xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “Tale of the Nine Tailed 1938” ภาคต่อ “เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง” สนุกและฮากว่าซีซั่นแรก!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังความสำเร็จชุดใหญ่ของ Tale of the Nine Tailed (2020) ซีซั่นแรก ที่ทำเอาแฟนคลับลุ้นกันแทบขาดใจว่าจะได้ไปต่อในซีซั่นสองหรือไม่? ในที่สุดเทพบุตรจิ้งจอกเก้าหางก็กลับมาสร้างสีสันให้วงการ K-Series ร้อนแรงอีกครั้งใน “Tale of the Nine Tailed 1938 I เทพบุตรจิ้งจอกเก้าหาง 1938” ที่มาแรงแซงสถิติของซีซั่นแรกเป็นที่เรียบร้อย แล้วยังครบเครื่องทั้งเรื่องราวโรแมนติก คอเมดี้ แฟนตาซี ลี้ลับ และประวัติศาสตร์

ใครไม่เคยดูซีซั่นแรกก็ไปต่อกับซีซั่นสองได้เช่นกัน เพราะเส้นเรื่องได้เปลี่ยนจากเทพบุตรจิ้งจอกผู้ตามหารักแท้ สู่การต่อสู้เพื่อมิตรภาพระหว่างพี่น้อง ผองเพื่อน และกอบกู้ประเทศชาติ ผ่านการย้อนเวลากลับไปในยุคที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิญี่ปุ่น เรื่องวุ่นๆ ระหว่างการต่อสู้ของเหล่าปีศาจทั้งสองแผ่นดินจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับกองทัพเทพเจ้าและภูติผีในตำนานพื้นบ้านที่ยกโขยงมาสร้างความปั่นป่วนทั่วทั้งคยองซอง บอกเลยซีซั่นสองสนุกกว่า ลึกลับกว่า ฮากว่า และฟินจิกหมอนยิ่งกว่าซีซั่นแรกเสียอีก!

เมื่อ ‘กูมีโฮ’ เดินทางข้ามเวลาไปตามหาของวิเศษในปี 1938

Tale of the Nine Tailed (2020) ซีซั่นแรกว่าด้วยเรื่องราวของ ‘อียอน’ หรือ ‘กูมีโฮ’ (รับบทโดย อีดงอุค) จิ้งจอกเก้าหางที่ยอมละทิ้งตำแหน่ง “เทพแห่งขุนเขา” เพื่อตามหาคู่แท้ด้วยเพราะจิ้งจอกนั้นมั่นคงในรัก ยึดมั่นในอุดมการณ์ “บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องเอาคืน” ทั้งยังต้องต่อสู้กับปีศาจงู ‘อีมูกี’ กว่าจะได้พบรักและครองคู่กับ ‘อาอึม’ หรือ ‘นัมจีอา’ (รับบทโดย โจโบอา) อดีตคู่รักที่ตามหามาหลายภพชาติ และจบลงด้วยการสูญเสีย ‘อีรัง’ (รับบทโดย คิมบอม) น้องชายตัวร้ายที่ตอนท้ายกลับยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องพี่ชายของตัวเอง

ส่วนเรื่องราวในซีซั่นสอง “Tale of the Nine Tailed 1938” (2023) ได้ยกระดับความเข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น ว่าด้วยชีวิตหลังแต่งงานของอียอนที่เริ่มต้นแค่ไม่กี่นาที โลกสีชมพูก็แปรเปลี่ยนเป็นความวุ่นวายทันใด เมื่ออียอนได้รับคำสั่งด่วนที่สุดให้ไปตามหา “ศิลาพิทักษ์” หินกั้นเขตแดนระหว่างมนุษย์และภูติผีปีศาจ ที่ถูกช่วงชิงโดยชายลึลับในหน้ากากขาว-แดง ทำให้เขาต้องเดินทางผ่านประตูกาลเวลาไปยังปีค.ศ. 1938 ช่วงเวลาที่เกาหลีอยู่ภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น

ทันทีที่อียอนย้อนเวลากลับไปในคยองซอง (ชื่อเดิมของกรุงโซล) เขาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดุเดือดจากกองทัพญี่ปุ่น รวมถึง ‘อีรัง’ น้องชายที่กลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์โจรปล้นชิงทรัพย์ ที่ยังคงแค้นฝังหุ่นในพี่ชาย ตรงกันข้ามกับอียอนที่ออกอาการดีใจสุดแรงเกิด เมื่อพบว่าอีรังยังมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลานั้น และครั้งนี้เขาจะไม่ยอมสูญเสียน้องชายอีกต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องจึงได้รับการฟื้นฟูจนกลายเป็นความผูกพันในตระกูลจิ้งจอกเก้าหางอีกครั้ง โดยอียอนได้พิสูจน์ตัวเองจนอีรังค่อยๆ เปิดใจและหันมาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับอียอน

