xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก” ซีรีส์จีนบู๊กระจายแห่งปี สนุกครบเครื่อง สมศักดิ์ศรี “หลิวซือซือ - หลิวอวี่หนิง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




เพิ่งจบไปแบบมูฟออนไม่ได้ จนต้องลิสต์ไว้เป็นซีรีส์ต้องดู...ส่งท้ายปีนี้กันเลยทีเดียว สำหรับ ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก (A Journey to Love – 2023) ซีรีส์จีนแนวยุทธภพชิงอำนาจ ที่แค่ได้ยินว่า ‘หลิวซือซือ’ จะมารับบทนำ ในฐานะนักฆ่าหญิง ก็เล่นเอาสาวกติ่งจีนปูเสื่อรอชมแล้ว

เพราะนี่คือการกลับมารับซีรีส์จีนแนวแอ็กชั่นย้อนยุคในรอบ 6 ปีของหลิวซือซือ แถมเป็นบทบู๊หนักๆ ควงกระบี่ โชว์สกิลนักฆ่าสาวอันดับหนึ่งของยุทธภพไปตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย แถมยังมาประกบกับ ‘หลิวอวี่หนิง’ พระเอกรุ่นน้องหุ่นสูงสมาร์ทสุดฮอตจาก สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long March of Princess Changge -2021), ดาบเสียดฟ้า (Heroes-2022), อันเล่อจ้วน (The Legend of Anle - 2023)

เรียกว่าเป็นการกลับมาที่มีแรงกดดันไม่น้อยสำหรับหลิวซือซือ เพราะห่างจากบทแอ็กชั่นและแนวพีเรียดไปนาน แต่แม่ก็คือแม่ ด้วยการแสดงที่เหนือชั้นและความสวยที่เพิ่มเป็นเท่าทวีของหลิวซือซือ บวกกับเคมีความเข้ากันของคู่พระนางระดับดับเบิ้ลหลิว (แซ่ของ หลิวซือซือ VS หลิวอวี่หนิง) ตัวละครสมบทที่เล่นเอาฮา และโครงเรื่องที่เอาอยู่ ก็ทำให้ ‘ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก’ กลายเป็นซีรีส์ป้ายยาคนดูได้ติดหนึบ ไปพร้อมกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เชิงบวกที่จีน ด้วยคะแนนเปิดตัวใน Douban 7.5 (แม้ว่าจะลดลงเหลือ 6.6 ในช่วงท้ายเรื่องอยู่บ้าง จุดนี้ขอไม่สปอยส์ จะ ‘ปัง’ หรือ ‘บ้ง’ ขอให้ไปตามดูกันเอง) แถมด้วยความนิยมในไทยติดอันดับหนึ่งบนแอป IQIYI Thailand ตลอดการออนแอร์ ขนาดตัวซีรีส์จบไปแล้วก็ยังอยู่ในท็อปชาร์จ

สำหรับ ข้ามภูผาหาญท้าลิขิตรัก (A Journey to Love – 2023) ว่าด้วยเรื่องราวของเหรินซินหรือเหรินหรูอี้ (หลิวซือซือ) อดีตทูตซ้ายหน่วยองครักษ์ชุดแดงแคว้นอัน หน่วยสายลับนักฆ่าประจำแคว้นอัน โดนคนในองค์กรของตัวเองหักหลังจนต้องแกล้งตายและซ่อนตัวอยู่ในองค์กร โดยปลอมฐานะเป็นเหรินหรูอี้ กระจอกขาวสายลับระดับล่างสุดขององค์กร เพื่อตามสืบว่าใครกันแน่ที่ปองร้ายนางและใส่ร้ายนางว่าฆ่าฮองเฮาแห่งแคว้นอัน ผู้มีพระคุณของนาง

