เรื่องย่อ “ธิดาวานร”
บทประพันธ์ - บทโทรทัศน์ : วรพันธ์ รวี
กำกับการแสดง : ประทุม มิตรภักดี
แนวละคร : คอมเมดี
ผลิต : บริษัท ดีด้า วิดีโอ โปรดักชั่น จำกัด
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.45 น. ทางช่อง 7 HD กด 35 หรือทาง Facebook LIVE Official Fanpage BBTV Channel7 และสามารถรับชมย้อนหลังได้ทาง BUGABOO.TV
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรก วันพุธที่ 20 ตุลาคม 2564
#ธิดาวานร #DIDAVIDEO #ช่อง7HD #ch7HDdramasociety #lakornonlinefan #ยืนหนึ่งข่าวละคร
เรื่องย่อสั้น
เจ้านันตะทร (รติพงษ์ ภู่มาลี) หัวหน้าชนกลุ่มน้อยทางเหนือ กับ เจ้านางทรายคำ (ชรินพร เงินเจริญ 1) ซึ่งเล่าลือว่ามีทรัพย์สมบัติมหาศาล ทำให้ สะมะแอ (ชาลี กรรณสูต) คนสนิท กับ แสนไท (พบศิลป์ โตสกุล) ลูกชายจอมโลภ ฆ่าเจ้านันตะทรแล้วบังคับให้เจ้านางทรายคำบอกที่ซ่อนสมบัติ แต่เจ้านางทรายคำหนีมาได้ และนำลูกสาววัยแบเบาะใส่แพลอยน้ำไปพร้อมตุ้มหูเพชร และล็อกเก็ตสลักชื่อ MENGKALIA (เมงกาเลีย)
ดำรง (พลรัตน์ รอดรักษา) กับ บัวบาน (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) เศรษฐีสามีภรรยาที่เพิ่งกลับจากไปบนบานขอลูก เห็นเด็กลอยมาที่ลำธารเลยช่วยเหลือไว้ โดยเรียกหนูน้อยว่า เมงกาเลีย (ด.ญ.ชาลิสา คูคีรีเขตต์) ตามล็อกเก็ต พร้อมตั้งชื่อจริงว่า อิยะวดี ตามป้ายที่ข้อมือ
ทุกอย่างกำลังจะดำเนินไปด้วยดี แต่ดำรงกลับพลาดท่าไปได้กับ นาถยา (รัตติกร ขุนโสม )ม่ายสาวที่มีลูกติดคือ เอมฤดี (ด.ญ.ธัญญลักษณ์ เขียวเกลี้ยง / พัฒนิดา พุ่มชูแสง) นาถยาคิดฆ่าบัวบาน จึงตัดสายเบรกรถทำให้รถตกหน้าผา โชคดีที่ทรายคำช่วยชีวิตไว้ และได้รู้ว่า บัวบานคือคนที่ช่วยชุบเลี้ยง อิยะวดีลูกสาวของเธอ
หลังกำจัดบัวบานได้ นาถยาก็หลอกอิยะวดีไปฆ่าที่หน้าผาอีกคน ขณะเดียวกันที่ พนา (ด.ช.กันตพงษ์ เพชรสิทธิ์ทวี ) พร้อมกับพ่อ พินิจ (ดิลก ทองวัฒนา) และแม่ อรุณี (สาวิตรีสามิภักดิ์) ซึ่งเป็นนักธุรกิจอัญมณีชื่อดัง กำลังหนีการตามล่าของมาเฟีย คำรณ (นวพล ภูวดล)
พนาหลงป่ามาเจออิยะวดี กำลังปีนกิ่งไม้ที่ยื่นไปในเหวแต่เขาช่วยเธอไม่ทัน ทำให้อิยะวดีตกลงไปพร้อมเป้ของพนา ที่มีมือถือ และเพชรชมพู ที่คนร้ายตามล่าอยู่ พนาเสียใจที่ช่วยอิยะวดี ไว้ไม่ได้ และคิดว่าเธอคงตายไปแล้ว แต่อิยะวดีตกไปค้างบนกิ่งไม้ก้นเหว ขณะที่ พรานเส็ง (อาฉี เสียงหล่อ) กับพวกเข้ามาจับสัตว์ไปขาย แม่ลิงตัวหนึ่งโดนยิงบาดเจ็บและโดนแย่งลูกไป แม่ลิงนั่งเสียใจและได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จึงไปช่วยและพาไปไว้ในถ้ำ แม่ลิงได้เลี้ยงอิยะวดี ซึ่งอิยะวดีก็รักแม่ลิง เรียกแม่ลิงว่า แม่มา
ด้าน พนาหลังจากที่เขาออกจากป่ามาได้ เขาลองโทรศัพท์เข้าหาเบอร์ของตนเอง ซึ่งมีการกดรับสาย แต่เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงลิงและเสียงเด็กพูดมาว่า แม่มา แม่มา พนาพยายามพูดเพื่อจะได้รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ไร้ผล
ทรายคำ ที่กลายร่างเป็นเสือสมิงเพราะยอมตกเป็นเหยื่อโดนเสือกิน เพื่อช่วยให้บัวบานรอดพ้นจากเสือ แต่บัวบานกลับถูก สะมะแอ และแสนไท จับตัวไป โดยให้ทำหน้าที่ดูแล มะเมี้ยะ (ปริตา ไชยรักษ์) หลานสาวของเขา ที่ตั้งใจว่าจะใช้เธอเป็นเครื่องบูชายัญ ในการเปิดทางเข้าเมืองอัญมณี เมื่อเธออายุครบ 18 ปี
วันเวลาผ่านไป อิยะวดี (ชรินพร เงินเจริญ 2)เติบโตขึ้นเป็นสาวชาวป่าโดยมีลักษณะคล้ายลิงเพราะถูกเลี้ยงดูโดย แม่มา ส่วน พนา (จุติ จำเริญเกตุประทีป) โตขึ้นเป็นหนุ่มที่ชอบการยิงธนู และการพิทักษ์ป่า เขา สัตว์ป่า วันหนึ่งเมื่อ พนา ได้เข้ามาในป่า เขาได้มาเจอกับหญิงสาวที่ดูท่าทางเหมือนลิง พนา เกิดสงสัย และอยากรู้ถึงความเป็นมา จึงพยายามสื่อสารและเข้าหา พร้อมที่จะช่วยเหลือ ความผูกพันเริ่มก่อตัวเป็นความรัก
