ออนแอร์แค่สองตอนทาง Netflix ก็กลายเป็นกระแสร้อนแรงในโซเชียลฯ “The King’s Affection : ราชันผู้งดงาม” ซีรีส์แนว พีเรียด โรแมนติก-ดราม่า ที่สอดแทรกเรื่องราวเข้มข้นทั้งการเมือง ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของชาวเกาหลีเมื่อหลายร้อยปีก่อน
งานภาพคือดีงาม พระ-นางเคมีลงตัว เนื้อเรื่องดำเนินเร็วไม่มีย้วย เมื่อเจ้าชายถูกลอบสังหารและน้องสาวฝาแฝดต้องสวมรอยแทนพี่ชายไปตลอดกาล แต่แล้วเมื่อรักแรกมาปรากฏตัวเบื้องหน้าให้ใจสั่นระรัว เจ้าหญิงจะเก็บซ่อนความลับและฝ่าฟันทุกอุปสรรคเพื่อครองบัลลังก์เลือดได้หรือไม่?
พล็อตดูธรรมดากับมุกหญิงแต่งเป็นชายที่มีให้เห็นในซีรีส์แนวพีเรียด แต่กลายเป็นความน่าสนใจและ ท้าทายขนบธรรมเนียมประเพณีในอดีต ราวกับเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกาหลีใต้
เมื่อผู้หญิงกลายเป็นว่าที่กษัตริย์ครองบัลลังก์แห่งราชวงศ์โชซอน!
ซีรีส์เรื่องนี้ได้ ฮันฮีจอง นักเขียนหญิงที่เคยฝากผลงานไว้จากซีรีส์ Clean with Passion for Now มารับหน้าที่เขียนบท โดยดัดแปลงบทจากการ์ตูนเกาหลีเรื่อง Yeonmo (ยอนโม) จึงเป็นบทที่ท้าทายความสามารถสำหรับนางเอกของเรื่องอย่าง ‘พัคอึนบิน’ ที่เรื่องนี้เธอต้องแสดงเป็นชายในร่างหญิงให้แนบเนียนที่สุด เพราะมีชีวิตของเจ้าหญิงและทุกคนที่ล่วงรู้ความลับเป็นเดิมพัน
“มันเป็นบทที่ไม่เหมือนใครและคงไม่มีเข้ามาบ่อยนัก เพราะประวัติศาสตร์เกาหลีมีแต่ราชาเป็นผู้ชาย พระราชาที่เป็นผู้หญิงจึงมีแค่ในจินตนาการเท่านั้น” พัคอึนบินกล่าวถึงบทบาทที่ได้รับด้วยความตื่นเต้น
แต่ไม่ใช่เรื่องสนุกนักสำหรับผู้กำกับฯ ซงฮยอคอุค (จากซีรีส์ Undercover) และอีฮยอนซอก (จากซีรีส์ Hello, Me!) ที่กังวลกับความสูงของ ‘โรอุน’ ศิลปินชื่อดังแห่งวง SF9 หนุ่มหล่อมาดเท่ที่มาพร้อมส่วนสูงถึง 192 เซนติเมตร ขณะที่นางเอกมีความสูงเพียง 163 เซนติเมตร
โรอุนเป็นทั้งนายแบบ นักร้อง และนักแสดงรุ่นใหม่ที่ผลงานไม่ธรรมดา แรกทีเดียวผู้กำกับฯ มีความลังเลใจ แต่พอได้พบเจอและพูดคุยกับโรอุนครั้งแรก พวกเขาก็มั่นใจว่า โรอุนนี่แหละคู่ควรกับบท ‘จองจีอุน’ (พระเอก) ที่สุดแล้ว พวกเขาจึงต้องแคสติ้งนักแสดงชายหลักที่มีส่วนสูงเฉลี่ย 180 เซนติเมตร รวมถึงเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ที่มีดีทั้งหน้าตาและฝีไม้ลายมือที่น่าจับตามอง