ระหว่างการหาเบาะแสมีเหตุให้บาดเจ็บสาหัสและมาเจอกับ นิ่งหย่วนโจว (หลิวอวี่หนิง) ผู้นำหน่วยหกวิถี องค์กรสายลับประจำแคว้นอู๋ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะเดินทางทูตแคว้นอู๋ ที่กำลังเดินทางไปแคว้นอัน ร่วมกับองครักษ์และองค์หญิงหยางอิ๋ง ผู้ปลอมเป็นองค์ชายแคว้นอู๋ เพื่อไปปฏิบัติภารกิจนำทองคำแสนตำลึงไปแลกตัวฮ่องเต้แคว้นอู๋ ซึ่งถูกจับไปเป็นตัวประกันที่แคว้นอัน หลังแพ้สงคราม

การพบกับครั้งแรกของทั้งสอง นิ่งหย่วนโจวรู้ด้วยสัญชาตญาณทันทีว่าเหรินหรูอี้ไม่ธรรมดา ต่อมาภายหลังเขารู้ตัวตนแท้จริงว่าเหรินหรูอี้เป็นใคร และด้วยสถานการณ์บังคับบวกกับต้องอาศัยความสามารถที่รู้ตื้นลึกหนาบางของแคว้นอันเป็นอย่างดี จึงได้ยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับเหรินหรูอี้ว่าจะช่วยสืบเบาะแสการตายของฮองเฮาแห่งแคว้นอัน แลกกับการให้เหรินหรูอี้เป็นอาจารย์ให้องค์หญิงหยางอิ๋ง ผู้ไม่ประสาเรื่องการเมือง ในการเตรียมตัวสำหรับการเป็นทูต รับมือกลเม็ดราชสำนักแคว้นอัน โดยสัญญาว่านางจะไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองระหว่างสองแคว้น และไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของนางระหว่างการเดินทาง

แต่ตลอดการเดินทางเหรินหรูอี้ผู้แสนเยือกเย็นกลับถูกใจ ‘นิ่งหยวนโหว’ ด้วยมีคุณสมบัติเหมาะกับการเป็นพ่อของลูกในอนาคตของนางอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ความฉลาด การต่อสู้ หรือนิสัยใจคอ (เป๊ะด้วยคุณสมบัตินะ แต่ไม่ได้รัก...เอ๊ะ! ยังไง) ด้วยนางยึดมั่นในคำสั่งเสียของอดีตฮองเฮาที่นับถือว่า ‘อย่าไว้ใจผู้ชาย แต่ควรมีลูกเป็นของตัวเองสักคน’ ดังนั้นนางจึงพุ่งเป้าไปที่ ‘นิ่งหย่วนโจว’ ที่จะต้องมาเป็นแค่พ่อของลูกเท่านั้น แต่ไม่ต้องการให้เป็นสามี! (น่าน....ความคิดก้าวล้ำนำเทรนด์)

การเป็นว่าภารกิจครั้งนี้หน้าที่อาจารย์จำเป็นก็ต้องทำ งานแอ๊วผู้ก็ต้องมา! แต่การเดินทางสุดแสนจะอันตรายก็ต้องลุย เรื่องราวจะอีรุงตุงนังอะไรขนาดนี้ งานนี้จัดเต็มทั้งฉากแอ็กชั่น งานน้ำตา มุกตลกมาครบ
โดยรวมพล็อตหลักเป็นการผสมผสานการชิงอำนาจระหว่างสองแคว้น, ความขัดแย้งภายในของแต่ละแคว้น, การล้างแค้นของเหรินหรูอี้ที่เข้าไปพัวพันกับองค์กรสายลับ และความรักของพระนางที่มาจากองค์กรสายลับต่างแคว้น มีแกนสำคัญอยู่ที่ภารกิจการเดินทางคณะทูต โดยมีพระ-นาง เป็นตัวดำเนินเรื่อง

ฟังเรื่องราวอาจเน้นไปในเรื่องการเมือง แต่บอกเลยว่ามีส่วนผสมค่อนข้างครบรสทั้งแอ็กชั่น ดราม่า คอเมดี้ มิตรภาพ ความรัก การล้างแค้น พร้อมสอดแทรกความรู้สึกรักชาติ ถ่ายทอดผ่านความผูกพันระหว่างการเดินทางของเหล่าหน่วยหกวิถีที่มีต่อคณะเดินทาง เหรินหรูอี้ และองค์หญิงหยางอิ๋ง

