Hello Everyone, 大家好!dàjiāhǎo. (ต้า เจีย ห่าว) สวัสดีค่ะ ทุกคน
มาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปี 2021พี่เคท ขออัพเดทข่าวสารวงการวายข้ามปี ด้วยซีรีส์วายสุดปัง ดังตั้งแต่ยังไม่ออกอากาศ 3 เรื่อง 3 รสชาติ ที่ต้องมารอลุ้นกันว่า ในปี 2022 เรื่องใดจะเผยแพร่ออกมาให้ชาววายได้ชื่นอกชื่นใจกันบ้างหรือเปล่า?
ซึ่งซีรีส์ทั้ง 3 เรื่องนี้ ถ่ายทอดมาจากนิยายวายที่ออกมาให้อ่านกันแล้ว ระหว่างรอซีรีส์ช่วงวันหยุดยาวแบบนี้ สาววายคนไหนขี้เกียจออกจากบ้าน ก็หานิยายมาอ่านไปพลางๆ ก่อนได้เลยนะคะ มาค่ะมาดูกันว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
สวรรค์ประทานพร (Heaven Official’s Blessing)
ซีรีส์เรื่องนี้อยู่ระหว่างถ่ายทำ โดยดัดแปลงมาจากนิยายวายชื่อดัง เรื่อง Tian Guan Ci Fu (TGCF) หรือ Heaven Official’s Blessing ผลงานจากปลายปากกาของผู้แต่งคนเดียวกันกับนิยายวายจีนชื่อดังเรื่อง Mo Dao Zu Shi หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ The Untamed นั่นคือ โม่เซี่ยงถงซิ่วค่ะ ซึ่งทางผู้สร้างซีรีส์ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Heaven Official’s Blessing เป็น Eternal Faith
สำหรับการถ่ายทำนั้นเริ่มเมื่อประมาณกลางปี 2021 โดยก่อนการถ่ายทำนั้นซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความสนใจเกี่ยวกับการการคัดเลือกนักแสดงบทนำของเรื่องเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นซีรีส์ที่คนจำนวนมากรอคอยและในที่สุดทีมผู้สร้างก็ได้ประกาศตัวนักแสดงหลักออกมาคือ “จางหลิงเฮ่อ” และ “จ๋ายเซียวเหวิน”
จางหลิงเฮ่อ รับบทพระเอกของเรื่อง มีชื่อว่า “ฮวาเฉิง” หรือ “ซานหลาง” ซึ่งเป็นราชาผีรูปงาม มีอำนาจและอิทธิฤทธิ์สูงส่ง จนเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วทั้งแดนสวรรค์และนรก แต่ไม่ว่าเขาจะเก่งกาจและน่าเกรงกลัวมากเพียงใด ทั้งหัวใจและชีวิตของเขากลับแอบมอบให้กับบุรุษเพียงผู้เดียว นั่นก็คือ องค์ชายจากแดนสวรรค์ เซี่ยเหลียน
จางหลิงเฮ่อ เกิดวันที่ 30 ธันวาคม 1997 อายุ 24 ปี ชื่อเล่น เสี่ยวจาง ศึกษาอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยหนานจิง ผ่านเดบิวท์ในปี 2020 ด้วยผลงานเรื่อง ซูฉือ ใต้เท้าสาวยอดนักสืบ (Maiden Holmes) และเรื่อง เมื่อเธอมีฉันและฉันมีเธอ (Flourish in Time)ที่เพิ่งออกฉายในปี 2021 และเพราะเป็นนักแสดงหน้าใหม่นี่เอง ทำให้หลายคนมองว่าเขายังไม่เหมาะที่จะรับบทสำคัญในซีรีส์วายเรื่องนี้
แต่ความเห็นพี่เคท คิดว่าควรรอให้ซีรีส์ออกฉายก่อนจะดีกว่า เมื่อทุกคนได้ชมซีรีส์แล้ว ถึงตอนนั้นการติชมก็ยังไม่สายใช่ไหมล่ะคะ
จ๋ายเซียวเหวิน รับบท “องค์ชายเซี่ยเหลียน” เทพบุตรรูปงามจิตใจดี แต่เพราะบังเอิญทำผิดกฎสวรรค์ จึงถูกส่งมายังโลกมนุษย์ถึงสามครั้ง โดยในครั้งสุดท้าย เขาถูกส่งมายังโลกมนุษย์เพื่อสะสมแต้มบุญ ชดใช้ความเสียหายที่สร้างไว้แก่สรวงสวรรค์ และในครั้งนี้เองที่ได้มาพบกับราชาผีรูปงาม ผู้ซึ่งต่อมาได้ครอบครองหัวใจของเขาไปหมดทั้งดวง
