เป็นอีกซีรีส์จีนแฟรนไชส์ที่แฟนๆ ต่างรอคอยกันมากที่สุดเรื่องหนึ่ง และเป็นข่าวฮือฮาตั้งแต่ยังไม่เปิดแคสติ้งนักแสดง หลังปูเสื่อคอยกันอยู่หลายปี แต่พอจะออกอากาศสายฟ้าแลบก็ปล่อยออกมาพร้อมกันถึง 2 ภาคเลยทีเดียว สำหรับ เซียนกระบี่พิชิตมารภาค 4 (Sword and Fairy 4 -2024) จากค่าย iQIYI และเซียนกระบี่ เปิดผนึกพิชิตชะตา (SWORD AND FAIRY - 2024) หรือชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า เซียนกระบี่พิชิตมารภาค 6 จากค่าย WeTV
ซีรีส์ทั้งสองเรื่องนับเป็นส่วนหนึ่งของมหากาพย์ซีรีส์เซียนกระบี่พิชิตมาร ซึ่งก็ไม่ต้องกังวลใจไปว่าถ้าไม่เคยดูภาคก่อนหน้านี้จะดูไม่รู้เรื่อง เพราะเนื้อหาในแต่ละภาคไม่ได้ต่อเนื่องกัน ไม่ได้ใช้ตัวละครเดียวกัน เพียงแต่หยิบยกสถานที่ ไอเท็ม หรือเชื่อมโยงตัวละครในแต่ละภาคมาใช้ร่วมกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สำหรับใครที่ไม่ได้เป็น FC หรือติดตามซีรีส์สุดคลาสสิคเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น อาจสงสัยว่าทำไมหลายคนจึงให้ความสนใจกับซีรีส์ชุดนี้เป็นพิเศษวันนี้เรามาหาคำตอบกัน
เบิกโรงปฐมบท เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 1
ย้อนกลับไปปี 2005 ซีรีส์เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 1 (Chinese Paladin - 2005) ถูกสร้างขึ้นโดยดัดแปลงมาจากเกมอาร์พีจี ชื่อ The Legend of Sword and Fairy ของไต้หวัน ซึ่งเป็นเกมที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อปี 1995 จนนำมาสร้างเป็นการ์ตูนอนิเมะและนวนิยาย จนมาถึงซีรีส์ ที่นำแสดงโดยพระเอกหนุ่มสุดหล่ออย่าง ‘หูเกอ’ มารับบท ‘หลี่เซียวเหยา’ คู่นางเอกหมวยอินเตอร์อย่าง ‘หลิวอี้เฟย’ มารับบทเป็น ‘จ้าวหลิงเอ๋อ’ ซึ่งตอนนั้นหลิวอี้เฟยยังเป็นเพียงนักแสดงดาวรุ่งที่ผ่านผลงานเพียงไม่กี่เรื่อง และยังไม่ได้เล่นบทเซียวเล่งนึ่ง บทบาทที่ทำให้เธอได้ฉายาพี่นางฟ้าอย่างทุกวันนี้ ร่วมด้วยอันอี่เซวียน, เผิงอวี๋เยี่ยน (เอ็ดดี้ เผิง)
เซียนกระบี่พิชิตมาร ในเวลานั้นถือเป็นซีรีส์ยุคแรกๆ ที่ผสมผสานแนวแฟนตาซี, ผจญภัย, โรแมนติก, กำลังภายใน เข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเนื้อเรื่องสนุกสนานชวนติดตาม แถมเคมีพระนางทรงพลังดาเมจดีเว่อร์วัง ทำให้หลังออนแอร์ครั้งแรกที่ไต้หวัน ตัวซีรีส์ได้รับความนิยมอย่างสูง ส่งให้นักแสดงนำโด่งดังเป็นพลุชั่วข้ามคืน จนทุกวันนี้รายชื่อนักแสดงที่เอ่ยถึงก็ขึ้นแท่นดาราแถวหน้าของวงการไปหมดแล้ว อีกทั้งตัวซีรีส์ก็กลายเป็นภาคที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชม เพราะสร้างเนื้อหาใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นเกมและอนิเมะมากที่สุดถ้าเทียบกับภาคอื่นๆ ที่มีการสร้างตามมาที่หลัง