แม้ช่วง 2-3 EP.แรก การเดินเรื่องจะชวนงงอยู่บ้าง ทำให้ผู้ชมจับทางไม่ค่อยถูกว่าตัวเรื่องจะเดินไปในทิศทางไหน เพราะทิ้งเวลาไปกับการปูแบ็คกราวน์ที่ซับซ้อนและตัวละครค่อนข้างเยอะ จนผู้ชมที่ไม่ชินกับการซีรีส์แนวนี้อาจมีเทกลางคั่น แต่ขอแนะนำให้อดทนรอผ่าน EP.3 ไป รับรองว่าติดหนึบถอนตัวไม่ขึ้นแน่นอน

ความโดดเด่นที่หลายๆ คนประหนึ่งเหมือนโดนป้ายยา อันดับแรกๆ ไม่พ้นเรื่องคาแรกเตอร์อันแสนเด็ดขาดสุขุมเยือกเย็นสง่างาม จนเรียกว่าพลิกบทบาทของหลิวซือซือ ในบท ‘เหรินหรูอี้’ ให้กลายเป็น ซือซือคนเท่ห์, ซือซือสายเปย์, ซือซือสายรุก ที่มาพร้อมลีลาฉากบู๊ตีลังกา โลดโผนโจนทะยาน ออกอาวุธชนิดไม่กระพริบตาในมาดสายลับสุดดาร์ก โดยเฉพาะฉากร่ายรำกระบี่ที่ออกแบบมาได้รวดเร็วพลิ้วไหวสวยงามแปลกตารับกับมุมกล้อง ในสไตล์ที่ไม่เคยเห็นในซีรีส์เรื่องไหนมาก่อน ถือว่าคุ้มเหนื่อยกับที่เธอทุ่มฝึกซ้อมคลาสพิเศษมาเพื่อซีรีส์เรื่องนี้โดยเฉพาะ นับเป็นการคัมแบ็คกลับมาอย่างสวยงามของหลิวซือซือเลยทีเดียว

แม่มาเอง...นี่แค่เบาๆ ในมาดนักฆ่าของหลิวซือซือ ในเรื่องยังมีอีกเพียบ



นี่ยังไม่นับรวมเหล่าชาวแก๊งหน่วยหกวิถีที่แต่ละคนมีฉากปล่อยของเป็นของตัวเอง ฉากเท่ห์อีกนับไม่ถ้วน บู๊แหลกแหกกระจาย ลงตัวไปกับเทคนิคสเปเชียลเอฟเฟคที่สมจริงเหมือนดูหนังซูเปอร์ฮีโร่ผสมโรงกับหนังสายลับที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทคยุคใหม่ก็ไม่ปาน ขณะเดียวกันเหล่าหน่วยหกวิถีก็ยังเป็นตัวตึงสายฮา สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ชมไปกับมิตรภาพสุดกวนที่ตบมุกกันไปแบบโบ๊ะบ๊ะ แถมยังทำหน้าที่เป็นมือเซาะมือชงให้คู่พระนาง จนออกนอกหน้าแทนคนดูไปอีก นี่จึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้หนักจนเกินไป แต่มีพาร์ทอารมณ์ขันให้ได้ฮาสอดแทรกกันไปทุก EP.

โดยเฉพาะบทของ ‘ฟางอี้หลุน’ ที่ครั้งนี้เขาพลิกลุคมารับบทสายฮาอย่างที่ไม่เคยเล่นในเรื่องไหนมาก่อน กับบทบาทของ ‘อวี๋สือซาน’ มือขวาของนิ่งหย่วนโจว องครักษ์หนุ่มจอมเจ้าชู้ผู้หลงในความหล่อของตัวเอง ที่ปรากฏตัวทีไรเป็นต้องมาขายขำทุกครั้งไป

ตัวตึงขายขำต้องยกให้ ‘ฟางอี้หลุน’



