xs
xsm
sm
md
lg

Review ซีรีส์ : “แสงประกายแห่งหัวใจ” ซีรีส์สร้างแรงบันดาลใจ สนุกเกินคาด “หลัวอวิ๋นซี-อู๋เชี่ยน” ถ่ายทอดชีวิตทีมกู้ภัย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์





เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ติดท็อป 10 WeTV Hot ของแอปฯ สตรีมมิ่ง WeTV Thailand ทันทีที่ออกฉายสัปดาห์แรก สำหรับ ‘แสงประกายแห่งหัวใจ’ (Light Chaser Rescue - 2022) ถือว่าเกินคาด เพราะปกติซีรีส์จีนแนวนี้มักไม่ค่อยถูกชะตากับคอซีรีส์ชาวไทยเท่าไร แต่นี่ไต่อันดับมาอย่างสม่ำเสมอ จะด้วยการหยิบยกพล็อตของทีมกู้ภัยมาผูกเรื่องได้อย่างสนุกสนาน หรือการโคจรพบกับของหลัวอวิ๋นซี VS อู๋เชี่ยน ก็ตามที

ว่ากันด้วยนักแสดงนำอย่าง ‘หลัวอวิ๋นซี’ พระเอกหล่อเป๊ะที่กวาดฐานผู้ชมไทยจนมีฐานแม่ยกเหนียวแน่นถล่มทลายจากบทนำจากซีรีส์ ‘ครึ่งทางรัก’ (Love Is Sweet - 2020), คำสาปรัก ชายาผมขาว (Princess Silver - 2019), มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (Ashes of Love – 2018) โดยเรื่องนี้เขารับบททนายผู้เชื่อมั่น เก่งกาจ ซึ่งบทแนวนี้กลายเป็นคาแรกเตอร์ประจำตัวของเขาไปแล้ว

แต่ที่พลิกบทน่าจะเป็นนางเอกของเรื่อง ‘อู๋เชี่ยน’ นางเอกหน้าแบ๊ว เห็นหน้าละอ่อนแบบนี้เธออายุแตะเลข 3 แล้ว มีผลงานซีรีส์ออกมาต่อเนื่อง แต่แฟนซีรีส์อาจติดตาในบทแนวสดใสจากซีรีส์โรแมนติกอย่าง ‘แฟนฉันมหัศจรรย์ทะลุมิติ’ (My Amazing Boyfriend - 2016), ฉันไม่ชอบทั้งโลก ฉันชอบแค่เธอคนเดียว (Le Coup de Foudre - 2019) และ ‘ซัมเมอร์ฤดูรัก’ (Discovery of Romance -2022)

แต่ใน ‘แสงประกายแห่งหัวใจ’ อู๋เชี่ยนพลิกแนวมารับบทศัลยแพทย์และเป็นอาสาสมัครทีมกู้ภัยนานาชาติที่มีความสามารถรอบตัว พูดน้อยจนเป็นเย็นชาจากปมในอดีตที่เสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก และเป็นคนเถรตรง ไม่ค่อยมีมนุษยสัมพันธ์ บ่อยครั้งเชื่อมั่นในการรักษาที่ถูกต้องจนข้ามหน้าผู้ใหญ่ในโรงพยาบาล เรียกว่าเป็นบทตรงข้ามกับหน้าใสๆ สุดแบ๊วของเธอแบบหน้ามือหลังมือ แต่เธอก็ทำถ่ายทอดบทนี้ออกมาได้กำลังดี โดยเฉพาะเมื่อมาชนกับคนเก่งเบอร์เดียวกันอย่างทนายหลัว เข้าซีนแต่ละทีฟาดกันได้ทุกรอบ ทั้งที่พูดกันไม่กี่คำ
สำหรับ ‘แสงประกายแห่งหัวใจ’ (Light Chaser Rescue - 2022) นับเป็นซีรีส์แนวสร้างแรงบันดาลใจที่หยิบยกเบื้องหลังการทำงานที่เต็มไปด้วยพลังแห่งการเสียสละของทีมอาสาสมัครกู้ภัยชื่อว่า ‘ไล่ตามแสง’ ดำเนินเรื่องผ่านตัวละครอย่างหลัวเปิ่น (หลัวอวิ๋นซี) ทนายความที่ไปตามหาหลัวหยวน (หยางอันฉี) น้องสาวผู้พิการทางการพูดและเพิ่งมารับหน้าที่ครูคนใหม่ในโรงเรียนเด็กพิเศษในโรงเรียนแห่งใหม่ แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อเกิดแผนดินไหว ทำให้หยวนหยวนติดอยู่ในซากตึกพร้อมกับนักเรียนคนหนึ่งที่เธอพยายามช่วยชีวิตไว้