“จองจีอุน เป็นตัวละครที่กล้าหาญ ฉลาด ไหวพริบดี มีอารมณ์ขัน และเชื่อมั่นในตัวเอง ขณะเดียวกันเขาก็มีปมวัยเด็กอันขื่นขม ตอนแรกผมค่อนข้างกังวลกับความสูงของโรอุนและคาแร็กเตอร์ที่ได้รับ แต่หลังจากที่เราพูดคุยกับประมาณชั่วโมงครึ่ง ความกังวลของผมก็หายไปเลย นอกจากความหล่อและความสูงแล้ว โรอุนยังมีความมั่นใจในตัวเองและเป็นคนตลกด้วย” ผู้กำกับฯ ซงฮยอคอุค กล่าว
ชีวิตอันขื่นขมและปมดราม่าขององค์ราชันผู้งดงาม
The King’s Affection - ราชันผู้งดงาม เปิดฉากด้วยคืนหนึ่งในวังหลวงที่พายุฝนโหมกระหน่ำ พระชายา (รับบทโดย ฮันแชฮา) ได้ให้กำเนิดฝาแฝดชาย-หญิง ซึ่งถือเป็นลางร้ายอย่างมากตามความเชื่อของคนโบราณ องค์ราชาจึงมีรับสั่งให้สังหารแฝดผู้น้อง (แฝดหญิง) อย่างไม่ปราณี โดยมี เสนาบดีซังฮอน (ที่มีศักดิ์เป็นตาและพ่อของพระชายา) เป็นผู้สนองพระราชโองการ และผู้ตรวจการจองซอกโจ (รับบทโดย แบซูบิน) รับหน้าที่สังหารทารกน้อยและทุกคนที่ล่วงรู้ความลับนี้ทั้งหมด ก่อนจะจุดไฟเผาศพทำลายหลักฐานให้สิ้นซาก
แต่ด้วยความรักลูกของพระชายา จึงร่วมมือกับหมอหลวงและซังกุงคิม (รับบทโดย แบคฮยอนจู) แอบช่วยเหลือทารกน้อยให้รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชได้อย่างหงุดหวิด เมื่อเสนาบดีและผู้ตรวจการมาถึงตำหนักพระชายาก็พบว่าแฝดหญิงได้เสียชีวิตแล้ว เสนาบดีจึงสั่งให้ผู้ตรวจการเช็คให้แน่ใจอีกครั้งว่า เจ้าหญิงน้อยสิ้นลมแล้วจริงๆ ซึ่งต้องชื่นชมเทคนิคฝังเข็มขั้นสูงของหมอหลวงที่ทำให้หนูน้อยหยุดหายใจชั่วครู่ แต่ก็ทิ้งรอยแผลเป็นเล็กๆ ไว้หลังท้ายทอย
ชะตาชีวิตของเจ้าหญิงดัมอี (รับบทโดยเด็กหญิงชเว มยองบิน) แสนจะอาภัพ เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าที่เติบโตมาในวัดแห่งหนึ่งบนภูเขาและเลี้ยงดูโดยท่านเจ้าอาวาส แต่หลังจากไฟไหม้วัดและเจ้าอาวาสมรณภาพ เจ้าหญิงจึงได้รับความช่วยเหลือจากหญิงชาวบ้านคนหนึ่งจนได้ร่วมคัดตัวเป็นนางกำนัลฝึกหัดในวังหลวง
หลังผ่านการทดสอบด้วยเลือดของนกแก้ว เจ้าหญิงจึงใช้ชีวิตเป็นนางกำนัลฝึกหัดและบังเอิญได้พบกับเจ้าชายอีฮวี (พี่ชายฝาแฝด) ซึ่งแอบสลับร่างกับน้องสาว เพื่อลักลอบออกไปพบกับอาจารย์ที่ขับไล่ออกนอกวัง
เจ้าหญิงดัมอีมีรักแรกกับจางจีอุน (บุตรชายของผู้ตรวจการจองซอกโจ) และมีโมเม้นต์โรแมนติกด้วยกันกรุบกริบตามวัย แต่เคราะห์กรรมก็ไม่หมดจากชีวิตของเธอ เมื่อผู้ตรวจการจับโป๊ะได้ว่า เจ้าหญิงไม่ได้ตายจริงแถมยังใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวงอีกด้วย เสนบาดีจึงสั่งให้ผู้ตรวจการตามเก็บหลานสาวแท้ๆ โดยไม่รีรอ
แล้วความพังบังเกิดเมื่อเจ้าชายอีฮวีดันขอสลับตัวกับดัมอี เพื่อไปบอกลาอาจารย์เป็นครั้งสุดท้ายตรงลานประหาร นี่เองที่ทำให้ผู้ตรวจการจองซอกโจสังหารผิดตัว!
