August Never Ends (2021) หรือ เชื่อมหัวใจไว้ด้วยรัก อาจไม่ได้เป็นหนังใหม่ถอดด้าม เพราะที่จีนออกฉายไปตั้งแต่เมษายน และทาง IQIYI Thailand นำมาสตรีมมิ่งบนแอป เมื่อกลางปีที่ผ่านมา
แต่ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้อยู่ที่การโคจรมาพบกันของ 3 นักแสดงเจ้าบทบาทอย่าง ถานซงอวิ้น-หลัวจิ้น-จงฉู่ซี แถมยังเป็นการพลิกลุคพลิกบทบาท ถือเป็นทางเลือกใหม่สำหรับใครที่เป็น FC ของทั้ง 3
จะบอกว่าเป็นผลงานดูแก้ขัดระหว่างรอผลงานใหม่ก็ว่าได้ เพราะกว่าที่ซีรีส์ใหม่ของนักแสดงทั้ง 3 จะเข้าฉายก็อีกนาน ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ที่รอคอยอย่าง Master of My Own ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะฉายเมื่อไร ผลงานของ ‘ถานซงอวิ้น’ แสดงคู่กับ ‘หลินเกิงซิน’ พระเอกหน้าหยก หรือซีรีส์ของ ‘หลัวจิ้น’ ประกบนางเอกหมื่นล้านวิว ‘จ้าวลี่อิง’ ใน The Story of Xing Fu 2022 ที่คาดว่าจะได้ชมปีหน้า 2022 ขณะที่จงฉู่ซี หรือ เอลเลน จง จะมีซีรีส์เรื่องใหม่คู่กับ ‘สวีข่าย’ ใน Lost in the Kunlun Mountains ก็ลงจอปีหน้า 2022 เช่นกัน
สำหรับ August Never Ends (2021) หรือ เชื่อมหัวใจไว้ด้วยรัก เป็นหนังแนวโรแมนติกดราม่า ว่าด้วยเรื่องราวผู้หญิงสองคนที่มีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และกลายมาเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาอันรวดเร็ว แต่กลับมารักผู้ชายคนเดียวกัน โชคชะตาที่พาให้พวกเขาทั้งสามมาพบกันกลับพลิกชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
แนะนำตัวละคร
ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ใช้ตัวละครเพียง 4 ตัว ประคองเนื้อเรื่องไปทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแกนหลักของเรื่องอยู่ที่ เว่ยยาง
•เว่ยยาง เจ้าของร้านกาแฟและร้านหนังสือ ผู้เงียบขรึม เก็บกด โดดเดี่ยว รักการถ่ายภาพ มีมอเตอร์ไซค์คู่ใจเป็นเพื่อน ความเป็นคนมีปมในอดีตจากแม่ที่มักทำร้ายเธอในวัยเด็ก และให้กำเนิดเธอ โดยฝังความคิดว่าเป็นเพียงเครื่องมือรั้งพ่อไม่ให้ทิ้งแม่ไป ด้วยสถานการณ์อันน่าสับสันและโหดร้ายจึงทำให้เว่ยยางรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดผู้เป็นแม่ และมีอคติกับผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ในความรัก บ่มเพาะให้เติบโตมาเป็นคนปิดกั้นตัวเอง ไม่ค่อยมีเพื่อน ซึ่งจงฉู่ซี นักแสดงสาวหน้าสวย จากซีรีส์ ‘รักนี้ต้องเป็นเธอ’ (Youth Should be Early 2021) และแจ้งเกิดในไทยจากบทอสูรสาว ในภาพยนตร์ ‘โคตรพยัคฆ์หยินหยาง’ (The Knight of Shadows : Between Yin and Yang) มารับบท ‘เว่ยยาง’ พลิกลุคจากสาวสวยเก๋กลายเป็นสาวเซอร์ ลุคหมาป่าผู้โดดเดี่ยวไปเลย
