปยังไง”


ไคล์ แม็คลัคแลน (Kyle MacLaughlin) รับบท “Overseer Hank” 
แฮงค์เป็นผู้ดูแลความสงบเรียบร้อยของหลุมหลบภัย Vault 33 เขาคือชายผู้มุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น เป็นผู้นำที่คิดบวกและมองโลกในแง่ดี แฮงค์มีลูกสองคน หนึ่งในนั้นคือลูซี่

บทสัมภาษณ์
“ก่อนที่ผมจะได้รับบทใน Fallout ผมรู้จักเกมนี้อยู่แล้ว เพราะว่ามันเป็นเกมในตำนานที่ยิ่งใหญ่มาก แต่ผมไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนเลย ผมก็เลยถือโอกาสลองเข้าไปดูโลกในเกมและทำความเข้าใจว่ามันคืออะไร แล้วก็รู้เลยว่ามันเป็นวิดีโอเกมที่ซับซ้อนมากอย่างเหลือเชื่อและผมไม่น่าจะมีความสามารถพอที่จะเล่นมันได้ ดังนั้นผมก็เลยค่อยๆ ถอยออกมาโดยที่รู้แล้วว่าภาพรวมของเกมมันเป็นยังไง จากนั้นก็อาศัยคำแนะนำจากผู้เขียนและผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมของเราเข้าช่วยด้วยนิดหน่อย สิ่งที่ผมให้ความสนใจหลักๆ (ในการแสดง) คือแฮงค์และการสร้างตัวละครตัวนี้ให้สมบูรณ์และมีมิติ เพราะว่ามันมีความเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูซี่ ลูกสาวของเขา”
“หนึ่งในเรื่องยอดเยี่ยมของการทำงานในซีรีส์ Fallout นี้ คือการทำงานร่วมกับโจนาธาน โนแลน เขามีทักษะด้านเทคโนโลยี ดังนั้นในขณะที่ห้องนิรภัยถูกสร้างขึ้นด้วยเกราะภายนอกที่ดูสวยงามและให้ความรู้สึกเหมือนจริง แต่จริงๆ แล้วเราใช้สิ่งที่เรียกว่า volume stage หรือ volume screen ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็คือหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดยักษ์ หรือหน้าจอขนาดเล็กจำนวนมากที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน เพื่อให้เกิดภาพลวงตาในขนาดและขอบเขตที่กว้างใหญ่ และคุณสามารถสร้างโลกได้เกือบทั้งใบด้วยสิ่งนี้”
“ผมชอบเรื่องราวที่คุณคิดว่าคุณรู้ว่าใครจะทำอะไรได้หรือไม่ได้ แต่แล้วพวกเขาก็ทำให้คุณประหลาดใจ” แม็คลัคแลนพูดถึงธีมหลักของซีรีส์เรื่องนี้ “ในซีรีส์เรื่องนี้มันคือเรื่องของลูซี่เลย เธอเป็นคนกล้าหาญและมีความสามารถ แต่เธอจะรอดจากงานหนักๆ ได้หรือเปล่า เวลาดูซีรีส์เราทุกคนอยากจะเชื่อว่าเราจะเป็นผู้รอดชีวิตด้วยเหมือนกัน ซึ่งผมคิดว่า Fallout ทำออกมาได้ดีจริงๆ”

Fallout อัดแน่นไปด้วยหมัดเด็ดในทุกตอนตลอดทั้งซีซั่น ซีรีส์เรื่องนี้จะพาไปสำรวจคำถามสำคัญว่าด้วยความสามารถของมนุษยชาติในการเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับโอกาสที่จะสูญพันธุ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังส่งมอบความบันเทิงและเสียงหัวเราะแบบจัดเต็ม


กำลังโหลดความคิดเห็น