“เพชร-โน่” พ่อลูกคนบันเทิง แท็คมือ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน”
จัดโชว์แสงสีเสียง “วีรชน บุปผชาติ ท้าวสุรนารี”
เรียกได้ว่าเป็น “ลูกไม้ใต้ต้น” ตามรอยคุณพ่อมาแบบหายใจรดต้นคอ สำหรับ นีโน่-รัฐบาล พรหมสาขา ณ สกลนคร ผู้จัดฯ และผู้กำกับฯ รุ่นใหม่ไฟแรง ที่นอกจากจะเป็นผู้จัดฯ และผู้กำกับฯ ซีรี่ส์เรื่อง “นาคาซาลอน” ที่จะมีคิวออกอากาศในวันที่ 15 เมษายน 2567 ที่จะถึงนี้ทางช่อง 3HDกด 33 แล้ว
ล่าสุด หนุ่มโน่ ยังได้รับโอกาสดีจากจังหวัดนครราชสีมา หรือ โคราช ให้เป็นผู้จัดงานแสดงโชว์แสงสีเสียง “วีรชน บุปผชาติ ท้าวสุรนารี” ในงานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี (คุณหญิงโม) ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเชิดชูเกียรติของ ท้าวสุรนารี รวมทั้งของดีเมืองโคราชที่จะถูกนำมาโชว์ในงานนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม – 2 เมษายน 2567
งานนี้ หนุ่มโน่ ตั้งอกตั้งใจที่จะให้ พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร คุณพ่อสุดที่รัก รับหน้าที่ กำกับเวที และการแสดง เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะเชื่อในประสบการณ์กว่า 30 ปีในวงการบันเทิงของพ่อ โดยมี บริษัท ดราก้อนออแกไนซ์เซอร์ กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้อำนวยการจัดงาน และได้ ครูมิ้งค์-เพ็ญจันทร์ วงศ์สมเพ็ชร รับหน้าที่ เขียนบทการแสดงในครั้งนี้ โดย หนุ่มโน่ เผยถึงการทำงานในครั้งนี้ว่า
“ย่าโม เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของผู้หญิงทั้งประเทศ เป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถรอบด้าน ดีใจที่ได้ทำครับ ด้วยเนื้องานก็เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ และตัวผมก็ชอบเรื่องราวที่เป็นประวัติศาสตร์ ทีนี้เราก็ต้องคิดว่า ทำยังไงให้โชว์ในปีนี้ไม่ให้ซ้ำกับที่ผ่านมา คิดว่าจะเอาสตอรี่ตรงไหนมานำเสนอ ที่ผ่านมาจะเล่าแต่เรื่องวีรกรรม เหตุการณ์การต่อสู้ การใช้ขีวิตต่างๆ
ทีนี้เราก็มองดูว่า ย่าโม ท่านมีมุมมองแตกต่างยังไงบ้าง ก็ทำการศึกษา จริงๆ ก็ไม่ได้มีแต่เรื่องออกรบอย่างเดียว เราก็คิด ทำไมคนโคราชถึงรักและเทิดทูนท่าน มันไม่ใช่แค่เรื่องของตัวท่าน มีอีกหลายเรื่องที่ท่านได้ต่อยอดเอาไว้ หลังจากรบชนะ เรื่องวัฒนธรรมต่างๆ ก็เลยเกิดไอเดียที่เราจะเล่าประวัติศาสตร์ของย่าโม และเมืองโคราชยังไงให้มีความโดดเด่น ซึ่งเรามองว่าเมืองโคราช เป็นจังหวัดเดียวที่มีครบทุกอย่าง เช่น แมว ก็มีแมวเป็นพันธุ์จังหวัดตัวเอง ผ้าไหม อาหาร แม้กระทั่งประเภทของมวย ถ้าจังหวัดอื่นอาจจะใช้ชื่ออำเภอ ชื่อตำบล มีโคราชนี่แหละ ที่ใช้ชื่อจังหวัดและเป็นเมืองที่น่าสนใจมากครับ”
