xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “Moving” ถึงเวลาซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของเกาหลี อวดพลังพิเศษที่โลกต้องรู้!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




ต้องบอกว่า วงการบันเทิงเกาหลีจะสร้างหนังหรือซีรีส์แนวไหนก็น่าสนใจไม่น้อย ล่าสุดถึงคิวของ Moving ซีรีส์แนวซูเปอร์ฮีโร่เรื่องแรกของเกาหลีที่จะอวดพลังพิเศษให้โลกรู้ แล้วยังคงสไตล์การเล่าเรื่องแบบเกาหลีที่ไม่ได้มีดีแค่สาดพลังใส่กันจนว้าวุ่น แต่ซีรีส์ผสมผสานเรื่องราวดราม่า-ทริลเลอร์-โรแมนติก สอดแทรกมิตรภาพ ความรักของครอบครัว และการต่อสู้กันด้วยพลังแบบ extraordinary ชนิดที่ดูสนุกและเนื้อเรื่องน่าติดตามทุกตอน พร้อมทีมนักแสดงมากฝีมือรุ่นเล็ก-รุ่นใหญ่ที่ทำให้ Moving เป็นซีรีส์ที่มาแรงใน Disney+ Hotstar นาทีนี้!

ซูเปอร์ฮีโร่วัยทีน : ชีวิตมัธยมปลายที่ยังวุ่นวายกับการใช้พลัง

Moving ดัดแปลงมาจากเว็บตูนชื่อเดียวกันของคังฟูล ว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ที่เกิดมาพร้อมพลังพิเศษ และใช้วิธีเล่าเรื่องแบบตัดสลับไปมา ระหว่างชีวิตใส ๆ วัยมัธยมปลายกับการตามล่าเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ปลดระวาง โดยฝั่งซูเปอร์ฮีโร่วัยทีนนำโดย ‘คิมบงซอก’ (รับบทโดย อีจองฮา) เด็กหนุ่มที่เกิดมาพร้อมพลังพิเศษที่ทำให้เขาสามารถบินได้ แต่ก็ยังวุ่นวายกับการควบคุมพลังที่แปรฝันตามความรู้สึกที่ว้าวุ่น เพราะเมื่อเขารู้สึกตื่นเต้น ดีใจ มีความสุข หรือเจอสาวที่ชอบก็จะออกอาการตัวลอยจนต้องหาของหนัก ๆ และรองเท้ารุ่นพิเศษถ่วงร่างกายเอาไว้

ส่วนสาวสวยที่ทำให้บงซอกว้าวุ่นทุกครั้งที่พบหน้าคือ ‘จางฮีซู’ (รับบทโดย โกยุนจอง นางเอก Alchemy of Souls ซีซั่น 2) ที่มาพร้อมพลังพิเศษในการฮีลร่างกายตัวเองได้รวดเร็ว ฮีซูย้ายโรงเรียนหนีดราม่าและมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโรงเรียนเดียวกัน เธอมุ่งมั่นกับการเป็นนักกีฬาโดยมีบงซอกคอยสนับสนุนอยู่ใกล้ ๆ และดูเหมือนทั้งสองจะใจตรงกันเสียด้วย ส่วนอีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่วัยทีนอย่าง ‘อีคังฮุน’ (รับบทโดย คิมโดฮุน) หัวหน้าห้องที่เพียบพร้อมทั้งความหล่อและความสามารถ คังฮุนก็แอบปลื้มฮีซูเหมือนกันและเขาก็แอบหึงหวงเธอกับบงซอกอยู่เงียบ ๆ

เรื่องราวในส่วนของซูเปอร์ฮีโร่วัยทีนจะเน้นไปที่การรับรู้พลังพิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด และเป็นพลังที่ถ่ายทอดจากครอบครัว พวกเขาเติบโตมาแบบโดดเดี่ยวและรู้สึกไม่เป็นส่วนหนึ่งของเพื่อน ๆ ทำให้ทั้งสามต่างก็มีพื้นที่ส่วนตัวและเลือกที่จะปิดบังพลังพิเศษเอาไว้ เพราะไม่อยากให้ใครมองเป็นตัวประหลาด พลังจึงไม่ได้รับการฝึกฝนให้แม่นยำและควบคุมพลังไม่ได้ นอกจากคังฮุนที่แข็งแกร่ง ฉลาด และสามารถใช้พลังเพื่อปกป้องผู้อื่นได้

ซูเปอร์ฮีโร่รุ่นใหญ่ : สู้หนีตายเอาตัวรอดจากนักล่าผู้มีพลังพิเศษ

มาถึงเส้นเรื่องคู่ขนานที่เน้นแอ็กชั่น ทริลเลอร์ และดราม่าได้เข้มข้นสุด ๆ ต้องยกให้ซูเปอร์ฮีโร่รุ่นใหญ่ที่เป็นพ่อแม่ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่วัยทีน หลังรีไทร์ตัวเองจากการเข้าร่วมสายลับให้กับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลี แต่ทันทีที่พวกเขามีลูกต่างก็ตัดสินใจลาออกจากราชการ เพื่อมาใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางคนธรรมดาและทุ่มเทเวลาให้กับครอบครัว รวมถึงแอบซ่อนลูก ๆ ที่มีพลังพิเศษไว้ไม่ให้โลกรับรู้