•หลินเสี่ยวเฉียว พนักงานฝ่ายขายโรงแรมหรู สาวน้อยผู้สดใส มีชีวิตชีวา มองโลกในแง่ดี แม้ว่าพ่อแม่ของเธอจะหย่าจากกัน ก็ไม่ได้เปลี่ยนมุมมองเสี่ยวเฉียวให้มืดมนแต่อย่างใด กลับกลายเป็นว่าเธอทุ่มเทความรักเพียงหนึ่งเดียวให้ชายหนุ่มเจาเหยียน คู่หมั้นที่คบกันมาเกือบ 10 ปี และหวังจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับชายหนุ่มคนนี้ รับบทโดย ถานซงอวิ้น นางเอกหน้าแบ๊วจาก ‘ถักทอรักที่ปลายฝัน และร้อยรักปักด้วยใจ
•แม่ของเว่ยยาง หญิงสาวใจสลายที่เสียชีวิตตั้งแต่ยังสาว เพราะสามีไม่ซื่อตรงต่อความรัก ทำให้เธอถูกทอดทิ้ง ความโศกเศร้าปนแค้นใจ จึงเอาอารมณ์มาลงกับลูกสาวเพียงคนเดียว รับบทโดย ‘ถานซงอวิ้น’
•เจาเหยียน นักออกแบบตกแต่งภายใน บุคลิกอบอุ่น เป็นกันเอง มีน้ำใจ ซื่อสัตย์ในความรู้สึกของตัวเอง และมาค้นพบความรักแท้จริงเมื่อพบเว่ยยาง รับบทโดย ‘หลัวจิ้น’ พระเอกมากฝีมือจากซีรีส์ ‘องค์หญิงเว่ยหยาง วีรสตรีนักสู้กู้แผ่นดิน’ และ ‘ลำนำกระเรียนทอง’
จุดเริ่มต้นของมิตรภาพ ก่อนแปรเป็นความผิดบาปในใจ
เปิดเรื่องมาด้วยภาพฝันอันโหดร้ายในวัยเด็กของเว่ยยาง ก่อนตัดมาที่ภาพเช้าวันธรรมดาของเว่ยางที่ใช้ชีวิตตัวคนเดียว และเดินทางเข้าคอร์สเรียนภาษาญี่ปุ่น โดยไม่พูดกับใครเลย แต่วันนี้ต่างจากทุกวันตรงที่มีหลินเสี่ยวเฉียวแนะนำตัวในฐานะนักเรียนใหม่ และเดินมาขอนั่งข้างเว่ยยาง โดยที่เธอไม่ใส่ใจอะไรมากนัก สุดท้ายกลับต้องชะงักเมื่อเธอหันมาและพบว่าเสี่ยวเฉียว มีใบหน้าเหมือนกับแม่ของเธอไม่มีผิด
ไม่แน่ใจเพราะความหน้าเหมือนแม่ หรือความร่าเริง หรือความตื้อเหมือนเด็กของเสี่ยวเฉียว จึงทำให้เว่ยยางยอมให้เธอตีสนิท กิจกรรมแบบที่เพื่อนสาวส่วนใหญ่ทำกันจึงเริ่มขึ้น โดยมีเสี่ยงเฉียวดึงเธอไปทุกที่ จนเว่ยยางค่อยๆ เปิดรับเสี่ยวเฉียวเข้ามาในชีวิต ต่างคนต่างแลกเปลี่ยนเรื่องราวของกันและกัน
ความที่เสี่ยวเฉียวมองโลกในแง่ดี เชื่อมั่นในความรัก และวาดฝันว่าจะได้แต่งงานกับชายที่รักมานานเป็น 10 ปี พยายามผลักดันและให้กำลังใจเว่ยยางให้เปิดโอกาสกับความรักบ้าง ซึ่งคำพูดนั้นทำให้เธอเริ่มอยากลองเริ่มต้นกับใครสักคนเหมือนกับเสี่ยวเฉียวบ้าง แม้ว่าจะยังไม่มั่นใจในความรู้สึกก็ตามนี้
ระหว่างมิตรภาพกำลังเบิกบาน เว่ยยางได้รู้จักกับชายคนหนึ่งที่บังเอิญช่วยเธอเข็นมอเตอร์ไซค์เข้าร้านระหว่างฝนตกหนัก ซึ่งเธอตอบแทนเข้าด้วยกาแฟ ความที่คุยกันถูกคอ (ส่วนใหญ่ฝ่ายชายเป็นคนพูดซะมากกว่า) และชอบอะไรคล้ายๆ กัน จากวันนั้นเขาก็แวะมาซ่อมมอเตอร์ไซค์ให้เว่ยยางที่ร้านกาแฟ ทำให้ทั้งคู่เกิดความรู้สึกดีๆ ต่อกัน
วันหนึ่งเว่ยยางไปหาเสี่ยวเฉียวที่ทำงาน และได้พบกับชายคนนั้น เสี่ยวเฉียวจึงแนะนำทั้งคู่รู้จักกัน ทำให้ต่างคนต่างเพิ่งรู้ว่า เว่ยยางคือเพื่อนสนิทของเสี่ยวเฉียว และชายคนนั้นที่แท้ คือ เจาเหยียน คู่หมั้นของเสี่ยวเฉียว นั่นเอง!
