Hello Everyone, 大家好!dàjiā hǎo. (ต้า เจีย ห่าว) สวัสดีค่ะ ทุกคน
ล้อมวงเข้ามาอัพเดทข่าวสารวงการวายกันค่ะ พี่เคทตั้งใจรวบรวมเรื่องราวให้มีหลากหลายเพื่อชาววายจะได้ไม่ตกเทรนด์
ครั้งนี้ขอเอาใจเมนสองหนุ่ม “จางเจ๋อฮั่น” และ “กงจวิ้น” นายเอก-พระเอก จากซีรีส์วายเรื่อง “นักรบพเนจร - Word of Honor” ที่คว้าแชมป์ซีรีส์ยอดนิยมแห่งปี 2021 จากการจัดอันดับของเว็บไซต์ Douban (โต้วป้าน)
Douban หรือ โต้วป้าน เป็นอาณาจักรบันเทิงแดนมังกรค่ะ เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับ หนังสือ, ภาพยนตร์, ซีรีส์ และ เพลง โดยมีการโหวตจัดอันดับ ซีรีส์ยอดนิยม นักแสดงยอดนิยม โดยการใช้คะแนนโหวตของชาวเน็ตผู้อ่าน ที่มี ยูสเซอร์เนม ตรวจสอบได้ ปัจจุบันมีสมาชิก 55 ล้านคน และอีก 46 ล้านคน ที่ใช้บริการโดยไม่ลงทะเบียนสมัคร
นับว่าเป็นข่าวดีส่งท้ายปีจริงๆ ค่ะ ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับ ทีมผู้ผลิต YOUKU นักแสดง และทีมงานทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ด้วยนะคะ
นับจากซีรีส์เรื่อง “ปรมาจารย์ลัทธิมาร - The Untamed” กลายเป็นซีรีส์วายในดวงใจตลอดกาลของบรรดาชาววายทั่วโลกเมื่อปี 2019 จนเกิดกระแสคู่จิ้น “ป๋อจ้าน” มาจนถึงทุกวันนี้ ล่าสุดเว็บไซต์ Douban ได้ทำการจัดอันดับซีรีส์ยอดนิยมแห่งปี 2021 ขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ จากยอดโหวตของสมาชิกรวมทั้งหมด 564,000 คน (ยูสเซอร์เนม) พี่เคทขอเริ่มจาก
อันดับที่ 5 : “ตำนานจอมยุทธภูตถังซาน - Douluo Continent” นำแสดงโดย เซียวจ้าน และ อู๋เซียนอี้ ได้คะแนน 6.4 %
อันดับที่ 4 : “ตำนานลั่วหยาง – Luoyang” นำแสดงโดย หวงเซียน, หวังอี้ป๋อ และ วิคตอเรีย ซ่ง ได้คะแนน 7.0 %
อันดับที่ 3 : “ทุกชาติภพกระดูกงดงาม – ภาคปัจจุบัน - One and Only” นำแสดงโดย เหรินเจียหลุน และ ไป๋ลู่ ได้คะแนน 7.2 %
อันดับที่ 2 : “ฉู่ฉู่ มือชันสูตรฟ้าประทาน - The Imperial Coroner” นำแสดงโดย ซูเซียวถง และ หวังซือฉี ได้คะแนน 8.0 %
และ อันดับที่ 1 ซึ่งก็คือซีรีส์วายหนึ่งเดียวแห่งปี ที่เบียดทุกซีรีส์กระเด็นกระดอน ขึ้นมายืน 1 อย่างอย่างสง่างามในใจผู้ชมทั่วโลก โกยคะแนนจนขึ้นเป็นแชมป์อย่างงดงาม นั่นก็คือ “นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า - Word of Honor” นำแสดงโดย จางเจ๋อฮั่น และ กงจวิ้น ได้คะแนน 8.6 %
แหม...!! ได้คะแนนถล่มทลายชนิดเบียดซีรีส์ชายหญิงกระจุยกระจายขนาดนี้ ถ้าไม่เม้าท์ถึง พี่เคทก็คงตกกระแส ถึงขั้นตกอันดับเจ้าแม่สายวายเป็นแน่ค่ะ
นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า หรือ Word of Honor / A Tale of The Wanderers เป็นซีรีส์วายจากแดนมังกรที่ดัดแปลงมาจากนิยายวายเรื่อง Tian Ya Ke หรือ Faraway Wanderers เป็นผลงานของ Priest หรือ พีต้า นักเขียนมากความสามารถอีกท่านของวงการน้ำหมึกจีน ผู้แต่งเรื่อง ฆ่าหมาป่า (Sha Po Lang), นางโจร (The Legend of Fei) นำแสดงโดย จางเจ๋อฮั่น และ กงจวิ้น ซีรีส์เรื่องนี้โด่งดังมากๆ เรียกว่า ได้รับความนิยมไปทั่วโลกไม่ต่างจากซีรีส์เรื่อง “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” เลยทีเดียว
แล้วอย่างนี้จะพลาดเรื่องเม้าท์เล่าเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ของ นักรบพเนจร ได้อย่างไร ว่าแล้วล้อมวงเข้ามาเลยจ้า
Word of Honor มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอะไร?
นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า - Word of Honor ออกฉายในเดือน กุมภาพันธ์ 2021 ทางแอพ YOUKU ในไทยยังรับชมได้ฟรีทาง Youtube : YOUKU Thailand และ รับชมพากย์ไทยทาง ทรูไอดีพลัส อีกด้วย จำนวน 36 ตอนจบ ตอนละ 45 นาที
เป็นเรื่องราวของการไล่ล่าตามหาคัมภีร์ยุทธลับเล่มหนึ่ง เพื่อความเป็นใหญ่ในยุทธภพ และหากจะได้ครอบครองจึงจำเป็นต้องค้นหากุญแจสำคัญดอกหนึ่ง สำหรับใช้ในการเปิดช่องทางเข้าไปเอาคำภีร์เล่มนี้ โดยเส้นเรื่องเป็นเรื่องราวของพระเอก-นายเอก ที่ไม่น่าจะได้มาใช้ชีวิตร่วมเป็นสหายกันได้แม้แต่น้อย
โจวจื่อซู หัวหน้า เทียนชวง หัวหน้าองค์กรลับและมือสังหารที่ขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เพียงผู้เดียว ผู้ที่เกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตการเป็นนักฆ่าจึงยินดีที่จะแลกชีวิตตัวเองให้สั้นลงโดยการยอมรับทัณฑ์ตะปูเจ็ดตัวลงบนร่างตนเอง (แต่เขาถูกฮ่องเต้ระงับตะปูตัวสุดท้ายเอาไว้ก่อน จึงทำให้มีชีวิตอยู่ต่อได้อีกระยะหนึ่ง) แม้เขาจะสามารถใช้ชีวิตบนโลกเพียงสั้น ๆ เขาก็ยินดี และจากนั้นเขาก็ออกท่องยุทธภพโดยการแปลงโฉมตนเองให้เป็นขอทานสกปรก หน้าตาขี้เหร่ จนได้มาเจอกับพระเอกของเรื่อง เวินเค่อสิง ประมุขแห่งหุบเขาผีรูปงาม และทันทีที่พบกับนายเอก เขาได้บอกกับทุกคนว่า เขาพบ “คนงาม” แล้ว แม้นายเอกของเราจะปลอมตัวได้ขี้ริ้วขี้เหร่ปานใด ก็หาได้รอดสายตาของประมุขแห่งหุบเขาผีไปได้ค่ะ จากนั้นก็เป็นเรื่องราวของคนทั้งสองที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆ ร่วมกัน โดยต่างฝ่ายต่างเคยมีประวัติอันปวดร้าวในอดีต และร่วมกันแก้ไข ฟันฝ่าไปด้วยกัน จนเกิดความผูกพันลึกซึ้งมากกว่าคำว่า เพื่อน
ใครที่ชอบซีรีส์แนว พระเอกคลั่งรักตามจีบนายเอกติดๆ แบบจิกไม่ปล่อย ชนิดเกาะเป็นเงาตามตัว หวงแหนสุดฤทธิ์ ชนิดที่เรียกว่า “คนของข้า ใครห้ามแตะ” แนะนำซีรีส์เรื่องนี้เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวังจริง ๆ
จางเจ๋อฮั่นและกงจวิ้น ดังเปรี้ยงทะลุโลกในชั่วข้ามคืน
หลายคนที่ไม่เคยรู้จักดาราสองคนนี้มาก่อน หรืออาจจะเคยเห็นหน้ามาแว่บๆ แต่ไม่ได้ติดตามจริงๆ จังๆ แล้วละก้อ ร้อยทั้งร้อย เชื่อว่า เมื่อได้ชมซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ต้องรีบกลับไปหาผลงานเก่าๆ ของนักแสดงสองท่านนี้มาชมกันรัวๆ แบบเดียวกับที่พี่เคททำแน่นอนค่ะ