เรื่องราวของหลี่เซียวเหยา ชายหนุ่มจอมกะล่อนที่เปิดโรงเตี๊ยมหาเลี้ยงชีพกับซ้อหลี่ในเมืองหังโจว ผู้มโนว่าตนเองจะเป็นจอมยุทธผดุงคุณธรรมอยู่เสมอ วันหนึ่งหลี่เซียวเหยาได้รับการถ่ายทอดเพลงกระบี่จากเซียนกระบี่ ต่อมาซ้อหลี่ป่วยหนัก ทำให้เขาต้องเดินทางไปยังเกาะเซียนเพื่อหายาวิเศษมารักษาตามคำแนะนำของคนพรรคบูชาจันทร์ที่มีเบื้องหลังลึกลับและต้องการหลอกล่อหลี่เซียวเหยาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง
การเดินทางไปบนเกาะหลี่เซียวเหยาเผชิญกับค่ายกลบนเกาะ และได้รู้จักกับจ้าวหลิงเอ๋อ หญิงสาวปริศนา ทั้งสองค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์กลายเป็นความรักลึกซึ้ง ต่อมาด้วยอุบายคนชั่วทำให้หลี่เซียวเหยาจำจ้าวหลิงเอ๋อไม่ได้ กลายเป็นความอุปสรรคความรักระหว่างทั้งสองที่ต้องฝันฝ่าไปด้วยกัน
ซีรีส์เวอร์ชั่นนี้เคยเข้ามาฉายในไทยทางช่อง 3 จำนวน 34 ตอน
ส่งไม้ต่อความปังสู่เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 3
จากความฮอตของภาคแรก ส่งให้เกิดโปรเจคต์ภาคต่อเป็น เซียนกระบี่พิชิตมาร 3 (Chinese Paladin - 2009) หลายคนมักสงสัยว่าภาค 2 หายไปไหน? โดยสาเหตุที่ไม่มีภาค 2 เนื่องจากผู้สร้างเห็นว่าเนื้อหาภาค 2 จากเกมมีน้อยเกินกว่าจะมาสร้างเป็นซีรีส์เต็มเรื่องได้ จึงได้ขมวดเนื้อหาภาค 2 มารวมเป็นภาค 3
การสานต่อภาค 3 นี้ ทีมสร้างเล่นใหญ่ไฟกระพริบ ขนนักแสดงวัยรุ่นมากฝีมือในยุคนั้น มาดึงฐานคนดู ยืนพื้นด้วยนักแสดงนำจากภาคแรกอย่างหูเกอ และแคสติ้งนักแสดงชุดใหม่ที่มีชื่อเสียงอย่าง หยางมี่, ฮั่วเจี้ยนหัว, หลิวซือซือ, ถังเยียน, หยวนหง เป็นต้น
ทุกอย่างเป็นไปตามคาด ซีรีส์โด่งดังถล่มทลายครองเรตติ้งอันดับหนึ่งตลอดการออกอากาศที่จีน ไปจนถึงยกระดับความปังปุริเย่ของทีมนักแสดงนำแบบยกแพ็ค และพัฒนาเป็นมิตรภาพนอกจอระหว่างตัวนักแสดงหลักยาวนานมานานกว่า 15 ปีถึงทุกวันนี้ อีกทั้งซีรีส์ยังได้รับการยกย่องจากผู้ชมว่าเป็นซีรีส์ขึ้นหิ้งสุดคลาสสิคที่ไม่ควรพลาดชม
