ไม่บ่อยนักที่จะมีซีรีส์จีนแนวไซไฟสืบสวนออกมาให้ได้ชมกัน สำหรับซีรีส์จีนเรื่องล่าสุดของ iQIYI เรื่อง ไขคดีปริศนามนุษย์ไบโอนิค (The Bionic Life - 2023) ซีรีส์ที่ได้รับการขนานนามจากแฟนๆ ทั่วทั้งโลกว่าเป็นที่สุดของซีรีส์สืบสวนสอบสวนไซไฟแห่งปีที่แฟนๆ ห้ามพลาด
สำหรับเรื่องนี้ได้นักแสดงวัยรุ่นสุดฮอตที่ครองใจแฟนซีรีส์ชาวไทยท่วมท้นอย่าง ‘ซ่งเวยหลง’ พระเอกหนุ่มหน้ามนเจ้าของผลงานถักทอรักที่ปลายฝัน (Go Ahead - 2020), บัณฑิตหน้าหวาน อลหม่านหัวใจ (In a Class of Her Own - 2020) มารับบทนำ ประกบ ‘เหวินฉี’ นางเอกเจ้าบทบาทที่ได้ฝากซีรีส์ชื่อดังอย่าง ปรารถนาแห่งความตาย (Wisher - 2021), เส้นทางชีวิต ลิขิตฝัน (My Treasure -2021) ร่วมด้วยทัพนักแสดงสมทบที่คุ้นหน้าคุ้นตา ไม่ว่าจะเป็น หลี่หงฉี, จู่เฟิง , หลู่ยวี่หลาย และเถาฮุ่ย มาช่วยเติมซีรีส์ความสนุกสนานยิ่งขึ้น
ไขคดีปริศนามนุษย์ไบโอนิค (The Bionic Life - 2023) ว่าด้วยโลกอนาคตอันใกล้สามารถพัฒนาเทคโนโลยีปรับแต่งยีน มนุษย์ได้คิดค้นสิ่งมีชีวิตทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า “มนุษย์ไบโอนิค” ที่มีโครงสร้างภายนอกเหมือนมนุษย์โดยสมบูรณ์แบบ แตกต่างกันที่เซลล์ประสาทในสมองถูกกำหนดทิศทางเอาไว้ให้มีจุดมุ่งหมายเพียงหนึ่งเดียว เช่น เป็นคู่ครองที่รักเดียวใจเดียว, เป็นเด็กที่กตัญญูรู้คุณ, พนักงานที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้านาย โดยมนุษย์ไบโอนิคถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสินค้า
แต่เนื่องจากมนุษย์เริ่มหลงใหลความรู้สึกจอมปลอมที่มนุษย์ไบโอนิคมอบให้มากเกินไป ประกอบกับมนุษย์ไบโอนิคเริ่มมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเอง ทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย รัฐบาลจึงสั่งห้ามผลิตและสั่งเก็บมนุษย์ไบโอนิค แม้จะมีการสั่งห้ามมนุษย์ไบโอนิคมานานกว่า 5 ปีแล้ว แต่ก็ยังมีการแอบใช้มนุษย์ไบโอนิคอยู่ในสังคม ทำให้รัฐต้องก่อตั้งหน่วยงานเพื่อมาปราบปราม
ในเมืองซีหนานได้มีการก่อตั้งศูนย์วิจัยหมิงโหมวเพื่อค้นหาและระบุตัวตนมนุษย์ไบโอนิค โดยมี ‘เฉิงนั่ว’ (ซ่งเวยหลง) สายสืบสุดขวางโลกมือดี ผู้ทำงานในหน่วยงานแห่งนี้ เขาไม่เพียงหมกมุ่นอยู่กับการสืบคดีแยกแยกแยะมนุษย์ไบโอนิคออกจากมนุษย์จริง แต่เขาค่อนข้างจะมีอคติกับมนุษย์ไบโอนิค และเพราะมุ่งแต่จะจับมนุษย์ไบโอนิคจนทำให้คู่หูของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้เขาต้องมาร่วมมือกับนักจิตวิทยาสาว ‘อันชิว’ (เหวินฉี) ผู้เข้าอกเข้าใจจิตใจคน และมีความเชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเป็นเลิศ ซึ่งด้วยทักษะในการเข้าถึงจิตใจผู้คนและเห็นอกเห็นใจผู้อื่น อันชิวทำให้เฉิงนั่วมองเห็นจิตใจอีกด้านของมนุษย์ไบโอนิค จนเฉิงนั่วเริ่มมีมุมมองในการมองมนุษย์ไบโอนิคเปลี่ยนไป
ขณะเดียวกันระหว่างการสืบคดีต่างต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคและความเป็นความตายหลายครั้ง แต่ทั้งสองจึงร่วมมือกันเพื่อไขปริศนาของโลกมนุษย์ไบโอนิค ก่อให้เกิดการตั้งคำถามขึ้นมากมายว่าแท้จริงแล้วปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้น เพราะ “มนุษย์” หรือ “มนุษย์ไบโอนิค” กันแน่?
