xs
xsm
sm
md
lg

"ตำแหลกบ้านนอก" อาหารอีสานในเรือนไทย ฝันสีจางที่กลายเป็นจริงของ "วีนัส มีวรรณ์" (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สกู๊ปพิเศษ :"ตำแหลกบ้านนอก" อาหารอีสานในเรือนไทยฝันสีจางที่กลายเป็นจริงของ "วีนัส มีวรรณ์"

"ละครออนไลน์" ขอมอบสกู๊ปชิ้นนี้ เพื่อ "สวัสดีปีใหม่ 2023" ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่าน ด้วยเรื่องราวของอดีตนางแบบ-นักแสดง "เปิ้ล" วีนัส มีวรรณ์ ที่ผันตัวเองไปเปิดธุรกิจขายส้มตำ จนชื่อเสียงของ "ตำแหลก" ติดปาก และวันนี้ ... เธอประกาศยืนหนึ่งกับ "ตำแหลกบ้านนอก" ขายอาหารอีสานในเรือนไทยที่รามคำแหง 125/1



แรกเริ่ม "ตำแหลก"

เมื่องานบันเทิงทั้งหมดหยุดลง ... ดาราหลายคนในช่วงนั้น เริ่มหาช่องทางสร้างรายได้ด้วยการขายของแบรนด์เนม สำหรับเปิ้ล วีนัส มีวรรณ์ ได้เปิด "ตำแหลก" บนถนนสุขาภิบาล3 ที่เธอพักอาศัยในละแวกนี้ ถึงวันนี้ร่วม 30 ปี เพราะเหตุผลเดียวคือ "เธอชอบกินส้มตำ" ! และเธอเชื่อว่า มีหลายคนที่ชื่นชอบอาหารรสแซบประเภทนี้เช่นเดียวกับเธอ

เธอเป็นดารา-นางแบบคนแรกๆที่เปิดร้านส้มตำ หลังปี 2001 ก่อนที่จะมีอีกสารพัดตำของเจ้าอื่นๆตามกันมา ! ธุรกิจร้านส้มตำชื่อ "ตำแหลก" สาขาแรก เริ่มที่ รามคำแหง127 ต่อมาได้ขยับขยายสาขาอยู่ในละแวกนี้ เช่น สาขา คริสตัล ปาร์ค , สาขานวมินทร์ซิตี้ อเวนิว , สาขา พาซิโอทาวน์ , สาขา ศูนย์ปัญญาวิลเลจ รามอินทรา, สาขา พัทยา , สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ในช่วงโควิดก็ทยอยปิดสาขาต่างๆเรื่อยมา จนถึงสาขาสุดท้ายที่ศูนย์ปัญญาวิลเลจ ที่จะปิดลงอีกไม่กี่วันนี้

ฝันอยากมี "แปลงผัก" ในตำแหลก!

วันนี้... "ตำแหลกบ้านนอก" รวมศูนย์ หนึ่งเดียวของธุรกิจอาหารอีสานของ "เปิ้ล วีนัส" และกว่าจะเป็น "อาหารอีสานในเรือนไทย" อย่างวันนี้ ไม่ง่าย !

ช่วงจังหวะหนึ่ง เปิ้ล วีนัส ไปปลูกบ้านที่ปากช่อง และทุกครั้งที่ไปโคราช จะไปพักที่ "บ้านนอกคอกนา" เขาใหญ่ เกษตรอินทรีย์ ฟาร์มสเตย์ ของ "สา" สาริศา เกตุทอง และ "อาร์ต" อธิพันธ์ ศรีจักร เธอยอมรับว่า "หลงใหล" โดยเฉพาะ "แปลงผัก" ที่เธอเคยฝันอยากจะทำในพื้นที่ของ "ตำแหลก" และที่ผ่านมา สาขาต่างๆนั้นไม่อยู่ในวิสัยที่จะทำได้ ต้องหาทำเลใหม่ ! เป็นจังหวะเดียวกับโควิดระบาด สาขาต่างๆปิดลงเรื่อยมา ขณะเดียวกัน เธอตั้งใจหาทำเลใหม่เพื่อทำร้านอีกครั้ง และยังคงยึด "เส้นสุขาภิบาล" เพราะตำแหลกสร้างชื่อจากลูกค้าครอบครัวในย่านนี้ !