จางเจ๋อฮั่น (ZhangZhehan) ผู้รับบท โจวจื่อซู เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม 1991 (อายุ 30 ปี) เป็นนักแสดงที่อยู่ในวงการมานานมากแล้ว โดยผลงานเปิดตัวเรื่องแรกคือ Why Love You ในปี 2010 ผลงานล่าสุดที่คนรู้จักกันดี ก็คงเป็นเรื่อง Legend of Yunxi หรือ หยุนซี หมอพิษหญิงยอดอัจฉริยะ (2018) และ The Blooms at Ruyi Pavilion หรือ กรุ่นรักกลิ่นบุปผา (2020) ที่เขาได้รับบทนำ จนเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
กงจวิ้น (GongJun - Simon Gong) ผู้รับบท เวินเค่อสิง เกิด 29 พฤศจิกายน 1992 (อายุ 29 ปี) มีผลงานมาหลายเรื่อง และเคยรับบทนายเอกในซีรีส์วายเรื่อง “รักเกินห้ามใจ” (Advance Bravely) ในปี 2018 ซึ่งในตอนนั้น กงจวิ้นยังไม่ดังเปรี้ยงเท่านี้ แต่ก็นับว่าผลงานโดดเด่นเข้าตา ด้วยรูปลักษณ์ที่หล่อเหลามีเสน่ห์กรุ้มกริ่ม
ได้คนเขียนบทหน้าใหม่เป็นผู้หญิง พาเปรี้ยง จนตะลึงไปทั้งวงการ
ไม่บ่อยนักที่ทีมผู้สร้างจะวางใจมอบงานสำคัญให้กับคนเขียนบทเพียงหนึ่งเดียว รับผิดชอบเขียนบทเพียงลำพัง แถมยังเป็นนักเขียนหน้าใหม่อีกด้วย
"เซียวฉู" (Xiao Chu) คนเขียนบทซีรีส์ Word of Honor ที่กลายเป็นนักเขียนบทชื่อดังในทันทีหลังซีรีส์ออกฉาย ขอบอกว่า ประวัติของเธอไม่ธรรมดานะคะ เธอเรียนจบมหาวิทยาลัยชื่อดังจากต่างประเทศ เคยทำงานในสายการธนาคารและการลงทุน ต่อมาได้เข้าศึกษาต่อที่ New York Film Academy แล้วกลับมาประเทศจีนในปี 2018 และในปี 2019 เธอได้เข้าร่วมการคัดเลือกตำแหน่งคนเขียนบทเรื่อง Word of Honor และสุดท้ายเธอก็ได้งานนี้ไป
ด้วยความที่เป็นคนมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และมีความรู้อย่างลึกซึ้งในเรื่องของวรรณกรรม บทกวี คำคมของจีน ทำให้ผลงานของเธอน่าสนใจ และประสบความสำเร็จเกินกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้
โดยเธอได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ส่วนหนึ่งในความสำเร็จในครั้งนี้ ก็เป็นเพราะว่า ฉันได้รับอิสระในการทำงาน ดังนั้นจึงไม่มีกรอบมากำหนดความคิดของฉัน อีกทั้งการเอาความคิดอันหลากหลายของแต่ละคนเข้ามารวบรวมไว้ด้วยกัน ทำให้งานของฉันประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี”
หัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์ประกาศ ต้องการนักแสดงเก๋า อายุ 27-29 เท่านั้น