พล็อตเรื่องเดินตามสูตรสำเร็จเดิมจากภาคแรก โดยวางตัวเอกของเรื่องให้มีคาแร็คเตอร์คล้ายกับภาคแรก แต่ผสมโรงมาด้วยเรื่องราวมิตรภาพ การผจญภัย และความรักดราม่าปวดตับของตัวละครทั้งห้าที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคสยบเทพมารในดินแดนทั้งหกภพ นำโดย หูเกอ รับบท จิ่งเทียน หนุ่มจอมทะเล้นแต่ไร้แก่นสาร หากแต่อดีตชาติของเขาคือขุนศึกสวรรค์ที่มาจุติในแดนมนุษย์เพื่อปกป้องความสงบสุข โดยซีรีส์ภาคนี้เคยนำเข้ามาฉายในไทยทาง ช่อง 3 จำนวน 34 ตอน
นักแสดงใหม่ยกชุด ในเซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 5
ทิ้งช่วงไปหลายปีแฟรนไชส์ซีรีส์จีนชุดนี้กลับมาอีกครั้ง ในชื่อ เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาคอวิ๋นจือฝาน หรือที่รู้จักกันในนาม เซียนกระบี่พิชิตมาร ภาค 5 (Chinese Paladin 5 - 2016) ที่แม้เป็นเส้นเรื่องเดียวกันกับภาคแรก แต่เนื้อหากลับไม่ค่อยเชื่อมโยงกันสักเท่าไหร่นัก ทำเอาขัดใจฐานแฟนดั้งเดิมซีรีส์ชุดนี้ไม่น้อย แถมยังแคสติ้งนักแสดงหน้าใหม่ยกชุด ความโด่งดังจึงไม่เปรี้ยงเท่ากับสองภาคแรกเท่าไร แต่ก็แจ้งเกิดนักแสดงนำของเรื่องอย่าง ‘หานตงจวิน’ หรือ ‘เอลวิส หาน’ พระเอกหล่อเข้มจาก อู๋ซิน จอมขมังเวทย์ (Wu Xin: The Monster Killer - 2015) ประกบ ‘กู่ลี่นาจา’ นางเอกสาวหน้าสวยเชื้อสายซินเจียงอุยกูร์ จาก ตำนานรักจิ้งจอกสวรรค์ (Legend of Nine Tails Fox-2016)
ภาค 5 ว่าด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 20 ก่อน จอมมารเจียงซื่อหลีถูกสำนักซูซานและ 4 ตระกูลใหญ่ผนึกไว้ในหยกโลหิตหนี่วา 20 ปีต่อมาจอมมารจะกลับมาอุบัติขึ้นมาอีกครั้ง 4 ตระกูลใหญ่จึงต้องออกตามหาทายาทจอมมาร เพื่อไม่ให้เป็นภัยต่อไปในภายภาคหน้า เจียงหยุนฝาน (หานตงจวิน) ลูกบุญธรรมหัวหน้าค่ายโจรเพิ่งรู้ความจริงว่าเขาเป็นลูกในไส้ของจอมมาร เขาจึงตัดสินใจใช้พลังของตัวเองเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง แต่เขาต้องยอมเสียถังหยี่โหยว (กู่ลี่นาจา) ทำให้เขาต้องเลือกระหว่างคุณธรรมและความรัก
และอีกเช่นเคยตัวซีรีส์ก็ยังคงได้ ช่อง 3 นำเข้ามาฉายในไทย จำนวน 45 ตอน
เซียนกระบี่พิชิตมาร 4 กับความคาดหวังตอนจบที่ถูกใจคนดู
ผ่านไปเกือบ 10 ปี เซียนกระบี่พิชิตมารยังคงพูดถึงเป็นระลอกว่าจะมีการสร้างภาคต่อ เนื่องจากเวอร์ชั่นเกมและอนิเมะมีการสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีวัตถุดิบมากมายพอจะสร้างเป็นซีรีส์อยู่ที่ว่าจะหยิบเส้นเรื่องไหนออกมาเล่า
