นี่เป็นผลงานเรื่องที่สองในรอบปีนี้ของ ‘จ้าวลี่อิง’ ราชินีหมื่นล้านวิวที่ดูเหมือนจะส่งสัญญาณอะไรบางอย่างบนเส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอ เพราะทั้งเรื่องก่อนและเรื่องนี้ล้วนมาในแนวเดียวกัน ในโทนหญิงสาวสู้ชีวิต หรือบทที่มีกลิ่นอายเฟมินีนอยู่เต็มเปี่ยมที่ต้องต่อกรกับสังคมชายเป็นใหญ่
ซีรีส์เรื่องก่อนเมื่อตอนกลางปีก็ถือว่าได้รับคำชื่นชมไม่น้อยที่เมืองจีนในชื่อ ‘ความสุขของซิ่งฝู’ (The Story of Xing fu – 2022) และเรื่องล่าสุดที่กำลังเอ่ยถึง คือ ‘ยอดหญิงแกร่ง’ (Wild Bloom – 2022)
ในไทยซีรีส์เรื่องนี้อาจไม่ได้ดังเปรี้ยงจนกลายเป็นกระแสเท่ากับซีรีส์เรื่องอื่นที่เธอฝากผลงานไว้ ซึ่งส่วนใหญ่คนตามคลิกดูเรื่องยอดหญิงแกร่งในครั้งแรก ต่างมาเพราะความเป็นติ่งและบารมีของแม่ลี่อิง แต่หลายคนที่ได้ดูต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นอีกเรื่องที่ให้แง่คิดที่ดี และได้รับแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นสู้ ผ่านตัวละครนักธุรกิจหญิงยอดนักสู้ปากกัดตีนถีบในวงการอุตสาหกรรมค้าเหล็กที่เต็มไปด้วยผู้ชายหัวโบราณยุคปี 1990 แต่ถึงจะบอกว่าไม่ใช่ซีรีส์ตัวปังของเธอ แต่บทแพลตฟอร์ม IQIYI จีนก็สามารถกวาดยอดวิวทะลุ 9 พันล้านวิวทั้งที่ยังฉายไม่ถึงครึ่งเรื่อง
ประเด็นที่น่าจับตามองของซีรีส์เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เพราะเนื้อเรื่องที่มีสาระเข้มข้น แต่เพราะการที่จ้าวลี่อิงมารับบทแนวหญิงแกร่งไล่ๆ กันถึง 2 เรื่องซ้อน ถ้าไม่นับรวมอีกเรื่องก่อนหน้านี้ที่เป็นแนวลึกลับฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนอย่าง ‘ปริศนาฆาตกรลับ’ (Who is the Murderer - 2021) และบทรับเชิญที่มาในแนวดราม่า
เหล่านี้สะท้อนให้เห็นแนวทางการเลือกรับบทที่เปลี่ยนไปบนเส้นทางการแสดงของจ้าวลี่อิง อาจด้วยวัยที่เติบโตขึ้นและสถานะภาพที่โตไปอีกขั้นในวงการบันเทิง (เรียกว่าเป็นเจ๊ใหญ่ก็ว่าได้) ทำให้เธอพยายามหลุดจากบทเดิมๆ ที่เคยสร้างชื่ออย่างประเภทสาวไร้เดียงสา หรือสาวเริ่มต้นวัยทำงาน โดยรับบทโชว์ศักยภาพการแสดงมากขึ้น เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอมีความสามารถในการรับงานแสดงหลากหลาย ไม่ได้ยึดติดต้องโปรดักชั่นอลังการ หรือว่าบทต้องสวยเริ่ดอยู่ตลอดเวลา ต่อให้เป็นบทเซอร์ๆ ติดดินจ้าวลี่อิงก็สามารถ
อีกด้าน หลังจากแยกทางกับอดีตสามีอย่าง ‘เฝิงเส้าเฟิง’ เธอกลับมีซีรีส์แนวหญิงแกร่งออกมารัวๆ เหมือนยิ่งเป็นการส่งสารมายังแฟนซีรีส์ ถึงการตอกย้ำภาพลักษณ์หญิงเก่งที่ดูแลตัวเองมาตลอดว่าเธอโอเค เธออยู่ได้ และเธอแกร่งพอ
สำหรับซีรีส์ ‘ยอดหญิงแกร่ง’ (Wild Bloom – 2022) เล่าเรื่องราวของสวี่ป้านเซี่ย (จ้าวลี่อิง) ที่ถูกพ่อเลี้ยงมาแบบไม่ค่อยใส่ใจนัก หลังจากแม่เสียชีวิตหลังคลอดเธอออกมา เมื่อโตขึ้นพ่อก็แต่งงานไปมีครอบครัวใหม่ สวี่ป้านเซี่ยเติบโตมาด้วยนิสัยเย่อหยิ่ง ขยันขันแข็ง ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง เด็ดขาด และกล้าได้กล้าเสีย