3 หัวใจแห่งขุนเขา เหล่าภูติผี ศิลาพิทักษ์ และรักแรกของอีรัง

Tale of the Nine Tailed 1938 เป็นซีรีส์ที่ครบทุกความแฟนตาซี ทั้งปีศาจในตำนานพื้นเมืองของเกาหลี ภูติผี เทพเจ้า ยมฑูต และของวิเศษต่างๆ จนถึงการกอบกู้ชาติจากการปกครองของญี่ปุ่นในยุคคยองซอง นอกจากนี้ฝั่งญี่ปุ่นเองก็มีปีศาจในร่างมนุษย์เป็นคู่ปรับตัวร้ายหรือแม้แต่ Last Boss ในซีซั่นนี้อีกด้วย

หลังจากซีซั่นแรกว่าด้วยเรื่องราวความรักโรแมนติกของอียอน ปล่อยให้อีรังตายแบบเหงาๆ โดยไม่ได้รู้จักกับความรัก ซีซั่น 2 อีรังก็พบรักกับสาวลูกครึ่งนางเงือก ที่กลางวันเป็นพนักงานในร้านตัดเสื้อ ส่วนกลางคืนเป็นนักร้องเสียงสวยในไนท์คลับชื่อดัง สาวน้อยช่างฝันที่มีพลังเสียงโซเปร่าทำลายล้างขั้นสูง เธอผู้ตกหลุมอีรังตั้งแต่แรกพบและช่วยชีวิตอีรังอยู่หลายครั้ง ความรักของคู่นี้มีความน่ารักมุ้งมิ้งให้กรี๊ดเบาๆ

นอกจากนี้ เราจะได้เห็นอีรังจอมแสบในซีซั่นแรก กลายเป็นหนุ่มมาดแมนที่คอยปกป้องทั้งพี่ชายและคนรักในซีซั่น 2

ส่วนอียอนหลังพลาดจากการข้ามประตูกาลเวลากลับไปให้ทันนัดกับนัมจีอา เขาจึงต้องรอเวลาอีก 29 วันกว่าจะได้กลับสู่โลกยุคปัจจุบัน โดยมี ‘กูชินจู’ (รับบทโดย หวังฮี) ทาสผู้ซื่อสัตย์ที่เดินทางมาจากอนาคตคอยช่วยเหลือและทำภารกิจลับจนกว่าจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ พวกเขายังต้องพบเจอกับปีศาจในตำนาน เทพเจ้าแห่งโชคลาภ วิญญาณอาฆาต รวมถึงเข้าร่วมขบวนการปลดแอกเกาหลีจากญี่ปุ่นอีกด้วย

ซีรีส์ยังว่าด้วยมิตรภาพระหว่างอียอนกับเพื่อนร่วมสาบานทั้ง ‘รยูฮงจู’ (รับบทโดย คิมโซฮยอน) อดีตเทพเจ้าแห่งขุนเขาที่หวังจะเคลมอียอนตลอดเวลา เธอเป็นเทพจอมพลัง ดุดัน เป็นเลิศด้านการต่อสู้ ดาบใหญ่เกินเบอร์ และเป็นเจ้าของ ‘มโยยอนกัก’ เรือนรับรองที่มีกีแซง (สาวสวยคล้ายเกอิชา) คอยรับใช้ ขณะเดียวกันเธอก็เป็นคุณแม่คอยดูแลปกป้องกีแซงในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ อียอนยังพบกับ ‘ชอนมูยอง’ (รับบทโดย รยูคยองซู) อดีตเทพเจ้าแห่งขุนเขาที่เคยถูกสาปให้กลายเป็นหิน เขานี่ล่ะที่เป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายภายใต้หน้ากากขาว-แดง หลังจากขโมยศิลาพิทักษ์และตั้งใจพาอียอนย้อนเวลากลับมาในช่วงเวลานี้ เพื่อล้างแค้นที่อียอนเคยฆ่าพี่ชายของตัวเอง มูยองจึงได้ปลุกปั่นปีศาจและเล่นบทสองหน้าจนทำให้อียอนต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง ถึงอย่างนั้นอียอนก็พยายามซื้อใจเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เพื่อเปลี่ยนความโกรธให้กลายเป็นความเข้าใจ โดยมีรยูฮงจูคอยเป็นกาวใจให้ทั้งสอง

