xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลังฉากและประติมากรรมโขน “สะกดทัพ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เบื้องหลังฉากและประติมากรรมโขน “สะกดทัพ”

ก่อนที่การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ประจำปี 2565 อันงดงามตระการตาจะโลดแล่นบนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถได้เปิดโอกาสสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมความคืบหน้างานฉากและประติมากรรม ประกอบการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน "สะกดทัพ”โดยมีอาจารย์สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างประติมากรรม และเครื่องประกอบฉากร่วมพาชมพร้อมเปิดเผยเบื้องหลังการจัดทำหุ่นยักษ์หนุมานแปลงกาย และงานจิตรกรรมฉาก พร้อมด้วยอาจารย์วิชัย รักชาติ ผู้ดูแลการเขียนฉาก ณ อาคารเรียน-รู้-เรื่อง-โขน ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็ว ๆ นี้

อาจารย์สุดสาคร ชายเสม ผู้ออกแบบและควบคุมการสร้างประติมากรรม และเครื่องประกอบฉาก การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน “สะกดทัพ” กล่าวถึงฉากไฮไลท์ที่แตกต่างจากเดิมเนื่องจากเป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1ได้แก่ ฉากหนุมานต้องแผลงฤทธิ์ แปลงร่างใหญ่ยักษ์ 4 พักตร์ 8 กร สูงเทียมฟ้า เคลื่อนไหวด้วยกลไกทันสมัยรวมทั้งฉากที่เคยสร้างความประทับใจอื่นๆ ซึ่งจะมีการปรับเพิ่มเติมเทคนิคให้มีความน่าตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น เช่น ฉากหนุมานอมพลับพลาที่จะโชว์ความประณีตอลังการของการสร้างสรรค์ฉากที่ชวนตื่นตาตื่นใจมากยิ่งขึ้น

“การแสดงโขนครั้งนี้ท้ายเรื่องมีฉากไฮไลท์ที่เพิ่มเติมจากตอน ‘ศึกมัยราพณ์’ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ที่เคยแสดงเมื่อ 10 ปีก่อนคือ ฉากที่หนุมานแปลงกายขนาดใหญ่ ใช้มือจับแมลงภู่ในหุบเขาไร้รักแล้วขยี้จนตาย ไมยราพที่ฝากดวงใจไว้ในแมลงภู่ก็ขาดใจตายในที่สุด จึงมีการสร้างสรรค์ประติมากรรมหนุมานแปลงกาย 4 พักตร์8 กรขนาดใหญ่สูงถึง 8 เมตร พร้อมมีเทคนิคพิเศษในการออกแบบกลไกให้เคลื่อนไหวได้เพื่อให้เป็นไปตามบทพระราชนิพนธ์รวมทั้งมีประติมากรรมที่เป็นที่จดจำและนำกลับคืนสู่เวทีอีกครั้งอย่างฉากหนุมานอมพลับพลา ขนาดใหญ่ สูง 8.50 เมตร ที่นำโครงสร้างเดิมนำกลับมาปรับปรุงใหม่ให้อลังการยิ่งขึ้น

“ตลอดจนในส่วนของงานจิตรกรรมฉากที่ออกแบบและเขียนขึ้นใหม่เกือบทั้งหมด เนื่องจากฉากเดิมมีการชำรุด ทรุดโทรมตามกาลเวลาโดยมีทีมงานเขียนฉากของอาจารย์ วิชัย รักชาติ ที่ระดมช่างเขียนฝีมือดีมาช่วยกันสร้างสรรค์ฉากให้สวยสมบูรณ์แบบเช่น ฉากวิมานของเทวดา นางฟ้าที่งดงามตระการตา และฉากม่านพระ ที่ต้องออกแบบและทำขึ้นใหม่แทนฉากเดิมที่ทอด้วยพรมของอาจารย์จักรพันธุ์ โปษยกฤตซึ่งชำรุดเสียหายไม่พร้อมใช้งานในการแสดงครั้งนี้เป็นต้น”

ด้าน อาจารย์วิชัย รักชาติ ผู้ดูแลการเขียนฉาก นำทีมนักศึกษาที่สำเร็จแล้วและยังศึกษาอยู่จากวิทยาลัยเพาะช่างมหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ และช่างเขียนจิตรกรรมกรรมฝาผนังที่มีความชำนาญ ร่วมระดมสรรพกำลังเพื่อสร้างสรรค์จิตรกรรมฉากในการแสดงโขน ตอน “สะกดทัพ” ให้งดงามตระการตาอย่างสมบูรณ์แบบพร้อมเล่าถึงเบื้องหลังในการทำงาน ว่า “การสร้างจิตรกรรมฉากต้องตีความจากวรรณกรรม โดยมีต้นแบบของภาพจิตรกรรมเรื่องรามเกียรติ์มาจากระเบียงคดวัดพระแก้ว, ลายรดน้ำ, ภาพหินแกะสลักที่วัดโพธิ์ ซึ่งเมื่อนำมาตีความก็จะต้องนำมาออกแบบใหม่ในรูปแบบของโขนมูลนิธิฯ ที่ยังคงรักษาจารีตในรูปแบบศิลปกรรมไทย เช่น การเขียนสีอย่างเทคนิคลายกำมะลอ เทคนิคการเขียนลายรดน้ำ เพื่อถ่ายทอดความงามของศิลปกรรมไทยที่นำเสนอผ่านการแสดงโขนด้วย