ข่าวลือมีเป็นระยะ จริงบ้างไม่จริงบ้าง จนในที่สุดเซียนกระบี่พิชิตมาร 4 (Sword and Fairy 4 -2024) ก็คอนเฟิร์มนักแสดงครบทีม คว้าพระนางระดับไอดอล นำโดย จวีจิ้งอี นางเอกเจ้าของฉายาสาวจีนที่สวยที่สุดในรอบ 4,000 ปี, เฉินเจ๋อหย่วน พระเอกสายละมุนจากแอบรักให้เธอรู้ (Hidden Love – 2023) ร่วมด้วย เหมาจื่อจวิ้น, เหมาเสี่ยวฮุ่ย, เฉินฉู่เหอ มาสร้างตำนานหน้าใหม่ของเซียนกระบี่พิชิตมาร
ว่าด้วยเรื่องราวเมื่อ 19 ปีก่อน สำนักฉงหัวใช้ตาข่ายดาบคู่ของวั่งซูและซีเหอผูกมัดโลกปีศาจ ทำให้เกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตาย อวิ๋นเทียนชิง (เฉินฉู่เหอ) ลูกศิษย์สำนักฉงหัวและซู่อวี้ เนื่องจากแตกต่างในหลักการบำเพ็ญเซียน จึงออกจากฉงหัวและมาที่ยอดเขาชิงหลวนเพื่อให้กำเนิดลูกชายนามอวิ๋นเทียนเหอ (เฉินเจ๋อหย่วน) ไม่นานซู่อวี้และอวิ๋นเทียนชิงก็เสียชีวิต ทิ้งให้อวิ๋นเทียนเหอเติบโตมาบนภูเขา โดยไม่รู้อดีตของพ่อแม่ตัวเอง จนได้มาพบกับหานหลิงซา (จวีจิ้งอี) โจรขโมยสุสานที่บุกเข้าไปในสุสานพ่อแม่ และพวกเขาก็ลงจากภูเขาด้วยกันเพื่อค้นหาอดีตของตัวเอง จนได้มารู้จักหญิงสาวอีกคน หลิ่วเมิ่งหลี (เหมาเสี่ยวฮุ่ย)
ต่อมาทั้งสามฝากตัวเป็นศิษย์สำนักคุนซวีฉงหัว โดยมีมู่หรงจื่ออิง (เหมาจื่อจวิ้น) ที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาเป็นผู้ฝึกสอนพวกเขา ทั้งสี่คนผูกพันกลายเป็นคู่หู และช่วยกันค้นหาภูมิหลังของกันและกัน
โทนเรื่องจะเน้นไปแนวมิตรภาพระหว่างเพื่อนที่มาผจญภัยร่วมกันบนแบ็คกราวน์ของซีรีส์แนวโรแมนติกแฟนตาซี ความที่นำมาสร้างในยุคนี้ อีกทั้งได้ผู้กำกับอย่างหยางเสวียน ที่มีดีกรีกำกับซีรีส์ชื่อดังอย่าง สามชาติสามภพ ลิขิตเหนือเขนย (Eternal Love of Dream – 2020) สไตล์การเล่าเรื่อง แสง ภาพ CG การดีไซน์โปรดักชั่นทั้งหมด จึงออกมาเป็นแนวเทพเซียนตามมาตรฐานซีรีส์ยุคใหม่ป้ายยาผู้ชมรุ่นใหม่เข้าไปเต็มๆ
ประเด็นที่เหล่าแฟนคลับซีรีส์ชุดนี้จับตามอง คือ ตัวซีรีส์จะมีการดัดแปลงตอบจบอย่างไร? เพราะตามบทประพันธ์เดิมจบแบบโศกนาฏกรรม งานนี้ต้องฝากความหวังไว้กับทีมดัดแปลงบทที่ได้ ตงจวิ้นเฟิง เจ้าของผลงานเขียนบทซีรีส์หยุนเสียน หมอหญิงวังจักรพรรดิ (The Imperial Doctress-2016) แท็คทีมกับเหลยจวิน เจ้าของผลงานบทภาพยนตร์ กระบี่เทพสังหาร (Jade Dynasty-2019)
เซียนกระบี่พิชิตมาร 4 (Sword and Fairy 4 -2024) ออกอากาศในไทยพร้อมจีนเมื่อ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ทาง iQIYI จำนวน 36 ตอนจบ
