xs
xsm
sm
md
lg

• #XYแซ่บEP10 : อัปเดตข่าว “จางเจ๋อฮั่น” เปรี้ยงจากซีรีส์วาย (เกือบ) ตายเพราะความปัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


จางเจ๋อฮั่น เปิดใจเป็นครั้งแรก กับ หลี่เซวียเจิ้ง แม้จะมาเฉพาะเสียง ก็ทำให้แฟนๆ ใจชื้น
Hello Everyone, 大家好!dàjiā hǎo. (ต้า เจีย ห่าว) สวัสดีค่ะ ทุกคน

เป็นอย่างไรบ้างคะชาววายทั้งหลาย...ได้ไปฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ไหนกันมาบ้าง ส่วนพี่เคทนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ 2022 ด้วยการไปส่องข่าวความเคลื่อนไหววงการวายมาอัพเดทให้แฟนๆ สายวายเช่นเคยค่ะ

และข่าวเมาท์..อุ๊บ...ข่าวอัปเดตประเด็นร้อนที่พี่เคทนำมาเล่าครั้งนี้ บอกได้เลยว่าร้อนสุดๆ และเชื่อว่าชาววายทั้งหลาย เฝ้าติดตามเรื่องราวของดารานายเอกซีรีส์วายคนนี้อยู่อย่างแน่นอน

ใช่ค่ะ!!! พี่เคทกำลังกล่าวถึง จางเจ๋อฮั่น หรือ โจวจื่อซู จากเรื่องนักรบพเนจรสุดขอบฟ้า
เชื่อว่าสายวายต้องรู้จัก จางเจ๋อฮั่น ดาราหนุ่มรูปหล่อที่ตกเป็นกระแสอย่างหนักทั้งในประเทศจีนและทั่วโลก ในปี 2021 ที่ผ่านมากันดีอยู่แล้ว แต่พี่เคทขอทบทวนอีกรอบเผื่อเพื่อนๆ ที่เพิ่งเข้ามาติดตาม

“จางเจ๋อฮั่น” (Zhang Zhehan) เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม ค.ศ. 1991 อายุ 30 ปี เป็นนักแสดงและนักร้องชาวจีน เขาเริ่มชีวิตการแสดงครั้งแรกในปี 2010 ในซีรีส์แนวดราม่าเรื่อง Why Love You และต่อมาก็ได้รับบทบาทสำคัญอีกหลายเรื่อง เช่น “หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ” (The Legend of Yunxi - 2018) ในบทองค์ชายหลงเฟยเย่ พระเอกของเรื่อง และซีรีส์เรื่อง “กรุ่นรักกลิ่นบุปฝา” (The Blooms At Ruyi Pavilion - 2020) ในบทสวีจิ้นอ๋อง ก่อนจะมาดังเปรี้ยงในปี 2021 จากซีรีส์วายเรื่อง นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า (Word Of Honor) ในบทของ โจวจื่อซู ประกบกับนักแสดงหนุ่มรุ่นน้อง กงจวิ้น ในบท เวินเค่อสิง



พลิกผันเพียงข้ามคืน...หลังแจ้งเกิด “นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า”

หลังซีรีส์ นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า จบลง ชีวิตของนักแสดงหนุ่มจางเจ๋อฮั่น ก็แปรเปลี่ยนเป็นดาวจรัสแสงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขากลายเป็นขวัญใจของสาวกวายทั่วโลกแทบจะในทันที ไม่มีใครไม่รู้จักจางเจ๋อฮั่นในนาทีนี้ และส่งผลให้เขามีงานโฆษณามากมายหลายสิบแบรนด์หลั่งไหลเข้ามาหาอย่างต่อเนื่อง พูดได้ว่า ปาดหน้าดาราที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เก่าไปหลายคนทีเดียว ทั้งนี้หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า จางเจ๋อฮั่นมีผลงานมาหลายเรื่อง แล้วฝีมือการแสดงและการร้องเพลงอยู่ในระดับแถวหน้ามานานพอสมควร แต่กลับโดดเด่นชนิดเปรี้ยงสุด ๆ จากการเล่นซีรีส์วายเพียงเรื่องเดียว!

แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น….ในเดือนสิงหาคม 2021 ภาพถ่ายของจางเจ๋อฮั่นที่เคยโพสต์ไว้ใน IG เมื่อปี 2018 ช่วงเวลาที่เขาไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อร่วมงานแต่งงานของเพื่อนคนหนึ่ง ได้ถูกคนนำมาเผยแพร่ทางเวยป๋อ เป็นภาพที่เขาถ่ายกับสถานที่อันเป็นจุดอ่อนไหวต่อความรู้สึกของชาวจีนอย่างมาก นั่นคือ ศาลบรรพชน ยาซูกูนิ (Yasukuni Shrine) ที่เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยสถานที่แห่งนี้เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญและสวยงามที่นักท่องเที่ยวส่วนมากไปแวะถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ส่วนประวัติของศาลยาซูกูนินั้นพี่เคทไม่ขอเล่านะคะ เพราะค่อนข้างมีประวัติยาวนานพอสมควร เอาเป็นว่า เป็นศาลที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงความสูญเสียจากการรบระหว่างทหารญี่ปุ่นและทหารจีนในอดีตก็แล้วกัน

นอกจากนี้ยังมีคนปล่อยภาพที่จางเจ๋อฮั่นเคยถ่ายไว้ในงานแต่งของเพื่อนครั้งนั้นอีกภาพ ซึ่งในภาพนี้ เป็นภาพที่เขาถ่ายร่วมกับหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมาทราบว่าคือนางไต้เว่ย (Dai Wei) โดยมีคนออกมาโพสต์ว่า เธอคนนี้เป็นพวกหัวรุนแรงและแอนตี้รัฐบาลจีน งานนี้ทำให้จางเจ๋อฮั่น ตกอยู่ในสถานการณ์อันวิกฤตอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะภาพถ่ายทั้งสองที่ถูกปล่อยออกมาล้วนไม่เป็นผลดีต่อชีวิตการงานของจางเจ๋อฮั่นทั้งนั้น

และทันทีที่เกิดกระแสของภาพที่หลุดออกไป (หรือมีคนจงใจปล่อยออกไป?) จางเจ๋อฮั่นก็รีบออกมาโพสต์ขอโทษและแสดงความเสียใจในทันที โดยเนื้อหาที่เขาโพสต์ลงก็เป็นคำขอโทษเรื่องที่เขายังขาดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาติ และแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และยินดีน้อมรับคำตำหนิจากทุกฝ่ายอย่างจริงใจ

แต่ความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นไปแล้ว และยากจะแก้ไข เพราะประเด็นที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่เป็นประเด็นระดับชาติ ซ้ำยังถูกทำให้เป็นประเด็นที่ปลุกกระแสคนรักชาติขึ้นมาเพื่อโจมตีเขาอย่างรวดเร็วราวกับไฟลามทุ่ง แน่นอนว่า จางเจ๋อฮั่นถูกบุคคลบางกลุ่มตราหน้าว่าเป็นคนไม่รักชาติ ทำให้เขาเสียใจมาก และไม่สามารถออกมาทำกิจกรรมใด ๆ นอกบ้านได้เลยนับจากมีข่าว

สินค้ากว่ายี่สิบแบรนด์ถอนสัญญาออกทันที

หลังจากเกิดกรณีภาพหลุด ทำให้จางเจ๋อฮั่นถูกแบนจากสินค้าที่เป็นพรีเซนเตอร์อยู่ และถูกแบนจาก “สมาคมศิลปะการแสดงแห่งชาติจีน” (China Association of Performing Arts หรือ CAPA) อีกด้วย แน่นอนว่าสำหรับประเทศจีน ในกรณีที่นักแสดงซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์มีปัญหาใดๆ ก็ตามที่อาจส่งผลให้สินค้ามีปัญหา เจ้าของสินค้าจะรีบทำการตัดไฟแต่ต้นลมด้วยการยกเลิกสัญญาทันที และภายในหนึ่งสัปดาห์สัญญา งานพรีเซนเตอร์สินค้าของจางเจ๋อฮั่นร่วมยี่สิบกว่าแบรนด์ต่างพร้อมใจกันยกเลิกสัญญากับเขาทันที