จ๋ายเซียวเหวิน อายุ 22 ปี เกิดวันที่ 28 พฤษภาคม 1999 เริ่มต้นชีวิตในวงการบันเทิงจากสายไอดอล โดยเขาเข้าร่วมการแข่งรายการโชว์ที่ชื่อว่า Chuang 2019 หรือ Produce Camp 2019 และต่อมาได้เดบิวท์เป็นศิลปินในวง R1SE
เรื่องนี้ มีนิยายฉบับแปลไทยวางขายแล้ว ใครอยากอ่านเล่มแปลก็หามาอ่านได้ค่ะ ออกมาแล้ว 3 เล่ม จากทั้งหมด 8 เล่ม โดยสำนักพิมพ์ Sense T และยังมีอนิเมะออกฉายแล้วด้วยทาง Netflix ลองติดตามดูได้ค่ะ ตอนนี้แว่วว่ามีสองซีซั่นแล้ว
ส่วนตัวของซีรีส์นั้นยังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ และเนื่องจากสวรรค์ประทานพร เป็นซีรีส์วายที่สร้างขึ้นในช่วงเวลาที่ประเทศจีนกำลังทำการแบน หรือควบคุมการเผยแพร่การออกอากาศซีรีส์แนวชายรักชาย ดังนั้น จึงมีข่าวเรื่องของการปรับเปลี่ยนบทและเปลี่ยนเนื้อหา ได้ทันท่วงทีก่อนที่จะทำการส่งตรวจเพื่อขอใบอนุญาต ซึ่งต่างจากซีรีส์หลายเรื่องที่สร้างจบแล้ว แต่ต้องถูกสั่งให้นำกลับไปแก้ไขใหม่ เพื่อจะได้ผ่านกองเซ็นเซอร์และได้รับใบอนุญาตออกฉายได้
ถึงกระนั้น ข่าวคราวที่เป็นกระแสจนกระหึ่มไปทั่ววงการก็หลุดออกมาว่า ผู้กำกับ คือ เฉินเจียหลิน (Chan Ka Lam) ที่เคยเป็นผู้กำกับเรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร มาก่อนขอถอนตัวออกกลางคัน เนื่องมาจากไม่พอใจมาตรการต่างๆ ที่ทางการจีนออกมาเพื่อควบคุมการสร้างซีรีส์แนวชายรักชายในช่วงนี้ ซึ่งทำให้การทำงานของเขาประสบปัญหายุ่งยากจนไม่สามารถทำงานได้ตามที่ตั้งใจไว้ เลยจำต้องถอนตัว ประกอบกับมีข่าวว่าเขาเองก็ไปรับงานกำกับซีรีส์เรื่องอื่นอยู่ด้วย
ส่วนจะได้ใครมาแทนผู้กำกับเฉินเจียหลินนั้น ก็ยังไม่เป็นที่เปิดเผยเช่นกัน หรืออาจเป็นแค่ข่าวเม้าท์ก็เป็นได้! ก็แหม ผู้กำกับระดับนี้ หากจะถอนตัวจริง ก็คงต้องมีการพูดคุยกันยาวเชียวค่ะ ส่วนเรื่องเท็จจริงที่เกิดนั้นจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครออกมาฟันธงแน่ชัด แต่ที่แน่ ๆ ระหว่างการถ่ายทำนั้น ก็มีหลายข่าวที่ปล่อยออกมายืนยันว่า กองถ่ายมีการพักการถ่ายทำไประยะหนึ่งจริง จากนั้นก็เริ่มกลับมาถ่ายทำได้เช่นเดิม เลยคาดกันว่า คงเป็นช่วงที่ขาดผู้กำกับไปนั่นเองแหล่ะ
และยังมีกระแสเมาท์ที่เป็นข่าวออกมาอีก ก็คือ ดารานำในเรื่องทั้ง จางหลิงเฮ่อ และจ๋ายเซียวเหวิน ถูกกระแสโจมตีหนักเอาการ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มถ่าย ว่าไม่เหมาะสมกับบทที่ได้รับ แถมยังมีคนโพสต์บูลลี่เรื่องหน้าตา ว่าไม่ดีพอสำหรับบทนำในเรื่อง
อีกประเด็นหนึ่งที่กลายเป็นกระแสหนักสุด คือเรื่องภาพหลุด (หรือจงใจปล่อยก็ไม่ทราบแน่) ของกองถ่ายสวรรค์ประทานพรหลุดออกมาทางโซเซียลมีเดีย เป็นภาพของนักแสดงหลักทั้งสองคน ที่อยู่ในเสื้อผ้ารุ่มร่าม หลวมโคร่ง สภาพการแต่งหน้าก็ดูไม่สวยงามจนดูตลก ทำให้มีหลายคนเอาไปโพสต์ล้อเลียนเป็นจำนวนมาก จนล่าสุดได้ข่าวว่ามีการเปลี่ยนแปลงทีมคอสตูมและทีมแต่งหน้าไปเรียบร้อยแล้ว
