xs
xsm
sm
md
lg

• #XYแซ่บEP3 : ‘ศัพท์โลกวาย’ ที่ต้องรู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เคทอี้ฟางนำ ศัพท์สายวาย มาให้รู้จักกัน ใน EP. นี้ จะได้ไม่ตกเทรนด์ ยืนหนึ่งได้ สบายมาก!
Hello Everyone, 大家好!dàjiā hǎo. (ต้า เจีย ห่าว) สวัสดีค่ะ ทุกคน

ศัพท์แสลงมีทุกยุคสมัย ยิ่งสมัยนี้ เราจะได้ยินคำศัพท์พิเศษพวกนี้กันบ่อยมาก ... ต๊าซ, สภาพ, สู่ขิต, จึ้ง, แกง, อรุ่มเจ๊าะ ฯลฯ ซึ่งเยาวรุ่นยุคนี้นิยมกัน ใช้กัน และเป็นที่รู้กัน!

ไม่ต่างไปจากกลุ่มเกย์ที่เคยสร้างศัพท์เฉพาะกันมาในอดีต และปรับพัฒนาปักรากกันด้วยคำใหม่ๆ ในปัจจุบัน

เป็นธรรมดา กลุ่มพิเศษ มักจะสื่อสารกันด้วยภาษาเฉพาะเหล่านี้ เพื่อให้รู้ว่า เราอยู่ในกลุ่มเดียวกัน ... วายเองก็เช่นกัน! สาวคนไหนที่วนเวียนอยู่ในโลกวาย ก็คงจะรู้จักศัพท์พวกนี้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าสาววายคนไหนเพิ่งก้าวเข้ามา การเรียนรู้ศัพท์เหล่านี้ จำเป็น และต้องเข้าใจ! ไม่สงวนสิทธิ์ ... ถ้าคุณไม่ใช่วาย และอยากเรียนรู้โลกของเธอ ... วาย เป็นโลกของ "ผู้หญิง"! ย่อมแตกต่าง อ่อนละมุนกว่า "ผู้ชาย" และ "เกย์"!

พี่เคท นำ "ศัพท์สายวาย" มาให้รู้จักกัน ใน EP. นี้ จะได้ไม่ตกเทรนด์ ยืนหนึ่งได้ "สบายมาก"!

@ BL (Boys’ Love) /Yaoi/Danmei

ศัพท์สามคำนี้ ความหมายเดียวกัน ใช้เรียกในสิ่งเดียวกัน นั่นก็คือ

“เรื่องราวที่ถ่ายทอดความสัมพันธ์แบบโรแมนติกหรือที่เกี่ยวข้องกับการมีเซ็กส์ของชายกับชายรูปร่างหน้าตาสวยงาม ที่เขียนขึ้นโดยผู้หญิงเพื่อผู้หญิง ในรูปแบบของสื่อต่างๆ ตั้งแต่การ์ตูนภาพ (มังงะ) การ์ตูนเคลื่อนไหว (อนิเมะ) นิยายไปจนถึงละครและภาพยนตร์”

Boys’ Love (BL) แปลตรงตัวตามความเข้าใจ คือ “ความรักของเด็กผู้ชาย” Boys’ Love ซึ่งเป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นราวปี 1970 และเป็นที่นิยมอย่างมากในปี 1980 ในนามของ “Yoai” ดังนั้นYaoi/Danmei ก็คือ Boys’ Love ในภาคภาษาญี่ปุ่นและภาษาจีนนั่นเอง

คำว่า Yaoi (ยะโออิ) เป็นคำสัญชาติญี่ปุ่น ใช้เรียกแบบสั้นๆ ว่า “วาย” หรือ “Y” สัญญลักษณ์นี้ เห็นที่ไหนเป็นอันรู้กันว่า เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไร! เพราะคำว่า Yaoi เป็นคำย่อของสามคำนี้ (Ya-o-i) ซึ่งมาจากความหมายนี้

Ya-manashi = No Climax แปลว่า ไม่มีไคลแม็กซ์

O-chinashi = No Point แปลว่า ไม่มีประเด็น

I-minashi = No Meaning แปลว่า ไม่มีความหมาย

ส่วน Danmei (耽美) เป็นคำเรียก BL ของทางฟากฝั่งจีน โดยความนิยมเกี่ยวกับวายในฝั่งจีน ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศญี่ปุ่นในช่วงปี 1990’s