ระหว่างการตามหาน้องสาวในเขตภัยพิบัติ หลัวเปิ่นได้สัมผัสการทำงานของชิงซานหัวหน้าสมาชิกหน่วยกู้ภัยอาสาสมัครเป็นครั้งแรก และได้พบกับจ่านเหยียน (อู๋เชี่ยน) หมออาสาเข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในพื้นที่ภัยพิบัติ จากที่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ไม่ค่อยจะกินเส้นกันเท่าไรนัก แต่จ่านเหยียนมองข้ามความขัดแย้งช่วยเหลือหยวนหยวนอย่างเต็มความสามารถ ด้วยหยวนหยวนเป็นเคสบาดเจ็บหนักถึงขั้นผ่าตัด

จากเหตุการณ์ครั้งนี้หลัวเปิ่นรู้สึกซาบซึ้งกับการเสียสละช่วยเหลือซึ่งกันและกันของผู้ประสบภัยและทีมกู้ภัย อีกทั้งรู้สึกนับถือในฝีมืออันเก่งกาจและจิตวิญญาณแห่งการเสียสละของจ่านเหยียน แต่ขณะเดียวกันก็กีดกันความรักของน้องสาวหยวนหยวนและสยงเฟย (สวีเส้าอิง) หนุ่มกู้ภัยที่ช่วยเหลือหยวนหยวนออกจากที่เกิดเหตุ เพราะไม่วางใจฐานะของสยงเฟย

จากนั้นด้วยหน้าที่การงานทำให้หลัวเปิ่นได้มาเข้าร่วมเป็นสมาชิกใหม่ให้ทีมอาสาสมัครกู้ภัย ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากแรงผลักดันของหลัวเปิ่นด้วยที่มีวัตถุประสงค์ให้บริษัทคู่ค้ากับบริษัทของเขาสนับสนุนการทำงานทีมอาสาสมัครกู้ภัยไล่ตามแสงด้วย โดยเขาเข้ามาฝึกพร้อมกับโจวหมิงหมิงและติงติงติง

เช่นเดียวกับหมอจ่านเหยียนที่ได้รับมอบหมายให้มาเป็นหน่วยสาธิตงานพยาบาลฉุกเฉินในการฝึกสุดโหดครั้งนี้ ภายใต้การฝึกของหัวหน้าชิงซานเพื่อเคี่ยวกรําให้สมาชิกกู้ภัยเหล่านี้ออกปฏิบัติการได้จริง ไม่ใช่แค่มาฝึกเล่นๆ ในที่สุดก็ได้มาประสบกับปฏิบัติการกู้ภัยครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดินไหว อัคคีภัย น้ำท่วม พายุ ผ่านประสบการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ช่วยเหลือชีวิตผู้คน จนกลายเป็นฮีโร่แห่งการกู้ภัย

ฟังเนื้อเรื่องอาจดูหนักหน่วง แต่บอกเลยว่าโทนเรื่องให้น้ำหนักเรื่องราวการรักษา ช่วยชีวิต เสี่ยงภัย ปมตัวละคร และความรักของทุกคู่ ผูกไว้อย่างลงตัว ไม่ได้ออกมาในเชิงสารคดีจนดูน่าเบื่อ ดำเนินเรื่องค่อนข้างเร็ว แค่เปิดฉากพระนางก็เจอกันเลย นอกจากมีฟาดเบาๆ แล้ว ยังโชว์เท่นางเอกไปอีก