ในช่วงยุค 1990 เศรษฐกิจจีนพัฒนาอย่างรวดเร็ว สวี่ป้านเซี่ยได้พาถงเซียวฉี (โอวหาว) และเสี่ยวเฉิน เพื่อนที่รักกันเหมือนพี่น้อง มาเริ่มต้นทำธุรกิจเศษเหล็กและการขนส่ง ท่ามกลางอุตสาหกรรมเหล็กที่ผู้ชายมีอำนาจเหนือกว่า สวี่ป้านเซี่ยใช้ความกล้าเสี่ยงและความจริงจังเข้าสู่ตลาดเหล็กรัสเซียอย่างกล้าหาญชนิดว่าเพื่อนร่วมธุรกิจชายอกสามศอกทำไม่ได้
หลังจากผ่านความยากลำบากนับไม่ถ้วนและเผชิญหน้าการทดสอบแทบเอาชีวิตไปอยู่บนความเป็นความตาย บริษัทของสวี่ป้านเซี่ยได้เปิดธุรกิจนำเข้าเหล็กระหว่างประเทศที่เป็นอิสระและเก็บเกี่ยวเงินก้อนแรกในการทำธุรกิจ ท่ามกลางแข่งขันในตลาดเหล็กอันดุเดือด
ผ่านประสบการณ์ชีวิต ความรัก และการทำงาน สวี่ป้านเซี่ยได้เรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาอย่างเด็ดขาด ฝ่าฟันอุปสรรคของตัวเอง ด้วยวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมและบุคลิกอันจริงจัง กล้าหาญ และสัญชาตญาณการเอาตัวรอดและการมองแนวโน้มตลาดที่แม่นยำ สวี่ป้านเซี่ยค่อยๆ เอาชนะความยากลำบากทั้งหมด และขยายกิจการของเธอให้ใหญ่ขึ้น จนในที่สุดประสบความสำเร็จทั้งหน้าที่การงานและความรัก
ต้องบอกว่ายอดหญิงแกร่ง เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่มีการหยิบจับอาชีพค้าเหล็ก เล่าตั้งแต่การไต่เต้าของเส้นทางอาชีพเริ่มจากธุรกิจค้าของเก่าประเภทเหล็ก ก่อนค่อยๆ ขยายไปสู่วงการอุตสาหกรรมเหล็กระดับชาติในยุคที่มีฉากหลังยุค 90 ซึ่งเป็นแง่มุมที่ไม่ค่อยมีการพูดถึงบ่อยนักบทจอซีรีส์หรือภาพยนตร์
แค่เรื่องย่อก็เดาได้เลยว่าสายตะมุตะมิหรือสายฟินข้ามไปได้เลย แต่ถ้าคุณเป็นคนทำธุรกิจหรือชอบแนวดราม่าทำมาหากิน เรื่องนี้คือไม่ผิดหวัง เพราะ ‘ยอดหญิงแกร่ง’ เน้นโปรดักชั่น บทพูด และเนื้อเรื่องค่อนข้างจริงจังและเรียลลิสติกมาก สะท้อนชีวิตลูกผู้หยิงในยุค 90 ที่ต้องหาดิ้นรนทำธุรกิจในยุคที่วงการให้โอกาสกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แถมอยู่ท่ามกลางยุคเศรษฐกิจจีนกำลังค่อยๆ พัฒนาเต็มไปด้วยโอกาสและการแข่งขัน หลังจากจีนเพิ่งเริ่มต้นเดินหน้าประเทศด้วยระบบคอมมิวนิสต์เศรษฐกิจทุนนิยม
แม้ตัวซีรีส์จะไม่ได้ดีไซน์มุมกล้องอลังการ ฉากสวยงามตระการตา แต่ผู้ชมก็ได้เห็นการดีไซน์บรรยากาศของย้อนยุค 90 ที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นเสื้อผ้าปกเทเลอร์ไล่ตั้งแต่หัวเข็มขัดทอง ทรงผม รองเท้า ผ่านตัวละครของสวี่ป้านเซี่ย (จ้าวลี่อิง) เทคโนโลยีวินเทจที่ (คิดว่า) ล้ำสุดแล้วในยุคนั้นอย่างมือถือรุ่นฝาพับ, โทรศัพท์แบบหมุน, การฟังเพลงจากเทปคาสเซ็ท เป็นต้น