พนา ขอคำปรึกษาจาก บุราณ (ณศรันย์ จุมพลวิวัฒน์) นักโบราณคดีเพื่อนสนิท เรื่อง อิยะวดี รวมถึงเรื่อง เพชรชมพู เพราะเขาต้องการนำไปคืนที่เมืองอัญมณี บุราณพยายามหาข้อมูล เกี่ยวกับเมืองอัญมณี พร้อมกับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความฝันของเขา ที่มักจะฝันเห็นผู้หญิงผมยาว และชายในเครื่องแบบนักรบโบราณที่มีหน้าตาคล้ายกับเขาราวกับฝาแฝด
พนา และ บุราณ จึงตัดสินใจ เข้าป่า เพื่อสืบหาเรื่องราวทั้งหมด การเดินทางที่เต็มไปด้วยความอันตราย ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นความรัก จะนำพาทุกคนให้เจอกับบทสรุปเช่นไรต้องติดตาม
ลุ้นไปกับความรักอันบริสุทธิ์ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของ พนา และ อิยะวดี รวมถึงให้กำลังใจ บุราณ ที่ต้องการตามหาผู้หญิงในฝัน เธอจะใช่ มะเมี้ย หรือไม่? ติดตามได้ในละคร “ธิดาวานร”
รายชื่อนักแสดง “ธิดาวานร”
1. จุติ จำเริญเกตุประทีป : พนา
2. ชรินพร เงินเจริญ : เมงกาเลีย /อิยะวดี/ ทรายคำ
3. ณศรันย์ จุมพลวิวัฒน์ : บุราณ
4. ปริตา ไชยรักษ์ : มะเมี้ยะ
5. พัฒนิดา พุ่มชูแสง : เอมฤดี
6. ดิลกทองวัฒนา : พินิจ
7. สาวิตรี สามิภักดิ์ : อรุณี
8. พลรัตน์ รอดรักษา : ดำรง
9. ชัชฎาภรณ์ ธนันทา : บัวบาน
10. รัตติกร ขุนโสม : นาถยา
11. นวพล ภูวดล : คำรณ
12. ชาลี กรรณสูต : สะมะแอ
16. พบศิลป์ โตสกุล : แสนไท
13. อาฉี เสียงหล่อ : พรานเส็ง
14. ตูมตาม เชิญยิ้ม : อินสอน
15. อมต อินทานนท์ : หมอคำ
16. พอเจตน์ แก่นเพชร: พ่อปู่
17. กุสุมา ตันสกุล : ละเอ
18. ฉัตรมงคล บําเพ็ญ: หนานคำ
19. สิริยา นฤนาท : นางเมี้ยง
20. ประทุม สินธุอุสาห์ : นางไส้อั่ว
21. ดนยา รัตนธาดา : นางเงี้ยว
22. จารุศิริ ภูวนัย : ยี่เข่ง
23. คำรณ บริสุทธิ์ : สุชาติ
24. ด.ญ.ชาลิสา คูคีรีเขตต์ : เมงกาเลีย (เด็ก)
25. ด.ช.กันตพงษ์ เพชรสิทธิ์ทวี : พนา (เด็ก)
26. ด.ญ.ธัญญลักษณ์ เขียวเกลี้ยง : เอมฤดี (เด็ก)
นักแสดงรับเชิญ
27. รติพงษ์ ภู่มาลี : เจ้านันตะทร
เรื่องย่อยาว
หนูน้อย เมงกาเลีย (ด.ญ.ชาลิสา คูคีรีเขตต์) ลูกของแม่นางทรายคำ (ชรินพร เงินเจริญ ) ภรรยาหัวหน้าชนกลุ่มน้อยในพื้นตะเข็บชายแดนไทยทางเหนือเล่าลือกันว่า ที่ตั้งของชนเผ่านั้นมีขุมมหาสมบัติมากมายเก็บไว้ สะแมะแอ (ชาลี กรรณสูต) ผู้พ่อ แสนไท (พบศิลป์ โตสกุล) ลูกชาย มือขวามือซ้ายของ เจ้านันตะทร (รติพงษ์ ภู่มาลี )ทรยศอยากได้สมบัติทั้งหมดจึงฆ่าเจ้านันตะทรและทุกคนตายเกือบหมด เหลือแต่แม่นางทรายคำกับแมงกาเลียลูกสาวตัวน้อยแบเบาะ สะมะแอ แสนไท จับทรายคำไปขู่บูชายันต์ให้บอกที่ซ่อนสมบัติที่เหลือ ละเอ (กุสุมา ตันสกุล) สาวใช้ผู้ภักดีเอาหนูน้อยไปซ่อนมิดชิด ขณะที่กำลังจะเผาทรายคำเกิดพายุใหญ่ฟ้าผ่า ทรายคำหลุดจากพันธนาการ ละเอดักรอรีบมอบลูกน้อยให้แม่นางทรายคำ ทรายคำจับลูกน้อยใส่ตะกร้าใส่แพลอยมาตามลำธารพร้อมกับอธิษฐานขอให้มีผู้ใจบุญนำไปเลี้ยงดู ที่ข้อมือของหนูน้อยมีถุงตุ้มหูเพชรขาววาววับเม็ดใหญ่หลายกะรัต ใครใส่ตุ้มหูนั้นจะมีเสียงคลื่นนับเงินดังมาตลอดจะกลายเป็นผู้มีเงินมีทองมากมาย สวมล็อคเก็ตตรงกลางสลักชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า MENGKAIIA ห้อยไว้ที่คอ มีแหวนกังหันเพชรหมุนได้ ปะปนอยู่ในหีบที่ใส่เพชรสวยงามขาววาววับหลายกะรัตจำนวนหนึ่ง หีบนี้ผูกติดไว้อยู่ในตะกร้าทั้งหมดคือสมบัติตกทอดส่วนหนึ่งของตระกูลแม่นางทรายคำ เมื่อส่งลูกน้อยใส่แพแล้ว แม่นางทรายคำและละเอต่างวิ่งหนีไปคนละทางเพื่อเบนความสนใจพวกสะแมะแอ ทรายคำวิ่งหนีไปจนมุมบนหน้าผาน้ำตกตัดสินใจกระโดดน้ำตกหายไปกับสายน้ำ ส่วนละเอหนีหายไป แสนไทและสะแมะแอกลับอาณาจักรในเขตไทย แต่ยังไม่เลิกราที่จะตามหาสมบัติทั้งหมด