สิ้นสุดการรอคอยสู่เซียนกระบี่พิชิตมาร 6
ไม่รู้กระแสก่อนออนแอร์มาแรงหรืออย่างไร จู่ๆ เซียนกระบี่ เปิดผนึกพิชิตชะตา (Sword and Fairy - 2024) หรือที่รู้กันว่าคือ เซียนกระบี่พิชิตมาร 6 ก็ออนแอร์ไล่หลังเซียนกระบี่พิชิตมาร 4 เพียงวันเดียวบนแอปฯ WeTV โดยเซียนกระบี่พิชิตมาร 6 เป็นภาคที่มีการจับตามองมากที่สุดภาคหนึ่ง ผู้ชมมีความคาดหวังสูงว่าอยากให้เดินรอยตามความสำเร็จเดียวกับภาคแรกๆ
หลังจากเล้าหลืออยู่หลายปีจากข่าวลือแคสติ้งนักแสดงว่าจะมีคนนั้นคนนี้มารับบทนำ ในที่สุดก็สรุปออกมาเป็นสวีข่ายและอวี๋ซูซิน คู่พระนางตัวตึงที่กำลังฮอตอยู่ในเวลานี้ และเป็นการโคจรมาเจอกันครั้งแรกของทั้งคู่ โดยได้ ‘หลิวกัวหนาน’ ที่เคยฝากผลงานลำนำรักเคียงบัลลังก์ (Stand by me - 2021) รั้งเก้าอี้ผู้กำกับ
เรื่องราวของเยว่จินเจา (สวีข่าย) และเยว่ฉี (อวี๋ซูซิน) หนุ่มสาวที่จู่ๆ ตื่นมาในหมู่บ้านอูเหยียน โดยสูญเสียความทรงจำและอาศัยอยู่ที่นั้นมานานสามปี ทั้งสองคนจึงจูงมือกันท่องยุทธภพเพื่อตามหาความทรงจำและสืบหาที่มาของตัวเอง ระหว่างการต่อสู้กับสำนักฉี่หยวน ความทรงจำและความรู้สึกของเยว่ฉีที่ถูกผนึกได้เปิดออก ขณะที่เหตุการณ์ดำเนินไปทั้งคู่ได้รู้จักสหายมากมาย ฐานะที่แท้จริงของทั้งสองก็ค่อย ๆ เปิดเผย พร้อมกับการปรากฏของแผนการ กับดัก ที่มีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง
ต้องบอกว่าภาคนี้อัดแน่นจัดหนักงาน CG เน้นๆ โดยโทนเรื่องค่อนข้างมีความตะมุตะมิมากกว่าภาค 4 เพราะเส้นเรื่องให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ของพระนางที่ค่อยๆ คลี่คลายปมของเรื่อง แต่ก็ไม่ทิ้งเสน่ห์อันเป็นซิกเนเจอร์แฟรนไชส์ชุดนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยการผจญภัยและมิตรภาพที่มีฉากหลังเป็นแนวแฟนตาซี
ส่วนจะต๊าชฟาดเท่ากับเวอร์ชั่นออริจินอลหรือไม่? ตามไปพิสูจน์กันเองได้ทาง WeTV 36 ตอนจบ
ดูจากเนื้อเรื่องเซียนกระบี่พิชิตมารแต่ละภาค จะเห็นว่าไม่ได้มีเรื่องราวต่อเนื่องกัน ฉะนั้นไม่ว่าจะเริ่มต้นดูภาคไหนก็ไม่ได้มีปัญหาต่อการทำความเข้าใจ และเชื่อว่าเป็นซีรีส์จีนอีกชุดที่จะโดนใจคอซีรีส์แนวมิตรภาพแฟนตาซีผจญภัยอยู่ไม่น้อย
ร้อยเรียงเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงภาพ :
mydramalist.com/
https://mgronline.com/china/detail/9640000045092
https://www.iq.com
https://wetv.vip/th
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์