xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “The Glory” 18 ปีล้างแค้นไม่สาย! “ซงฮเยคโย” เริ่มเกม “ล่า” สไตล์เกาหลี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชั่วโมงนี้หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง The Glory (2023) ซีรีส์แนวทริลเลอร์ดราม่าที่สลัดภาพเจ้าแม่แห่งวงการซีรีส์โรแมนติกอย่าง “ซงฮเยคโย” สู่การเป็นเจ้าแม่แห่งวงการการล่าคนใหม่ขวัญใจคนจน ทั้งยังตีแผ่ดาร์คไซต์ในแวดวงการศึกษาของเกาหลี ที่ปัญหาความรุนแรงและการกลั่นแกล้งในโรงเรียนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง กับซีรีส์ขยี้ปมบาดแผลในจิตใจที่ไม่มีวันลบเลือนของ “เหยื่อ” ซึ่งทำให้การล้างแค้นกลายเป็นการทวงคืนความยุติธรรมนอกกฎหมายที่ได้รับเสียงเชียร์จากผู้ชมทั่วโลก ส่งผลให้ The Glory พุ่งทะยานติดชาร์อันดับหนึ่งของ Netflix ในประเทศไทย และติดอันดับ Top 10 ในอีก 62 ประเทศทั่วโลก

เพราะเกมล่าครั้งนี้คุณแม่มาพร้อมสโลแกน “การต่อสู้สุดแรงเกิดและการล้างแค้นภายใต้ความเงียบงัน” เจ็บปวด รุนแรง และโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่ากันด้วยกระสุนนัดเดียวซะอีก!

เปลี่ยนความอ่อนแอเป็น “การล้างแค้น” ที่สาสม!

The Glory เป็นผลงานการเขียนบทของ “คิมอึนซุก” นักเขียนบทมือทองจากซีรีส์ชื่อดังหลายเรื่อง อาทิ Lovers in Paris, The Heirs, The King : Eternal Monarch และ Goblin อีกทั้งเธอยังเคยสร้างปรากฎการณ์ซีรีส์รักโรแมนติกแห่งปีร่วมกับคุณแม่ซงฮเยคโยมาก่อนจาก Descendant of the Sun (2016)

ปีนี้ทั้งสองตัวแม่กลับมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้วงการ K-Drama อีกครั้ง ด้วยการเปิดโปงชีวิตดาร์คๆ ของ ‘มุนดงอึน’ (รับบทโดย ซงฮเยคโย) เหยื่อของการกลั่นแกล้งและความรุนแรงภายในโรงเรียน เมื่อชีวิตของเด็กสาวมัธยมปลายที่ควรสดใสสวยงาม กลับกลายเป็นคืนวันอันโหดร้ายยากจะลบเลือนไปตลอดกาล

เมื่อมุนดงอึนโดนทำร้ายร่างกายจากกลุ่มคุณหนูบ้านรวยจอมแสบ นำทีมโดย ‘พัคยองจิน’ (รับบทโดย อิมจียอน) หัวหน้าแก๊งค์จอมอำมหิต ‘อีซารา’ (รับบทโดย คิมอีฮอรา) ‘ชเวฮเยจอง’ (รับบทโดย ชาจูยอง) ‘จอนแจจุน’ (รับบทโดย พัคซองฮุน) และ ‘ซนมยองโอ’ (รับบทโดย คิมกอนอู)

อีพีแรกๆ ออกแนวบีบคั้นหัวใจผู้ชมอยู่สักหน่อย เพราะผู้ชมจะได้เห็นมุนดงอึนตกเป็น “ของเล่น” ของเหล่าคุณหนูสันดานชั่ว ที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อแลกกับความสะใจและเล่นสนุกกับการทำร้ายร่างกายไปวันๆ มุนดงอึนตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงอย่างเหี้ยมโหด เธอโดนเอาที่หนีบผมร้อนๆ จี้ลงบนแขนและลำตัวจนกลายเป็นแผลพุพองทั่วร่างกาย การแจ้งความและการเรียกร้องความเป็นธรรม ทำให้เธอถูกครูประจำชั้นทุบตีจนต้องลาออกจากโรงเรียน