ดำรง (พลรัตน์ รอดรักษา) และ บัวบาน (ชัชฎาภรณ์ ธนันทา) เศรษฐีสามีภรรยาหนุ่มสาวไม่มีลูกไปอธิษฐานขอจากวัดศักด์สิทธิ์แถวชายแดน ขากลับแวะพักน้ำตกริมลำธารพบแพน้อยลอยมาพร้อมเสียงร้องไห้ของเด็ก มีเด็กตัวน้อยแบเบาะนอนในตะกร้าพร้อมสมบัติดังกล่าว ทั้งสองตั้งใจจะตามหาพ่อแม่ของเด็กน้อยและคืนสมบัติให้ ด้านละเอซัดเซหนีตายไปหาญาติอีกชนเผ่าหนึ่งใกล้ๆกัน ละเอร่ำเรียนวิชาสัมผัสที่หก ส่งโทรจิตรู้เหตุการณ์ภัยล่วงหน้า ละเอทดสอบร้องเรียกหาเมงกาเลีย ได้ยินเสียงเด็กร้องแว่วมาจากฝั่งไทยจึงข้ามมาหางานทำที่ฝั่งไทย ในที่สุดละเอก็พบที่อยู่เมงกาเลีย ละเอไปสมัครเป็นพี่เลี้ยงเด็กปิดเรื่องที่ผ่านมาไว้เงียบสนิท แนะนำให้ดำรงและบัวบานตั้งชื่อหนูน้อยว่าเมงกาเลียตามที่สลักในล็อคเก็ต ส่วนชื่อจริงสองสามีภรรยาตั้งว่าอิยะวดี
แม่นางทรายคำลอยมาตามกระแสลำธารมาขึ้นที่ฝั่งไทยเดินกระเซอะกระเซิงเข้าไปในป่าพบว่าแสนไทและสะแมะแอแอบสร้างกองกำลังอยู่ในป่าลึกเมืองไทย ทรายคำหลบหนีอยู่ประมาณสี่ปีจึงได้พบบัวบาน ทั้งสองพูดกันไม่รู้เรื่อง เมื่อทรายคำเอ่ยชื่อเมงกาเลีย บัวบานจึงพอรับรู้ว่านี่อาจคือแม่ของหนูน้อย บัวบานเข้าใจว่าทรายคำอาจพอรู้ภาษาอังกฤษ เพราะล็อคเก็ตของเมงกาเลียสลักเป็นชื่อภาษาอังกฤษจึงลองสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันรอนแรมหนีอยู่ในป่าด้วยกัน คิดว่าจะหาทางกลับเข้าเมือง จนวันหนึ่งเสือของแสนไทหลุดออกมาทำร้ายหญิงทั้งสอง ทรายคำตัดสินใจเสียสละวิ่งเข้าใส่ให้เสือกินแล้วเข้าสิงในร่างเสือ ก่อนตายทรายคำฝากฝังกาสะลองกับบัวบานและสัญญาว่าจะช่วยปกป้อง บัวบานให้ปลอดภัย แสนไทตามมาเอาเสือกลับพบบัวบานจึงจับไปเป็นทาส ทรายคำในร่างเสืออาละวาดและหลบหนีจากแสนไทมาเร่ร่อนในป่าเพื่อออกตามหาเมงกาเลียตามที่บัวบานขอ
สี่ปีผ่านไป ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายกับบัวบานจนไปพบทรายคำ ดำรงไปกรุงเทพตามลำพังรู้จักกับ นาถยา (รัตติกร ขุนโสม ) หม้ายสาวลูกติดชื่อ เอมฤดี (ด.ญ.ธัญญลักษณ์ เขียวเกลี้ยง) อายุ 6 ปี นาถยาหมายเกาะดำรงแสร้งมาติดต่องานทางเหนือ มอมไวน์ใส่ยานอนหลับระหว่างคุยงาน กลายเป็นภรรยาน้อยลับๆของดำรง แสร้งทำอ่อนน้อมน่าสงสารกับบัวบานจนได้มาพักในบ้านเดียวกับบัวบาน เมื่อลับหลังดำรง นาถยาพูดจาทิ่มแทงเย้ยหยันให้บัวบานชอกช้ำใจจนบัวบานขับรถหนีไปบ้านพักผ่อนบนเขา นาถยาจ้างคนมาแอบตัดสายเบรกไว้แล้ว ระหว่างขึ้นเขา รถของบัวบานเสียหลักตกหน้าผาหายไป ดำรงกลับมาเสียใจมากส่งคณะผู้เชี่ยวชาญออกตามหาพบแค่ซากรถไม่มีวี่แววของบัวบาน บัวบานกลายเป็นบุคคลสาบสูญแต่ดำรงก็ไม่หยุดความพยายามที่จะตามหาบัวบาน นาถยาทำรักใคร่เมงกาเลียต่อหน้าผู้คน ลับหลังทั้งตนและเอมฤดีรังแกเมงกาเลีย ละเอบอกดำรง แต่ดำรงกลับว่าละเอใส่ร้ายสองแม่ลูก เมื่อดำรงไปกรุงเทพฯ นาถยาแสร้งให้ละเอไปรับของจากฝั่งโน้นที่สั่งไว้ และจับเมงกาเลียใส่รถไปปล่อยที่หน้าผาพร้อมล็อคเก็ตสลักชื่อเมงกาเลียบอกให้รอที่ปากเหว แม่บัวบานจะมารับ
วันเดียวกัน พนา (ด.ช.กันตพงษ์ เพชรสิทธิ์ทวี) อายุ 10 ปี เดินทางมาทางรถไฟกับ นายพินิจ (ดิลก ทองวัฒนา)นางอรุณี (สาวิตรี สามิภักดิ์ ) พ่อและแม่ ทั้งสองเป็นนักธุรกิจอัญมณีชื่อดังทางภาคเหนือหลบเลี่ยงการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะต้องการหนี มาเฟียคำรณ (นวพล ภูวดล) ที่กำลังตามล่าจี้กังหันเพชรเม็ดใหญ่มากหลายสิบกะรัตที่ร่ำลือกันว่าเป็นกังหันวิเศษที่สุดหากได้ครอบครองจะกลายเป็นผู้โชคดีมหาเศรษฐี กังหันนี้เพื่อนสนิทของทั้งสองฝากไว้ก่อนตาย ทั้งสองเอากังหันเพชรหมุนใส่ลูกเทนนิสติดกาวไว้เป้ของลูกชายสั่งให้สะพายเป้ติดหลังไว้ตลอดเวลา ระหว่างทาง รถไฟเสียหลักชนประสานงาไถลออกนอกรางผู้คนต่างหาทางออกจากรถไฟ พนาตามหาพ่อแม่จนเดินพลัดหลงไปในป่าลึก ส่วนพ่อแม่ปลอดภัยแต่มือถือตกหายทำให้ติดต่อพนาไม่ได้ เมงกาเลียรอแม่ไม่มาจึงปีนไปที่กิ่งไม้ซึ่งยื่นไปในเหวเพื่อมองหาแม่ กิ่งไม้ไหวเอนสั่นเมงกาเลียตกใจร้องไห้ลั่นป่า พนาได้ยินเสียงจึงรีบไปดู พนาตัดสินใจช่วยไต่ไปที่กิ่งไม้ใกล้ๆกัน เป้ของพนาและมือถือพร้อมพาวเวอร์เแบงค์ในเป้เกี่ยวกับกิ่งไม้หลุดไปจากหลังขณะไปช่วยเด็กหญิง เด็กหญิงดีใจโผนมาหาพนาแต่กิ่งไม้หักพลัดตกลงไปเบื้องล่างเสียก่อน เมงกาเลียกรีดร้องจนเสียงหายไปก้นเหว พนาตกใจเสียใจมาก ลงโทษตัวเองว่าทำให้เด็กหญิงตกเหวตาย ความจริงเมงกาเลียตกลงไปค้างอยู่บนกิ่งไม้ด้านล่างใกล้ก้นเหว