"ที่เปิ้ลเลือกโซนนี้ เพราะหนึ่ง ใกล้บ้าน สอง ที่เรามีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็มาจากลูกค้าที่ทำให้เราเป็นตำแหลกที่มีชื่อเสียง"

กอรปกับวีนัสได้ "สากับอาร์ต" ไปช่วยออกแบบบ้านให้ที่ปากช่อง จึงมีความสนิทสนมกันอยู่
"บอกน้องว่า พี่อยากได้แปลงผักแบบนี้ แต่พี่อยากยกแปลงผักแบบนี้ไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ถ้าได้ที่ จะให้น้องไปดูเรื่องผัก เพราะเปิ้ลไม่ได้เก่งเรื่องผัก ... เราอยากทำตำแหลกแบบมีผัก สามารถเก็บผักทานได้"

ที่ทางหลายแห่งในเส้นสุขาภิบาลยังไม่เป็นที่ถูกใจ เธอจึงถามผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องที่ทางว่า
"คุณหญิงมีที่สำหรับปลูกผักได้มั้ย"

ไม่ช้านาน คุณหญิงก็บอกให้มาดูพื้นที่ในซอย รามคำแหง 125/1 ซึ่งก่อนหน้านี้ นานมาแล้ว เหมือนเธอจะเคยเข้ามาครั้งหนึ่ง ในซอยนี้ มีเรือนไทยอยู่หลายหลัง ปัจจุบัน บางหลังยังมีฝรั่งเช่าอยู่ ! ลึกเข้ามา โซนที่เป็น "ตำแหลกบ้านนอก" ในปัจจุบันนั้น วันที่เธอมาสำรวจเป็นที่รกร้าง ทึบ ปกคลุมด้วยต้นเต่าร้าง เถาวัลย์ และอื่นๆ จนไม่สามารถเข้ามาสำรวจภายในได้ ดังนั้น เธอจึงไปสำรวจทางอากาศกับ GOOGLE MAP เห็นพื้นที่บริเวณนี้งดงามในความรกร้าง เห็นต้นจามจุรีใหญ่ 2 ต้นที่ถูกพันธุ์ไม้อื่นๆปกคลุมอยู่ เห็นลำคลองแสนแสบทางด้านหลัง ...

ในพื้นที่นี้ยังมีเรือนไทยโบราณหลังหนึ่งที่ถูกปล่อยทิ้ง !ถูกต้นไม้ล้มทับกลางบ้าน และเป็นที่อยู่อาศัยของตัวเงินตัวทอง คุณหญิงบอกว่า สามารถตัดส่วนให้เช่าได้ คือ ตัดเอาส่วนลำคลองข้างหลังมาถึงเรือนไทยออก เปิ้ลสามารถเลือกเช่าเอาช่วงหน้าเรือนไทยไปทำร้านได้ ... ในใจว่า "ไม่ได้ เปิ้ลต้องการพื้นที่ซึ่งมีน้ำ" ! และเมื่อถามความเห็นของ "สาและอาร์ต" ทุกคนเห็นชอบกับทำเลนี้!
"ที่บ้านนอกคอกนา เขาใหญ่ มีคาเฟ่ เค้ก และของฝากอยู่แล้ว เอามั้ย พี่จะแบ่งให้ พี่จะได้ไม่ต้องมาทำกาแฟ ขี้เกียจมาเรียนรู้ น้องก็ดีใจ และมาทำด้วยกัน"

"ตำแหลกบ้านนอก" เริ่มนับหนึ่งแล้ว !

อุปสรรคสารพัดจนต้อง "มู" !
หลังจากตกลงเช่าพื้นที่ การปรับปรุงสถานที่รกร้างแห่งนี้จึงเริ่มขึ้น ! ในช่วง 6 เดือนแรก แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน และโควิดระบาด ภารกิจแรกคือ ทำอย่างไรให้เข้ามาในพื้นที่ให้ได้! เพราะไม่ง่ายเลย ใช้เวลารื้อถอนพวกไม้เลื้อย เถาวัลย์ โค่นต้นเต่าร้าง ขุดลอกคลอง และอื่นๆสารพัด ต้องขนขยะวันละหลายสิบรอบ เฉพาะขยะขนกันอยู่เป็นเดือน! เมื่อเริ่มทำงาน ปรากฏคนงานติดโควิดกันเป็นกลุ่ม ต้องหยุดงาน และหาช่างกลุ่มใหม่ ทางด้านเรือนไทยซึ่งที่ถูกทิ้งร้างมานาน ไม้บางส่วนและหลังคาผุกร่อน และเสียหายจากต้นไม้ล้มทับ ซ่วงซ่อมแซมก็เกิดเหตุไฟไหม้ จนต้อง "มู" หลายสิ่งเพื่อพึ่งบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าที่เจ้าทาง