แต่สิ่งสุดยอดของซีรีส์เรื่องนี้ แม้ไม่ได้มีโปรดักชั่นสวยงาม แต่ตรึงคนให้อยู่บนหน้าจอได้ คือ ‘บทอันเข้มข้นสมจริงแต่สร้างแรงฮึด’ และ ‘บทบาทการแสดงที่ไม่ใช่แค่จ้าวลี่อิง แต่รวมถึงนักแสดงสมบททั้งหมด’ทั้งรุ่นกลาง รุ่นเดอะ ไม่ว่าจะเป็นโอวหาว, หลี่กวังเจี๋ย, หลิวเวย, เคอหลัน, ซุนเชียน และเหรินฉง
โดยเฉพาะฉากต่อรองการซื้อขาย ที่ต่อบทกันไปมาชนิดแทบไม่ต้องคิด ทำเอาทึ่งไปเหมือนกัน หรือแม้แต่ชั้นเชิงการเข้าถึงและเอาใจลูกค้าสไตล์ลูกผู้หญิงในดงหมาป่าตัวผู้ของสวี่ป้านเซี่ย ก็เชื่อว่าหลายคนต้องปรบมือให้ในความกล้าของเธอ เรียกว่าหลากฉากในเรื่องสามารถนำมาประยุกต์กับการธุรกิจในชีวิตจริงได้
การดำเนินเรื่องอาจจะค่อยๆ เล่าเรื่องอยู่พอสมควรในช่วง 2-3 EP.แรก ก่อนค่อยๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และลุ้นไปกับการเอาใจช่วยว่าสวี่ป้านเซี่ยจะใช้วิธีใดฝ่าอุปสรรคไปได้ โดยเนื้อเรื่องจะเปิดฉากมาด้วยปี 1996 ภาพหญิงสาวแต่งตัวเก๋ไก๋สไตล์นักธุรกิจเก็บแชร์หน่อยๆ หรือก็คือสวี่ป้านเซี่ยไปรับชายหนุ่มคนหนึ่งหรือก็คือถงเซียวฉี ออกจากคุกพาไปแปลงโฉมเปลี่ยนเสื้อผ้าพกนามบัตรพกมือถือกลายเป็นนักธุรกิจ ก่อนพาไปร่วมงานเลี้ยงงานแสดงเหล็กเจียงตงนานาชาติในโรงแรมขนาดใหญ่แบบงงๆ
ระหว่างนั้นภาพตัดสลับไปมาเมื่อ 5 ปีก่อนเผยให้เห็นเรื่องราวว่าแท้จริงถงเซียวฉีเคยเป็นเพียงคนขับรถจนๆ เก็บเศษเหล็กมาขายให้กับร้านรับซื้อเศษเหล็กเล็กๆ ของสวี่ป้านเซี่ย เพราะต้องการเงินด่วนไปรักษาแม่ป่วยหนัก สวี่ป้านเซี่ยไม่ได้รับซื้อเหล็กของเขาเพราะเป็นเหล็กฝาท่อที่ขโมยทรัพย์สินหลวงมา แต่ก็ให้เงินเขาไปเล็กน้อยเพื่อต่อลมหายใจให้แม่ของเขา ต่อมาก็ให้ถงเซียวฉีมาช่วยขนเศษเหล็กล็อตหนึ่งและแบ่งเงินให้ แถมรับเขามาช่วยงานทำให้ถงเซียวฉีประทับใจในน้ำใจของสวี่ป้านเซี่ย
แต่สาเหตุที่ทำให้เขาติดคุกเพราะเขายื่นมือเข้าไปช่วยสวี่ป้านเซี่ย ระหว่างที่เธอและสามีทะเลาะกันเนื่องจากสวี่ป้านเซี่ยจับได้ว่าสามีเธอนอกใจ ระหว่างชุลมุนถงเซียวฉีพลั้งมือทำร้ายสามีสวี่ป้านเซี่ยเกือบปางตาย จนต้องติดคุก 5 ปี แต่จากเหตุการณ์ครั้งนั้นสวี่ป้านเซี่ยได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ตัดใจจากสามีโดยเด็ดขาด
ภาพตัดกลับมาที่งานเลี้ยงอีกครั้งท่ามกลางกลุ่มนักธุรกิจสภาพเหมือนฝูงหมาป่ากำลังล่าเหยื่อ หรือก็คือผู้ซื้อเหล็กรายใหญ่ ในกลุ่มของสวี่ป้านเซี่ยประกอบด้วยนักธุรกิจค้าเหล็กและโรงแปรรูปเหล็กที่อยู่ในวงการมาก่อนเธออีก 3 คน นำโดย ประธานอู๋ มีไอเดียจะนำเข้าเหล็กจากโซเวียต (ยุคนั้นสหภาพโซเวียตเพิ่งล่มสลาย เปิดโอกาสให้นักธุรกิจจีนเข้าไปหาขุดทองอยู่ไม่น้อย) ซึ่งการนำเข้าเหล็กจำนวนมากต้องมีการรวมกลุ่มกันซื้อเพื่อให้ได้โควต้าเหล็กปริมาณมากๆ สร้างอำนาจการต่อรองในการซื้อ ประธานอู๋จึงคิดจะนำโควต้ามาแบ่งกันในกลุ่มเพื่อช่วยกันซื้อและนำมาขายในประเทศ โดยตั้งใจนำมาขายให้ประธานจ้าว ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทแปรรูปรับซื้อเหล็กรายใหญ่