เรื่องราวของสวรรค์ประทานพรนี้ เป็นเรื่องราวของความรักของเทพและมาร ที่ดูแล้วไม่น่าจะเป็นไปได้ โดยเรื่องนี้เกิดจากพระเอกของเรื่องที่เฝ้ารอคอยและติดตามเฝ้าดูบุรุษที่ตนหลงรักมาถึง 800 ปี และเมื่อฝ่ายหนึ่งเป็นเทพจากสรวงสวรรค์และอีกฝ่ายเป็นราชาแห่งผี เรื่องราวจึงสนุกเข้มข้นน่าติดตามเป็นอย่างมาก มาร่วมกันค้นหาคำตอบว่า สาเหตุของอาการคลั่งรักในตัวนายเอกคืออะไร และอดีตอันลึกลับของราชามารผู้นี้มีอะไรซ่อนอยู่กันแน่ เหตุใดเขาจึงได้ยินยอมทุ่มเททุกอย่าง ทั้งชีวิตและจิตใจให้กับองค์ชายเซี่ยเหลียนได้ถึงเพียงนี้ รับรองว่า ฝีมือการเขียนของแม่โม่ จะไม่ทำให้พวกเราผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะหลายคนเชื่อว่า ผลงานจากเรื่อง ปรมาจารย์ลัทธิมาร นั้นเป็นสิ่งการันตีความสนุกให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนโอกาสที่จะได้ชมซีรีส์เมื่อไหร่นั้น ก็แอบลุ้นว่าจะออกมาให้ชมในปี 2022 หรือ จนกว่าทางจีนจะยอมผ่อนปรนการควบคุมซีรีส์วายค่ะ
Immortality
เรื่องนี้ยังไม่มีชื่อไทยเป็นทางการค่ะ เป็นซีรีส์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายวายผลงานของนักเขียนชื่อดัง เรียกกันย่อ ๆ ว่า “มีทบัน” (ย่อมาจาก MeatBun Doesn’t Eat Meat) หรือ โร่วเปาปู้ซือโร่ว เรื่อง "ฮัสกี้หน้าโง่กับอาจารย์แมวขาวของเขา" (The Husky and His White Cat Shizun) เมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์ก็ถูกเปลี่ยนชื่อมาเป็น Immortality เรื่องนี้เป็นซีรีส์ที่คนรอคอยกันมากที่สุดเรื่องหนึ่งเช่นกัน เรียกว่าเป็นซีรีส์วายฟอร์มยักษ์ที่ Tencent Video ออกมาประกาศว่าเป็นซีรีส์วายที่ทุ่มทุนสร้างสูงสุดในประวัติศาสตร์การสร้างซีรีส์ของบริษัทเลยทีเดียว
ซีรีส์เรื่องนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่าง Tencent Penguin Pictures และ Otters Studio กำกับโดย เหอซู่เพ่ย (He Shupei) โดยใช้ทีมงาน CGI (Computer-Generated Imagery) และ การสร้างโลกเหมือนนิยาย (World Building) จากทีมซีรีส์เรื่อง มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (Ashes of Love) ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมซีรีส์ไปทั่วโลก ใช้เวลาในการถ่ายทำ ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน จนถึง 23 กันยายน 2020 รวมระยะเวลาประมาณ 5 เดือน ที่โรงถ่ายเหิงเตี้ยน
Immortality หรือ ฮัสกี้หน้าโง่กับอาจารย์แมวขาวของเขา (The Husky and His White Cat Shizun) เรื่องนี้ได้สองดาราดังของวงการบันเทิงจีนมารับบทหลัก ซึ่งนับว่าไม่ง่ายนักที่ดาราระดับแนวหน้าระดับนี้จะยอมมาเล่นซีรีส์วาย และเป็นที่ทราบกันดีว่า นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาค่อนข้างเข้มข้นทั้งดราม่าและบทเลิฟซีน ดังนั้นแฟนนิยายต่างคาดหวังกับการคัดเลือกทีมงานผู้สร้างและนักแสดงนำ ซึ่งเมื่อประกาศชื่อออกมา ก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ต้องผิดหวังค่ะ เพราะได้ดาราระดับท็อปอย่าง "หลัวอวิ๋นซี และเฉินเฟยอวี่" มารับบทนายเอกและพระเอกของเรื่อง