เจอกันครั้งแรกพระเอกของเราก็ประทับใจในหัวใจฮีโร่ของนางเอกซะแล้ว



ช่วงแรกตัวเรื่องจะค่อยๆ เผยให้เห็นปมของตัวละครว่าสาเหตุที่จ่านเหยียนมาเป็นหมอและเป็นอาสาสมัคร เลือกทำงานหนัก เป็นคนเข้มงวด ไม่ผ่อนปรนให้ตัวเองและไม่ถูกกับพ่อ เพราะในวัยเด็กโทษพ่อที่ไม่สามารถช่วยแม่จากเหตุภัยพิบัติได้ทั้งที่เป็นกู้ภัย หรือการที่หลัวเปิ่นเป็นพี่ชายหวงน้องสาวแบบโอเว่อร์ จนกลายเป็นเจ้ากี้เจ้าการ เนื่องจากพ่อแม่เสียไปตั้งแต่พวกเขายังเล็กจากเหตุภัยพิบัติ ชีวิตของพวกเขาจึงมีกันแค่สองคนพี่น้อง นั่นทำให้ตอนที่น้องสาวติดอยู่ในซากปรักหักพัง ยิ่งไปจี้ปมในอดีตของเขามากขึ้น เมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือจากกู้ภัย ทำให้เขาประทับใจและเห็นความสำคัญของกู้ภัยมากยิ่งขึ้น จนตัวเขาเองค่อยๆ ก้าวเข้ามาเป็นอาสาสมัคร

ตัวเรื่องมีฉากภัยพิบัติ ปฏิบัติการช่วยเหลือ โปรดักชั่นตึกถล่ม ฉากบาดแผล การบาดเจ็บ แม้จะไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่ากับโปรดักชั่นภาพยนตร์ แต่ถ่ายทอดออกมาได้ขึงขัง จริงจัง สมจริง แต่ให้องค์ประกอบภาพและแสงสวย ดูแล้วรู้สึกเลยว่าผู้สร้างต้องการยกย่องและถ่ายทอดเรื่องราวอีกด้านการทำงานทีมอาสาสมัครกู้ภัยที่ไม่ค่อยมีให้เห็นเท่าไรนัก

หลายฉากรู้สึกได้ถึงอินเนอร์ความมุ่งมั่น ตั้งใจเสียสละ ดูแล้วเกิดแรงฮึด พลังใจ ยิ่งฉากเสี่ยงภัยช่วยชีวิตทำเอาลุ้นระทึกไปกับตัวละครแทบทุกเคส และหลายฉากเรียกน้ำตาซึ้งซึมกันเลยทีเดียว บางฉากมีความคล้ายกับซีรีส์เกาหลีดังระดับโลกอย่าง ‘ชีวิตเพื่อชาติ รักนี้เพื่อเธอ’ (Descendants of the sun – 2018) แต่เรื่องนี้ให้อารมณ์ความเป็นดราม่าและขยี้ปมครอบครัวมากกว่า

แค่ฉากช่วยชีวิตหยวนหยวนก็ระทึกแล้ว



นอกจากการช่วยชีวิตแล้ว ยังมีประเด็นการเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยหลังการสูญเสียด้วย ผ่านหลายตัวละครอย่างเล่อเล่อ เด็กนักเรียนตัวน้อยที่หยวนหยวนช่วยชีวิตไว้ ถึงเขาจะรอดมาได้ แต่ต้องสูญเสียแม่และครอบครัว จนกลายเป็นเด็กปิดกั้นตัวเอง ร้อนถึงหลัวเปิ่นต้องขอให้จ่านเหยียนหาวิธีบำบัดจิตใจให้กับเล่อเล่อ และกลายมาเป็นสถานการณ์ให้ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้นอีกด้วย

ไม่ได้มีแค่มุมดราม่าเท่านั้น งานละมุนก็มีมา เพราะเรื่องนี้มีคู่พระนางให้ลุ้นถึง 3 คู่ (เอาเวลาที่ไหนไปจีบกันเนี่ย) นอกจากคู่หลักทนายหลัวเปิ่นกับหมอจ่านเหยียน งานนี้ทนายหลัวใช้ลูกตื้อเอางานมาอ้างตลอดบวกกับจับจุดความเป็นห่วงคนไข้ของจ่านเหยียนมาเป็นสะพาน เพื่อเข้าถึงใจคุณหมอผู้เย็นชา ปาดหน้าหมอหนุ่มที่ทำงานเดียวกับจ่านเหยียน ซึ่งอุตส่าห์จีบหมอจ่านมาตั้งนานแต่ไปไม่ถึงไหน