อาหารอีสานในเรือนไทย

เรือนไทยตำแหลกบ้านนอกหลังนี้ สืบทอดมาจากคุณแม่หมอบุษกรและคุณยายบัวฝัน ซึ่งซื้อเรือนทรงไทยภาคกลางมาจาก อ. เสนา จ. อยุธยา ล่องแม่น้ำเจ้าพระยามาถึงบางกอก ผ่านคลองมหานาคจนมาถึงคลองแสนแสบ และนำเรือนไทยขึ้นมาปลูกสร้างที่เขตบางกะปิแห่งนี้
เรือนไทยมีอายุมากกว่า 100 ปีหลังนี้ เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมระหว่าง2 ภาค เป็นเรือนไทยคหบดีภาคกลางหลังคามุงกระเบื้อง และเรือนไทยภาคอีสานหลังคามุงแฝก บ้านเรือนไทยได้ผ่านการบูรณะซ่อมแซมจากรุ่นสู่รุ่น เนื้อไม้ บานประตูหน้าต่าง บานพับ บานกระทุ้ง ผนัง ช่องลม ลายฉลุ ล้วนเป็นของเดิมตั้งแต่อดีตทั้งสิ้น
"อาหารอีสาน"ในเรือนไทย จะทำยังไง ทำให้เหมือนธรรมชาติ เหมือนนั่งทานข้าวอยู่บ้าน เราจะทำตำแหลก แบบมีผัก สามารถเก็บผักทานได้ เหมือนเราออกต่างจังหวัดหาที่กินข้าวสบายๆ จะทำแบบนี้ในกรุงเทพฯให้ได้ พอได้ที่ตรงนี้ มันตอบโจทย์หมดเลย"

ตำแหลกบ้านนอก ของวีนัส มีวรรณ์ และ ข้ามันบ้านนอกคาเฟ่ ของ สาและอาร์ต ได้ร่วมมือกันทำธุรกิจซึ่งแต่ละคนถนัดบนพื้นที่แห่งนี้ !
" โชว์การทำแปลงผัก มีผักสารพัดชนิด ตัดเก็บกินได้ น้องทำเค้ก กาแฟ เปิดบริการอาหารเช้าตอน 8 โมงเช้า ส่วนกลางเราจะแชร์กัน สมมติว่า เปิ้ลจะทำดอกไม้ขาว เปิ้ลซื้อของน้องออกค่าแรง , จะทำสะพาน เปิ้ลซื้อของ น้องเอาคนทำมา ทุกวันนี้ เราทำ 2 บรรยากาศ มาทานข้าว แล้วไปนั่งชิล กินกาแฟกัน จะยกกาแฟมาทานที่นี่ก็ได้ แต่เสาร์-อาทิตย์ เราจะไม่เสิร์ฟ"

เนื่องจากเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลูกค้าแน่นมากทั้งวัน ที่จอดรถ และโต๊ะนั่งทานแทบไม่พอ ! ตอนนี้ เธอกำลังจะเจรจาทำที่จอดรถเพิ่ม บางครอบครัว พ่อแม่อยากทานอาหาร ส่วนลูกๆยังเล่นอยู่แถวร้านกาแฟ ทางตำแหลก จะแก้ปัญหานี้ด้วยการจัดอาหารใส่ปิ่นโตไปให้ เนื่องจากมีปิ่นโตจำนวนมากซึ่งเคยใช้ในสมัยทำ "ตำแหลกปิ่นโต" ไว้บริการลูกค้าบนเส้นทางนี้