หลัวอวิ๋นซี รับบท "ซือจุนหรือฉู่หว่านหนิง" (นายเอก) อาจารย์หนุ่มผู้เย็นชาและเย่อหยิ่งจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ ด้วยความซื่อตรงและกล้าหาญทำให้เขาเป็นผู้อาวุโสผู้เกรียงไกรและคอยปกป้องโลกมนุษย์จากผองภัยของปีศาจทั้งหลาย ด้วยภาพลักษณ์ที่เย็นชาเช่นนี้เอง ทำให้ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความเปล่าเปลี่ยวและอ้างว้าง ทั้งชีวิตของเขาล้วนพึ่งพาตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ทั้งชีวิตไม่เคยได้รับความรักจากใครจนได้มาพบกับพระเอกของเรื่อง นั่นก็คือ ลูกศิษย์น้อยนามว่า โม่หราน ผู้ซึ่งต่อมาจะเกี่ยวกันไปทั้งรักและแค้นถึงสองชาติสองภพ
หลัวอวิ๋นซี หรือ ลีโอ หลัว เกิดวันที่ 28 กรกฎาคม 1988 อายุ 33 ปี เป็นนักแสดงมากประสบการณ์ เขาเคยเป็นนักเต้นบัลเล่ต์และครูสอนบัลเล่ต์มาก่อน นอกจากอาชีพนักแสดงแล้ว เขายังเป็นนักร้องที่มีผลงานออกมาเรื่อย ๆ แถมยังเคยร้องเพลงประกอบซีรีส์มาแล้วหลายเรื่องอีกด้วย ผลงานเพลงประกอบซีรีส์ที่หลายคนจำได้ก็คือเพลง Fate Begins ในเรื่อง ไฟผลาญจันทร์ (And the Winner is Love) ลองไปหาฟังกันได้ค่ะ รับรองจะต้องหลงรักเสียงเพราะ ๆ ซึ้ง ๆ ของลีโออย่างแน่นอน ในส่วนของผลงานด้านการแสดง บทบาทที่สร้างชื่อให้เขาดังไปทั่วโลกก็คือบทของ ลุ่นอวี้ “เซียนปลาน้อย” จากซีรีส์เรื่อง มธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (Ashes of Love) ที่แม้เขาจะรับบทพระรอง แต่ด้วยฝีมือการแสดงที่โดดเด่นทำให้ผู้คนต่างเทใจให้กับตัวร้ายผู้น่าสงสารเช่นเขาอย่างถล่มทลาย ถึงกับมีผู้ชมออกมาตั้งทีมพระรองเพื่อสนับสนุนกันอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียว และนับจากนั้น ชื่อของ หลัวอวิ๋นซี ก็ไม่เคยได้รับบทรองอีกเลยจ้า ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ลองไปค้นหาภาพของลีโอที่แสดงในซีรีส์เรื่องนี้ดูก็จะเข้าใจแจ่มแจ้งกันเลยค่ะ
เฉินเฟยอวี่ หรือ อาเธอร์ เฉิน รับบท "โม่หราน" ซึ่งพระเอกของเรื่อง และเนื่องจากบทบาทที่ค่อนข้างหนักหน่วงในนิยายต้นฉบับ นักอ่านจำนวนมากต่างตั้งความหวังกับนักแสดงที่จะมารับบทโม่หรานเป็นอย่างมาก เพราะบทของโม่หรานนั้นเป็นบทที่มีวิวัฒนาการค่อนข้างซับซ้อน ทั้งทางด้านอารมณ์ จิตใจและร่างกาย เพราะเขาต้องรับบทถึงสองชาติสองภพ เริ่มตั้งแต่บทลูกศิษย์วัย 15 ปี บทเจ้าแห่งมารท่าเซียนจวิน และบทหนุ่มใหญ่หรือปรมาจารย์โม่จงซือ ในวัยสามสิบกว่า และเมื่อเฉินเฟยอวี่ได้รับการประกาศชื่อให้รับบทสำคัญนี้ จึงมีกระแสตอบรับทั้งบวกและลบตามมามากมายในทันที และเมื่อการถ่ายทำจบลง เขาก็ได้พิสูจน์ฝีมือให้ทีมงานได้เห็นอย่างน่าประทับใจและยอมรับว่าฝีมือการแสดงของเฉินเฟยอวี่นั้นยอดเยี่ยม สมกับที่ได้ฉายาลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ ค่ะ ที่บอกแบบนี้ก็เพราะมีหลายคนที่ยังไม่ทราบว่า เฉินเฟยอวี่คือลูกชายของผู้กำกับชื่อดัง เฉินข่ายเกอและอดีตดาราสาวเฉินหงนั่นเอง