นอกจากฉากแอ็กชั่นสนุกถึงใจกระชับฉับไวแล้ว ในพาร์ทความรักของคู่พระนางก็ทำเอาคนดูทั้งฟินทั้งฮาไปตลอดทั้งเรื่อง เพราะอย่างที่ปูเรื่องกันมาทั้งคู่ต่างเป็นสายลับของแคว้นคู่อริกัน แน่นอนว่าตามสูตรช่วงแรกต้องมีไม่ลงรอยกัน แต่การเล่าเรื่องในช่วงนี้ตัวซีรีส์ขมวดปมนี้ไปรวดเร็วมาก ก้าวข้ามสูตรสำเร็จการเล่าเรื่องซีรีส์แบบเดิมๆ ไปเลย แต่ไปโฟกัสกับการทำลายกำแพงจิตใจของเหรินหรูอี้เป็นหลัก

เพราะแม้นิ่งหย่วนโจวและเหรินหรูอี้จะเป็นสายลับเหมือนกัน มีความฉลาดปราดเปรื่อง เก่งกาจการวางแผน ชนิดอ่านใจอีกฝ่ายทันกันไปหมด แต่กลับมีนิสัยต่างกัน ในขณะที่เหรินหรูอี้เติบโตมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่ไว้วางใจใคร รู้จักแต่ภารกิจ เจนจัดเรื่องชายหญิง แต่กลับไม่เข้าใจความรัก ต่างจากนิ่งหย่วนโจว ผู้เห็นมิตรภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ให้เกียรติผู้หญิง จุดเด่นตรงนี้ของเขาจึงเสมือนมาละลายจิตใจอันแข็งกร้าวของเหรินหรูอี้

ความแตกต่างตรงนี้ทำให้ในช่วงแรกๆ ผู้ชมจะได้เห็นความฮาของนางเอกที่จะรุกเข้าหาพระเอกของเราหนักมาก หมายใจว่าจะเอามาเป็นพ่อของลูกให้ได้โดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม และพระเอกของเราก็แอบหัวโบราณไม่ยอมท่าเดียว จะมีลูกกับคนที่รักเท่านั้น แต่ท้ายสุดด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ บวกกับการสอนให้นางเอกรู้จักคำว่ามิตรภาพ คอยเป็นสายซับพอร์ตให้กันและกันจนเกินคำว่าหน้าที่ไปไกลมาก เกิดเป็นการเรียนรู้นิสัยของกันและกัน ทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ ผูกพันจนเกิดเป็นความรัก

สำหรับใครเป็นสายใจร้อน เรื่องนี้ตอบโจทย์ฝุดๆ เพราะพระนางรักกันเร็วมาก เคมีดีงามเว่อร์ๆ แถมพระเอกของเราก็ขี้หึงเบอร์แรง...แบบไม่รู้ตัวเสียด้วย

นางเอกสายรุกอันดับหนึ่งของยุทธภพ ต้องยกให้ ‘เหรินหรูอี้’



พอใจตรงกัน...หวานแค่ไหนไปดูกันเอง



เท่านั้นไม่พออีกหนึ่งตัวละครที่ผู้ชมหลงรักและทำเอาช็อตฟีลไปในตอนจบของเรื่อง คือ องค์หญิงหยางอิ๋ง (รับบทโดย เหอหลานโต้) ผู้ปลอมตัวมาเป็นองค์ชาย เพื่อทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะทูตเจรจาแลกตัวประกัน ช่วงต้นเรื่องนางเป็นเพียงองค์หญิงน้อยผู้อาภัพ ที่ผู้ชมจะเอ็นดูนางในบุคลิกแสนน่ารักดุ๊กดิ๊ก แต่องค์หญิงหยางอิ๋งถือเป็นตัวละครที่มีพัฒนาการมากที่สุดของเรื่อง จากการสั่งสอนของเหรินหรูอี้และนิ่งหย่วนโจว รวมถึงสถานการณ์สุดบีบคั้น ทำให้นางแปรเปลี่ยนจากนกขมิ้นในกรงทองกลายเป็นนกเหยี่ยวในที่สุด