สูตรเด็ด เคล็ดลับ มัดใจ

คนกรุงเทพฯคือ กลุ่มเป้าหมายของตำแหลก การทำอาหารจะออกรสกลางๆ ไม่เข้มข้นมาก และเป็นสูตรเดิมที่ใช้กันมายาวนานตั้งแต่เปิดร้าน ... มีอาหารอีสานแบบเดิม ครบครัน เพียงแต่ปัจจุบัน ได้เพิ่ม กุ้งและอาหารทะเล เพิ่มอาหารจำพวกเมี่ยง เช่น เมี่ยงหมู เมี่ยงปลาทู ยำแหนมคลุก ที่ต้องใช้ผักร่วมรับประทาน
"ลูกค้าจะชอบส้มตำ ไก่อบโอ่ง แกงหน่อไม้เห็ดเผาะ ผักหวานไข่มดแดง เรามีตลอดไม่ขาด ตอนนี้เราเพิ่มพวกข้าวผัด อย่างข้าวผัดแจ่วบอง , ข้าวผัดน้ำพริกตาแดงที่ใช้แบรนด์ของเรา"

ณ วันนี้ ความฝันของเธอซึ่งอยากจะมีร้านส้มตำที่มีแปลงผักสำเร็จแล้ว ภายใต้การเดินทางของร้าน "ตำแหลก" ร่วม 20 ปี ทั้งยังเป็นตำแหลก อาหารอีสานในเรือนไทยกว่า 100 ปี บนถนนรามคำแหง ที่คุณจะได้ซึมซับกับวิถีธรรมชาติบนทุกอณูของพื้นที่ ....

ข้อมูลจำเพาะ
ตำแหลกบ้านนอก (เปิดทุกวัน)
ส่วนร้านกาแฟ เปิด 08.00-20.00 น.
ส่วนร้านอาหาร เปิด 10.00-22.00 น.
พิกัด : ซอยรามคำแหง 125/1 ถ.รามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ >> https://maps.app.goo.gl/1MgTEyWVfS6D9ABv5
โทร. : 092-494- 8459

ชีวิตในวงการบันเทิง

"เปิ้ล" วีนัส มีวรรณ์ เป็นคนกรุงเทพฯ เข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 15 ปี .... วันหนึ่ง เธอเดินอยู่แถวป้ายรถเมล์ ฝั่งตรงข้ามกับห้างโตคิว มีเสียงทักทายจากผู้หญิงคนหนึ่งว่า "น้องคะ พี่ขอเบอร์ไว้ได้มั้ย" พร้อมอธิบายเหตุผลพอสังเขป ผู้หญิงคนนี้คือ "จุ" จุรีรัตน์ ชัยพรหมประสิทธิ์ (นักข่าวและช่างภาพ นิตยสารเธอกับฉัน ยุคพจน์ อานนท์) จุรีรัตน์แจ้งกับ "แขก" เบญจพร เชื้อเมฆ (ฝ่ายโฆษณา) นัดแนะและพาเปิ้ลไปเทสงานที่เซ็นทรัล เปิ้ลได้ถ่ายแบบให้กับเซ็นทรัล เพื่อรอ "ห้างเซน" เปิดตัว เพราะ วีนัส มีวรรณ์คือ นางแบบคนแรกของห้างเซน ! และปัจจุบัน เบญจพร ปัญญายิ่ง (เชื้อเมฆ) เป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์ และ โปรดิวเซอร์ ซีรีส์ของ TrueCJ. และหนังของท่านมุ้ยทุกเรื่อง

การเข้าวงการตั้งแต่อายุ 15 ปี ทำให้เปิ้ลต้องทำงานเรื่อยมา จนต้องหยุดเรียนไปพักหนึ่ง ก่อนจะมาเรียนต่อในภายหลัง เธอบอกชอบงานถ่ายแบบภาพนิ่งโฆษณา แต่ความจริง เธอมีผลงานการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าน้อยชิ้นมาก ที่ชอบเพราะ ถ่ายแล้วจบ ได้ค่าตอบแทน ไม่ยืดเยื้อ งานอื่นๆที่ตามมา เช่น งานถ่ายแฟชั่น งานหนัง-ละคร งานถ่ายเซ็กซี่ และนางแบบคาราโอเกะ