เฉินเฟยอวี่ เกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 9 เมษายน 2000 อายุ 21 ปี เพิ่งยื่นเรื่องเปลี่ยนสัญชาติจากอเมริกันมาเป็นสัญชาติจีนในเดือน กรกฎาคม 2021 ที่ผ่านมานี้เอง เขามีความสามารถทั้งด้านดนตรีและการร้องเพลง ส่วนประวัติด้านผลงานการแสดงนั้นก็นับว่าไม่น้อยเลยค่ะ เพราะเฉินเฟยอวี่เข้าวงการแต่เด็ก แต่บทที่สร้างชื่อที่สุดคงเป็นบท “นายน้อยหนิงเชวีย” ในซีรีส์แนวย้อนยุคเรื่อง สยบฟ้าพิชิตปฐพี ภาค 1 (Ever Night)
และเป็นน่าเสียดายที่มาตรการควบคุมวงการบันเทิงของทางการจีนส่งผลให้ต้องระงับออกอากาศซีรีส์ประเภทชายรักชาย สาววายทั้งหลายเลยไม่สามารถชมศักยภาพของนักแสดงหนุ่มรูปหล่อคนนี้จากซีรีส์นี้ได้ แต่ไม่เป็นไรนะคะ เพราะเขาก็ยังมีผลงานอื่นออกมาเรื่อยๆ ส่วนใครที่อยากชมบทบาทโม่หรานในเรื่อง Immortality ก็อดใจกันไปก่อนเชื่อว่าเมื่อได้ชมซีรีส์เรื่องนี้แล้ว จะไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะมีภาพหลุด และมีบทสัมภาษณ์ของเขาที่ออกมาเล่าถึงการถ่ายทำให้ฟังว่า เต็มไปด้วยความสนุกและความท้าทายของชีวิต การเป็นนักแสดงของเขามากแค่ไหน
ซึ่งภาพหลุดในวันที่ปิดกองของเฉินเฟยอวี่ ที่เดินออกมาแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงข้างถนน ขณะที่เขาเดินฝ่าสายฝนที่ตกโปรยปรายกลับไปยังโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับกองถ่าย โดยเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ในภายหลังถึงความรู้สึกในวันสุดท้ายของการถ่ายทำว่า “ผมรู้สึกภูมิใจและใจหายมากเมื่อต้องจากทุกคนไป”นั่นก็เพราะเขาอินกับบทที่ค่อนข้างหนักในเรื่องนี้ที่ต้องถ่ายทำยาวนานต่อเนื่องนั่นเอง เลยทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับบทละครที่ได้รับรวมถึงทีมงานในกองถ่ายทุกคนนั่นเอง
ฮัสกี้และอาจารย์แมวขาวของเขา (The Husky and His White Cat Shizun) เป็นเรื่องราวความรักและความแค้น ที่เกิดจากการเข้าใจผิดระหว่างอาจารย์กับศิษย์ จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิดไว้ ตอนนี้มีนิยายฉบับแปลไทยออกมาแล้ว โดยสำนักพิมพ์ Rose ใครสนใจก็ติดตามหามาอ่านกันได้นะคะ มีทั้งหมด 10 เล่มจบ น่าเสียดายที่ตัวซีรีส์ถูกดองไว้ ทั้งที่ได้กำหนดวันออกอากาศเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะต้องออกฉายในปี 2021 หลังจากที่ถูกกองกบว.ของจีนสั่งให้กลับไปแก้บทถึงสองรอบ เพราะเนื้อหาที่ค่อนข้างล่อแหลม และมีฉากรักดุเดือดแบบชัดเจนค่อนข้างเยอะ แม้ว่าทางทีมผู้สร้างจะมีการเปลี่ยนเพศของตัวละครในเรื่องไปแล้วตัวหนึ่ง ก็ยังไม่รอดอยู่ดี (ตัวละครที่ถูกเปลี่ยนเพศนั้นก็คือตัวร้ายที่เป็นหลักของเรื่องที่เดิมเป็นเพศชาย แต่ผู้กำกับตัดสินใจเปลี่ยนให้ตัวละครนี้มาเป็นเพศหญิงแทนเพื่อให้ผ่านการตรวจจากกบว.ค่ะ เรียกว่ายอมโดนแฟนนักอ่านด่า ดีกว่าไม่ผ่านกองเซ็นเซอร์ว่าซ่านนน..)