@ Fujoshi 

หมายถึง สาวกวายในภาษาญี่ปุ่น และคำว่า fǔnǚ 腐女 หมายถึง สาวกวายในภาษาจีน ทั้งสองคำนี้ มีความหมายเดียวกัน ก็คือ “Rotten Girls” แปลเป็นไทยได้ว่า "สาวเน่า/สาวไม่สมบูรณ์แบบ" เป็นการเรียกเพื่อเสียดสีกลุ่มสาวๆ ที่ชื่นชอบเรื่องราวของความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งระหว่างชายกับชาย และการมีรสนิยมอันพิสดารนี่เอง ทำให้พวกเธอถูกมองว่า ไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้แต่งงาน (unfit for marriage because of strange taste) เลยถูกเรียกรวมสั้นๆ ว่า Rotten Girls นั่นเอง

@ Dangai 

บางคนอาจยังไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อน แต่พี่เคทนำมาฝากเพื่อให้ความรู้เพิ่มเติมอีกนิดว่า Dangai เป็นคำเรียกสำหรับ การนำนิยายวายมาปรับเปลี่ยนดัดแปลงทำเป็นซีรีส์ (Adaptation of Boy's Love storis) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในประเทศจีน ตัวอย่างของ Dangai ที่โด่งดังสุดๆ ที่ขอนำมาเป็นตัวอย่างก็คือ นิยายจีนเรื่อง Mo Dao Zu Shi หรือ Grandmaster of Demonic Cultivation โดย Mo Xiang Tong Xiu ที่ต่อมาถูกนำมาดัดแปลงเป็นซีรีส์อันโด่งดังไปทั่วโลกที่ชื่อ The Untamed หรือ "ปรมาจารย์ลัทธิมาร" ที่เป็นซีรีส์ที่เปิดโลกวายให้กับสาว ๆ นับล้านคนทั่วโลกนั่นเอง

@ Seme / Semeru (เมะ หรือ เซเมะ) 

เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่าฝ่ายผู้โจมตีหรือฝ่ายรุก หรือถ้าอยู่ในฉากร่วมเพศก็คือคนที่อยู่ด้านบน และรวมเรียกอีกอย่างง่าย ๆ สำหรับสาววายก็คือ พระเอก

@ Uke / Ukeru (เคะ หรือ อุเคะ) 

เป็นภาษาญี่ปุ่น แปลว่า ฝ่ายผู้ถูกโจมตีหรือฝ่ายรับ หรือถ้าอยู่ในฉากร่วมเพศก็คือคนที่อยู่ด้านล่าง หรือเรียกอีกอย่างว่า นายเอก

@ 3P 

คือ การร่วมเพศที่มีบุคคลร่วมกันดำเนินกิจกรรมทางเพศจำนวน 3 คน

3 คือ จำนวนคนที่ร่วมมีเซ็กส์ด้วยกันในครั้งหนึ่ง

P มาจากคำว่า Person(s) แปลว่าบุคคล

ดังนั้นหากเราเจอคำว่า 4P หรือ 5P ก็หมายความว่านิยายเรื่องนั้นจะมีกิจกรรมทางเพศบนเตียงด้วยกันจำนวน 4 คน หรือ 5 คนตามลำดับค่ะ แต่แนว 3P หรือ 4P ขึ้นไปนี้ อาจจะไม่ได้หาอ่านหรือหาชมได้ง่ายๆ นะคะ เพราะนอกจากจะเขียนเนื้อเรื่องค่อนข้างยากแล้ว ผู้อ่าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงสายละมุนย่อมไม่ถูกจริตกับฉากร่วมเพศในแนวนี้ เพราะมองว่ารับไม่ได้จริง ๆ อะไรจะต่อเป็นขบวนรถไฟ ! ส่วนท่านที่ชอบความเผ็ดร้อนของฉาก 3P ขึ้นไป พี่เคทจะแนะนำให้ในครั้งต่อๆไป ความแซ่บของนิยายแนว 3P นั้นเขียนยากและท้าทายคนเขียนและคนอ่านเป็นอย่างมาก!

ไม่จบแค่นั้น ... ยังมีศัพท์อีกมากที่ต้องรู้ ถ้าอยากจะยืนหนึ่งบนโลกวายใบนี้!