‘อีมีฮยอน’ (รับบทโดย ฮันฮโยจู) แม่ของคิมบงซอกมีประสาทสัมผัสทั้ง 5 เหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป ส่วนพ่อของเขา ‘คิมดูชิก’ (รับบทโดย โจอินซอง) ที่ถ่ายทอดพลังการบินก็หายตัวปริศนา โดยอีมีฮยอนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เปิดร้านทงคัตสึหาเลี้ยงลูกชายอย่างดีมาโดยตลอด

ขณะที่ ‘จางจูวอน’ (รับบทโดย รยูซึงรยง) พ่อของจางฮีซูก็เป็นผู้มีพลังพิเศษในการฟื้นฟูตัวเองได้และไม่มีต่อมรับรู้ความเจ็บปวดใด ๆ เหมือนลูกสาวคนสวย ในอดีตเขาเป็นเพื่อนร่วมงานของอีมีฮยอนและคิมดูชิก ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าไก่ทอด เช่นเดียวกับ ‘อีแจมัน’ (รับบทโดย คิมซังคยุน) พ่อของคังฮุนที่มาพร้อมความว่องไวและพละกำลังมหาศาล ก่อนจะลาออกจากหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติมาเปิดร้านสะดวกซื้อกับภรรยา

อีกหนึ่งซูเปอร์ฮีโร่รุ่นใหญ่ที่น่าสนใจคือ ‘จอนกเยโด’ (รับบทโดย ชาแทฮยอน) ลูกชายของอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลี ที่มีพลังปล่อยกระแสไฟฟ้าและอ่านความทรงจำจากแบตเตอรี่ได้เช่นเดียวกับพ่อ จอนกเยโดเป็นพนักงานขับรถเมล์ที่ไม่ได้รับการฝึกฝนพลังให้เก่งกาจ และเขาก็ตามล่ามือสังหารเพื่อล้างแค้นให้พ่อ ที่ถูกสังหารโดย ‘แฟรงค์’ (รับบทโดย รยูซึงบอม) เอเจนต์ชาวเกาหลีที่ทำงานให้กับ CIA เขาได้รับคำสั่งให้ตามล่าสังหารซูเปอร์ฮีโร่เกษียณราชการของเกาหลี และเขาก็มีพลังพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนจากอเมริกา

ในส่วนของซูเปอร์ฮีโร่รุ่นใหญ่ต้องบอกว่า การต่อสู้เร้าใจและตื่นเต้นอย่างมาก เปิดฉากมาด้วยการตามเก็บอดีตซูเปอร์ฮีโร่ของเกาหลีทีละคน ๆ จนดูเหมือนทุกคนจะแพ้พลังของแฟรงค์กันหมด ส่วนพ่อแม่ของซูเปอร์ฮีโร่วัยทีนก็ฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา สามารถต่อกรกับแฟรงค์ได้อย่างสูสีและได้รับการฝึกฝนจากหน่วยความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีมาเช่นกัน แม้ศึกซูเปอร์ฮีโร่รุ่นใหญ่จะไม่ได้มีพลังล้ำ ๆ เหมือนฮีโร่ฝั่งตะวันตก แต่ก็สนุกและทำออกมาได้ดี มีความดราม่าผสมผสานทำให้ตัวละครดูมีมิติและความเป็นมนุษย์มากขึ้น

ทุ่มทุนสร้างกว่าพันล้านบาท สนุกขึ้นหิ้งซีรีส์เกาหลีที่มียอดชมสูงสุดใน Disney+

หลายคนที่เห็นตัวอย่างซีรีส์ก็แทบจะอดใจรอไม่ไหว ด้วยวลีโดน ๆ อย่าง “ฮีโร่ หรือสัตว์ประหลาด ฉันจะกำหนดชีวิตของตัวเอง” ผลงานของผู้กำกับ ‘พัค อิน แจ’ (Park In-jae) ที่เคยฝากผลงานจากซีรีส์ซอมบี้ยอดนิยมของเกาหลีอย่าง ‘Kingdom ซีซั่น 2’ มาแล้ว แม้จะมีข่าวลือว่า พัค อิน แจ ใช้ทุนสร้างกว่า 65,000 ล้านวอน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,700 ล้านบาท) ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้ใช้ทุนสร้างแรงขนาดนั้น แต่ตัวเลขก็ใกล้เคียงเพราะต้องใช้สตูดิโอผลิต Visual Effect ถึงกว่า 60 แห่งใน 9 ประเทศ เพื่อให้ CG ออกมาสมจริงมากที่สุด

ยังไม่นับรวมค่าตัวของทีมนักแสดงระดับแม่เหล็ก ที่เคยฝากผลงานจากซีรีส์เรื่องดังมาแล้วหลายคน จึงทำให้ Moving เป็นซีรีส์ที่โดนใจคอหนังซูเปอร์ฮีโร่และสาวกซีรีส์เกาหลีทั่วโลก ถึงขนาดที่ Disney+ Hotstar ออกมาประกาศความสำเร็จของซีรีส์ Original Korea ที่มียอดรับชมสูงสุดทั่วโลกและบนแพลตฟอร์ม Hulu สหรัฐอเมริกา อ้างอิงจากจำนวนชั่วโมงสตรีมมิ่งหลังออนแอร์ได้ 7 วัน

ใครที่ยังไม่ได้ดู Moving ตามไปสตรีมมิ่งกันได้แบบถูกลิขสิทธิ์ทาง Disney+ Hotstar

ร้อยเรียงเรื่องราว : รัสรินทร์
เครดิตภาพ :
https://www.hancinema.net/
https://mydramalist.com/

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์


































กำลังโหลดความคิดเห็น