จากการค่อยๆ เริ่มรู้ความจริงที่ว่าพี่ชาย (ตันหยางอ๋อง) และพี่สะใภ้ (เซียวเหยียนฮองเฮา) ผู้ที่นางแสนจะเคารพ กลับใช้นางเป็นเบี้ยทางการเมืองเพื่อเป็นบันไดให้ตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ในแคว้นอู๋ แถมภายหลังยังมาเห็นธาตุแท้ของชายที่ตัวเองรักแท้จริงไม่เคยจริงใจกับนางเลย หลังจากจิตใจแตกสลาย ในที่สุดองค์หญิงน้อยก็ตาสว่างและปลงได้ว่า หากนางต้องการรอด สิ่งที่เดียวที่พึ่งได้คือ ตัวเองและหน่วยหกวิถีที่ติดตามนางมา ซึ่งเหอหลานโต้ นักแสดงที่มารับบทนี้ สามารถตีบทนี้ได้แตกกระจุย ได้ฟีลทั้งน่ารักน่าเอ็นดูและน่าประทับใจไปเต็มๆ

องค์หญิงหยางอิ๋ง ตัวละครที่มีการเติบโตมากที่สุดในเรื่อง ที่เชื่อว่าผู้ชมต้องหลงรักและช็อตฟีลไปในตอนท้ายของเรื่อง



นอกจากคาแรกเตอร์ตัวละครที่มีมิติแทบทุกตัวและการผูกเรื่องให้ชวนติดตามแล้ว ตัวซีรีส์ยังระดมนักแสดงรับเชิญระดับตัวแม่ที่คอซีรีส์จีนคุ้นหน้าคุ้นตาดีมาเป็นแขกรับเชิญคับจอ ประมาณว่ามาไม่กี่ฉากแต่จำไม่รู้ลืม อาทิ เฉินตู้หลิง จากจันทราอัสดง (Till The End of The Moon - 2023) รับบท เซียวเหยียน ฮองเฮาแคว้นอู๋, เฉินเสี่ยวอวิ๋น จากไข่มุกเคียงบัลลังก์ (Novoland Pearl Eclipse - 2021) รับบท ซูกุ้ยเฟยแคว้นอัน, หวงเมิ่งอิ๋ง จากสามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ (Eternal Love – 2017) รับบท จินเหม่ยเหนียง, จางจื่อซี จากจันทราอัสดง (Till The End of The Moon -2023) รับบท เจียหลิง ทูตขวาหน่วยองครักษ์ชุดแดง เป็นต้น นี่แค่ยกตัวอย่าง ตัวซีรีส์ยังมีอีกเพียบ

สปอยล์มาถึงตรงนี้ บอกเลยว่าถ้าไม่ดู ถือว่าพลาดมาก ไปติดตามกันยาวๆ แบบนันสต๊อป ทั้งบรรยายไทย-พากย์ไทย จำนวน 40 ตอนจบ ทาง iQIYI

ร้อยเรียงเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงเรื่องและภาพ : mydramalist.com/

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์

หลิวอวี่หนิง รับบท นิ่งหย่วนโจว

หลิวซือซือ รับบท เหรินหรูอี้

ฟางอี้หลุน รับบทอวี๋สือซาน มือขวาของนิ่งหย่วนโจว องครักษ์หนุ่มจอมเจ้าชู้ ที่มาขายขำทุกครั้งที่ปรากฏตัว

หวงเมิ่งอิ๋ง รับบท จินเหม่ยเหนียง

จางหัวเสิ่น รับบท หลี่ถงกวง อดีตศิษย์ของเหรินหรูอี้

เหอหลานโต้ รับบท องค์หญิงหยางอิ๋ง

เฉินเสี่ยวอวิ๋น รับบท ซูกุ้ยเฟยแคว้นอัน

เฉินตู้หลิง รับบท เซียวเหยียน ฮองเฮาแคว้นอู๋

จางจื่อซี รับบท เจียหลิง

เฉินเฮ่าอวี่ รับบท ฉู่เยว่ คู่หมั้นจอมแสบของหลี่ถงกวง

ทีมหน่วยหกวิถี หล่อเท่ราวกับวงบอยแบนด์




















































กำลังโหลดความคิดเห็น