โดย Softlens
ต้องร้องว่า “มาช้ายังดีกว่าไม่มา” สำหรับสองซีรีส์จีนฟอร์มใหญ่อิงประวัติศาสตร์ที่เรื่องหนึ่งดองมาตั้งแต่ปี 2019 และอีกเรื่องก็แถลงข่าวมาตั้งแต่กลางปี 2020 แต่พอบอกจะฉายก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว ได้แก่ จอมนางแห่งวังหลัง (Palace of Devotion 2021) ที่ได้ โจวอวี๋หมินหรือ วิคโจว (ไจ่ไจ๋) หนึ่งในสมาชิกแก๊ง F4 แสดงนำและ สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long March of Princess Changge 2021) นำแสดงโดย ตี๋ลี่เร่อปา นักแสดงแถวหน้าของจีน ที่มากันคนละเรื่อง แต่สตรีมมิ่งในช่วงเวลาเดียวกัน
แม้ทั้งสองจะไม่ได้เล่นเรื่องเดียวกัน แต่ก็เคยร่วมงานคู่พระนางกันมาก่อนใน เพียงใจในเพลงพิณ (The Flame's Daughter 2018) ซึ่งการกลับมาลงจอสตรีมมิ่ง (บังเอิญ) ฟาดในช่วงเวลาเดียวกันของทั้งคู่ เหมือนรอบนี้ตี๋ลี่เร่อปาจะกินขาด แต่ก็มาพร้อมดราม่าเล็กๆ จากชาวเน็ตที่วิจารณ์ว่าตี๋ลี่เร่อปาไม่เหมาะกับบทเท่าไร แต่จะอย่างไร? เรามาอัปเดตกัน
จอมนางแห่งวังหลัง (Palace of Devotion 2021) ฉายบรรยายไทยทาง iQIYI จำนวน 61 ตอนจบ (อยู่ระหว่างฉาย)
จอมนางแห่งวังหลัง (Palace of Devotion 2021) เป็นซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เล่าเรื่องราวการแย่งชิงราชบัลลังก์ภายในราชสำนักซ่ง ในยุคจักรพรรดิจ้าวควงอิ้นโดยโฟกัสที่มาที่ไปของหลิวไทเฮาตั้งแต่ยังเป็นสามัญชน ในชื่อหลิวเอ๋อร์ (รับบทโดย หลิวเทา) เดิมเป็นหญิงกำพร้าในถิ่นเสฉวน ได้ช่วยชีวิตองค์ชายสาม จ้าวเหิง (รับบทโดย โจวอวี๋หมิน) จากการตกหน้าผาระหว่างทางทำศึก ทั้งสองคนได้ผ่านความยากลำบากมากมายจนพบความสุข เมื่อจ้าวเหิงสิ้นพระชนม์ เหรินจงยังทรงพระเยาว์และอ่อนแอ ทำให้หลิวเอ๋อร์ทำหน้าที่ผู้สำเร็จราชการอยู่หลังม่านและได้แก้ไขความไม่สงบของชนเผ่าต่างๆ ตลอดจนสร้างรากฐานอาณาจักรให้กับความรุ่งเรืองในยุคเหรินจงตลอดเวลา 40 กว่าปีหลังจากที่จักรพรรดิเหรินจงได้ว่าราชการเองได้
ซีรีส์เรื่องนี้ปิดกล้องมาตั้งแต่ปี 2018 และดองมาฉายจนถึงตอนนี้ เป็นซีรีส์ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ทุ่มทุนสร้างใช้เวลาถ่ายทำนานกว่า 6 เดือน และมีฉากสร้างขึ้นใหม่กว่า 70 ฉาก งานออกแบบฉากและเสื้อผ้าหน้าผมเรียกว่างานละเอียดให้ออกมาใกล้เคียงกับประวัติศาสตร์แต่ยังคงสีสันความสวยงามเอาไว้ด้วย
งานนี้ได้นักแสดงเจ้าบทบาทที่กวาดรางวัลการแสดงมานับไม่ถ้วนอย่าง หลิวเทา มารับบทหลิวเอ๋อร์ และ วิคโจว (ไจ่ไจ๋) มารับบท จ้าวเหิง หรือ จักรพรรดิซ่งเจินจงกำกับการแสดงโดย หลี่เส้าหง ผู้กำกับหญิงชั้นนำของวงการ ที่เคยกำกับ Hear Her2020 มินิซีรีส์สะท้อนปัญหาลูกผู้หญิงและซีรีส์จีนความฝันในหอแดง (The Dream of Red Mansions2010) รวมถึงได้จางหย่งเฉินมือดัดแปลงบทประพันธ์ ที่เคยฝากผลงานเรื่อง จอมนางคู่บัลลังก์ (General and I 2017) สุดเข้มข้นกันมาแล้ว