ถือได้ว่าเป็นพล็อตเรื่องที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับซีรีส์จีน โทนเรื่องเป็นการผสมผสานความเป็นซีรีส์แนวไซไฟมารวมกับซีรีส์แนวสืบสวนสอบสวน โดยมี 2 ตัวละครหลักมาเป็นแกนหลักในการดำเนินไขคดีไปเรื่อยๆ จบคดีเป็นตอนๆ แต่ละตอนก็ชวนให้เกิดการตั้งข้อสังเกตทางศีลธรรม เพราะถึงแม้ว่าตัวซีรีส์จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็ทำให้ผู้ชมอนุมานได้ว่า “มนุษย์ไบโอนิค” ก็ไม่ต่างจาก “มนุษย์โคลนนิ่ง” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อมาสนองวัตถุประสงค์และความต้องการของมนุษย์ แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่งเมื่อการดำรงอยู่ของพวกเขานำมาซึ่งความไม่สงบสุขของสังคม ก็จะกำจัดทิ้งไม่ต่างจากสิ่งของ สุดท้ายแล้วจะมองพวกเขาเป็น “มนุษย์” อยู่หรือเปล่า? สังคมมนุษย์เลือกที่จะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างไร?
อย่างตอนแรกของตัวซีรีส์เป็นเรื่องราวของแม่คนหนึ่งที่เข้มงวดกับลูกมาก แต่ยุ่งกับงานจนไม่มีเวลาให้ลูก จึงเลือกที่จะใช้มนุษย์ไบโอนิคที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเองทุกอย่างมาดูแลลูกของตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่ามนุษย์ไบโอนิคดูแลลูกของตัวเองดีมาก ดียิ่งกว่าแม่แท้ๆ และมองว่าแม่แท้ๆ เป็นภัยคุกคามกับลูก เพราะใช้กำลัง ถ้อยคำรุนแรงบังคับขู่เข็ญ ทำร้ายจิตใจลูก มนุษย์ไบโอนิคจึงลงมือขังแม่แท้ๆ ไว้ในห้องใต้ดิน โดยไม่ยอมฆ่า เพราะมนุษย์ไบโอนิคไม่มีจิตชั่วร้าย ส่วนตัวเองก็สวมรอยเป็นแม่จริงๆ และดูลูกเป็นอย่างดี
ความมาโป๊ะแตกจนกลายเป็นคดีให้พระเอกของเรื่องตามได้ เพราะวันหนึ่งแม่แท้ๆ หลุดออกมาจากที่คุมขังใต้ดินและมาทำร้ายแม่ (ปลอม) จนตัวเองตกลงไปกองไฟสภาพศพระบุตัวไม่ได้
เรื่องราวสะเทือนใจหนักไปอีก เมื่อตัวเฉิงนั่วและอันชิวยิ่งสืบลึกลงไปและพบว่าตัวลูกของผู้เคราะห์ร้าย แท้จริงสังหรณ์ใจมาโดยตลอดว่าแม่ที่อยู่ดูแลเขา ไม่ใช่แม่แท้ และรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นมนุษย์ไบโอนิค แต่กลับปกป้องแม่มนุษย์ไบโอนิค เพราะเขาไม่อยากสูญเสียแม่ไปอีกเป็นครั้งที่ 2