พรานเส็ง (อาฉี เสียงหล่อ) กับพวกเข้ามาจับสัตว์ไปขาย ฆ่าแม่สัตว์เพื่อเอาลูก แม่ลิงตัวหนึ่งโดนยิงบาดเจ็บและโดนแย่งลูกไป แม่ลิงไปนั่งเสียใจใช้สมุนไพรรักษาแผลใต้ต้นไม้ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จึงพาไปไว้ในถ้ำ มีเสียงโทรศัพท์พนาดังขึ้นแม่ลิงกดโน่นนี่ที่สุดรับสายได้ มีเสียงพูดพ่อแม่พนาพูดกันไม่รู้เรื่องจึงเลิกลา
พ่อแม่พนาตามหาพิกัดมือถือของพนาจนพบพนาทราบว่าเป้ตกลงไปในเหวลึก แต่มีการรับสายตอนที่โทรหาพนาแสดงว่ามีผู้พบเป้และกังหันเพชรหมุนแน่นอน แม่ลิงเลี้ยงเมงกาเลียแทนลูก เมงกาเลียรักแม่ลิง เรียกแม่ลิงว่าแม่มา พนาปิดเรื่องเด็กหญิง ภาวนาให้เด็กคนนั้นรอดชีวิต พนาลองโทรหาเบอร์ตนเอง มีการรับสายและมีเสียงตอบเป็นเสียงลิงและเสียงเด็กพูดมาว่า “แม่มา” พนาพยายามพูดให้อีกฝ่ายพูดอย่างอื่นจะได้รู้ว่าเป็นใครก็ไร้ผล พนาต่อหาอีกหลายครั้งจนที่สุดไม่มีผู้รับสายเนื่องจากแบตเตอร์รี่หมด พนานึกถึงและฝันร้ายถึงเด็กน้อยเสมอ เมงกาเลียฝันดีถึงพนาตลอดมาเช่นกัน ดำรงใจสลายเรื่องเมงกาเลียหาย นาถยาแสร้งโทษตนเองจะฆ่าตัวตายแต่ดำรงห้ามไว้ ละเอจับสัมผัสโทรจิตจากเมงกาเลียได้ลางๆจากที่ไกลๆ จึงมั่นใจว่าเมงกาเลียยังไม่ตาย ดำรงเริ่มเชื่อละเอ และนาถยาตกใจมาก
สิบปีต่อมา นาถยาคาดคั้นให้ดำรงจดทะเบียนตามสัญญา แต่คืนนั้นดำรงฝันถึงบัวบานและเมงกาเลียมาร้องไห้ตรงหน้า ดำรงเปลี่ยนใจโดยไม่บอกสาเหตุกับนาถยาขอเวลาอีกสามปี นาถยาผิดหวังแอบโทษละเอยุยง เมงกาเลียโตขึ้นเป็นเด็กสาวสวยงามใบหน้าของเมงกาเลียคือใบหน้าเดียวกับทรายคำ (ชรินพร เงินเจริญ ) แต่โดนความมอมแมมบดบังจนดูคล้ายปีศาจสกปรก เมงกาเลียสามารถพูดจากับสัตว์และสื่อสารกับสัตว์ ห้ามสัตว์ทะเลาะกัน นำฝูงงู ฝูงช้าง ฝูงนก ฝูงแมลงไปต่อสู้ขับไล่ผู้บุกรุกป่า เมงกาเลียรักแม่ลิง รักต้นไม้ทุกต้น รักป่าและลำธาร เมงกาเลียมักมีปัญหากับพวกนายพรานเส็งที่ยังคงมาจับลูกสัตว์ไปขายไปเล่นละครสัตว์ ไปขายนักมายากล มาเฟียคำรณยังคงตามหากังหันเพชรหมุน แสนไทสะแมะแอยังคงตามหา ตุ้มหูเพชรเสียงคลื่นนับแบงค์และเพชรที่ทรายคำเอาหลบหนีมา ชาวบ้านเข้าใจว่าเมงกาเลียคือภูตผีมีอิทธิฤทธิ์คุมพวกฝูงสัตว์มาก่อกวนผู้คน ชาวบ้านหวาดกลัวหาหมอผีมาไล่แต่ไม่สำเร็จ หรือทำให้เมงกาเลียเกรงกลัว ละเอยังติดต่อโทรจิตส่งเสียงเรียกหาเมงกาเลีย เมงกาเลียได้ยินเสียงละเอเรียก พูดเลียนตามเสียง เอ่ยคำว่าเมงกาเลียได้ เมงกาเลียยังมีมือถือของพนาที่ตกรุ่น เมงกาเลียหยิบมาเล่นลองทำเลียนแบบตามที่แอบดูชาวบ้านทำ บางวันติดต่อคนได้แต่พูดกันไม่รู้เรื่อง กดเล่นจนกระทั่งพนารับสาย ได้ยินเสียงแม่มา แม่มา พนากดโทรกลับ ติดต่อกันไปมาจนพาวเบอร์แบงค์แบตหมดอีก
แม่นางทรายคำสิงอยู่ในร่างเสือของแสนไทคิดถึงลูกออกตามหาลูก พบเมงกาเลียอยู่กับแม่ลิง แอบไปเฝ้าดูเมงกาเลียเสมอๆ แรกๆ แม่ลิงตกใจกลัวพาเมงกาเลียหนีเตลิด ภายหลังเสือกลับช่วยแม่มากับเมงกาเลียให้ปลอดภัยจากเสืออีกตัวทำให้แม่มากับเมงกาเลียเลิกกลัวเสือทรายคำ แรมสิบห้าค่ำเดือนเสือทรายคำจะกลายร่างเป็นหญิงสาวสวย แต่ขายังเป็นเสือตัวเป็นหญิงสาวมาหาเมงกาเลีย มายื่นมือหา ร้องเพลงกล่อมเด็กบ้างแต่เป็นอีกภาษา เรียกเมงกาเลียว่าเมงกาเลีย บางครั้งมากวักมือเรียกเมงกาเลียจนเล่าขานไปทั่วว่าป่าแห่งนี้มีทั้งเสือสมิงและปีศาจประหลาด แต่หากว่าพบเจอพวกแสนไท สะแมะแอ ทรายคำจะกลายร่างส่วนบนเป็นหน้าเสือ ส่วนล่างเป็นมนุษย์ เมงกาเลียเคยประหลาดใจเสมอยามที่มองหน้าตนเองในลำธาร หน้าของเมงกาเลียกลับไปเหมือนใบหน้าของภูตวิญญาณเสือที่เคยมาหามาช่วย