จากนางแบบคนแรกของห้างเซน ตามมาด้วยโฆษณาแชมพูรีจอยส์ และอื่นๆ

หนังและละคร

เปิ้ลมาเล่นเป็นนางเอกละคร "มาณวิกาใจร้าย" เป็นเรื่องแรกกับค่าย "กันตนา" ทางช่อง 7 ในปี 2534 ร่วมกับเล็ก ไอศูรย์ และขวัญภิรมย์ หลิน เธอยังมีทั้งหนังและละครที่รับบทอื่นซึ่งไม่ใช่นางเอกอีกจำนวนหนึ่งแม้จะไม่มากนักก็ตาม ช่วงหนึ่งเธอไปเป็นนักแสดงของ "ค่ายอัครเศรณีโปรดักชั่น" ในสังกัดของ กิตติ อัครเศรณี ได้เล่นละครหลายเรื่อง สมัยนั้นอัครเศรณีโปรดักชั่นทำละครป้อนให้กับฟรีทีวีทุกช่อง รายชื่อละครที่เธอแสดงให้กับค่ายต่างๆ เช่น พรหมพยศ (2536) , พริกขี้หนูกับหมูแฮม (2538), ขุนศึก (2538) , ขอหมอนใบนั้นที่เธอฝันยามหนุน (2538), เชลยรัก (2539), เก็บใจไว้เพื่อรัก (2540), คู่เขย-คู่ขวัญ(2541) , ไฟริษยา(2541), เมียแต่ง (2541), ภพรัก (2542), 4 ผู้ยุ่งเหยิง (2542)

ภาพยนตร์เรื่องแรกคือ "เปลวไฟในตะวัน" (2534) ของค่ายพรพจน์ฟิล์ม และเรื่องอื่นๆ อาทิ สะแด่วแห้ว (2535) , บันทึกจากลูก(ผู้)ชาย (2537), คู่แท้ 2 โลก (2537), ภูติพิศวาส (2538)

ถ่ายแบบแฟชั่น - เซ็กซี่

เปิ้ล วีนัส นอกจากจะถ่ายแบบแฟชั่น ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังในยุคนั้นแล้ว จนเมื่อผันตัวมาถ่ายเซ็กซี่ จากการชักชวนของ "โหน่ง" วิทยา สุภากิจ สไตลลิสต์นิตยสาร"แก้ว" ผู้ล่วงลับ โดยถ่ายแฟชั่นเซ็กซี่กันที่ดาดฟ้าแห่งหนึ่ง มีนางแบบร่วมในตอนนั้นอีก 2 คนคือ อังคณา ทิมดี และขวัญภิรมย์ หลิน จากนั้นก็เริ่มถ่ายเซ็กซี่กับนิตยสารแฟชั่นเล่มอื่นๆ เช่น Face Special Photo Album จนได้รับการทาบทามจาก "กบ อลงกต" ให้ทำถ่ายอัลบัมเซ็กซี่กับหัวหนังสือ Heat ช่วงนี้เป็นยุคที่เธอถ่ายเซ็กซี่ต่อเนื่องอยู่พักหนึ่ง จนเข้าสู่ยุคนางแบบคาราโอเกะ ซึ่งถือว่า เป็นงานที่สร้างรายได้งามให้กับนางแบบหลายคนในยุคนั้น ถ่ายทำกับสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเมืองไทยและเมืองนอก เธอบอกว่า ถ่ายกันจนซื้อบ้าน ถอยรถใหม่ได้เลย
"พอมาถ่ายเซ็กซี่ กลายเป็นว่าคนมาจ้างงานแนวนี้หมดเลย แต่จริงๆ เราไม่ใช่คนเซ็กซี่ คนมองภาพเราแบบนั้น"

นี่เป็นเรื่องราวที่พอจะจำได้ ที่เธอเล่าให้กับ "ละครออนไลน์" ฟัง...

ภาพบางส่วนจากอินเทอร์เน็ต

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์

แปลงผักใน ตำแหลกบ้านนอก

เรือนไทยและแปลงผักยามเย็น



























































จุรีรัตน์ และ เบญจพร (ภาพปัจจุบัน) ผู้ชักนำเปิ้ลเข้าสู่วงการ

นางแบบปก เธอกับฉัน

กลุ่มนายแบบ-นางแบบ  6 คู่ ถ่ายแบบเพื่อเป็นปกพับของนิตยสาร เธอกับฉัน

นางแบบปก นิตยสาร LOOKS

ปกนิตยสาร ทีวีพูล

นางแบบปก นิตยสาร GM คู่กับ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์





ถ่ายเซ็กซี่กับนิตยสาร Face Special Photo Album





ถ่ายแบบเซ็กซี่กับนิตยสาร HEAT

แสดงละครเรื่องแรก มาณวิกาใจร้ายกับขวัญภิรมย์ หลิน และ เล็ก ไอศูรย์

ภาพยนตร์เรื่องแรกกับพรพจน์ฟิล์ม เรื่อง เปลวไฟในตะวัน


กำลังโหลดความคิดเห็น