@ Imagine (จินตนาการ)

สาววาย คือผู้หญิงที่ชื่นชอบคู่ชายรักชาย "มโนแจ่ม" มีโลกฝัน มีความสุขที่ได้เห็นผู้ชายที่ตนเองชื่นชอบอยู่ใกล้กัน ทำกิจกรรมด้วยกัน โดยไม่สนใจว่า ความสัมพันธ์นั้นจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ เป็นสภาวะของการมโนถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ตนเองมีความสุขต่อคู่ชาย/ชาย ที่ตัวเองชื่นชอบนึกฝัน Imagine เป็นต้นรากที่ของศัพท์สั้นๆว่า "จิ้น" หรือ "คู่จิ้น" ก็คือ คู่ที่ถูกแฟน ๆ จับคู่เอาไว้เพราะความชื่นชอบ และจินตนาการถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งตามที่ตนต้องการ โดยคู่จิ้นสามารถเป็นได้ ทั้งคู่ ชาย -หญิง และ ชาย –ชาย

@ Ship (ชิป)

หมายถึงการสนับสนุนพฤติกรรมของคู่จิ้นที่ชาวชิปเปอร์ต้องการให้มีความสัมพันธ์ในแบบที่ต้องการ การชิป อาจชิปได้ทั้งแบบ ชาย- หญิง และ ชาย- ชาย

@ Shipper (ชิปเปอร์) 

มาจากคำว่า Relationshipper คือ สาวกที่คอยเฝ้าติดตามสนับสนุนความสัมพันธ์ของบุคคลที่กำลังชิปอยู่ จะชิปสำเร็จหรือไม่ ไม่ใช่ประเด็น! ขอให้ได้ทำหน้าที่เป็นชิปเปอร์ ก็มีความสุขแล้ว ดังนั้น ชาวชิปเปอร์จึงมีอาการที่เรียกว่า “มโนเก่ง” มากกว่าแฟนๆ กลุ่มอื่น

@ Captain (กัปตัน) 

เมื่อเราเปรียบคู่จิ้นเป็นดั่งเรือ (Ship) กัปตันเรือ ก็คือบุคคลสำคัญสำหรับคู่จิ้นนั่นเอง

@ Sailing Ship (เรือแล่น)

สถานการณ์ของเรือจะแล่นฉิวได้ เมื่อคู่จิ้นนั้น ๆ มีโมเมนต์หวาน ๆ ด้วยกันบ่อยๆ ยิ่งมีโมเมนต์เยอะ เรือก็ยิ่งแล่นได้ดี และหากเรือแล่นได้ดี เหล่าชิปเปอร์ทั้งหลาย ก็จะมีความสุขมากๆ

@ Sunk Ship (เรือจม) 

เมื่อเรือแล่นคือความสมหวัง เรือจมก็คือจุดจบของคู่จิ้นนั่นเอง หลายครั้งที่เหล่าชิปเปอร์ต้องอกหัก เพราะเมื่อกัปตันไม่ยอมพาย เรือก็ไม่ยอมวิ่ง สุดท้ายไม่มีโมเมนต์ใดๆ ออกมาทั้งสิ้น ในที่สุด เมื่อจิ้นไม่ขึ้นอีกต่อไป เรือก็จมลงในที่สุด แต่สาเหตุของเรือจมก็มีอยู่หลายประการ โดยอาจจะมาจากตัวกัปตันเอง หรือมาจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ

@ Intervening Ship (เบียดเรือ) 

คำนี้ได้ยินมาพอสมควร แต่ไม่ค่อยพบในเว็บต่างชาติเท่าไหร่ อาจเพราะเป็นเรื่องของมารยาทในการชิปของเหล่าชิปเปอร์กระมังคะ เพราะปกติเวลาคนจะจิ้นจะชิปก็มักจะจิ้นกันในคู่หลักที่คนนิยมชิปกัน แต่เมื่อมีคนเอาบุคคลที่สามเข้ามาแทรกกับคู่ชิปที่เราจิ้นอยู่ จึงเป็นเรื่องของการทำร้ายจิตใจกันและดูไร้มารยาทไปนิดหนึ่ง เราจึงมักได้ยินสำนวนที่ว่า “อย่าเบียดเรือ” ซึ่งก็หมายความว่า เขากำลังจิ้นคู่ที่กำลังชื่นชอบกันอยู่ อย่าเอาบุคคลอื่นมาจิ้นร่วมอีกเลย หรือหากอยากจิ้นคู่ที่ไม่ใช่คู่ชิปหลัก ก็ไม่ควรมานำบุคคลที่สามเข้ามาแทรกกับคู่ที่คนกำลังชิปกันอยู่ ... งานนี้ไม่ 3P นะจ๊ะ!