ผลกระทบที่ได้รับถึงขั้นจบชีวิตในวงการบันเทิง

ภายในไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ไม่ใช่เพียงแค่งานพรีเซนเตอร์ถูกถอดจนหมด แม้แต่งานในวงการบันเทิงของจางเจ๋อฮั่น ก็แทบจะเรียกได้ว่าจบสิ้นแล้วเช่นกัน

ช่วงเวลานั้น ผลงานการแสดงของจางเจ๋อฮั่น เรื่อง นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า และ ลิขิตรักปีศาจสาว (Demon girl - 2016) ถูกนำออกจากแพลตฟอร์มต่างๆ ทันที รวมถึงซีรีส์ที่เคยออกฉายก็ถูกทำการแก้ไขด้วยการลบภาพของเขาออกไป เรียกว่า ทั้งผลงานการแสดง รายการวาไรตี้โชว์ และผลงานเพลงทั้งหลายล้วนได้รับผลกระทบทั้งหมด

กลุ่มไซเบอร์ซ้ำเติมบูลลี่หนักมาก (Cyber Bully)

มีข่าวว่าจางเจ๋อฮั่นประสบกับชะตากรรมที่น่ารันทดอย่างยิ่งนับแต่เกิดประเด็นภาพถ่ายที่ประเทศญี่ปุ่นถูกปล่อยออกมา เริ่มตั้งแต่

•แอคเคาท์ทางโซเชียลมีเดียถูกปิด
•ถูกห้ามไม่ให้เผยแพร่ภาพใบหน้าของเขาทาง เว็บไซต์ บิลิบิลิ (Bilibili) และอีกหลายแพลตฟอร์ม
•คลิปวิดีโอเนื้อหาเชิงบวกของเขาถูกลบออก หรือไม่ก็ถูกทำให้ค้นหาไม่พบ ในเว็บไซต์บิลิบิลิ (Bilibili) แต่หากเป็นเนื้อหาเชิงลบ จะยังคงมีอยู่
•ถูกหลายคนประนาม โดยเรียกเขาว่า สายลับ (spy) หรือแม้แต่ คนทรยศ (traitor)
•หากมีใครอยากจะโพสต์แก้ตัวหรือสนับสนุนให้กำลังใจเขา โพสต์หรือคลิปเหล่านั้นจะถูกลบหรือถูกทำให้หายไปจากอินเทอร์เน็ตในที่สุด

สวรรค์มีตา ฟ้าส่งเทวดามาช่วยจางเจ๋อฮั่นในที่สุด

หลังจากมีข่าวเรื่องการแบนดาราเซเลบจำนวน 88 คน ไม่ให้ออกมาทำการไลฟ์สดทางออนไลน์ ซึ่งรวมถึงจางเจ๋อฮั่นด้วย ทำให้ ลุงหลี่ หรือ “หลี่เซวียเจิ้ง” (Li Xuezheng) โปรดิวเซอร์และผู้กำกับชื่อดัง ที่คร่ำหวอดในวงการบันเทิงจีนมานานนับสิบปี ออกมาโพสต์ข้อความที่สะเทือนไปทั้งวงการต่อกรณีแบนจางเจ๋อฮั่นไม่เป็นธรรม