ด้าน พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร เผยถึงคอนเซ็ปท์โชว์ “วีรชน บุปผชาติ ท้าวสุรนารี” ในครั้งนี้ว่า
“เราทำโชว์เพื่อจะสดุดีย่าโม และเมืองโคราช เป็นโชว์ที่มีกลิ่นของละครเวที กลิ่นของมิวสิคัล เป็นการเล่าเรื่องย่าโมในรูปแบบใหม่ เอาดนตรีมาทำเนื้อร้องใหม่ในรูปแบบของโชว์ ก็จะมีแดนซ์ มีพวกนางไม้ที่จะเล่นมุขอะไรเบาๆ แล้วก็เล่าเรื่องพวกวีรกรรมที่เรานำเสนอในแบบของเรา แบบบางทีเราดูในทีวี เราก็จะเห็นเค้ารบกัน แต่อันนี้จะนำเสนอหลายด้าน มีภาพขึ้นจอเหมือนหนังด้วย เหมือนนั่งดูหนังเรื่องหนึ่ง ซึ่งการทำงานครั้งนี้เราทำด้วยใจมากๆ น้องๆ นักแสดงที่เราติดต่อไป เราก็หาคนที่มีใจที่จะอยากทำงานกับเรา เพราะค่าตอบแทนก็ไม่ได้มาก เหมือนเราได้ทำงานถวายย่าโม งานสดุดีย่าโม เรียกได้ว่าเป็นการตอบแทนคุณแผ่นดินในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งคาดว่าคนดูจะชอบโชว์ในครั้งนี้ครับ”
นอกจากนี้ หนุ่มโน่ ยังมองว่า ความเป็นไทยมีเสน่ห์เยอะมาก แต่ยังไม่ได้ถูกถ่ายทอดให้เหมาะสมอย่างไร และครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่เชื่อว่า คนรุ่นใหม่ จะได้เห็นอะไรใหม่ๆ เพื่อ ย่าโม เพื่อคนโคราชและคนไทยทั้งประเทศ!!!
“เรามีมุมมองว่า เราจะทำยังไงให้คนคิดและสนใจเหมือนเรา ความเป็นไทยมีเสน่ห์เยอะมาก แค่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดให้เหมาะสมกับเด็กรุ่นใหม่มากพอ เราเลยมีความคิดว่าทำยังไงให้ความเดิมยังอยู่ แต่มีความแตกต่างเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ซึ่งการแสดงโชว์ในครั้งนี้ มันก็จะเป็นใบเบิกทาง และจุดเริ่มต้น ถูกใจไม่ถูกใจไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยให้ได้รู้ว่า เริ่มเปลี่ยน เริ่มพัฒนา เริ่มมีอะไรแปลกใหม่เข้ามา อาจจะยังไม่สนใจตอนนี้ แต่อนาคตข้างหน้าอาจจะสนใจก็ได้ครับ
และผมก็เชื่อว่าปีนี้เป็นปีที่อยากให้ทุกคนให้โอกาสงานท้องถิ่นของจังหวัด เพราะมันมีเคมเปญที่พัฒนาส่งเสริมมากจริงๆ มีเด็กรุ่นใหม่ที่ได้โอกาสแสดงฝีมือในงานนี้เยอะมาก ไม่ได้มีแค่ทีมผม มีอีกหลายๆ ทีม ที่มีแนวคิดใหม่ๆ และสร้างสรรค์ เชื่อเลยว่างานย่าโมปีนี้จะมีทั้งความครีเอทีฟ สร้างสรรค์และน่าสนใจกว่าที่ผ่านมา และในงานยังมีกิจกรรมอีกมากมาย อยากให้มาชมกันครับ”
โดยจะมีงานแถลงข่าวในวันพุธที่ 20 มีนาคม 2567 ในเวลา 19.00 น. ณ เวทีกลางน้ำ หน้า อบจ. ส่วนงานแสดงแสงสีเสียง “วีรชน บุปผชาติ ท้าวสุรนารี” การแสดงมี 6 วัน ในวันที่ 24-25, 29, 31 มีนาคม และวันที่ 1-2 เมษายน 2567 ณ บริเวณลานสวนรัก หลังเวทีโอเปร่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา
