เหตุผลที่ผู้ชมทั่วโลกตั้งความหวังกับซีรีส์แนวย้อนยุค ลี้ลับ ไซไฟ และดราม่าเรื่องล่าสุดจาก Netflix อย่าง “1899” (2022) ไว้ค่อนข้างสูง เพราะชื่อเสียงของผู้กำกับฯ แบเรน โบ โอการ์ (Baran bo Odar) และนักเขียนบทคู่บารมี ยานต์เฌ ฟรีเซ (Jantie Friese) ที่เคยสร้างความสับสนให้กับผู้ชมด้วยผลงานซีรีส์สัญชาติเยอรมันเรื่องแรกของ Netflix อย่าง ‘Dark’ (2017-2020) ทั้งสามซีซั่นมาแล้ว
กลับมาปีนี้ ทั้งสองสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้เหล่าสาวกอีกครั้ง ผ่านคดีลี้ลับซับซ้อนบนเรือโดยสารขนาดมหึมา สอดแทรกแนวคิดทางจิตวิทยา ศาสนา และปรัชญา ผ่านปมชีวิตของหลายตัวละคร แม้บางช่วงตอนจะชวนให้รู้สึกถึงแรงบันดาลใจจาก “The Matrix” และ “The Truman Show” อยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมรับว่า 1899 เป็นซีรีส์ 8 ตอน อาจทำให้ติดงอมแงมจนนอนไม่หลับ เพราะอยากไขปริศนาลับต่อไปเรื่อยๆ นั่นล่ะ
ปริศนา พีระมิด และการหายตัวลึกลับของผู้โดยสารนับพันชีวิต
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นบนเรือโดยสารสุดหรูนาม “Cerberus” (เซอร์เบอรัส) ตั้งชื่อตาม “สุนัขสามหัวที่เฝ้าประตูนรก” และทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของฮาเดสในเทพปกรณัมกรีก เรือที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติของผู้โดยสารและผู้อพยพ 1,423 คน ที่ต่างคนต่างฝันถึงชีวิตใหม่และโอกาสมากมายในอเมริกา
ท่ามกลางลมหนาวและความเวิ้งว้างของมหาสมุทรแอตแลนติกในปี 1899 ราว 13 ปีก่อนที่เรือไททานิคจะชนกับภูเขาน้ำแข็งและจมลงใต้มหาสมุทรแอตแลนติก เหตุการณ์วุ่นวายและเรื่องราวลี้ลับได้เริ่มต้นขึ้นหลังการปรากฎตัวของเรือโดยสารสุดหรู “Prometheus” (โพรมีเธียส หรือโพรมีธีอุส) ตั้งชื่อตามเทพไททันในปกรณัมกรีก มันเป็นเรือลำเดียวกับที่เคยหายไปเมื่อ 4 เดือนก่อน
เรื่องราวยิ่งลึกลับซับซ้อนมากขึ้นเมื่อโพรมีเธียสกลายเป็นเรือร้างและผู้โดยสารนับพันชีวิตหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้แค่เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งซึ่งถูกกักขังไว้เพียงลำพัง และชายปริศนาที่ว่ายน้ำข้ามทะเลมาขึ้นเรือเซอร์เบอรัสอย่างเงียบๆ โดยไม่มีใครรู้
ความน่าสนใจของซีรีส์ไม่ได้อยู่ที่การหายตัวไปของผู้โดยสารบนเรือโพรมีเธียสเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเด็กชายที่ไม่ยอมเอ่ยวาจามาพร้อมพีระมิดสุดประหลาด ชายหนุ่มลึกลับที่มีเครื่องมือสุดล้ำและแมลงเป็นไอเท็มลับประจำกาย แล้วยังเป็นแมลงแห่งโลกวิญญาณที่ทำให้ผู้โดยสารบนเรือค่อยๆ ล้มตายอย่างปริศนา
แต่ละตอน เปิดฉากด้วยปมชีวิตของเหล่าตัวละคร พร้อมกับเสียงปลุก “Wake up” ราวกับพวกเขากำลังจมอยู่กับเรื่องราวในฝันร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยมี “มอรา แฟลงคลิน” (รับบทโดย Emily Beecham) สาวสวยฉลาดปราดเปรื่องและมีความรู้ทางการแพทย์ (ในยุคสมัยที่ผู้หญิงยังไม่ได้รับความเท่าเทียม และการแพทย์เป็นเรื่องของผู้ชาย) มอร่าเดินทางไปกับเรือเซอร์เบอรัสเพื่อตามหาพี่ชายที่หายตัวไปบนเรือโพรมีเธียส เพราะเธอได้รับจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากพี่ชาย เช่นเดียวกับผู้โดยสารหลายคนที่ได้รับจดหมายแบบเดียวกัน
ชีวิตของมอร่าเต็มไปด้วยปริศนาพอๆ กับแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือ ราวกับทุกเรื่องราวจะเชื่อมต่อไปสู่จิ๊กซอว์ภาพใหญ่ที่ยากเกินกว่าจะจินตนาการ มอร่าตามไขคดีปริศนาลึกลับบนเรือทั้งสองลำร่วมกับกัปตันเรือ (รับบทโดย Andreas Pietschmann) ผู้ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณของลูกและเมียที่ตายยกครัวในกองเพลิง ซึ่งดูเหมือนเธอจะมีส่วนร่วมกับหลายเหตุการณ์ปริศนา จนทำให้มอร่ากลายเป็นตัวละครที่ซับซ้อนและน่าสงสัยสุดๆ
นอกจากนี้ ยังมีปมชีวิตของหลายตัวละครที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งสาวเอเชียในชุดกิโมโน คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่ไม่ได้รักกันเหมือนภาพที่แสดงออก แม่เล้าเจ้าเสน่ห์ในวงสังคมชั้นสูง คู่รักเพศเดียวกันที่สะท้อนความสัมพันธ์ของกลุ่ม LGBT หญิงสาวตั้งครรภ์กับครอบครัวสุดประหลาด รวมถึงตัวละครที่ต่างก็มีดาร์คไซต์และปมอดีตตามหลอกหลอน จนกลายเป็นความลี้ลับผสมดราม่าที่ชวนให้เราติดตามจนยากจะหลับตา เรียกว่าเตรียมวันว่างๆ สมองโล่งๆ แล้วนอนดู 1899 กันยาวๆ รวดเดียวจบจะสบายใจกว่า
ฉากชีวิตของตัวละคร สะท้อนความเหลื่อมล้ำและด้านดำมืดของจิตใจ
ไม่เพียงความลึกลับซับซ้อนของเหตุการณ์ต่างๆ บนเรือจะชวนให้เราคิดตามจนปวดขมับ เรื่องราวดราม่าในชีวิตของแต่ละตัวละครก็มีความซับซ้อนไม่แพ้กัน แล้วยังสอดแทรกความเหลื่อมล้ำทางสังคมเหมือนในหนังเรื่อง “ไททานิค” รวมถึงรักต่างชนชั้นของเพศเดียวกัน ที่ดูแล้วเร้าใจดุดันยิ่งกว่าฉากเลิฟซีนของแจ็คกับโรสซะอีก
อีกหนึ่งความน่าสนใจของ 1899 ยังอยู่ที่การสะท้อนภาพความไม่เท่าเทียมกันในสังคมระหว่างผู้ชายและผู้หญิง ตัวละครหลักที่เป็นผู้หญิงต่างก็มีบาดแผลในอดีตที่เกิดจากเพศวิถีและชนชั้น ทั้งโดนกดขี่ข่มเหง ดูถูกเหยียดหยาม บังคับขืนใจ แต่สุดท้ายพวกเธอก็กล้าที่จะลุกขึ้นมาแสดงความแข็งแกร่งในแบบของผู้หญิงได้อย่างสง่างาม
และเช่นเดียวกับสูตรสำเร็จของหนังแนวลี้ลับที่ต้องมีตัวละคร “ผู้นำศาสนา” เจ้าลัทธิเสียงแห่งพระเจ้าที่ปลุกระดมให้ผู้คนเข้าสู่สถานการณ์วุ่นวายจนบ้าคลั่ง ตัวแทนแห่งอำนาจ และคนรวยที่เล่นสนุกกับการปั่นหัวผู้คน แต่ซีรีส์ก็สอดแทรกบนสนทนาเชิงปรัชญา ศาสนา และจิตวิทยาเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ ผ่านมุมมองต่างชนชั้นของหลากหลายตัวละคร รวมถึงพ่อของมอร่าที่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลจิตเวช
นอกจากนี้ ซีรีส์ 1899 ยังสอดแทรกปริศนาสุดลี้ลับไว้ในทุกตอน ซึ่งหากสังเกตดีๆ จะเห็นความเชื่อมโยงกันของตัวเลข พีระมิด จดหมาย สัญลักษณ์สามเหลี่ยมตามที่ต่างๆ รายชื่อผู้โดยสารบนเรือทั้งสองลำ แม้แต่ความไม่เข้ากันของเรือสำราญกับบางสถานที่ เหมือนผู้กำกับฯ ค่อยๆ ปล่อยจิ๊กซอว์ทีละชิ้นๆ เพื่อให้ผู้ชมคิดตามกันเองว่า แท้จริงแล้วเหตุการณ์บนเรือลำนั้นเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1899 จริงหรือไม่? หรือทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นในหัวเราเอง
เอาล่ะ! พร้อมจะไขคดีปริศนาสุดลี้ลับไปกับซีรีส์ 1899 แล้วหรือยัง? ติดตามผลงานของผู้กำกับสายดาร์คสัญชาติเยอรมันได้แล้วทาง Netflix (ครบทั้ง 8 ตอน) บอกได้เลยว่า ดูจบแล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไมผู้ชมถึงอยากให้คลอดซีซั่นสองในเร็ววัน
ร้อยเรียงเรื่องราว :Rassarin
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
www.imdb.com/title/tt9319668/
www.gamesradar.com/1899-netflix-reviews-reactions-dark/
news.trenddetail.com/euro/246276.html
www.thedailybeast.com/obsessed/netflixs-newest-horror-series-1899-from-the-creators-of-dark-is-a-trippy-mindfck
www.nuevamujer.com/espectaculos/2022/10/28/1899-esto-es-todo-lo-que-debes-saber-sobre-la-proxima-serie-de-misterio-de-netflix/
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์