ฉากละมุนเล็กๆ ของหมอจ่านและทนายหลัว



ส่วนคู่สองเป็นคู่ของหยวนหยวนและสยงเฟย โดยหยวนหยวนประทับใจในความเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือ และขยันขันแข็งของสยงเฟย รู้จักจากการที่สยงเฟยเป็นพนักงานส่งขนมาที่โรงเรียนที่หยวนหยวนทำงาน และเคยช่วยนักเรียนของเธอจากอาการอาหารติดคอ แต่ดูเหมือนว่าสยงเฟยจะไม่ผ่านมาตรฐานหลัวเปิ่น พี่ชายของหยวนหยวน ถึงขั้นที่หลัวเปิ่นห้ามสยงเฟยไม่ให้ติดต่อกับน้องสาวของเขา ซึ่งสยงเฟยพยายามทำตาม เพราะคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับครูหยวนหยวน ผู้น่ารักจิตใจดีราวกับนางฟ้า แต่ดูเหมือนหยวนหยวนจะยอมเป็นเด็กดื้อแหกกฎพี่ชาย ต้องมาดูว่าคุณครูสาวที่ไม่สามารถพูดได้ จะเป็นสายรุกให้หนุ่มกู้ภัยยอมรับหัวใจตัวเองได้อย่างไร?

คู่สามเป็นโจวหมิงหมิง ลูกประธานบริษัทไม่เอาไหน แต่ประทับใจความเป็นฮีโร่ของกู้ภัย และติงติงติง นักเขียนการ์ตูน ญาติผู้น้องของจ่านเหยียนและหลานของหัวหน้าทีมกู้ภัยนี้ คู่นี้มาแนวคู่กัดเจอกันครั้งแรกก็ต่อปากต่อคำชนิดไม่มีใครยอมใคร

เจอกันครั้งแรกในเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยโจวหมิงหมิงเป็นสายเปย์มาบริจาคของ ส่วนติงติงติงรอดจากเหตุภัยพิบัติโดยไม่บาดเจ็บและต้องการหารถกลับเข้าเมืองเร่งด่วน มาเจอรถขนของโจวหมิงหมิง แต่โจวหมิงหมิงไม่ยอมให้เธอกลับ เพราะต้องการอยู่ช่วยพื้นที่ภัยพิบัติ ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีความสามารถช่วยอะไรได้เท่าไร กลายเป็นเจอกันทีไรก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันไปตลอดทั้งเรื่อง แถมยังต้องมาร่วมทีมฝึกเป็นอาสากู้ภัยรุ่นเดียวกันอีกต่างหาก ทั้งที่สภาพทั้งสองดูแล้วไม่น่ารอด แล้วไปปิ๊งกันตอนไหนต้องตามไปเผือก

ตามไปชมกันได้ทาง WeTV Thailand ฉายมาครึ่งทางแล้ว ตัวซีรีส์วางแผน 40 ตอนจบ

ร้อยเรียงเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
mydramalist.com/
https://wetv.vip/th

ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/

#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์

หลัวอวิ๋นซี รับบท หลัวเปิ่น

อู๋เชี่ยน รับบท จ่านเหยียน

หยางอันฉี รับบท หลัวหยวน ครูสาวผู้พิการด้านการพูด

สวีเส้าอิง รับบท สยงเฟย หนุ่มนักกู้ภัย

ติงติงติง นักเขียนการ์ตูน ญาติผู้น้องของหมอจ่านเหยียน

โจวหมิงหมิง ลูกประธานบริษัท ใจเสาะ กลัวเลือด แต่ประทับใจการทำงานกู้ภัย

กว่าหมอต่านจะยิ้มได้แบบนี้ เล่นเอาทนายหลัวเหนื่อยเหมือนกัน




























กำลังโหลดความคิดเห็น