หม่าเถา (Ma Tao) หัวหน้าทีมโปรดิวเซอร์ (chief producer) ได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรกว่า เธอไม่อยากได้นักแสดงหน้าใหม่มารับบทหลัก “ฉันต้องการนักแสดงที่มากฝีมือ และมีประสบการณ์เท่านั้น สิ่งสำคัญสำหรับนักแสดงที่จะมารับบทสำคัญสองบทนำนี้ ข้อแรก ต้องมีประสบการณ์ชีวิตมาพอสมควร เพราะหากได้นักแสดงอายุน้อยเกินไปมาเล่น จะไม่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของชีวิตที่ผ่านโลกมาแล้วอย่างโชกโชนได้สมจริง ข้อสอง นักแสดงต้องไม่มีพันธะด้านความสัมพันธ์ และข้อสุดท้าย ต้อง ‘โสด’ ค่ะ”
ดังนั้นสองบทบาทหลักในซีรีส์จึงไม่มีการแคสตัวละคร แต่มาจากการวางตัวเอาไว้แต่แรกแล้ว โดยตัวละครหลักตัวแรก ก็คือ บท “โจวจื่อซู” วางไว้ให้ “จางเจ๋อฮั่น” แต่แรก แม้เขาจะบอกว่า ตัวเองสนใจรับบท “เวินเค่อสิง” มากกว่าก็ตาม
ส่วนอีกตัวละคร คือ “เวินเค่อสิง” ที่ได้ “กงจวิ้น” มารับบทนั้น ทาง Ma Tao ได้รับการแนะนำมาจากเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง แต่เนื่องจากเธอไม่เคยรู้จักกงจวิ้นมาก่อน จึงได้ให้เขามาทำการออดิชั่นบทเวินเค่อสิง ซึ่งเมื่อทั้งจางเจ๋อฮั่นและกงจวิ้นถูกประกาศตัวว่ามารับบทนำในเรื่องนี้ ได้มีเสียงปรามาสออกมาจากหลายๆ คน ว่าไม่น่าจะรอด แต่หลังจากซีรีส์ออกฉายแล้ว ก็ไม่มีใครออกมาพูดเรื่องนี้อีกเลย
กงจวิ้น...ในบท เวินเค่อสิง เคยทำโปรดิวเซอร์หนักใจ
“เฉิงจื้อเชา” หัวหน้าทีมผู้กำกับ (มีผู้กำกับอีก 2 ท่าน คือ หม่าหัวกาน และ หลี่หงอวี่) เรื่อง Word of Honor เคยออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนักแสดงทั้งสองคนไว้ดังนี้ “สำหรับจางเจ๋อฮั่น เขาเป็นคนมีบุคลิกร่าเริงแจ่มใส ดังนั้น โปรดิวเซอร์กับผมคิดว่า เขาเหมาะกับบทของโจวจื่อซูมากๆ โดยในช่วงแรก ตอนที่เราให้นักแสดงเริ่มทำการแสดงไปแบบธรรมชาติ คือแสดงไปตามความเข้าใจของตัว เราได้เห็นว่า หลายครั้ง จางเจ๋อฮั่น ได้ช่วยให้คำแนะนำหลายๆ อย่างกับกงจวิ้น และในตอนนั้นเอง ผมก็เริ่มวิตกขึ้นนิดๆ เพราะเราสังเกตว่า จางเจ๋อฮั่นเป็นคนพูดเก่งมากๆ ในขณะที่กงจวิ้นเป็นพูดน้อยมาก แต่ต่อมา ทั้งคู่ก็เริ่มปรับตัวมากขึ้น”
และสำหรับตัวของกงจวิ้น ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำ เขาทราบว่า ผู้กำกับรู้สึกวิตกนิดๆ กับการที่เลือกเขามารับบทสำคัญเช่นนี้ และเมื่อมีโอกาส เขาจึงออกปากกับผู้กำกับว่า “ไม่ต้องห่วงนะครับ เมื่อผมได้มารับบทเวินเค่อสิงแล้ว ผมจะทำอย่างเต็มที่ จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน” ซึ่งหลังจากวันนั้น กงจวิ้นก็พิสูจน์ให้ทั้งผู้กำกับ ทีมงานและผู้ชมทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า เขาเป็นเวินเค่อสิงที่สมบูรณ์แบบมากเพียงไร