หลี่เซวียเจิ้งออกมาโพสต์ข้อความ ถามกลับไปแบบลอย ๆ ลงในโซเชียลมีเดียว่า การจะแบนดาราที่ทำเรื่องผิดศีลธรรมหรือผิดต่อกฏหมายบ้านเมืองนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะดาราที่ทำผิดกฏหมายอย่างกรณี คริสวู ซึ่งถูกตัดสินว่ามีความผิด และมีการตรวจสอบด้วยกระบวนการทางกฏหมายแล้วนั้นการถูกแบนผลงานจึงเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
แต่ในกรณีของจางเจ๋อฮั่น ที่ยังไม่มีการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีทางกฎหมาย หรือยังไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดใด ๆ ทั้งสิ้นมาก่อน ทำไมจึงถูกแบนโดยสมาคมศิลปะการแสดงแห่งชาติจีน (China Association of Performing Arts หรือ CAPA) เสียแล้ว และยังฝากถามไปยังสมาคมฯ อีกด้วยว่า มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินลงโทษแบนจางเจ๋อฮั่น เขายืนยันว่า ยินดีจะให้ความช่วยเหลือทางกฏหมายจางเจ๋อฮั่นอย่างเต็มที่อีกด้วย เรียกว่า ทันทีที่เขาโพสต์ข้อความนี้ลงไป ก็เรียกกระแสฮือฮาจากคนทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพราะนับแต่เกิดกรณีจางเจ๋อฮั่น ก็ยังไม่มีใครกล้าออกตัวได้แรงเท่ากับลุงหลี่มาก่อนเลย

เปิดหลักฐานเด็ด มั่นใจจางเจ๋อฮั่น (อาจ) ถูกให้ร้าย

หลังจากที่หลี่เซวียเจิ้งออกมาแสดงความจำนงว่าจะให้การช่วยเหลือทางกฏหมายกับจางเจ๋อฮั่นเพื่อต่อสู้คืนความบริสุทธิ์ให้เขา ก็มีชาวเน็ตหลายคนส่งข้อมูลที่เป็นหลักฐานมาให้กับลุงหลี่หลายชิ้น เพื่อพิสูจน์ว่า จางเจ๋อฮั่นถูกใส่ร้าย ตัวอย่างเช่น มีคนส่งหลักฐานว่า มีคนไปทำการแก้ไขข้อมูลในเว็บไซต์ข้อมูลส่วนบุคคล (Baidu encyclopedia) ของนางไต้เว่ย ผู้หญิงที่จางเจ๋อฮั่นไปถ่ายรูปด้วยในงานแต่งเพื่อนที่ประเทศญี่ปุ่น โดยก่อนวันที่ 13 สิงหาคม (วันที่ 13 สิงหาคมคือวันที่จางเจ๋อฮั่นถูกปล่อยภาพต้นเรื่องออกมา) ทั้งรูปและประวัติของเธอไม่มีข้อมูลว่าเป็นพวกต่อต้านรัฐบาล แต่หลังจากวันที่ 14 สิงหาคมไปแล้ว พบว่าข้อมูลของเธอถูกแก้ไขเป็นผู้ต่อต้านรัฐบาลจีน การกระทำเช่นนี้บอกชัดอยู่แล้วว่า เป็นการจัดฉากเพื่อให้ร้ายกันนั่นเอง!

นอกจากนี้ หลี่เซวียเจิ้งยังได้โพสต์เนื้อหาจดหมายที่แม่ของจางเจ๋อฮั่นเขียนระบายความรู้สึกออกมาให้อ่านอีกด้วย โดยเนื้อหาบางส่วนเขียนว่า

“หลานตัวน้อยของจางเจ๋อฮั่นในวัยเพียงสี่ขวบไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าจางเจ๋อฮั่น และครั้งหนึ่งเขาพูดว่า ลุงฮั่นเป็นคนไม่ดี และเมื่อจางเจ๋อฮั่นได้ยินประโยคนี้จากปากของหลานรัก เขาถึงกับวิ่งเข้าไปร้องไห้ที่ห้องนอนของเขาทันที ปกติลูกชายฉันเป็นคนเข้มแข็งมาก ๆ แต่ในตอนนี้ เขากลับอ่อนแออย่างที่สุด..”