เนื่องจากทีมงานต้องการสร้างเป็นดราม่าซีรีส์แนวอิงประวัติศาสตร์จ้าๆ จึงไม่แปลกที่แคสนักแสดงเจ้าบทบาทมารับบท เพราะต้องใช้พลังการแสดงเพื่อโชว์พัฒนาการของตัวละครตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวจนก้าวขึ้นสู่อำนาจและบริหารบ้านเมืองในบั้นปลายชีวิตมากกว่า 40 ปี ตลอดจนตัวบทสนทนาที่มีความละเมียดละไม ในเรื่องเราจะได้เห็นการพลิกลุคของวิค โจว (ไจ่ไจ๋) จากความเท่ระดับองค์ชายในชุดเกราะและชุดขุนนาง ไปจนถึงการสวมบทฮ่องเต้ไว้หนวดน้อยๆ หล่อเข้มแบบผู้ทรงอำนาจ
สำหรับความฮอตของจอมนางแห่งวังหลัง 2021 ต้องบอกว่าแตกเป็นสองเสียง ช่วงฉายตอนแรกๆ (เมื่อ 20 มีนาคม) คะแนนเปิดตัววันแรกใน ‘โต้วป่าน’ เว็บคอนเทนต์เบอร์ต้นๆ ของจีน อยู่ที่ 6.6 จากนั้นก็แผ่วลงเรื่อยๆ โดยความเห็นส่วนใหญ่โอดว่า ตามสไตล์ซีรีส์แนวประวัติศาสตร์ตัวละครจะเยอะเป็นทุนอยู่แล้ว แต่เพราะตัดต่อสับสนเลยยิ่งทำให้เข้าใจยาก อีกทั้งเคมีระหว่างหลิวเทากับวิคโจวก็ไม่ปังเท่าไร เลยทำให้คนดูไม่อินในความรักความโรแมนติกของทั้งคู่
แต่อีกด้านก็ว่าเนื้อเรื่องเข้มข้นเดินเรื่องเร็ว ชวนติดตามเน้นเรื่องราววังหลังการปกครองบ้านเมืองฉากฟินคือดีย์สุดๆ (เอ๊ะ…ยังไง ดูเรื่องเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย)
เอาเป็นว่าสำหรับใครที่เคยดูซีรีส์จอมนางพิชิตบัลลังก์ (The Legend of Xiao Chuo2020) ที่แสดงโดยถังเยียน เล่าเรื่องไทเฮาเซียวเยี่ยนเยี่ยนของเมืองต้าเหลียว ต้องมาตามเผือกเรื่องนี้ต่อ เพราะเป็นยุคสมัยเดียวกัน แต่เป็นการเล่าอีกด้านจากมุมมองของต้าซ่ง
สตรีหาญ ฉางเกอ (The Long March of Princess Changge 2021) ฉายบรรยายไทยทาง WeTV จำนวน 49 ตอนจบ (อยู่ระหว่างฉาย)
เป็นซีรีส์อีกเรื่องที่ดูทีเซอร์วนไปนานกว่าครึ่งปี พอบอกประกาศฉาย อีกวันได้ดูกันเลยแบบงงสำหรับซีรีส์จีนพีเรียดฟอร์มยักษ์ที่หลายคนเฝ้ารอ The Long March of Princess Changgeหรือชื่อไทย ‘สตรีหาญ ฉางเกอ’
‘สตรีหาญ ฉางเกอ’ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนจีนเรื่องดัง Chang Ge Xingสู่ซีรีส์พีเรียดอิงประวัติศาสตร์แนวชิงไหวชิงพริบเรื่องราวของหลี่ฉางเกอ (ตี๋ลี่เร่อปา) องค์หญิงแห่งต้าถัง บุตรีรัชทายาทในราชวงศ์ถัง แต่ครอบครัวถูกกองทัพหลี่ซื่อหมิน (ผู้เป็นอาและต่อไปจะขึ้นครองราชย์เป็นถังไท่จง จักรพรรดิลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์ถัง) สังหารในเหตุการณ์ประตูเซวียนอู่ ทำให้หลี่ฉางเกอหนีหัวซุกหัวซุนและปลอมตัวเป็นชายหลบหนีเพื่อหวังกลับมาล้างแค้นให้ครอบครัว แต่ต่อมาเมืองกลับถูกรุกรานโดยกองกำลังของอาณาจักรมหาข่านเตอร์ค (Turkic Qaghanate) ฉางเกอจับจับพลัดจับผลูกลายเป็นกุนซือแห่งกองทัพอาสือน่าซุน (อู๋เหล่ย) จนความกล้าหาญและเฉลียวฉลาดของฉางเกอกลายเป็นที่เลื่องลือในหมู่กองทัพ
ท้ายสุดแล้วฉางเกอจะกลับไปแก้แค้นเพื่อครอบครัวได้หรือไม่ จุดนี้ต้องติดตามว่าตัวซีรีส์จะให้จบแบบไหน? เพราะตามประวัติศาสตร์ จักรพรรดิถังไท่จง (หลี่ซื่อหมิน) เป็นฮองเต้ที่มีความสามารถและทำให้จีนรุ่งเรืองที่สุด จนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจของโลกในยุคนั้นเลยก็ว่าได้