ฉากตัดแขนเสื้อกระหึ่มโลก
สำหรับชาววายคงเคยได้ยินคำว่า “ตัดแขนเสื้อ” หรือ “Cut Sleeve”มาบ้างแล้ว สำนวนจีนคำนี้ ใช้กล่าวถึงชาวรักร่วมเพศในประเทศจีน และอีกคำที่นิยมใช้ นั่นคือ “ต้วนสิ่ว” (duàn xiù zhī pǐ) ซึ่งในซีรีส์เรื่อง นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า ไม่ลังเลที่ใส่ฉากเด็ดนี้ และสามารถเรียกกระแสวายไปทั่วโลกในทันทีที่ฉากนี้ออกอากาศ
โดยเป็นตอนที่ โจวจื่อซูเพิ่งต่อสู้เสร็จ แล้วมีเลือดเลอะอยู่ที่ปลายแขนเสื้อ เวินเค่อสิง เห็นดังนั้นจึงพูดแหย่ขึ้นทำนองว่า เสื้อท่านเลอะเทอะแล้ว ปกติท่านเป็นคนรักสะอาด เดี๋ยวข้าช่วยท่านเองดีกว่า ว่าจบ ก็ใช้อาวุธตนเองที่เป็นพัด ตวัดฉับไปที่แขนเสื้อของโจวจื่อซู จากนั้นแขนเสื้อของโจวจื่อซูก็ขาดร่วงลงพื้นทันที เรียกว่า เป็นฉากแสดงจุดยืนของซีรีส์ ที่ชัดเจนสุดๆ นับแต่มีซีรีส์จีนมาเลยทีเดียว แล้วฉากนี้ก็เป็นฉากที่ทางผู้สร้างยืนยันจะเก็บไว้ ทำยังไงก็ไม่ตัดทิ้งเสียด้วยสิ
ฉากพระเอกมอบปิ่นปักผมแทนใจ
เป็นอีกหนึ่งความฟินและความชัดเจนในความเป็นซีรีส์วายของเรื่องนักรบพเนจร เมื่อทางทีมงานจัดฉากแห่งความหวานมาให้ผู้ชมได้สำลักความจิ้นแบบไม่ได้ให้พักได้ผ่อนกันเลยทีเดียว เพราะในฉากนี้ พระเอกมาช่วยนายเอกหวีผม แล้วอยู่ดี ๆ พระเอกก็หยิบปิ่นปักผมของตัวเอง ซึ่งเป็นของสำคัญ เพราะคือกุญแจใช้เปิดทางเข้าสุสานลับที่เก็บคัมภีร์ลับที่ผู้คนทั่วยุทธภพเที่ยวค้นหา ปักไปบนมวยผมของนายเอก ฉากนี้สีหน้าของนายเอกทำให้ทุกคนเริ่มเข้าใจขึ้นมาว่าทำไมนายเอกถึงได้ทำท่าตาโตเท่ากับไข่ห่านเมื่อโดนพระเอกเสียบปิ่นปักผมให้ (ลองแอบไปวนดูฉากนี้ใหม่ก็ได้ จะเห็นรีแอคชั่นของนายเอกที่ทำหน้าประหลาดใจสุดขีดที่พระเอกส่งปิ่นมาปักผมให้ตัวเอง)
นั่นก็เพราะความเชื่อของประเทศจีนที่ว่า ปิ่นปักผมนั้นเป็นของแทนใจผู้ชาย ที่เอาไว้มอบให้กับหญิงผู้เป็นที่รัก ดังนั้น ฉากมอบปิ่นปักผมให้กับนายเอกของเรื่อง จึงสร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมทั่วโลกอีกครั้งที่ออกอากาศไป
การแก้ไขบทพูด (จากการพากษ์ทับใหม่) ที่ถูกอ่านปากจากผู้ชม