จากชีวิตเด็กมัธยมปลายต้องกลายเป็นสาวโรงงานที่ดิ้นรนต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด และอาศัยการสอบเทียบจนเรียนจบมหาวิทยาลัยด้วยความมุ่งมั่นของตัวเอง

ส่วนซีนที่ดูแล้วขนลุกสุดๆ ต้องยกให้ฉากที่มุนดงอึน (สมัยวัยรุ่น) เดินตรงไปหาแก๊งเด็กแสบที่กำลังทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนหญิงอีกคนด้วยวิธีแบบเดียวกัน เธอบอกความฝันของแต่ละคนอย่างช้าๆ จนทำให้พวกนั้นถึงกับอยู่ไม่สุข ก่อนที่จะสบตากับพัคยองจินและพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “ความฝันของฉันก็คือเธอไงล่ะ” คำพูดสั้นๆ ที่ทำให้คุณหนูพัคยองจินผู้ไม่เคยเกรงกลัวใคร สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของคนที่ไม่มีอะไรจะเสียแม้แต่ชีวิต

นับจากวันนั้น มุนดงอึนได้ตัดสินใจทวงคืนความยุติธรรมด้วยตัวเอง เธอใช้เวลา 18 ปีเพื่อเตรียมการล้างแค้นอย่างเลือดเย็น ไม่จำเป็นต้องลงมือฆ่าพวกนั้นด้วยตัวเอง เพราะมุนดงอึนรู้ดีว่า คนเลวพวกนี้มีศัตรูอยู่รอบตัวมากมาย เมื่อพวกเขากลายเป็นผู้ใหญ่ในวัย 36 ปีก็ถึงเวลาแล้วที่จะได้รับการลงโทษที่สาสม

“เกมล่าล้างแค้นแดนกิมจิ” จึงเริ่มต้นขึ้น แต่ก็ใช่ว่ามุนดงอึนจะลงมือเชือดๆๆ เลือดสาดแบบในละครเรื่อง “ล่า” ของไทย แต่เรื่องนี้เธอใช้กลยุทธ์หมากล้อมตามเก็บตัวร้ายทีละคนๆ พร้อมกับคำคมที่ว่า “นับจากวันนี้ชีวิตทุกๆ วันจะน่าหวาดผวา มันจะน่าตื่นเต้นและสยดสยอง ไม่มีใครสามารถขัดขวางหรือกำจัดได้”

จากเหยื่อของความรุนแรง สู่แสงแห่งความหวังของเหล่าผู้ถูกระทำ

จุดเปลี่ยนของซีรีส์เรื่องนี้อยู่ที่การตัดสินใจลุกขึ้นสู้เพื่อทวงคืนความยุติธรรมของมุนดงอึน ในวัย 36 ปีเธอไม่ได้ใช้ความรุนแรงโต้ตอบแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ตรงกันข้ามเธอใจเย็นพอที่จะรอให้ตัวเองอยู่ในจุดที่พร้อมที่สุดก่อนจะลงมือแก้แค้นด้วยการทำร้ายจิตใจที่เจ็บปวดและแสนสาหัสยิ่งกว่า ถึงอย่างนั้นเธอก็กลายเป็นความหวังของเหล่าผู้อ่อนแอและคนโดนรังแกเหมือนๆ กัน

ด้วยความเชื่อที่ว่า เมื่อโตขึ้นเราจะพบว่า การกดขี่ บูลลี่ รังแก ความไม่เท่าเทียมทางสังคม และการทำร้ายร่างกายเป็นสิ่งที่พบได้ในสังคมทุกชนชั้น และความยุติธรรมเป็นเรื่องที่เราต้องสร้างมันขึ้นมาเอง แม้จะต้องหันหลังให้พระเจ้าก็ตามที