พนาเข้าป่า สืบร่องรอยของเด็กผู้หญิงน้อย เฉียดกันไปมากับเมงกาเลีย เมงกาเลียมักเป็นคนเห็นพนา เมงกาเลียชอบใจพนามาก เพราะดูใจดีอ่อนโยนและรักป่า รักต้นไม้รักสัตว์ เมงกาเลียเคยแอบช่วยเหลือพนาให้รอดพ้นจากน้ำมือของมาเฟียคำรณและนายพรานที่มาทำร้าย เนื่องจากไปขัดขวางการทำร้ายสัตว์ และทำลายป่า เมงกาเลียจำไม่ได้ว่าคือเด็กผู้ชายที่เมงกาเลียฝันถึง เมงกาเลียกับแม่ลิงยังอาศัยอยู่ในถ้ำ แม่มากับเมงกาเลียเล่นลูกเทนนิสบ่อย โยนบ้างแกะบ้างจนกาวที่ปิดไว้เสื่อม กังหันเพชรหมุนหลุดออกมา เมงกาเลียมักเอามาดูกังหันหมุน แม่มาเอาสร้อยล็อคเก็ตมาคล้องคอให้เมงกาเลีย เมงกาเลียมีเพื่อนเป็นพี่นกเหยี่ยวตัวใหญ่ คอยสื่อสารบอกข่าวและเตือนภัยให้เมงกาเลีย
วันหนึ่งนกบินไปหากินไกลมาก เมงกาเลียชะล่าใจเอากังหันเพชรหมุนมาหมุนเที่ยวเล่นไปในป่าโหนไปตามกิ่งไม้ มาเฟียคำรณและพวกเห็นเมงกาเลียกับกังหันเพชรหมุนที่ตามหามานานสิบกว่าปี ดีใจมากพยายามจับตัวเมงกาเลีย ไล่ยิงเมงกาเลีย เมงกาเลียหนี พนาช่วยเมงกาเลียไว้ ระหว่างหนี เมงกาเลียโยนกังหันเพชรหมุนทิ้ง แม่มาแอบมาพอดีเก็บไว้ได้ พนาพาเมงกาเลียหลบหนี พูดกันไม่รู้เรื่อง เมงกาเลียส่งเสียงแบบลิง พูดคล้ายมนุษย์สองคำคือแม่มาและเมงกาเลีย พนานึกออกว่าได้ยินคำนี้จากมือถือของตน จึงคิดว่าเมงกาเลียน่าจะเป็นเด็กที่ตามหา พนาสอนให้เมงกาเลียเรียกเขาว่าพนา พนาจับเมงกาเลียโยนลงไปในลำธาร จับอาบน้ำสระผมถึงกับตะลึง เมงกาเลียสวยงามไม่เหมือนผีสกปรกที่เคยได้ยินชาวบ้านร่ำลือ พนาจะเอาเมงกาเลียไปด้วย เมงกาเลียโกรธมาก อาละวาดทำร้ายพนา แล้วโดดโหนกิ่งไม้หนี พนากลับมาตามหาเมงกาเลียอีก เมงกาเลียคอยหลบหลีกทั้งที่พอใจพนามาก คำรณคิดว่าพนาเข้ามาหากังหันเพชรจึงลอบทำร้ายพนา เมงกาเลียช่วยเหลือพนา พวกมาเฟียจะติดตามแต่วิญญาณเสือแม่นางทรายคำมาสกัดกลายร่างเป็นผีหญิงเท้าเป็นคนหน้าเป็นเสือมาบุกแค้มป์ พนาพบเป้พบมือถือพบพาวเวอร์แบงค์ของตน จึงสอนให้เมงกาเลียใช้มือถือและพาวเวอร์แบงค์ และให้พาวเวอร์แบงค์และมือถืออันใหม่กับเมงกาเลีย
พนาพบสร้อยและล็อคเก็ตสลักชื่อเมงกาเลีย เมงกาเลียและพวกลิงและฝูงสัตว์พากันมาส่งพนาที่ราวป่าคืนเดือนหงาย วิญญาณทรายคำแอบมาส่งด้วย ต่อมาเมงกาเลียโดนพวกละครสัตว์มายากลจับ พนามาที่ป่าไม่พบเมงกาเลีย พี่นกเหยี่ยวแอบติดตามหาเมงกาเลียกลับมาส่งข่าว พนาจึงติดตามไปพบเมงกาเลียถูกขังเอาไว้ในกรงเหมือนสัตว์ทั่วไปปนกับลิงหนุ่มมีตำหนิที่เท้า พนาและนกเหยี่ยวช่วยเมงกาเลียและลูกลิงออกมาทั้งสองกลายเป็นเพื่อน ทั้งหมดกลับเข้าป่าแยกย้ายกันไป พนาพยายามจะพาเมงกาเลียออกจากป่า เมงกาเลียปฎิเสธ เมงกาเลียกับพนาใช้ภาษาใบ้ใช้วิธีวาดรูปประกอบการสื่อสาร เมงกาเลียห่วงแม่ลิง จากนั้นพนาติดต่อกับเมงกาเลียผ่านนกเหยี่ยว พนาขอพ่อแม่ให้เอาเมงกาเลียและแม่มามาดูแล แรกจะขังแม่ลิงในกรง แม่ลิงกับเมงกาเลียไม่ยอมจึงให้แม่ลิงอยู่กับผู้คนในบ้านเหมือนคนทั่วไปทำให้เป็นที่หวาดกลัวของผู้ที่พบเจอ เอมฤดี (พัฒนิดา พุ่มชูแสง ) เป็นคนรักของพนา เมื่อพบเมงกาเลียที่บ้านพนาไม่ชอบใจ สอบถามกับสาวใช้ได้ความว่ามาจากในป่าจึงไปบอกนาถยา นาถยาสงสัยว่าอาจเป็นเมงกาเลีย สั่งปิดเรื่องนี้กับดำรงและละเอ ละเอสัมผัสได้ว่าเมงกาเลียมาอยู่ใกล้ๆแล้ว เอมกลั่นแกล้งเมงกาเลียแต่โดนย้อนรอยกลับแปลกๆ ขำๆ เสียท่า ทุกที เอมเกลียดเมงกาเลียมาก พินิจและอรุณี พ่อแม่พนาพยายามตามหาพ่อแม่ของเมงกาเลีย เมงกาเลียรู้เรื่องมนุษย์และเข้าใจภาษามากขึ้นแต่เมงกาเลียกับแม่มาไม่มีความสุข แม่มารู้ดีว่าเมงกาเลียคือมนุษย์ไม่ควรอยู่ในป่า แม่มาหนีกลับเข้าป่า เมงกาเลียตามหา แม่มาหนีไปซ่อน แม่มายังเก็บกังหันหมุนไว้ในถ้ำ พวกคำรณจับแม่ลิงเป็นตัวประกันเพื่อให้ได้ตัวเมงกาเลีย แม่ลิงตัดสินใจกระโดดหน้าผาตกลงไปบาดเจ็บ เจอลิงที่เท้ามีตำหนิซึ่งเคยอยู่กรงเดียวกับเมงกาเลียเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งสองมองหน้ากัน แม่มามองเห็นตำหนิที่เท้าจำได้ว่าลูกของนางเอง ทั้งสองโผเข้ากอดกันด้วยความยินดี ลิงหนุ่มแบกแม่ลิงไปดูแล