นับแต่นั้นเว่ยยางรักษาระยะกับเจาเหยียนทันที เพราะไม่อยากสูญเสียความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่มีต่อเสี่ยวเฉียว ซึ่งเป็นมิตรภาพที่เธอไม่เคยมีมาก่อน แต่เมื่อทั้งคู่คือคนสำคัญในชีวิตของเสี่ยวเฉียว โดยที่เสี่ยวเฉี่ยวไม่เคยระแวงพวกเขาแม้แต่น้อย ทำให้ทั้งคู่เจอกันบ่อยๆ โดยมีเสี่ยวเฉียวเป็นคนกลาง ท่ามกลางความกระอักกระอ่วนใจของทั้งคู่
มาถึงวันปีใหม่ทั้งสามฉลองเคาท์ดาวน์ด้วยกัน ในงานเต็มไปด้วยคู่รักจนเว่ยยางรู้สึกเหมือนเป็นคนนอกและหลบออกจากงานไปท่ามกลางฝนตก เจาเหยียนไปตามหาและเข้าไปหลบฝนในประภาคาร จนในที่สุดทั้งคู่ก็เผลอใจเป็นของกันและกัน
จากนั้นความรู้สึกผิดกัดกินใจเว่ยยางมาตลอด ตัดสลับกับภาพความทรงจำในวัยเด็กที่ตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนมีความหมายอะไรบางอย่าง เธอตัดสินใจยุติความสัมพันธ์กับเจาเหยียน ต่างจากเจาเหยียนที่รู้ใจตัวเองแล้วว่ารักแท้ของเขา คือ เว่ยยาง เขาพยายามโน้มน้าวให้เธอใช้ชีวิตร่วมกับเขา และยกเลิกงานแต่งงานกับเสี่ยวเฉียวอย่างไม่ลังเล โดยให้เหตุผลไปตามตรงว่าเขาพบรักแท้ของเขาแล้ว แต่ไม่บอกว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร? เพราะเขารู้ดีว่าเว่ยยางหวงแหนมิตรภาพครั้งนี้มาก
การถูกปฏิเสธการแต่งงาน ทำให้เสี่ยวเฉียวใจสลายด้วยสภาพเหมือนนกปีกหักเหมือนคนเสียศูนย์ ความสงสัย ความผิดหวัง ความเสียใจ ประดังเข้ามาในใจของเสี่ยวเฉียว เว่ยยางคอยเป็นกำลังใจและดูแลเธออย่างดี ให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้าง ไม่ทอดทิ้งเธอ จู่ๆ วันหนึ่งเสี่ยวเฉียวหายไปจากบ้านเฉยๆ เว่ยยางออกตามหาอย่างไม่รู้เหนื่อยจนประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม เธอตื่นขึ้นมาและพบหน้าเจาเหยียนเป็นคนแรกที่โรงพยาบาล เธอได้แต่โทษตัวเองว่าคนที่ควรหายไปน่าจะเป็น ‘เธอ’ มากกว่า ‘เสี่ยวเฉียว’
แล้วเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้เธอลุกจากเตียงในสภาพชุดคนไข้ เพื่อไปโรงพักประกันตัวเสี่ยวเฉียว เพื่อนรักของเธอนั่นเอง ในสภาพสิ้นหวัง จากเหตุการณ์นี้ความเป็นเพื่อนของทั้งคู่ก้าวไปอีกขั้น เสี่ยวเฉียวไปเคลียร์ใจกับเจาเหยียนอีกครั้ง และดูเหมือนจะเริ่มทำใจได้แล้ว แน่หรือ?
เมื่อเจาเหยียนตระหนักแล้วว่าความรักของเขาไม่อาจรั้งใจเว่ยยางได้ เขาตัดสินใจหันหลังให้กับอดีตบินไปทำงานที่โตเกียว มาถึงตรงนี้ความสัมพันธ์ของระหว่างเว่ยยางและเสี่ยวเฉียว จะดำเนินไปอย่างไร? ความรักของเขาและเธอจะมาบรรจบกันได้หรือไม่? เสี่ยวเฉียวจะรู้ความจริงหรือไม่?