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า ซีรีส์ดำเนินเรื่องเร็วเว่อร์ ชนิดที่เจ้าชายอีฮวีตายตั้งแต่ตอนจบ Ep.1 ทั้งที่ปูบทมาดีงามทั้งความเฉลียวฉลาด ช่างเจรจา เรียนดี กีฬาเลิศ และน่าจะเติบโตเป็นกษัตริย์ที่ดี เราจึงแอบเสียดายที่พระองค์ตายทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าดัมอีเป็นน้องสาวฝาแฝด พระชายาจึงต้องเฉลยความจริงให้ดัมอีรู้และขอร้องให้เธอใช้ชีวิตที่เหลือปลอมตัวเป็นพี่ชายไปตลอดกาล
แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเมื่อพระชายาต้องมาสิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังสาว เหลือเพียงซังกุงคิม ขันทีฮง และราชองครักษ์เท่านั้นที่เป็นพันธมิตรร่วมปกป้องความลับกับเธอ
ช่วงแรกเธอต้องปรับตัวมหาศาลโดยได้รับการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากขันทีฮง (สหายคนสนิทตัวอ้วนกลม) และซังกุงคิม แต่เมื่อโตเป็นสาวเจ้าหญิงดัมอีก็สวมบทบาทได้อย่างแนบเนียน แถมยังเก่งกาจปราดเปรื่องไม่แพ้ชายใดในปฐพี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอต้องพัวพันกับเกมการเมือง การลอบสังหาร และการอิจฉาริษยาจากเชื้อพระวงศ์ด้วยกันเอง ซึ่งดูเหมือนเธอจะรับมือได้ดีจนเรียกว่า เป็นหญิงแกร่งแห่งราชวงศ์โชซอนตัวจริงเลยล่ะ
แต่แล้วจองจีอุนในวัยหนุ่มที่มีเสน่ห์ล้นเหลือ กล้าหาญ ฉลาด และเจ้าคารมก็หวนคืนแผ่นดินเกาหลีอีกครั้ง เจ้าหญิงยังจำรักแรกและคำสัญญาของทั้งสองได้ดี พอๆ กับที่จดจำอดีตอันโหดร้ายที่ผู้ตรวจการ (พ่อของจีอุน) และจีอุนมีส่วนรู้เห็นกับการฆาตรกรรมนางกำนัลที่เป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็กของดัมอี
แม้ตอนแรกซีรีส์จะเน้นหนักไปทางดราม่าน้ำตาท่วม แต่ก็สอดแทรกความน่ารักในความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหญิงกับขันทีฮงและซังกุงคิมไว้อย่างอบอุ่น (เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน) เช่นเดียวกับโรอุนที่เปิดตัวมาได้อย่างหล่อเหลาเจ้าเสน่ห์สุดๆ ยิ่งฉากที่จองจีอุนส่งสายตาหวานเยิ้มให้เจ้าหญิง ก็ทำเอาสาวกฟินจิกหมอนขาดกันไปเลยสิ!
ปมแค้นบัลลังก์เลือดจะสงบลงได้อย่างไร แล้วความรักของทั้งสองจะมาบรรจบกันได้อย่างไร? ติดตามได้ในซีรีส์ The King’s Affection : ราชันผู้งดงาม จำนวน 20 ตอน ออนแอร์ทาง Netflix ทุกวันจันทร์-อังคาร ระหว่างวันที่ 11 ตุลาคม – 14 ธันวาคม 2564
ร้อยเรียงเรื่องราว : Glinda
อ้างอิงภาพ : ทวิตภพ KBSDrama , NetflixTH , m.post.naver.com