เมงกาเลียคิดถึงแม่มา พนาคอยปลอบโยน เมงกาเลียเริ่มออกงานสังคม อ่านหนังสือออก เขียนได้ เมงกาเลียได้พบดำรงในงาน เมงกาเลียได้ชื่อใหม่ว่ามาณวิกา ดำรงเข้าใจว่าเมงกาเลียเป็นหลานของพินิจ เมงกาเลียเองก็เข้าใจว่าดำรงเป็นพ่อของเอมฤดี แต่สัญชาติญาณทำให้ทั้งสองสนใจกัน เอมกับนาถยาคิดกำจัดเมงกาเลียไปเข้ากับพวกคำรณ คำรณจับเมงกาเลียไป ดำรงกับพนาตามไปช่วย พนาเรียกเมงกาเลียว่าเมงกาเลีย ดำรงตกใจตื่นเต้น สอบถามรู้ความจริงว่าเมงกาเลียคือลูก พนาได้มอบสร้อยและล็อคเก็ต เมงกาเลีย ละเอเมื่อได้พบเมงกาเลียตอนโตถึงกับตะลึงทรุดตัวทำความเคารพและเรียกว่าเจ้าแม่ทรายคำ คำรณโดนจับซักทอดว่านาถยากับเอมฤดี ทั้งหมดจึงติดคุกไปด้วยกัน เมงกาเลียกลับมาอยู่กับพ่อและละเอ สื่อสารไปหานกเหยี่ยวให้มาหาเมงกาเลีย เมงกาเลียไปเยี่ยมเพื่อนในป่า นกเหยี่ยวพาเมงกาเลียกับพนาไปพบแม่ลิงที่แก่เดินขาเป๋ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำ มีลูกลิงหนุ่มที่พลัดพรากกลับมาดูแล ลิงหนุ่มจำเมงกาเลียกับพนา ได้ต่างดีใจที่ได้พบกัน ลิงหนุ่มและแม่ลิงบอกว่าไม่ต้องห่วงให้เมงกาเลียกลับไปอยู่กับพนาและมนุษย์ ติดต่อส่งข่าวถึงกันผ่านนกเหยี่ยว คิดถึงกันก็มาหากันได้ ทั้งหมดจากกันแบบอาลัยอาวรณ์ พวกสัตว์ทั้งหลายพากันมาส่งเมงกาเลียที่ราวป่า แม่มามอบกังหันเพชรหมุนคืนพนา ทุกคนวางแผนให้เมงกาเลียเรียนหนังสือ บางวันแม่ลิงกับลิงหนุ่มก็มาเยี่ยมเมงกาเลีย บางวันก็มีช้างและสัตว์อื่นๆ มาเยี่ยม เมงกาเลียกับพนามีแผนการจะแต่งงานกันในอนาคต และอยู่รักษาผืนป่าตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
แต่แล้วคืนหนึ่งเมงกาเลียฝันประหลาด ฝันเห็นหญิงนางหนึ่งหน้าตาเหมือนตนเองถูกจับบูชายันต์ นางถูกตรึงอยู่บนแท่นไม้แต่ยังไม่ทันโดนบูชายันต์เกิดเภทภัยฟ้าผ่าพายุมา แม่นางนั้นหลุดจากแท่นบูชายันต์ บางวันเมงกาเลียก็ฝันเห็นแม่บัวบานโดนเสือกระโจนเข้าใส่ แต่ไม่ทราบว่านางทั้งสองในฝันคือแม่แท้ๆและแม่บุญธรรมของตน บางคืนฝันเห็นเด็กน้อยโดนลอยแพมาตามลำธาร เมงกาเลียแปลกใจในความฝันที่เหมือนจริงและชัดเจนนั้นมาก
หลังจากที่ได้กังหันเพชรหมุนคืนมาให้ครอบครัวพนา และครอบครัวของพนาสืบทราบแล้วว่ากังหันเพชรหมุนเป็นของร้อนที่โดนขโมยมาขายให้เพื่อนสนิทของพวกตน อรุณี พินิจจึงพยายามติดต่อขอคืนให้เจ้าของ แสนไทและสะแมะแอรู้เรื่องนี้ จึงแสร้งปลอมตัวว่าเป็นเจ้าของและบอกว่าเป็นสมบัติของเจ้านันตะทร ตนเองเป็นองครักษ์เจ้า จึงนัดพบกันที่ชายแดน แม้จะปิดบัง ที่สุดพวกคำรณ นาถยา เอม ที่ออกมาจากคุกซ่อนตัวรอแก้แค้น ได้ข่าวมาดักปล้นล่วงหน้าก่อนถึงสถานที่นัดพวกแสนไท ทั้งสามมารุมยิงพวกพนาแต่พวกพนาหนีลงมาได้ก่อนที่พวกคำรณจะปาระเบิดเฉียดตายกันหวุดหวิด เสือแม่ทรายคำตามพวกแสนไทมาเข้าไล่กัด กลายร่างไปเอาระเบิดของพวกคำรณปาใส่พวกคำรณบาดเจ็บหนัก พวกพนา เมงกาเลีย พ่อแม่รีบหนีไปได้ โดยมีแม่เสือทรายคำนำทางหนีพ้นจากป่า คำรณนอนจมกองเลือดแขนขาด ก่อนลมหายใจสุดท้ายความตายกำลังมาเยือน แสนไท สะแมะแอมาถึงพบสามคน คำรณร้องขอให้ช่วย สะแมะแอป้อนยาชุบชีวิตให้นำไปรักษาและเอาไปเป็นทาส แสนไทพบเอมฤดีกับนาถยาสองแม่ลูก ช่วยเหลือและเอาไปเป็นทาสรับใช้ คำรณ นาถยา เอมต่างเสียโฉมอัปลักษณ์พิการไม่มีใครจำหน้าได้
อิยะวดีไปเรียนโรงเรียนตชด.กับลิงนาตาเลียเพื่อนสนิทใส่ชุดนักเรียนสะพายเป้เรียนร่วมกับเด็กๆร้องเพลงชาติ อ่านหนังสือ ทั้งสองสอนภาษาลิงให้ครูและเด็กอื่นๆเป็นที่สนุกสนานเฮฮากันมาก อิยะวดีเรียนเก่ง สอบเทียบจบมัธยมหกมีพนาเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนการบ้าน วันหยุดและยามว่างก็พากันเข้าไปในป่าดูแลเยี่ยมเยียนช่วยเหลือพวกสัตว์ในป่า ความรักของสองคนราบรื่นและอยู่ในขอบเขต อิยะวดี จึงดูเป็นสุภาพสตรีน้อยที่น่ารัก แจ่มใสแต่ยังซุกซนและเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม คำรณได้รับการรักษาดูแลจากสะแมะแอ ตาบอดข้างหนึ่งต้องปิดตาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็ใส่ตะขอเหล็กไว้จับฉวยและกลายเป็นอาวุธสำคัญของคำรณ