ฉากสวย คอสตูมดี พิธีกรรมล่าผี และวิถีชีวิตของชาวคยองซอง

ไม่เพียงเนื้อหาจะสนุกสนานและแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นมันๆ สลับกับมุขตลกที่สอดแทรกให้รสนัวๆ Tale of the Nine Tailed 1938 ยังพาผู้ชมหลงใหลไปกับฉากชวนฝันในปีค.ศ.1938 ช่วงเวลาที่เกาหลีได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากญี่ปุ่นและตะวันตก เราจึงได้เห็นตึกรามบ้านช่องที่จำลองความรุ่งเรืองของคยองซอง รถราง ร้านทำผม ร้านตัดเสื้อ สถานที่แฮงค์เอาต์ จนถึงการแต่งกายของชาวเกาหลี ที่ทั้งสวยงามและมีเสน่ห์เกินต้าน

ซีรีส์ยังสอดแทรกท่วงทำนอง และบทเพลงเพราะๆ ที่เหมาะกับยุคสมัย โดยในช่วงเวลาที่เกาหลีตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น ภายหลังการลงนามในสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น-เกาหลีในปีค.ศ.1910 และระบอบกษัตริย์ถูกล้มล้าง ในยุคนั้นญี่ปุ่นได้ส่งผู้บัญชาการกองทัพมาปกครองเกาหลี โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองคยองซองหรือ ‘เคโจ’ (경성) หลังจากได้รับเอกราชในปีค.ศ.1945 เกาหลีจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น ‘โซล’ (หมายถึง ‘เมืองหลวง’ ในภาษาเกาหลี) ก่อนจะแยกออกจากคยองกีและมีสถานะเป็น “นครพิเศษโซล” ในปีค.ศ.1949

ในเรื่องนี้เรายังได้เห็นขบวนการต่อสู้ใต้ดินของชาวเกาหลี ที่มีเหล่าปีศาจฝ่ายดีร่วมมือกับ ‘ยูริ’ (รับบทโดย คิมยงจี) ลูกสาวของท่านผู้นำจากญี่ปุ่นในฐานะนักข่าวสาวและสายลับสองหน้า ทำภารกิจลับในการกอบกู้ชาติเกาหลีและเป็นครูสอนหนังสือให้กับกีแซง

นอกจากนี้ เรายังได้รู้จักกับภูติผีในตำนานและพิธีกรรมเก่าแก่อย่าง ‘ยอมเม’ การนำเด็กๆ มาอดอาหารเพื่อทำนายโชคชะตาจนเด็กตายและกลายเป็นปีศาจซาตานิ การเล่นเกมเรียกผี และเหล่าภูติผีปีศาจในตำนานพื้นบ้าน ที่สร้างสีสันทั้งสนุกสนานและน่าขนลุกให้ฟิลเหมือนดูซีรีส์สยองขวัญเลยทีเดียว

ต้องบอกว่า เป็นซีรีส์ที่กระแสดีตั้งแต่ตอนแรกที่ออนแอร์ ทุบเรตติ้งทุกตอนในซีซั่นแรกที่ทำไว้สูงสุด 5.8% จากผู้ชมทั่วประเทศ พุ่งทะยานถึง 6.5% จากผลสำรวจของ Nielson Korea เป็นการประเดิมความสนุกของซีซั่น 2 ได้อย่างเร้าใจ

ไม่เพียงสอดแทรกเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และประเพณีเก่าแก่ไว้อย่างน่าสนใจ แม้จะมีความแฟนตาซีเล่นใหญ่ไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ดูขัดตาขัดใจจนเกินงาม ซีรีส์ยังมีฉากบู๊แอ็คชันมันๆ แทบจะทุกตอนผสมผสานความรั่วที่ทำเอาหัวเราะไม่หยุด รวมถึงซีนดราม่าก็ไม่ได้เศร้าจนเกินไป เรียกว่าดูได้ทุกเพศทุก วัย โดยเฉพาะสำหรับด้อมของ ‘อีดงอุค’ และ ‘คิมบอม’ ยอมตกขบวนไม่ได้เชียวล่ะ

ใครไม่อยากพลาดซีรีส์กระแสดีกลางปี 2566 แนะนำให้ดู Tale of the Nine Tailed 1938 รับชมแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ Prime Video TH



ร้อยเรียงเรื่องราว : Rassarin
อ้างอิงเรื่องและภาพ : https://www.hancinema.net/

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์




























กำลังโหลดความคิดเห็น