ตำรวจปักกิ่งรับคำร้องจากจางเจ๋อฮั่นแล้ว

ก่อนหน้านั้น จางเจ๋อฮั่นพยายามจะยื่นคำร้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมกับหลักฐานต่างๆ ให้กับทางการตามหน่วยงานของรัฐบาลจีนในหลายๆ ช่องทาง แต่ก็ประสบกับความล้มเหลวทุกครั้ง แต่ด้วยการสนับสนุน และการให้ความช่วยเหลือทางด้านกฏหมายจากหลี่เซวียเจิ้ง ล่าสุดในวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา หลี่เซวียเจิ้งได้โพสต์คลิปแจ้งข่าวดีของจางเจ๋อฮั่นต่อสาธารณชนว่า “ตำรวจปักกิ่ง ยอมรับคำร้องเพื่อทำการสืบสวนผู้ที่อยู่เบื้องหลังในกรณีภาพหลุดจนนำมาซึ่งความเสียหายในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัวของจางเจ๋อฮั่นแล้ว”

โดยในคลิปวิดีโอที่โพสต์ลงในโซเชียล หลี่เซวียเจิ้งได้เล่าถึงความทุกข์ของจางเจ๋อฮั่นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ภายหลังจากการที่เขาถูกพิพากษาจากสมาคมศิลปะการแสดงแห่งชาติ และประชาชนบางส่วนไปแล้ว โดยที่ยังไม่มีการสอบสวนข้อเท็จจริงใด ๆ ทั้งสิ้น “คุณคิดดูสิ แม้แต่การจะพูดชื่อหรือพิมพ์ชื่อจางเจ๋อฮั่นยังกลายเป็นเรื่องต้องห้าม คุณคิดว่ามันยุติธรรมสำหรับเขาแล้วหรือไง” หลี่เซวียเจิ้งกล่าวในคลิป

และในท้ายคลิปยังกล่าวชื่นชมและขอบคุณตำรวจปักกิ่งที่ยอมรับคำร้องของจางเจ๋อฮั่นในครั้งนี้ โดยเขากล่าวว่า “ผมขอขอบคุณ และชื่นชมตำรวจปักกิ่งเป็นอย่างสูงที่ยอมรับทำคดีของจางเจ๋อฮั่นในครั้งนี้...โดยตำรวจปักกิ่งยังถามอีกว่า ทำไมไม่มายื่นเรื่องให้เร็วกว่านี้ล่ะ..ผมก็เลยตอบไปว่า เพราะผมเห็นว่ากระแสโซเชียลรุนแรงจนผมไม่กล้ามาแจ้งก่อนหน้านี้”

หลังพายุใหญ่ ฟ้าสดใสกำลังรออยู่ (?)

ตลอดระยะเวลาที่จางเจ๋อฮั่นตกเป็นข่าว เขาไม่มีโอกาสได้ให้สัมภาษณ์ หรือปรากฏตัวในสื่อไหนเลย นั่นเพราะไม่มีสื่อไหนกล้าสัมภาษณ์นั่นเอง และแม้ว่าแฟนคลับของจางเจ๋อฮั่นจะคิดถึงเขามากเพียงใด หรือตัวเขาเองต้องการออกมาพูดอธิบายถึงเรื่องราวทั้งหมดมากเพียงไหน แต่สิ่งที่เขาก็ทำได้คือหลบอยู่ในเงามืดเพียงเท่านั้น

และข่าวล่าสุด วันที่ 1 มกราคม 2022 หลี่เซวียเจิ้งได้ปล่อยคลิปเสียงการให้สัมภาษณ์ระหว่างเขากับจางเจ๋อฮั่นออกมา โดยในเนื้อหานั้นก็เป็นการสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยหลี่เซวียเจิ้งได้พูดออกมาชัดเจนเลยว่าเขามั่นใจในความบริสุทธิ์ของจางเจ๋อฮั่น แต่ก็ยังอยากได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจากปากของจางเจ๋อฮั่นอีกครั้ง และยังแจ้งในโพสต์อีกด้วยว่า ถ้าใครที่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็น ”หลักฐานจริง” ว่าจางเจ๋อฮั่นเคยไปเที่ยวที่ศาลเจ้ายาซูกูนิจริง ให้มารับรางวัล หนึ่งล้านหยวนไปได้เลย