“โดยจิตรกรรมฉากต่าง ๆ จะเขียนให้สอดรับกับประติมากรรม อย่างฉากภูเขาถล่ม ในด่านเขากระทบกันซึ่งเป็นหนึ่งในด่านที่หนุมานต้องฝ่าฟัน โดยใส่จินตนาการบวกเข้าไปให้เป็นภาพภูเขาไฟถล่ม มีไฟปะทุขึ้นมา เพื่อให้สอดรับกับเนื้อเรื่องและประติมากรรมหรือฉากดงตาล ก็จะสอดรับกับประติมากรรมไฮไลท์คือ หนุมานเนรมิตกายใหญ่ยักษ์ เพื่อมาจับแมลงภู่ที่ซ่อนดวงใจไมยราพไว้ในหุบเขาไร้รักรวมทั้งฉากม่านพระ ที่เขียนขึ้นมาใหม่ทดแทนของเดิมที่ชำรุด โดยเปลี่ยนเทคนิคจากการปัก เป็นการเขียนขึ้นใหม่ อย่างเทคนิคลายรดน้ำโดยมีองค์ประกอบเป็นรูปพระพุทธเจ้าเป็นประธานและเทพเจ้าต่าง ๆ ที่มีเนื้อหาอยู่ในวรรณกรรมรามเกียรติ์ เช่น พระนารายณ์ พระอิศวร พระพรหม พระอินทร์ พระพิฆเนศ พระวิษณุกรรม พระอาทิตย์ พระจันทร์ โดยอ.สุดสาคร เป็นผู้ออกแบบม่านพระและควบคุมการจัดสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดการจัดแสดงโขนโดยในม่านพระนี้มีการสอดแทรกปริศนาธรรมเข้าไว้ด้วย”

สำหรับความยากง่ายในการสร้างสรรค์แต่ละฉาก อาจารย์วิชัย กล่าวเสริมว่า “หากเป็นภาพที่มีลวดลายเป็นแบบแผน ก็ต้องใช้ช่างเขียนที่มีทักษะด้านจิตรกรรมไทย และต้องมีความรู้ด้านการเขียนแบบประเพณี รวมทั้งมีความเข้าใจในเรื่องนาฏยลักษณ์คือ ท่าทางการยืน เดิน นั่ง อันเป็นลักษณะเฉพาะตามแบบแผนนาฏศิลป์ไทยนอกจากนี้ยังมีการผสมผสานทั้งการเขียนแบบศิลปะไทยและสากลเข้าด้วยกัน เพื่อสื่อความหมายให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ด้วย”

นอกจากความงดงามของงานประติมากรรมและจิตรกรรมฉากแล้ว ในส่วนของเครื่องโขนก็มีการออกแบบให้มีความวิจิตรตระการตายิ่งขึ้นทั้งพัสตราภรณ์ (เครื่องแต่งกายโขน) และถนิมพิมพาภรณ์ (เครื่องประดับตกแต่ง)จัดทำโดยช่างฝีมือรุ่นใหม่ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ที่มีทักษะฝีมือจากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากว่า 10 ปี โดยครั้งนี้มีการสร้างเครื่องแต่งกายของไมยราพและตัวโขนอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ อีกกว่า 100 ชุดเพื่อทำให้พัสตราภรณ์ที่ปรากฏแก่สายตาผู้ชมบนเวที งดงามสมการรอคอย

การแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ 2565ตอน “สะกดทัพ”กำหนดจัดแสดงระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึง 5ธันวาคม2565ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยสามารถซื้อบัตรเข้าชมได้ที่ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา หรือ www.thaiticketmajor.comบัตรราคา1,820 / 1,520 / 1,020 / 820 / 620 บาท รอบนักเรียน นักศึกษา บัตรราคา 200บาท (หยุดพักการแสดงทุกวันจันทร์และอังคาร)ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก Khon Performance โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ









อาจารย์สุดสาคร ชายเสม

อาจารย์วิชัย รักชาติ
































กำลังโหลดความคิดเห็น