และสุดท้ายซีรีส์เรื่องนี้ก็ต้องถูกหมักดองไว้ รอเวลาผู้ใหญ่ใจดีของจีนออกมาผ่อนปรนมาตรการการควบคุมซีรีส์วายและได้ออกฉายให้สมใจคนรอเสียที ขอให้ได้ออกฉายในปี 2022 เถอะ!!!
ฆ่าหมาป่า (Winner is King)
และนี่คือซีรีส์วายที่พี่เคทภูมิใจนำเสนอมากอีกเรื่องค่ะ ยอมรับว่าผู้แต่ง ซึ่งก็คือ พีต้า หรือ Priest สามารถเขียน ฆ่าหมาป่า (Sha Po Lang) ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสนามรบและราชสำนักที่ควรจะน่าเบื่อออกมาได้สนุกและสุดฟินอย่างลงตัวและสวยงามที่สุดนับแต่เคยได้อ่านนิยายแนวนี้มาเลยนะคะ
หลายท่านที่เห็นชื่อเรื่องแล้ว อย่าเพิ่งเข้าใจผิด หลงคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสิงสาราสัตว์ เพราะเรื่องฆ่าหมาป่า เป็นซีรีส์ประเภทย้อนยุคที่เกี่ยวข้องกับราชสำนักและการออกรบตลอดเรื่อง เรียกว่าเป็นวายประเภท "รักระหว่างรบ" ก็คงไม่ผิด คนที่กลัวว่าจะยืดเยื้อและน่าเบื่อ ขอให้คิดใหม่ได้เลยค่ะ เพราะคนที่เคยอ่านนิยายมาแล้ว จะทราบว่าเรื่องนี้สนุกและแซ่บน่าติดตาม ไม่แพ้วายเรื่องอื่น ๆ เลย นานๆ จะมีซีรีส์วายแนวรักระหว่างพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยงออกมาให้ชม และเมื่อนำมาทำเป็นซีรีส์ มีการเปลี่ยนชื่อเป็น "Winner is King" นำแสดงโดย เฉินเจ๋อหยวน และ ถานเจี้ยนซื่อ
“เฉินเจ๋อหยวน” รับบท "ฉางเกิง" บุตรบุญธรรมจอมหื่น ผู้ริอาจจะเด็ดดอกฟ้าอย่างผู้เป็นบิดาบุญธรรม เช่นท่านขุนพลกู้อวิ๋น โดยบทที่ "เฉินเจ๋อหยวน" ได้รับในครั้งนี้ เป็นบทบาทที่ท้าทายมากเพราะเขาจะต้องรับบทตั้งแต่เด็กจนถึงวันที่ขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ของแคว้นต้าเหลียงในที่สุด แน่นอนว่าเนื้อหาในต้นฉบับนิยายนั้นบรรจุฉากฟินจิกหมอนอยู่มากมาย แม้จะไม่มีฉากเรทเลย ตามสไตล์ของพีต้า แต่ก็ยังใส่ฉากอีโรติกเอาไว้ประปรายตลอดเรื่อง รวมทั้งมีฉากจูบกันระหว่างการรบอีกด้วย แต่อย่าได้คาดหวังว่าจะมีฉากนี้ปรากฏในซีรีส์นะคะ (เพราะถ้ามีก็คงไม่ผ่าน กบว.พี่จีนอยู่แล้ว) แต่จะได้เห็น เฉินเจ๋อหยวนจะแสดงบทบาทในการแอบจีบพ่อบุญธรรมด้วยการใช้สายตาและวิธีการหวาน ๆ แบบอื่นให้ได้ฟินกันแน่นอน
เฉินเจ๋อหยวน เกิดวันที่ 29 ตุลาคม 1996 อายุ 25 ปี เข้าวงการจากการเข้าร่วมประกวดรายการโชว์ King of Pop และผ่านเข้ารอบจนได้ทำการเดบิวท์ในนามของวง Mr.BIO ในปี 2015 ต่อมาจึงเริ่มชิมลางงานด้านการแสดงในปี 2017 จากเรื่อง ความลับของใจคือเธอ (All About Secrets 2017) และมีผลงานอีกครั้งในซีรีส์เรื่อง รักในความลับ (Our Secret/Secrets in The Lattice 2021)