ไม่เพียง ‘สตรีหาญ ฉางเกอ’ จะดัดแปลงจากการ์ตูนดังที่มีฐานแฟนแน่นเท่านั้น ตัวซีรีส์ยังรวมเหล่านักแสดงคนดังระดับแม่เหล็กที่ติ่งชาวไทยคุ้นหน้ากันดีมาไว้เพียบ สร้างความฮือฮากันตั้งแต่แคสเลย ไม่ว่าจะเป็นตี๋ลี่เร่อปา นางเอกอินเตอร์จากสามชาติสามภพลิขิตเหนือเขนย (Eternal Love of Dream 2019) มารับบท หลี่ฉางเกอ, อู๋เหล่ยพระเอกจากสัประยุทธ์ทะลุฟ้า (Fights Break Spheres) เจ้าของฉายาน้องชายแห่งชาติจีน มารับบท อาสื่อน่าซุ่น
ร่วมด้วย จ้าวลู่ซือ นางเอกสายฮาจากข้านี่เเหละองค์หญิงสาม(The Romance of Tiger and Rose 2020) รับบท หลี่เล่อเยียน, ฟางอี้หลุนพระเอกจากลิขิตแห่งจันทรา (The Love by Hypnotic 2019)รับบท เว่ยซูอวี้และหลิวอวี่หนิง จากปริศนาลับ ขั้วสุดท้าย (Ultimate Note 2020) รับบท เฮ่าตูกำกับการแสดงโดย Chu Yui Bun ดีกรีผู้กำกับที่สร้างความฟินกระจายมาแล้วจากสามชาติสามภพลิขิตเหนือเขนย (Eternal Love of Dream 2019) และมธุรสหวานล้ำ สลายเป็นเถ้าราวเกล็ดน้ำค้าง (Ashes of Love 2018)
ตัวซีรีส์เปิดฉากได้สมการรอคอยด้วยฉากแอ็กชั่นความดราม่าจัดเต็มสลับกับฉากลายเส้นการ์ตูนฉบับดั้งเดิม ทำเอาคนดูติดหนึบกันตั้งแต่ฉายเพียงไม่กี่ตอนด้วยการตัดต่อที่ลงตัว ดำเนินเรื่องรวดเร็ว เสื้อผ้าหน้าตาตามมาตรฐานซีรีส์จีนที่มีดาราแถวหน้าแสดงนำ ตลอดจนฉากบู๊ที่ดีไซน์มาได้กำลังดีอย่างฉากแข่งขันเตะลูกหวายระหว่างต้าถังและเมืองอาสือน่าซุนก็ทำออกมาได้สนุกเหมือนเตะบอลผสมฉากโชว์วรยุทธและกลศึก
แต่ที่ทำเอาคนดูอยู่น่าจะเป็นคาแร็กเตอร์นางเอกสวยเก่งฉลาดเกินหญิงและเท่ไม่แพ้พระเอกแถมมีหลายฉากที่ตี๋ลี่เร่อปาปลอมเป็นชายเล่นคู่กับจ้าวลู่ซือ ทำเอาที่เมืองจีนติดเทรนด์เวยป๋อถึงเคมีจิ้นระหว่างเร่อปากับลู่ซือ (ก็อะนะ…เร่อปาหล่อเป๊ะเกินบท)ไปจนถึงการพลิกบทครั้งสำคัญของอู๋เหล่ยที่มาในลุคหนุ่มผมยาวถักเปียแบบชนเผ่าสุดเท่ในชุดเกราะสุดเข้ม กลายเป็นชายหนุ่มเต็มตัวผิดจากเรื่องก่อนๆ นี้ที่ยังดูเป็นเด็กหนุ่มวัยละอ่อน เรียกว่าได้ใจคนดูไป ณ จุดนี้
เมื่อมีชมก็ไม่วายมีติ ชาวเน็ตบางเสียงก็ว่าเวลาเข้าฉากคู่ตี๋ลี่เร่อปาดูแก่กว่าอู๋เหล่ยเกินไป (ตัวจริงตี๋ลี่เร่อปาแก่กว่าอู๋เหล่ย 7 ปี) ไม่เหมาะกับบท จนบางทีจ้าวลู่ซือนางรองของเรื่องขโมยซีนความสวยจากตี๋ลี่เร่อปาไปซะงั้นซึ่งต้องย้อนความก่อนว่าเมื่อตอนจ้าวลู่ซือรับงานซีรีส์เรื่องนี้ เธอยังไม่ดังเท่าทุกวันนี้ เป็นงานที่รับมาก่อนเรื่อง ข้านี่เเหละองค์หญิงสาม (The Romance of Tiger and Rose 2020) จะออกฉายและกลายเป็นซีรีส์ที่ทำให้เธอดังเป็นพลุแตก ดังนั้นการโคจรมาเจอกันในเรื่องนี้ระหว่างตี๋ลี่เร่อปาและจ้าวลู่ซือ ถึงจะเป็นนางเอกคนละเบอร์ แต่ถือว่าเป็นอีกสีสันและคืนความสนุกให้กับผู้ชมอีกอรรถรสหนึ่ง
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
mydramalist.com
www.facebook.com/CpopNews/posts/1652994694891062
