ซีรีส์ K-zombie เรื่องใหม่ทาง Netflix “มัธยมซอมบี้-All of Us Are Dead” กลายเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในเวลานี้ แถมยังได้กระแสตอบรับในแง่ดีงามอีกต่างหาก
ซีรีส์สร้างจากเว็บตูนในชื่อเดียวกันทาง naver และปล่อยออกมาให้ได้ได้ชมทั้งหมด 12 ตอนรวด เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งในไทยเสิร์ฟทั้ง บรรยายไทย และ พากย์ไทย โดยเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายที่ต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสซอมบี้อย่างโดดเดี่ยว พวกเขาจะต้องฝ่าฟันอันตรายและเหตุการณ์อันไม่คาดคิด เพื่อมีชีวิตรอดออกไปให้ได้
ก่อนการเปิดตัว ซีรีส์ได้รับความคาดหวังสูงจากหลายๆ ฝ่าย เนื่องจากได้รับการเปิดเผยว่าเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ดีที่สุด ในบรรดาออริจินัลซีรีส์เกาหลีทาง Netflix ทั้ง “Squid Game” และ “Hellbound”
วันแรกที่ซีรีส์ปล่อยออกมา ชาวเน็ตที่ได้ดูต่างก็กล่าวขวัญกันว่าเรื่องนี้น่ากลัวกว่าภาพยนตร์ซอมบี้เรื่องดัง “Train to Busan” และซีรีส์ซอมบี้อีกเรื่องของ Netflix นั่นคือ “Kingdom” อีกด้วย
ชาวเน็ตกล่าวกันว่าฉากที่ซอมบี้ปรากฎตัวออกมานั้นดูโหดร้ายสยดสยอง โดยเฉพาะฉากในโรงอาหาร ตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 นั้น น่าตกใจที่สุด
ในขณะเดียวกัน พวกเขาชื่นชมว่าการยิงซอมบี้เป็นกลุ่มและการบิดตัวของซอมบี้นั้นดูมีชีวิตชีวากว่าหนังซอมบี้เกาหลีเรื่องก่อนๆ เป็นอย่างมาก
ผู้ชมบางคนชื่นชมการพัฒนาอย่างรวดเร็วของ All of Us Are Dead ความเห็นของพวกเขาคือตั้งแต่ตอนแรกเรื่องราวก็ดำเนินไปอย่างตื่นเต้นและดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ผู้ชมที่ดู “All of Us Are Dead” ยังยกย่องทักษะการแสดงที่น่าขนลุกของนักแสดงในเรื่องอีกด้วย
ทั้ง อียูมี (Lee Yoo Mi - รับบทเป็น อีนายอน) ที่เคยปรากฏตัวใน Squid Game รวมถึง โจอีฮยอน (Jo Yi Hyun – รับบทเป็น ชเวนัมรา) และ โรมน (Romon - รับบทเป็น อีซูฮยอก) ต่างก็ได้รับเสียงชื่นชมว่าพวกเขาสวมบทตัวละครได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“All of Us Are Dead” ได้รับความสนใจอย่างมากในต่างประเทศเช่นกัน ใน Rotten Tomatoes เว็บไซต์รวมคำวิจารณ์ของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ชาวอเมริกันชื่อดัง ก็วิจารณ์เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้ด้วย เช่น “มันเหมือนกับความ 'เผ็ดร้อน' ของวัยรุ่นที่มีปัญหาทางสังคม” และ “การเล่าเรื่องที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ฉันดูทั้ง 12 ตอนยาวรวดเดียวได้เลย” ฯลฯ
ในทางกลับกัน บางคนก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สะดวกใจที่จะดู เพราะระดับความโหดร้ายนั้นค่อนข้างสูง และยังมีฉากความรุนแรงในโรงเรียนมากมายอีกด้วย
มาลุ้นว่า “All of Us Are Dead” จะสามารถทำลายสถิติที่ “Squid Game” ทำเอาไว้ทั่วโลกได้หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป
cr : www.insight.co.kr/news/379963