นี่แค่เนื้อเรื่องใน EP.1 ยังเข้มข้นขนาดนี้ ยังมีให้ไปต่ออีก 12 ตอน โดยรวมเนื้อเรื่องถือว่าทำออกมาได้ดูสนุก แยบยล น่าติดตาม อาจจะไม่ชั้นเท่ากับฮอลลีวู้ด แต่ก็ถือว่าเป็นอีกรสชาติใหม่ของซีรีส์จีน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะด้วยโปรดักชั่นที่ไม่ได้เวอ่ร์วังอลังการ ให้ดูเป็นโลกอนาคตมากเกินไปนัก ภาพรวมยังคงเหมือนกันโลกปัจจุบัน เพียงแต่ให้โทนสีดูดาร์ก ลึกลับ และมีกลิ่นทริลเลอร์เล็กๆ หลายฉากให้ความรู้สึกอึดอัดอยู่ไม่น้อย บีบอารมณ์อยู่ไม่น้อย แต่ก็เข้ากันดีกับเนื้อเรื่องที่ซ่อนปริศนาให้ชวนไขไปทั้งเรื่อง
อีกเรื่องที่ดูแปลกตาไปจากทุกเรื่อง คือ บทบาทของ 2 นักแสดงวัยรุ่นอย่าง ‘ซ่งเวยหลง’ และ ‘เหวินฉี’ ซึ่งถือว่าทั้งสองได้รับบทบาทที่โตกว่าที่เคยจากเรื่องก่อนๆ โดยบทบาท ‘เฉิงนั่ว’ ของซ่งเวยหลง มาในลุคสุดเซอร์ ไม่เพียงแต่จะต้องแสดงเป็นนักสืบผู้หมกมุ่นเท่านั้น แต่ต้องเป็นคนอารมณ์รุนแรง จนออกแนวไม่มีเหตุผลในด้วยซ้ำ เพราะแท้จริงแล้วมีปมบางอย่างซ่อนอยู่ในใจ
ส่วนบท ‘อันชิว’ ของเหวินฉี ด้วยเธอเป็นจิตแพทย์ก็เป็นบทที่มีความท้าทายอยู่แล้ว แต่เธอยังต้องแสดงเป็นคนที่ดูอ่อนนอกแข็งใจ แถมมีฉากบู๊เล็กๆ ให้ได้ท้าทายความสามารถอีกด้วย
ส่วนเรื่องเคมีความมุ้งมิ้งก็มีให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ไม่น่าจะโดนใจสายตะมุตะมิเท่านั้น เพราะโทนเรื่องปูมาในแนวซีรีส์สายดราม่า มีความซีเรียสอยู่พอสมควร แถมแกนหลักของเรื่องก็เน้นไปในแนวสืบคดีเสียมากกว่า โดยทั้งคู่จะเริ่มต้นจากการเป็นคู่หูที่ไม่ถูกกัน เพราะแนวคิดการทำงานไม่ตรงกัน ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความเข้าใจ แต่ถึงซีรีส์จะไม่ได้เน้นเรื่องราวของพระนาง แต่ก็การันตีความลุ้นระลึกที่เชื่อว่าจะถูกใจแนวสืบสวนไซไฟ
ไปติดตามกันได้ทาง iQIYI Thailand ตอนนี้ฉายจบกันไปแล้ว จำนวน 12 ตอนจบ
ร้อยเรียงเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
mydramalist.com/
https://www.iq.com
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์