ในเวลาต่อมา คำรณเรียนรู้วิชาชั่วร้ายจากสะแมะแอกลายเป็นคนชั่วร้ายมากกว่าเดิม
เอมฤดีและนาถยาหน้าตาพังยับเยิน อ้อนวอนให้แสนไททำหน้ากากใบหน้าเทียมให้สวยงาม สองคนเปลี่ยนลุคใหม่ทั้งใบหน้าและทรงผม ทนยอมเป็นทาสของแสนไทเพื่อรอวันออกไปแก้แค้นอิยะวดี บัวบานจำสองคนไม่ได้เพราะหน้ายับเยินและใส่หน้ากากใหม่ สองแม่ลูกจำบัวบานได้จึงหวังจับบัวบานไปข่มขู่อิยะวดี เพื่อแลกกับกังหันเพชรหมุนและตุ้มหูเสียงคลื่น ที่เล่าลือกันว่าถ้าผู้ใดครอบครองทั้งสองสิ่งพร้อมกันจะมีแต่เงินทองและมีความสุขเหลือล้น สะแมะแอกับแสนไทยังไม่เลิกพยายามจะปล้นสองสิ่งมาให้ตนเองรวมทั้งเพชรทั้งหมด
พรานเส็งเลิกล่าสัตว์ พา ลีกอ หลานชายมาเป็นผู้ช่วยพนา ดำรงพยายามสืบหาตัวบัวบาน อรุณีกับพินิจร่ำรวยขึ้นจากการค้าขายอัญมณีและไม่คิดว่าจะโดนล้างแค้นเช่นกัน คำรณ เอมฤดีและนาถยาวางแผนล้างแค้นร่วมกัน คำรณเปลี่ยนชื่อเป็นส่างหม่อง นาถยาเปลี่ยนชื่อเป็นแสงแก้ว เอมฤดีเปลี่ยนชื่อเป็นพวงมาลี สามคนบอกแสนไทและสะแมะแอว่าจะตอบแทนพระคุณ รับอาสาไปตามล่าหาสิ่งของที่ต้องการมามอบคืนให้ สะแมะแอ แสนไทตกลง สามคนเข้าเมือง สองแม่ลูกจะถอดหน้ากากออกเห็นใบหน้าอัปลักษณ์ยามต้องการหลอกหลอน ส่างหม่องได้แขนเทียมใหม่ใส่แว่นดำบดบังสายตาในยามปกติ เวลาต้องการทำร้ายใครจะถอดแว่นปิดตาข้างเดียวแล้วใช้มือตะขอเหล็กเล่นงาน
อิยะวดีเรียนวนศาสตร์ ได้พบเพื่อนสาวแสนสวยสุภาพอ่อนน้อมชื่อพวงมาลี (เอม) ส่วนอรุณีได้รู้จักพ่อค้าเพชรเชี่ยวชาญการดูอัญมณีชื่อส่างหม่อง (คำรณ) ดำรงได้ผู้จัดการบริษัทส่งออกผ้าไหมคนใหม่ชื่อแสงแก้ว (นาถยา) อิยะวดีสนิทกับพวงมาลี (เอม) อิยะวดีเชื่อพวงมาลีแทบทุกอย่างจนบางครั้งถึงขั้นผิดใจกับพนา พ่อแม่ละเอคลางแคลงใจสามคนนี้ พินิจชื่นชมพ่อค้าอัญมณีส่างหม่องมาก ดำรงชื่นชมแสงแก้ว แสงแก้วหาโอกาสทำให้ดำรงเห็นอกเห็นใจ
วันหนึ่งพนา พรานเส็ง ลีกอ อิยะวดีกางเต้นท์ พวงมาลีอยู่ในป่าได้กลิ่นสาปเสือรุนแรงมาก เสียงเสือคำรามลั่นทั้งคืน รุ่งขึ้นพนาได้ทราบจากพวกชาวบ้านว่ามีคนงานรับจ้างนายทุนตัดไม้ถูกเสือกัด ชาวบ้านยิงโดนเสือจะตามล่าเสือลำบากให้ตาย ทั้งหมดไปช่วยเสือลำบาก (มีวิญญาณทรายคำสิง) พวงมาลีฉวยโอกาสสนิทสนมกับพนา ก่อนตาย ชายโดนเสือกัดได้มอบสร้อยทับทิมเม็ดใหญ่มากให้กับ อิยะวดีบอกว่ารู้จักสร้อยคอล็อคเก็ตนี้ บอกสร้อยทับทิมเป็นของเจ้าแม่ทรายคำ เขาขโมยมาจากบ้านในป่าลึกลับ เขาเอ่ยชื่อบัวบาน ทุกคนตื่นเต้นมาก ชายนั้นสิ้นใจไปก่อนบอกเรื่องราวต่อ
เสือบาดเจ็บมีวิญญานทรายคำสิงอยู่ ยอมให้ช่วยรักษาบาดแผล ตอนกลางคืนวิญญาณทรายคำในลักษณะบาดเจ็บมาเข้าฝัน เมงกาเลีย ให้ไปยังป่าลึกลับแห่งหนึ่งแล้วจะได้พบผู้ที่ทุกคนตามหา ละเอยืนยันว่าน่าจะเป็นบัวบาน พวงมาลีแกล้งจัดฉากช่วยชีวิตอิยะวดีโดยมีพวกของส่างหม่องเป็นตัวละครแสร้งมาทำร้ายอิยะวดี ดำรงเห็นความดีจึงให้พวงมาลีมาพักที่บ้าน แสงแก้วสร้างภาพความซื่อสัตย์ให้ปรากฏแก่ดำรงด้วยการจัดฉาก โดยส่างหม่องไปซื้อผ้าไหมแล้วแกล้งทำกระเป๋าเงิน มีเงินเป็นล้านและเพชรอีกจำนวนหนึ่งตกหน้าร้าน แสงแก้วเก็บได้แล้วเอาไปให้ดำรงประกาศหาเจ้าของ ส่างหม่องให้รางวัลแสงแก้ว
แสงแก้วมีโรคประจำตัวคือลมชัก ดำรงสงสารให้แสงแก้วมาพักอยู่ในบ้าน แสงแก้วและพวงมาลี ทั้งสองเกรงใจ เพื่อความประหยัดน้ำไฟ สองคนขอพักห้องเดียวกัน ละเอคัดค้าน ดำรงและอิยะวดีโกรธละเอมาก ขนาดไม่ยอมให้ละเอมาใกล้ชิดดูแลเหมือนเดิม อิยะวดีฝันเห็นตัวเองลอยแพมาในตะกร้า ฝันเห็นตนเองกระโดดหน้าผา ฝันเห็นบัวบาน ทั้งสองหญิงต่างกางแขนอ้ารับเพื่อกอดอิยะวดี ทุกคนวางแผนตามหาบัวบานตามคำบอกเล่าของชายแก่ ส่างหม่องแจ้งให้สะแมะแอกับแสนไทรู้ ส่างหม่อง พวงมาลีและแสงแก้วขอไปช่วยตามหาบัวบานเพราะรู้จักเส้นทางในป่าลึกลับ แต่ความจริงต้องการหักหลังแสนไท สะแมะแอแย่งสมบัติไว้เอง มีจดหมายลึกลับมาถึงพวกอรุณีและดำรงว่าสิ่งของทั้งหลายที่พวกเขามีเป็นของต้องคำสาป ได้ไว้ครอบครัวจะวิบัติ ให้นำไปคืน