สวี่ป้านเซี่ยมองเห็นช่องทางธุรกิจนี้ทันทีทั้งที่เธอไม่ได้มีเงินทุนพอ เพราะหลังจากนำไปปรึกษาเพื่อนร่วมธุรกิจอีก 2 คน เธอจึงรู้ว่าเธอขาดเงินทุนจำนวนมหาศาล แต่เธอไม่ยอมแพ้ วิ่งเต้นหาเงินทุนเต็มกำลัง เที่ยวยืมเงินไปทั่ว ไม่อยากพลาดโอกาสทองนี้ไป เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสนี้ผ่านเข้ามาอีกเมื่อไร
บอกเลยว่ากลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจของเธอ กล้าได้กล้าเสียเข้าขั้นบ้าบิ่น เล่นใหญ่ไฟกระพริบ เพราะเธอไม่ได้คิดนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศในปริมาณมากเท่านั้น แต่คิดใหญ่ถึงขั้นเช่าที่ดินริมทะเลมาทำลานตู้คอนเทนเนอร์เพราะเธอมองว่าเมื่อมีสินค้าขนาดใหญ่เข้าประเทศ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการคลังเพื่อพักสินค้า แทนที่จะไปใช้ของคนอื่นก็สู้ให้คนอื่นมาใช้ของเธอเองดีกว่า เป็นการขยายช่องทางหารายได้และกระจายความเสี่ยงหากเหล็กมีราคาซื้อขายผันผวน
โครงการเล่นใหญ่ของเธอ เธอมีเงินทุนของตัวเองเพียงน้อยนิด แต่เธอใช้ชั้นเชิงการเจรจาต่อรองขั้นเทพและวิธีวิ่งเต้นเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทุน ชนิดว่ากว่าจะได้มาแต่ละสตางค์ทำเอาเลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกัน และพานให้คิดไปได้ว่าเธอช่างกล้าคิดและกล้าทำไปได้อย่างไรกัน โดยทางออกในการแก้ปัญหาของเธอก็อยู่พื้นฐานของความจริง ไม่ได้แฟนตาซีจนเกินไปและทำให้ผู้ชมลุ้นไปพร้อมๆ กันว่าเธอจะเฟ้นหากลเม็ดอะไรเพื่อผ่านวิกฤตเหล่านี้ไปได้ หลายเหตุการณ์บอกเลยว่าถ้าเจอกับตัวเองคงสติแตกเอาได้ง่ายๆ แต่เธอกลับใช้สติ ความกล้า และการมองคนขาด ผ่านสถานการณ์เหล่านั้นมาได้แบบหวุดหวิด
จุดนี้ต้องให้เครดิตผู้กำกับและผู้เขียนบทโทรทัศน์ที่มากันคนละสาย แต่มาผสมผสานกลายเป็นซีรีส์สไตล์ยอดหญิงนักสู้ได้อย่างลงตัว อย่างผู้กำกับ ‘ฝูตงหยู’ ที่มีผลงานผ่านตาคอซีรีส์ชาวไทยมาแล้วจากซีรีส์แนวตำรวจสืบสวนสอบสวนลุ้นระทึก ‘ฮีโร่ ล่าทรชน’ (Being A Hero - 2022) นำแสดงโดยหวังอีป๋อและเฉินเสี่ยว รวมถึง ‘ฝ่าภารกิจพิชิตทรชน’ (The Thunder – 2019) แสดงโดย หวงจิ่งอวี๋ พระเอกกล้ามแน่นที่มาแท็คทีมมือเขียนบทโทรทัศน์อย่าง ‘จางถิง’ เจ้าของผลงานการเขียนบทภาพยนตร์‘มู่หลาน วีรสตรีโลกจารึก’ (Mulan - 2009) ที่มีจ้าวเหว่ยและเฉินคุน ดาราระดับเอเชียแสดงนำ และซีรีส์แนวสตาร์ทอัพ (Entrepreneurial Age - 2018) ที่ได้หวงเซวียนนักแสดงมือรางวัลแสดงนำ
ติดตามอีกรสชาติของซีรีส์ดราม่าสายอาชีพสุดเข้มข้นนี้ได้ทาง WeTV Thailand และ IQIYI WeTV Thailand จำนวน 36 ตอนจบ
ร้อยเรียงเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
mydramalist.com/
www.trueid.net/th-th
www.iq.com
wetv.vip/th
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์