“ถานเจี้ยนชื่อ” รับบท นายเอก ขุนพลหนุ่มหล่อแห่งต้าเหลียง “กู้อวิ๋น” พ่อบุญธรรมของพระเอกในเรื่องที่ได้รับมอบหมายจากฮ่องเต้องค์ปัจจุบันซึ่งใกล้สวรรคตให้ออกติดตามหาองค์ชายสี่ ที่หายสาปสูญไปหลายปีก่อน โดยเขาได้ออกติดตามหาจนพบพร้อมนำตัวกลับเข้าวัง และได้เลี้ยงดูในฐานะบุตรบุญธรรมของเขาตามพระบัญชาของฮ่องเต้ก่อนที่จะสวรรคต
กู้อวิ๋นเป็นขุนพลที่เก่งกาจจนเป็นที่หวาดกลัวไปทั่วทุกทิศ เรียกว่ารบที่ไหนชนะที่นั่น แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ยังหวั่นใจในความเก่งของขุนพลหนุ่มผู้นี้ เพราะกลัวว่าวันหนึ่งอาจทำการกบฏเพื่อช่วงชิงบัลลังก์ขึ้นมาก็ได้ อุปนิสัยของกู้อวิ๋นเป็นคนจริงจังในการทำงาน แต่เป็นคนสนุกสนานขี้เล่นเมื่อยามปกติ เป็นที่รักของบรรดาเหล่าทหารทั้งหลาย นิสัยชอบพูดจาโอ้อวดยกตนข่มท่านของเขาเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ทหารและในราชสำนัก ซึ่งจะว่าไปแล้ว กู้อวิ๋นก็ไม่ได้พูดเกินจริงเลย และตามบทประพันธ์ที่ได้บรรยายถึงรูปลักษณ์นายเอกในเรื่องของเรานั้น หน้าตางดงามจนใครเห็นก็ต้องหลุดปากว่า เป็นคนที่หน้าตาดีจนต้องมองซ้ำคนหนึ่งทีเดียว ถึงว่า.. !! ถ้าไม่ดีจริง บุตรบุญธรรมคงไม่หลงรักพ่อบุญธรรมชนิดหัวปักหัวปำจนเอาไปฝันเปียกแต่เด็กๆ หรอกค่ะ
ถานเจี้ยนซื่อ เกิดวันที่ 5 ตุลาคม 1990 อายุ 30 ปี เขาเป็นทั้งนักแสดง นักร้อง และนักเต้น เริ่มต้นจากการเดบิวท์ในตำแหน่ง Vocal ภายใต้วง MIC ในปี 2010 ผลงานด้านการแสดงที่ผ่านตาก็มีหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่ใช่บทนำนะคะ เช่น เรื่อง รักนี้นิรันดร์ (Never Gone 2018) และเรื่อง ภพรักภพพราก (Twisted Fate of Love 2020) โดยผลงานล่าสุดที่กระโดดมารับบทนำในซีรีส์วายเรื่องนี้เป็นครั้งแรกนั้น ทำให้หลายคนมองว่าน่าจะทำให้ชื่อของเขาเปรี้ยงปัง เหมือนกับนักแสดงวายๆ หลายๆ คนที่ผ่านมาค่ะ
เรื่องย่อคร่าว ๆ ของซีรีส์ "ฆ่าหมาป่า" ที่ขอนำมาเล่าพอเป็นน้ำจิ้มนั้นเป็นเรื่องราวที่มีฉากหลังของการสู้รบกันในสนามรบค่อนข้างเยอะมากๆ เนื่องจากนายเอกเป็นถึงแม่ทัพใหญ่ของดินแดนต้าเหลียง และยังมีศักดิ์เป็นอาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันอีกด้วย เรียกได้ว่า ทั้งหล่อทั้งเก่ง ทั้งมีอำนาจบารมี ยิ่งใหญ่เกรียงไกรไปทั่วสารทิศ แต่การที่ กู้อวิ๋นรับเอาพระเอกซึ่งอายุห่างกับตนถึงเกือบสิบปี (ประมาณ 7-8 ปี) มารับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองค่อนข้างเป็นไปอย่างประดักประเดิดพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นของเรื่องที่ตัวกู้อวิ๋นซึ่งอายุยังน้อย ไม่เข้าใจการดูแลเด็กหนุ่ม จึงมักเลี้ยงดูแบบทิ้งๆ ขว้างๆ และส่วนมากตัวพระเอกซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมนั้นมักจะเป็นฝ่ายดูแลผู้เป็นบิดาเสียมากกว่า