ส่วนประเด็นคำถามจากหลี่เซวียเจิ้งที่อยู่ในคลิปก็เช่น คุณได้ไปที่ศาลเจ้ายาซูกูนิหรือไม่ จางเจ๋อฮั่นตอบว่า ไม่เคยไป เขากับเพื่อนตั้งใจไปเพียงเที่ยวชมดอกซากุระ ซึ่งกำหนดการทั้งหมดถูกจัดขึ้นโดยเพื่อนของเขา และยังยืนยันหนักแน่นว่า เขาไม่เคยไปที่ศาลเจ้ายาซูกูนิอย่างแน่นอน แม้จะมีข่าวปลอมออกมาทั่วอินเทอร์เน็ตที่ให้ร้ายว่าเขาได้ไปที่ศาลแห่งนั้น แต่เขาเชื่อว่าสุดท้ายความจริงก็จะปรากฏออกมา (ซึ่งต่อมามีคนนำหลักฐานมายืนยันว่าสถานที่ที่จางเจ๋อฮั่นไปถ่ายรูปนั้น เป็นเพียงสำนักงานในอาคารศาลเท่านั้นเอง)

หลี่เซวียเจิ้งได้เล่าถึงการให้ความช่วยเหลือจางเจ๋อฮั่นเอาไว้ในคลิปว่า การที่จางเจ๋อฮั่นไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วถูกคนให้ร้ายว่าเป็นคนทรยศต่อประเทศชาตินั้น เป็นสิ่งที่เขาทนไม่ได้ และนั่นคือเหตุผลที่เขาออกมาช่วยเหลือจางเจ๋อฮั่นในครั้งนี้ ส่วนกรณีที่จางเจ๋อฮั่นมีรูปถ่ายคู่กับนางไต้เว่ยซึ่งหลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นพวกต่อต้านรัฐบาลจีนนั้น จนป่านนี้ก็ยังไม่ใครออกมายืนยันเลยว่า เธอเคยพูดหรือแสดงตัวว่าต่อต้านรัฐบาลจีนจริง ๆ เลยสักครั้ง

ดังนั้นเพื่อความกระจ่าง หลี่เซวียเจิ้งจึงถามจางเจ๋อฮั่นขึ้นว่าทำไมจางเจ๋อฮั่นถึงได้ไปถ่ายรูปกับนางไต้เว่ยได้ จางเจ๋อฮั่นเล่าให้ฟังว่า ตอนที่อยู่ในงานแต่ง เพื่อนของเขาคนหนึ่งบอกกับเขาว่า ผู้หญิงคนนั้น (นางไต้เว่ย) เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และแนะนำให้เขาไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วยกันสักหน่อย

“คุณก็รู้ว่า ชาวจีนเรามีชื่อเรื่องของการให้เกียรติสุภาพสตรีและผู้อาวุโส ผมก็เลยไปถ่ายรูปกับเธอเพื่อเป็นที่ระลึกเท่านั้น ผมไม่เคยรู้จักเธอเป็นการส่วนตัวมาก่อน แล้วก็ไม่มีข้อมูลในการติดต่อกันเป็นการส่วนตัวอีกด้วย”

ก่อนจบการสัมภาษณ์ จางเจ๋อฮั่นเล่าถึงความรู้สึกถึงตอนที่เกิดเรื่องใหม่ ๆ ไว้ดังนี้ค่ะ

“ในตอนที่เกิดเรื่องขึ้น ผมรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก มีแต่ข่าวลือร้าย ๆ ทางอินเทอร์เน็ตเต็มไปหมด แม้แต่พ่อผมที่เสียไปแล้ว ก็ยังถูกคนด่าว่าและดูถูก ผมกลัวจนไม่กล้าออกไปข้างนอกเลย..”

“ผมเคยคิดว่า บางทีถ้าผมตายไปเสีย อาจจะเป็นการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้..”

“เคยมีคนส่งพวงหรีดมาให้ผม บางคนก็เอารูปผมไปใส่ในใบมรณบัตร พวกเขาบางคนด่าและสาปแช่งผม สาปแช่งพ่อแม่ของผม ครอบครัวผมถูกหน่วยงานที่ทำงานอยู่ตรวจสอบว่ามีใครมีเครือญาติที่เป็นชาวญี่ปุ่นบ้างไหม แต่ผมบอกเลยว่า ครอบครัวผมทั้งหมดล้วนเป็นคนจีนทั้งนั้น..”