นี่คือประเด็นให้ผู้ชมต้องไปตามติดกันจนจบเรื่อง
กระตุกต่อมชวนดู
•แม้เรื่องย่อมาแบบสูตรสำเร็จของหนังรักสามเส้า แต่ด้วยงานภาพสวย โทนภาพถ่ายทอดความรู้สึกโดดเดี่ยวแบบเบาๆ ออกมาได้ดี จึงทำให้หนังออกมาชวนเหงามากกว่าเป็นแนวชิงรักหักสวาทแบบเดิมๆ ซึ่งความรู้สึกนี้ถ่ายทอดอารมณ์ตัวละครหลักอย่างเว่ยยางออกมาอย่างเต็มเปี่ยม อีกทั้งมีการใช้สีเปลี่ยนโทนอารมณ์ของเรื่องในบางจังหวะ
•การให้น้ำหนักเน้นไปที่พัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ซึ่งในมุมของเว่ยยางมิตรภาพนี้ ราวกับจะเยียวยาอดีตอันเจ็บปวดของเธอ ความผูกพันของ 2 เพื่อนสาว มากอีกนิดก็อาจพาผู้ชมมโนไปไกลถึงขั้นเป็นคู่จิ้นได้ แต่ท้ายสุดก็อยู่ในสถานภาพความเป็นเพื่อนซี้ จนจัดว่าเป็นหนังแนวมิตรภาพที่ดีเรื่องหนึ่งก็ว่าได้
•ถูกต้องแล้ว…เรื่องนี้ถานซงอวิ้นรับบทเป็น 2 ตัวละคร ด้านหนึ่งคือหลินเสี่ยวเฉียว อีกด้านหนึ่งคือแม่ของเว่ยยาง ที่บังเอิญทั้งคู่หน้าตาเหมือนกันราวกับฝาแฝด แต่บุคลิกต่างกันโดยสิ้นเชิง ถือเป็นการชิมลางบทที่แตกต่างจากที่ผ่านมาของถานซงอวิ้น
•การพลิกลุคของจงฉู่ซี โดยเฉพาะฉากขี้มอเตอร์ไซค์ที่เธอเล่นได้เท่มาก ในเรื่องตัวละครของเธอมีบทพูดน้อย ทำให้ต้องใช้สีหน้า-แววตาในการสื่ออารมณ์ค่อนข้างมาก ซึ่งเธอถ่ายทอดออกมาได้แบบ Less is more จริงๆ
•เพลงประกอบเพราะ "The Other Half of Me" แถมได้ถานซงอวิ้นและจงฉู่ซี นักแสดงนำของเรื่องมาขับร้องเองด้วย
ความจืดชืด…ที่ต้องเจอ
•การผูกเรื่องปมในวัยเด็ก มาเชื่อมโยงกับพฤติกรรมปัจจุบันของเว่ยยาง แม้ดูเป็นเหตุเป็นผล แต่ด้วยสัดส่วนการใส่เนื้อหาในอดีตน้อยเกินไป หรืออะไรบางอย่าง ทำให้การส่งอารมณ์ตรงนี้ไม่ปังเท่าไร
•อุตส่าห์ได้ถานซงอวิ้นมาพลิกบท 2 บุคลิก และได้พระเอกเจ้าบทบาทระดับหลัวจิ้น มาเสริมพลังในเรื่องทั้งที แต่เนื้อเรื่องกลับให้น้ำหนักบทแม่เว่ยยางและบทเจาเหยียน ซึ่งเป็นปมหลักของเรื่องน้อยไปหน่อย กลายเป็นให้พื้นที่ปล่อยของไม่สุดทาง
•อาจเพราะตัวหนังยาวเพียงแค่ชั่วโมงกว่า จึงไม่มีการปูปูมหลังความสัมพันธ์ระหว่างเสี่ยวเฉียว&เจาเหยียน และขยี้ความรักระหว่างเว่ยยาง&เจาเหยียนเท่าที่ควร ทำให้รู้สึกว่าถ้าจะแลกผู้ชายคนนี้กับมิตรภาพความเป็นเพื่อนอันแนบแน่นก็ไม่รู้สึกเสียดาย
สำหรับสายดราม่าที่ผ่านพล็อตแนวนี้มาอย่างโชกโชน คงพอเดาได้ว่าเรื่องทรงนี้ไม่มีคำว่า ‘จบสวย’ แต่เป็นตอนจบที่เคลียร์ทุกปมแบบเหงาๆ ไปพร้อมกับสัญญาณของการเริ่มต้นใหม่
ส่วนจะเป็นตอนจบถูกใจผู้ชมแค่ไหน ต้องไปชมกันเอง ซึ่งเปิดให้ชมฟรี บนแอป IQIYI Thailand และ iQ.com
เรียงร้อยเรื่องราว : Softlens
อ้างอิงเรื่องและภาพ :weibo.com/u/5526907869, FB : iQIYI Thailand, iq.com/play/123ra1myit0, mydramalist.com