โดยปกติแล้ว เมื่อถ่ายทำซีรีส์เสร็จแล้ว ก็จะต้องทำการส่งซีรีส์ไปให้ทางกบว.ตรวจสอบเพื่อขอใบอนุญาต และก็มีหลายฉากที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่กบว. เพื่อความเหมาะสม และเพื่อจะได้รับใบอนุญาตออกฉาย ดังนั้น Word of Honor จึงมีหลายฉากที่มีการเปลี่ยนบทพูดเสียใหม่
อย่างเช่น ในฉากหนึ่ง ตัวแสดงคือ กงจวิ้นในบท เวินเค่อสิง พูดว่า "ข้าเอาหนูตาย ไปวางไว้บนที่นอนของมารดาข้า.." แต่ในต้นฉบับ ตามที่ได้อ่านปากมา จะพบว่า เวินเค่อสิง พูดว่า "ข้านอนกับคนรัก พวกเราร่วมรักกันอย่างเร่าร้อน.." ที่จริง ในซีรีส์นี้ ยังมีหลายบทพูดที่ถูกพากษ์ทับใหม่ จนมีหลายเว็บไซต์ออกมาเขียนเม้าท์เป็นเรื่องสนุกสนาน และอมยิ้มไปกับฉากฟิน ๆ ที่ไม่ผ่านเซ็นเซอร์ของเรื่องนี้ แต่ชาวเน็ตก็อุตส่าห์ตามไปอ่านปากจนทราบบทพูดเดิมจนได้
บทกวี คำคม ฉากหวานชวนฟินพร่างพรมตลอดซีรีส์ (อันนี้ก็มีสปอยล์จ้า)
คนที่ได้ดูซีรีส์แล้ว คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่า นักรบพเนจรสุดขอบฟ้า เต็มไปด้วยคำสุภาษิต คำพังเพย และคำคมจากบทกวีจีนจำนวนมากแทรกอยู่ในเรื่อง แทบจะทุกตอนเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบคำคมหรือคำสุภาษิตจีน แนะนำให้ชมซีรีส์เรื่องนี้ รับรองมีเพียบค่ะ ส่วนคำหวานๆ ซึ้ง ๆ ประทับใจผู้ชมที่ทำให้หลายคนน้ำตารื้นก็ได้แก่ บทพูดในฉากจบก่อนที่พระเอกจะยอมจบชีวิตตัวเองเพื่อช่วยชีวิตคนรัก
"อาซวี่...ข้าขอโทษที่ข้าต้องเป็นคนที่จากไปก่อน ข้ารู้ว่าคนที่อยู่คือคนที่ทรมานมากกว่า แต่ข้าอยู่ไม่ได้จริงๆถ้าไม่มีเจ้า...ข้าขอโทษ"
ทีมงานผู้ผลิตสร้างสองฉากจบไว้ให้ แฟนๆ และทีมกบว. (ระวังสปอยล์จ้า)
ประเด็นเรื่องของฉากจบในซีรีส์เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่หลายคนพูดถึงกันอย่างกว้างขวางในตอนท้าย ๆ ของซีรีส์ เพราะทุกคนทราบดีแล้วว่า เรื่องนักรบพเนจร เป็นซีรีส์วาย แต่การจะสร้างออกมาเพื่อเอาใจทั้งคนชม และเพื่อให้ผ่านการเซ็นเซอร์จากกอง กบว. ของจีนด้วยนั้นกลับไม่ใช่เรื่องง่าย
ทีมผู้สร้างจึงตัดสินใจ สร้างฉากจบออกมาสองแบบ โดยแบบแรก คือแบบ Sad ending หรือฉากจบแบบสะเทือนใจ เป็นฉากที่พระเอกถ่ายทอดพลังปราณให้กับนายเอก เพื่อให้นายเอกได้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป โดยในตอนนี้จะรู้กันว่า ผู้ใดก็ตาม ที่มอบพลังปราณนี้ให้กับผู้อื่นไปแล้ว ตนเองก็จะต้องตาย ดังนั้น ผู้ชมที่ชมฉากนี้จบ จึงตีความได้ว่า เมื่อพระเอกถ่ายพลังปราณเสร็จสิ้นลง เขาก็ได้เสียชีวิตลงเช่นเดียวกัน ซึ่งฉากนี้จะเห็นว่า สีผมบนศีรษะของพระเอกเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีขาวโพลนทั้งหัวอีกด้วย