ต่อมามักเกิดเหตุร้ายแปลกๆ กับ ดำรง อรุณี พินิจ พนา อิยะวดี เกิดเหลือเชื่อหลายครั้ง เช่น งูใหญ่มากเข้ามาในห้องนอน ค้างคาวยักษ์ นกยักษ์ ฝันร้ายหลับๆ ตื่นๆ เห็นคนยุคโบราณมาด่าทอ พบชายตาเดียวมือเป็นตะขอเหล็กจะมาทำร้าย พบหญิงหน้าปีศาจมาหลอกหลอน คืนหนึ่งในป่า พนากับพวกได้ยินเสียงเพลงแปลกเยือกเย็นของหญิงคนหนึ่ง พนาอัดเสียงไว้ หญิงคนนี้ได้ปรากฏตัวแบบลับๆ ล่อๆ แล้วหลบหนีเสมอ ละเอบอกว่าเสียงนั้นพรรณาถึงเมืองอันงดงาม
บุราณ (ณศรันย์ จุมพลวิวัฒน์) เพื่อนสนิทนักโบราณคดีของพนากำลังศึกษาเรื่องของชนเผ่าลึกลับทรายคำ ว่ามีจริงหรือไม่ ทั้งหมดจึงตัดสินใจร่วมเดินทางไปหาเมืองดังกล่าวและไปหาบ้านในป่าลึกลับที่ชายแก่เอ่ยถึง ทั้งหมดแยกย้ายกันเป็นสองกลุ่มและนัดพบกันตามจุดต่างๆ ใช้วิทยุสื่อสารติดต่อกันร่วมกับมือถือพบอุปสรรคมากมายโดนลอบทำร้ายสารพัด พวกพนาเดินล้ำหน้าไปกับแม่มากับลูกติดตามไปกับ อิยะวดีและลิงนาตาลี พวกคำรณไม่ค่อยพอใจเพราะโอกาสทำร้ายอิยะวดียากมากขึ้น ตลอดทางพวงมาลีเบื่อหน่าย แต่อิยะวดีสนุกสนานที่ได้พบปะเพื่อนเก่าทั้งหลายและสัตว์ใหม่ๆ อิยะวดีช่วยเหลือสัตว์บาดเจ็บหลายตัวระหว่างทาง แต่มักโดนลอบทำร้ายโดยพวกส่างหม่องและแสงแก้ว เสือที่เคยบาดเจ็บคอยช่วยเหลืออิยะวดีให้พ้นจากการลอบทำร้ายพวกส่างหม่อง เมื่อข้ามเขตป่าลึกลับ พี่นกที่คอยประสานข่าวให้พนากับอิยะวดีไม่สามารถตามเข้ามาได้เพราะมีเวทย์มนต์ของแสนไทและสะแมะแอกันไว้จึงรออยู่ด้านนอกเขต
อิยะวดีกับพนานัดหมายกันโดยใช้สัญลักษณ์หัวใจคู่ แสนไทตอนเห็นอิยะวดีโดนทำร้ายถึงกับตะลึงราวกับเห็นแม่นางทรายคำ สะแมะแอมั่นใจว่าอิยะวดีคือลูกสาวของทรายคำ แสนไทเผลอใจหลงรักอิยะวดีทำให้ส่างหม่องไม่คิดทำร้าย พวงมาลีและแสงแก้วไม่พอใจยุยงให้สะแมะแอรีบจับอิยะวดีไปบูชายันต์ล้างอาถรรพ์คำสาปด้วยสาวพรหมจารีย์ สะแมะแอหลอกให้แสนไทใช้เวทย์มนต์เรียกอิยะวดีมาพบ แอบให้อิยะวดีกินผลไม้ลืมความจำก่อนส่งคืนแคมป์ที่พัก ส่วนพวกของพนาพบว่าหญิงสาวสวยเจ้าของเสียงเพลงดังกล่าวคือ มะเมี๊ยะ (ปริตา ไชยรักษ์) มะเมี๊ยะหลงทางออกมาจากคุ้มลึกลับในป่าของสะแมะแอ มะเมี๊ยะถูกสะแมะแอพาออกมาตั้งแต่เมืองแตก เมื่อทราบว่าทั้งหมดจะสืบหาชนเผ่าทรายคำของเจ้านันตะทร ที่สูญหายไปพร้อมสมบัติ เมื่ออิยะวดีพบกับกลุ่มของพนา มีมะเมี๊ยะอยู่ด้วย อิยวะดีไม่พอใจ พวงมาลีคอยเสี้ยม บุราณหลงรักอิยะวดี อิยะวดีทำดีตอบบุราณประชดพนา น้อยใจที่พนาทำดีกับมะเมี๊ยะ พวงมาลีดีใจที่ทุกคนแตกกัน ขณะเดียวกันก็ลอบส่งข่าวให้ส่างหม่องทราบความเคลื่อนไหวของทุกคน สะแมะแอลอบมาจับตัวดำรงไปขังไว้เป็นทาสโดยมีแสงแก้วแสร้งคอยช่วยแต่ทำโดนจับไปด้วย ละเอหนีรอดไปได้ตามหาจนพบพวกพนา พวกสะแมะแอสะกดรอยตามกลุ่มของพนา ดำรงโดนกรอกยาสมุนไพรลืมความจำ จำตัวเองไม่ได้ จำบัวบานไม่ได้แต่บัวบานจำดำรงได้ แต่แสร้งทำไม่รู้จัก อิยะวดีเล่าเรื่องความฝันให้บุราณฟัง บุราณให้จดจำสถานที่ในฝันไว้ พนาระหองแระแหงกับอิยะวดี อิยะวดีแอบแกล้งมะเมี๊ยะ เช่นจับงูจับสัตว์น่าเกลียดมาแกล้ง โดยมีแม่มากับนาตาลีร่วมมือ ยิ่งโดนแกล้งมะเมี๊ยะยิ่งติดพนาแจมากขึ้น แล้ววันหนึ่งมะเมี๊ยะแอบเห็นพนากับอิยะวดีทะเลาะกันเรื่องตนเองกับบุราณ จึงรู้ว่าที่แท้สองคนชอบกัน บุราณปลอบมะเมี๊ยะทั้งสองจึงเห็นใจกัน ทุกคนตามสถานที่ในความฝันของอิยะวดีพบลำธารในฝันที่อิยะวดีฝันเห็นตัวเองวัยเด็กโดนจับใส่แพ จึงพากันล่องแพไปตามลำธารโดยหวังว่าจะไปพบสุสานอัญมณี
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดรอติดตามชม ธิดาวานร ทางช่อง 7HD ที่นี่ที่เดียว
ติดตามทุกข่าวสารเกี่ยวกับละครและวงการบันเทิง ได้ที่
FB : https://www.facebook.com/lakornonlinefan/
ยูทูป : https://www.youtube.com/channel/UCQAR4HLhUFJhx_-rRbaZXGA
IG : https://www.instagram.com/lakorn_online/
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZSJCY5xQa/
#ยืนหนึ่งข่าวละคร #ละครออนไลน์