@ Skinship (สกินชิพ) 

คำนี้มาจากคำว่า Skin+Relationship ถ้าจะให้แปลง่าย ๆ ก็แปลแบบตรงตัวเลยค่ะ Skin แปลว่าผิวหนัง Ship มากจากคำว่าความสัมพันธ์หรือการนัวเนียกัน ดังนั้น Skinship ก็คือการที่คู่จิ้นมีการสัมผัสทางร่างกายของกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะส่วนใดก็ตาม สำหรับแฟนคลับนั้น แค่ได้เห็นเขาสัมผัสกัน ถูกเนื้อต้องตัวกันและกัน จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แฟนๆ ก็ฟินไปไกลแล้ว

@ Moment (โมเมนต์) 

คือ สถานการณ์ที่คู่จิ้นที่เราชื่นชอบได้ทำร่วมกัน หรือเป็นสถานการณ์ที่น่าประทับใจต่างๆ อันเป็นเหตุให้แฟนๆ เชื่อว่าคู่จิ้นที่เราชื่นชอบมีความรู้สึกดีๆ ให้กันจริงๆ

@ Fan Service Moments (แฟนเซอร์วิส) 

คำนี้เพิ่งมาไม่นาน หลายคนอาจยังไม่เคยได้ยิน แต่คำนี้จะว่าไปแล้วก็คล้ายกับคำประเภท “โมเมนต์” ปกตินั่นเอง แต่จะพิเศษกว่านิดหนึ่งตรงที่ Fanservice เป็นโมเมนต์ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อสร้างความสุขใจและเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับพวกเหล่าแฟนคลับที่เป็นกลุ่มชิปเปอร์ให้ได้มีมโนหนักขึ้นไปอีกหลายเท่า เช่น การถ่ายทำบางฉาก ศิลปินบางคู่อาจมีการเพิ่มฉากที่ไม่จำเป็นต้องมีลงไป แต่เป็นการสร้างสีสันให้กับคนดูมากขึ้น เช่น การเปิดอกเสื้อให้กว้างขึ้นเพื่อโชว์ร่องอก หรือเพิ่มฉากโชว์ขอบกางเกงในให้ดูเซ็กซี่ขึ้นอีกนิด เป็นการเอาใจแฟนคลับเพิ่มอีกหน่อย หรือฉากหวานของตัวละครคู่หลัก อาจมีการเพิ่มฉากกระชากเสื้อออกจากตัวโดยไม่ได้มีอยู่ในสคริปต์มาก่อน (บางทีเราอาจเคยเจอบนงานคอนเสิรต์มาบ้างนะคะ) พี่เคทก็ขอเรียกโมเมนต์แบบแฟนเซอร์วิสนี้ว่า ฉากเรียกเสียงกรี๊ด ก็แล้วกันค่ะ

@ Fandom (แฟนด้อม) 

มาจากคำว่า Fan + Kingdom คือ กลุ่มแฟนคลับขนาดใหญ่ต่างๆ ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อติดตามสนับสนุนศิลปินหรือภาพยนตร์ที่ตนชื่นชอบ จากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล รูปภาพ เนื้อหาของศิลปินหรือภาพยนตร์ที่ตนสนับสนุนให้แก่กันและกันภายในกลุ่ม หากพูดถึงแฟนด้อมที่มีขนาดใหญ่มากติดอันดับโลก ก็ขอยกตัวอย่างกลุ่มแฟนด้อมของวง BTS ซึ่งเรียกขานตัวเองว่า ARMY นั่นเองค่ะ

@ Solo fan/Solo Stan (แฟนบ้านเดี่ยว) 