ในวัย 36 ปี เหล่าตัวร้ายยังคงใช้ชีวิตสุขสบายโดยไม่สำนึกผิด แล้วยังได้ใช้ชีวิตในฝันอย่างที่ตัวเองต้องการ พัคยอนจินเป็นผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศที่ยังคงใช้เงินแก้ปัญหาทุกสิ่ง เธอมีสามีแสนดีอย่าง ‘ฮาโดยอง’ (รับบทโดย จองซองอิล) และลูกสาวที่น่ารัก แต่ใครเลยจะรู้ว่าแท้จริงแล้วลูกสาวเธอเป็นลูกของใครกันแน่?

ส่วนอีซาราเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่ติดยาเสพติดขั้นรุนแรง ชเวฮเยจองเป็นแอร์โฮสเตสสาวจอมสำส่อนตัวแม่ ขณะที่จอนแจอุนเป็นนักธุรกิจและแบดบอยที่มีซนมยองโอเป็นเหมือนคนรับใช้ส่วนตัว นั่นทำให้ซนมยองโอเก็บความไม่พอใจไว้เสมอมา และสุดท้ายเขาก็ยอมเข้าร่วมขบวนการล้างแค้นกับมุนดงอึน

ขณะที่มุนดงอึนเป็นครูประถมศึกษาและครูประจำชั้นของลูกสาวพัคยองจิน นั่นทำให้พัคยองจินถึงกับจิตหลอนจนต้องพึ่งร่างทรง ขณะที่ตัวร้ายคนอื่นๆ ต่างก็มีบทลงโทษที่สาสมแตกต่างกันไป มุนดงอึนเลือกที่จะเก็บพัคยองจินไว้เป็นของหวานชิ้นสุดท้าย ที่รอวันแก้แค้นให้พังทลายแบบไม่มีชิ้นดี และการแก้แค้นนี้ก็มีสามีและลูกสาวของพัคยองจินเป็นหมากบนกระดานเสียด้วย

จุดหนึ่งที่ซีรีส์ทำออกมาได้ดี คือการนำเสนอมุนดองอึนในแง่มุมของความเป็น “ครู” ผู้ปลูกฝังความเท่าเทียม ความยุติธรรม มิตรภาพ และต่อต้านการกลั่นแกล้งรังแกให้กับเด็กๆ เพราะเธอรู้ดีว่า ชีวิตของเหยื่อจากการโดนรังแกนั้นเจ็บปวดและเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายเพียงไร

นอกจากนี้มุนดงอึนยังมีผู้ร่วมอุดมการณ์อย่าง ‘คัมฮยองนัม’ (รับบทโดย ยอมฮเยรัน) คุณป้าแม่บ้านที่ผันตัวเองมาเป็นสายสืบ (จำเป็น) ให้กับมุนดองอึน แล้วยังเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวจากการถูกสามีทำร้าย มุนดองอึนกลายเป็นความหวังของป้าแม่บ้าน และเธอยังมี ‘จูยอจอง’ (รับบทโดย อีโดฮยอน) ศัลยแพทย์หนุ่มที่ตกหลุมรักเธอมาตลอดหลายปี อาสาเป็นเพชฌฆาตตามล้างแค้นร่วมกับมุนดงอึนอีกด้วย

ทว่าสุดท้ายแล้วการล้างแค้นนี้จะจบลงเช่นไร? เหล่าตัวร้ายจะได้รับบทลงโทษอย่างสาสมกับที่พวกเขาทำหรือไม่? ตามลุ้นซีรีส์ 8 ตอนกันได้แล้วทาง Netflix บอกเลยว่า ใครดูจบแล้วจะหงุดหงิดเพราะต้องรอซีซั่นสองที่จะออนแอร์ในเดือนมีนาคม 2023 นี้



ร้อยเรียงเรื่องราว : รัสรินทร์
อ้างอิงเรื่องและภาพ : https://www.netflix.com/tudum/articles/the-glory-season-1-cast-guide

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์






























กำลังโหลดความคิดเห็น