และประโยคสุดท้ายที่จางเจ๋อฮั่นฝากไว้ก็คือ “ผมหวังว่า กฏหมายจะช่วยพิสูจน์ให้ผมพ้นมลทิล ผมเชื่อมั่นในกฏหมายของจีน กฏหมายจะช่วยพิสูจน์ว่าผมบริสุทธิ์”

ค่ะ ทั้งหมดคือสรุปเหตุการณ์กรณีจางเจ๋อฮั่นถูกแบนจากวงการวงการบันเทิงจีน จนถึงสถานะการณ์ล่าสุดที่มีการให้สัมภาษณ์ทางเสียงกับคุณหลี่เซวียเจิ้ง ซึ่งพี่เคท รวบรวมมาพอให้เข้าใจถึงสถานการณ์ล่าสุดสำหรับแฟนคลับของจางเจ๋อฮั่นทุกคนค่ะ

การเป็นคนมีชื่อเสียงนั้นมีทั้งผลบวกและลบ เมื่อก้าวเข้าสู่โลกมายาแล้วก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเข้มแข็งมากแค่ไหน อดทนต่อเรื่องราวร้ายๆ ต่างๆ ที่พร้อมจะเกิดขึ้นกับคุณได้มากเพียงใด ใครจะไปนึกล่ะคะว่าดาราที่เพิ่งได้รับคำชื่นชมและประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงจากซีรีส์วายเรื่องดังระดับโลก จนกลายเป็นดาวรุ่งที่เรืองแสงสุดขีดอย่างจางเจ๋อฮั่น จะกลายเป็นดาวร่วงในชั่วข้ามคืน

พี่เคทได้ข่าวว่ามีซีรีส์ที่จางเจ๋อฮั่นถ่ายไว้ และรอออกฉายอีกหลายเรื่อง หวังว่าไม่นานจากนี้ เราจะได้ชมผลงานของเขากันนะคะ ตอนนี้เรามาเอาใจช่วยจางเจ๋อฮั่นให้กลับมาเป็นดาวประดับใจและประดับฟ้าวงการบันเทิงจีนไปด้วยกันนะคะ

แล้วพบกันใหม่นะคะ

เคทอี้ฟาง

บทสัมภาษณ์เปิดใจ "จางเจ๋อฮั่น"




เครดิตเรื่องและภาพ :
Twitter : YOUKU
Youtube : Chinese Star News
What’sonweibo.com
thestar.com.my
South morning post china
Weibo.cn
inf.news
min.news
Youtube : DooAraiGunU

ผลงานกระหึ่มโลก Word of Honor



ผลงานกระหึ่มโลก Word of Honor

โจวซื่อจู

โจวซื่อจู

จางเจ๋อฮั่น กับ กงจวิ้น คู่จิ้น ฟินไม่มีวันลืม คอนเสิร์ตซีรีส์ Word of Honor

จางเจ๋อฮั่น กับ กงจวิ้น คู่จิ้น ฟินไม่มีวันลืม คอนเสิร์ตซีรีส์ Word of Honor

ผลงานสร้างชื่อ “กรุ่นรักกลิ่นบุปฝา”

ผลงานสร้างชื่ออีกเรื่อง “หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ”











ขึ้นชื่อในเรื่องสายแฟ คนหนึ่ง



ขึ้นปกแมกกาซีนแฟชั่น ทุกเล่ม

พรีเซ็นเตอร์แน่นๆ ในตอนนั้น ถูกถอนจนหมด





งานร้องเพลง ที่ทุกคนยอมรับในน้ำเสียงเป็นเลิศ

ทริปญี่ปุ่น ที่นำมาสู่กระแสร้อน จนถูกแบน

จางเจ๋อฮั่น ในงานแต่ง ปี 2018

ข่าวโยงเป็นใยแมงมุม วันนี้ ความจริงใกล้กระจ่าง

ลุงหลี่ หรือ หรือ “หลี่เซวียเจิ้ง” โปรดิวเซอร์และผู้กำกับชื่อดัง (ขวา)

ถ่ายภาพกับ ไต้เว่ย ในทริปงานแต่ง





ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใส


กำลังโหลดความคิดเห็น