คือ เหล่าแฟนคลับที่ชื่นชอบหรือสนับสนุนศิลปินที่ตนชอบเพียงแค่คนเดียว (แต่อาจชอบได้หลายศิลปินจากกลุ่มอื่นได้อีก) และมักไม่สนับสนุนให้ศิลปินคนนั้นไปมีข่าวเชิงชู้สาวกับใครทั้งสิ้น (โดยเฉพาะกับผู้ที่ตนเองไม่ชอบ) ค่อนข้างหวงศิลปินมาก จึงไม่ชอบพวกกลุ่มแฟนคลับประเภทบ้านคู่สักเท่าไหร่นัก (หรืออาจจะมีที่ชอบก็ได้ แต่มักไม่ค่อยเจอเลยค่ะ)

@ Shipper Fan (แฟนบ้านคู่) 

คือ พวกแฟนคลับที่เป็นชิปเปอร์ทั้งหลายที่ชอบจับคู่จิ้นหลังจากดาราที่ชื่นชอบ หลังจากที่มีผลงานร่วมกัน แล้วจึงไปก่อสร้างกลุ่มแฟนคลับสำหรับดาราทั้งสองคนเอาไว้ ทั้งยังคอยเฝ้าจับตาดูโมเมนต์ของดาราคู่จิ้นของตนเอาไว้ตลอด เรียกว่า เฝ้าดูแบบทุกการเคลื่อนไหวกันเลยทีเดียวค่ะ...เคยมีถึงขั้นที่ว่า หากมีคนใดคนหนึ่งในคู่จิ้นโพสต์อะไรลงในโซเชียล เหล่าชิปเปอร์ก็จะรีบดำเนินการถอดรหัสออกมาทันทีว่ามันสื่อถึงดาราคู่จิ้นอีกฝ่ายหนึ่งอย่างไรได้บ้าง เรียกว่า ไม่มีทางรอดสายตาเหล่าชิปเปอร์ไปได้แม้แต่นิดเดียวจริง ๆ ค่ะ เล่นเอาพวกแฟนบ้านเดี่ยวถึงกับออกอาการเขม่นไปเลยก็มีค่ะ..อะไรเธอจะแปลรหัสกันเก่งเบอร์นั้นจ๊ะ...

@ Anti Fan (แอนตี้แฟน) 

คือ แฟนคลับ ที่ไม่ชอบศิลปินบางคน และบางคนถึงขั้นประกาศตัวว่าไม่ชอบและต่อต้านผลงานทุกประเภทของศิลปินนั้น ๆ

@ Fanfic/Fan Fiction (แฟนฟิคหรือแฟนฟิคชั่น) 

คือนิยายที่เขียนขึ้นหลังจากได้ชมผลงานของศิลปินคู่ที่ตนเองชื่นชอบมากๆ ไม่ว่าจะเกิดจากการได้ชมซีรีย์หรือการได้ชมการแสดงดนตรีร่วมกันของนักร้องนักดนตรีบางวงก็ตาม โดยผู้เขียนจะสร้างให้ตัวศิลปินที่ตัวเองชื่นชอบ ได้มาเป็นตัวละครในแบบต่าง ๆ ตามที่ผู้เขียนจินตนการ โดยมีพล็อตเรื่องที่มีความหลากหลายตามความต้องการหรือตามจินตนาการของนักเขียนนั้นๆ เพื่อสนองความต้องการของตัวเองและกลุ่มแฟนคลับที่ส่วนมาก มักเป็นพวกชิปเปอร์

เป็นไงบ้างคะ เต็มอิ่มกันจนสำลักคำศัพท์ที่เอามาฝากกันหรือเปล่า? อย่าลืมจดลงบันทึกคำที่สนใจกันไว้นะคะ รับรองได้ใช้แน่นอน แต่หากเพื่อนๆ นักอ่านมีข้อสงสัยหรืออยากสอบถามเพิ่มเติม สามารถทักทายกันได้ที่ เพจ Kate Yi Fang เช่นเดิมค่ะ

พบกันใหม่คราวหน้าค่ะ พี่เคทสัญญาว่าจะหาเรื่องราวแซ่บๆ สนุกๆ มาเล่าให้ฟังกันอีกแน่นอนค่ะ

วันนี้ไปก่อนนะคะ

บาย

เคทอี้ฟาง

เครดิตภาพ : www.fanlore.org, www.whatsonweibo.com , YOUKUOfficial














กำลังโหลดความคิดเห็น