โดยในเรื่องนี้ตัวนายเอกหรือขุนพลกู้นั้นถูกพิษตั้งแต่เด็ก ทำให้ตกอยู่ในสภาพหูหนวกตาบอดเป็นพัก ๆ ตลอดชีวิต จำต้องอาศัยดื่มยาชนิดหนึ่งเพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งยาชนิดนี้จะมีฤทธิ์ในระยะเวลาจำกัดเท่านั้น ทำให้นายเอกของเราต้องดื่มตลอดชีวิต ปัญหาคือ ยาชนิดนี้นอกจะช่วยบรรเทาอาการของนายเอกแล้วในขณะเดียวกันกลับมีฤทธิ์เป็นยาพิษอีกด้วย คือยิ่งกินก็ยิ่งเท่ากับตายผ่อนส่งนั่นเอง ร้อนถึงตัวพระเอกผู้เป็นบุตร นอกจากจะต้องเตรียมตัวร่ำเรียนวิชาเพื่อเป็นฮ่องเต้ (ตามที่หลายคนคาดไว้) เขาก็ยังตั้งอกตั้งใจเรียนวิชาแพทย์อีกด้วย เพราะหวังว่าสักวันหนึ่งจะค้นหาวิธีรักษาอาการหูหนวกตาบอดชั่วคราวของผู้เป็นบิดาได้
และก็เช่นเคยค่ะ เรื่องราวที่รอคอยในแบบซีรีส์นั้น อาจสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ ที่รอชม ไม่ต่างไปจากซีรีส์วายเรื่องอื่นๆ เช่นกัน เนื่องจากทีมผู้สร้างฆ่าหมาป่า ต้องเผชิญกับปัญหามาตรการทางการจีนต่อซีรีส์วายช่วงนี้พอดีเช่นกัน ดังนั้นจึงมีข่าวออกมาว่า มีการปรับเปลี่ยนแก้ไขและตัดทิ้งฉากฟินๆ ออกไปเยอะเช่นกัน แต่พี่เคทก็ยังมั่นใจว่าเรื่องนี้เป็นผลงานของทีมผู้สร้างยักษ์ใหญ่อย่าง Tencent ดังนั้นไม่ว่าเนื้อหาในซีรีส์จะถูกปรับเปลี่ยนไปมากแค่ไหน ก็น่าจะได้ชมฉากมโนที่ผู้สร้างแอบสอดแทรกเอาไว้เพื่อความฟินให้สาวกสายวายอย่างพวกเราอยู่บ้าง ไม่มากก็น้อยค่ะ
หากใครอดใจรอชมซีรีส์ไม่ไหวก็หานิยายมาอ่านก่อนได้ เพราะตอนนี้ มีฉบับแปลไทยแล้ว จากสำนักพิมพ์ Sense T ซึ่งแปลมาได้สองเล่มแล้วจากห้าเล่ม เนื้อหาสนุกสนานสุดๆ จนพี่เคทเก็บเอาขึ้นหิ้งเป็นหนึ่งในนิยายในดวงใจไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าไม่ลองหามาอ่าน จะมากล่าวหากันทีหลังไม่ได้นะคะว่ามีของดีแล้วไม่บอกกัน
ท้ายนี้ พี่เคทก็ขอกล่าวคำว่าสวัสดีปีใหม่ 2556 ล่วงหน้าแก่แฟนๆ นักอ่านผู้จัดการออนไลน์ทุกๆ คนนะคะ พบกันใหม่ปีหน้าฟ้าใส ขอให้พี่น้องไทยทุกท่าน ประสบแต่ความสุข สุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยเงินทองกันทุกๆ คน
และอย่าลืมกลับมาล้อมวงฟังพี่เคทอัพเดทเมาท์ข่าวสารวายกันในปีใหม่หน้านะคะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เคทอี้ฟาง
เครดิตภาพประกอบ : Zhanglinghe จางหลิงเฮ่อ 张凌赫Thailand, weibo.cn, wikidrama, mydramalist.com