ส่วนฉากจบอีกแบบหนึ่ง เป็นฉากเดียวกัน แต่ผู้สร้างตั้งใจทำเป็นการจบแบบปลายเปิด Open ending ที่เรียกว่า จบแบบมโนได้อีกนั่นแหละ ที่จริงฉากนี้ก็คล้ายกับฉากจบเดิม แต่ทีมผู้สร้างได้มีการเพิ่มเติมฉากต่อสู้แบบเชิงหยอกเย้ากันในช่วงท้ายเล็กน้อยของพระเอกและนายเอก โดยตัวของพระเอกที่ออกมาในฉากนี้ มีผมสีขาวทั้งศีรษะ (คือการบอกเป็นนัยว่า พระเอกรอดจากการถ่ายทอดพลังให้กับนายเอกในฉากจบแบบปกติ) โดยทั้งคู่ได้ออกมาร่ายรำเพลงยุทธคู่กับนายเอกอย่างมีความสุข ท่ามกลางรอยยิ้มอันสดใสของคนทั้งคู่ ท่ามกลางหิมะสีขาวราวปุยนุ่นเป็นฉากหลังอันงดงาม ซึ่งฉากพิเศษนี้เอง ที่เป็นการตีความว่า ทั้งคู่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขเพียงลำพังในหุบเขาหิมะตลอดไป
แต่ฉากพิเศษฟินๆ แบบนี้ ทาง YOUKU ก็ไม่ได้จัดมาให้เราแบบฟรีนะจ๊ะ เมื่อคุณอยากฟิน เราก็จัดให้ แต่ของดีและฟรี ไม่มีในโลก ดังนั้น ทาง YOUKU จึงได้สร้างตอนพิเศษ (EXTRA EP) แบบนี้มาไว้ เพื่อให้ผู้ชมจ่ายเงินเพิ่มเพื่อกดเข้าไปชม ต่อจากฉากจบ ที่พระเอกเสียชีวิตหลังจากมอบปราณให้กับนายเอกไป
ก็เข้าใจได้ค่ะ คนเราเมื่อดูมาจนจบแล้ว พระเอกกับนายเอกดันไม่ได้กัน เอ๊ย ไม่ได้อยู่ด้วยกันตามที่เคยจิ้นเอาไว้แต่แรก ก็ต้องกัดฟัน ควักกระเป๋าตังเติมเงิน (Top Up) เพื่อที่จะได้ชมฉากที่รอคอยให้สมใจ เรียกว่า ขอให้ได้ดูฉากจบแบบแฮปปี้หน่อยเถอะ จะได้จบแบบไม่ค้างคาใจ ถึงจะตาย (ฉัน)ก็ตายตาหลับแล้ว
และสุดท้ายนี้ พี่เคทจะไม่ขอพูดถึงประเด็นความดังของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำให้ชีวิตของสองนักแสดงอย่าง จางเจ๋อฮั่น และกงจวิ้นต้องประสบกับข่าวฉาวหรือข่าวลือจำนวนมาก เพราะนอกจากทั้งคู่จะมีงานเข้าจนล้นทะลัก งานพรีเซนเตอร์เข้านับไม่ถ้วนทันทีที่ซีรีส์จบลง
แต่ชีวิตงานด้านการแสดงของจางเจ๋อฮั่นกลับไม่ได้รุ่งโรจน์ตามที่หลายคนคิดไว้ ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น หลายคนที่ติดตามข่าวก็คงพอจะทราบดีอยู่แล้ว ส่วนท่านที่ยังไม่ทราบ ไว้มีโอกาสจะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกทีค่ะ วันนี้ขอลาไปก่อนนะคะ
บายค่ะ
เคทอี้ฟาง
ขอบคุณข้อมูลและภาพ : ทวิตภพ, ยูทูบ YOUKU, Mydramlist.com, Dramapanda.com, Dramapotatoe.com
Soompi.com, Youtube: Chinese Starnews, radiichina.com, positioningmag.com