xs
xsm
sm
md
lg

Review : แบบนี้ก็ได้? “The One” ระบุเนื้อคู่ได้ด้วยดีเอ็นเอ! ซีรีส์สืบสวนไซไฟจาก Netflix

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โดย Softlens



มนุษยชาติอาจไม่ต้องง้อ พรหมลิขิตหรือบุพเพสันนิวาสอีกต่อไป เมื่อนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านดีเอ็นเอค้นพบวิธีระบุหา ‘เนื้อคู่’ ของคุณได้จากการแมชชิ่งดีเอ็นเอ

นี่คือไอเดียหลักของ The One ซีรีส์แนวไซไฟสืบสวนสัญชาติอังกฤษที่เพิ่งสตรีมมิ่งบนเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ที่แม้ไม่ใช่ซีรีส์ท็อปฟอร์มหรือซีรีส์ตัวชูโรง แต่ด้วยพล็อตสดใหม่ทันยุคทันกระแส ก็อดไม่ได้ที่จะตามไปกดดู

ตัวซีรีส์เล่าเรื่องราวบริษัทสตาร์ทอัพชื่อ The One ที่กำลังบูมสุดๆ ในสังคมยุคใหม่ กับการเสนอบริการหา ‘เนื้อคู่’ ที่จะเป็น ‘คู่แท้’ จากการแมชชิ่งดีเอ็นเอการันตีผลลัพธ์แม่นยำแน่นอนที่จะปฏิวัติการออกเดท และการหาคู่ของมวลมนุษย์ไปตลอดกาล แต่ในทางกลับกันบริการสุดล้ำนี้กำลังปั่นหัวคนจนก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมมากกว่าที่คิด

ถึงพล็อตหลักจะฟังดูเหมือนซีรีส์ไซไฟสไตล์แบล็ก มิร์เรอร์ (Black Mirror)หรือเล่นกับความรู้สึกโรแมนติกที่ต้องการหาคนที่ชอบหรือคู่ที่ใช่ เหมือนซีรีส์เกาหลีLove Alarm (แอปเลิฟเตือนรัก)
แต่The One กลับเลือกนำเสนอการก่อร่างสร้างตัวตามแบบบริษัทสตาร์ทอัพ ผสมผสานกับแนวเรื่องสไตล์สืบสวนสอบสวนไว้ได้อย่างลงตัว โดยเน้นบรรยากาศดราม่า จนเกือบออกโทนเคร่งขรึมสมจริงมากกว่าในอีกทางเหมือนเป็นการจำลองสถานการณ์ด้านวัตกรรมนี้เกิดขึ้นจริงในยุคและสภาพสังคมยุคปัจจุบัน มันจะเป็นอย่างไร? ดังนั้นสำหรับใครที่คาดหวังจะได้ดูความโรแมนติกหรือความไซไฟแฟนตาซีเว่อร์ๆ หน่อย เรื่องนี้อาจไม่ใช่ทาง

ตามสไตล์ซีรีส์สายฝ. ก็จะมีหลายเส้นเรื่องที่ดำเนินไปพร้อมๆ กัน และมีความเกี่ยวพันกันThe One ก็เช่นเดียวกัน ที่มีทั้งหมด 3 แกนเรื่อง ได้แก่
เส้นเรื่องที่ 1 : แกนหลักของเรื่อง ว่าด้วยเรื่องของ‘รีเบกกา’นักวิทยาศาสตร์ด้านพันธุกรรม ผู้ค้นพบเทคโนโลยีนี้ร่วมกับ ‘เจมส์’ เพื่อนนักวิทยาศาสตร์ โดยตอนต้นเรื่องจะแสดงให้เห็นว่า รีเบกกา ได้ผันตัวจากนักวิทยาศาสตร์กลายเป็นซีอีโอผู้ทรงอำนาจและประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จากการก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพ The One
แต่ภายใต้ความสงบเยือกเย็นของเธอ รีเบกกาคือจอมบงการที่ใช้สารพัดวิธีแบล็กเมล์ทุกคนที่ขวางทาง แม้แต่การหันหลังให้กับคู่แท้ของเธอเอง เพื่อให้ก้าวมาถึงจุดนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่า รีเบกกา เป็นตัวละครที่อยู่ในจังหวะเวลาที่เปิดโอกาสให้เธอต้องเลือกระหว่างทำสิ่งที่ถูกและผิด เริ่มจากการทำผิดเล็กๆ จนเรื่องบานปลายใหญ่โต โดยเส้นเรื่องของรีเบกกาจะมีแฟลชแบ็คเรื่องในอดีตทุก EP เผยให้เห็นรีเบกกาช่วงก่อนค้นพบเทคโนโลยีนี้กับเจมส์และเบน

เส้นเรื่องที่ 2:เคท ตำรวจสาว ที่ใช้บริการหาเนื้อคู่จากThe One และระบบดีเอ็นเอจับคู่ของเธอกับ โซเฟีย เลสเบี้ยนสาวน่ารักมีเสน่ห์จากบาเซโลนา ทั้งสองสานสัมพันธ์ผ่านวิดีโอคอลและนัดพบกัน โซเฟียบินมาหาที่ลอนดอน แต่แล้วโซเฟียกลับประสบอุบัติเหตุนอนโคม่าก่อนจะได้เจอกันเป็นๆระหว่างการโซเฟียนอนโคม่า เคทกลับได้ค้นพบความลับมากมายของโซเฟีย ขณะเดียวกันเคทก็ตามสืบสวนคดีของ ‘เบน’ เพื่อนสนิทของรีเบกกา ที่ถูกพบเป็นศพลากขึ้นมาจากแม่น้ำ และหลายๆ ปริศนาทำให้เคทมั่นใจว่าการตายของเบนเป็นการฆาตกรรมโดยฝีมือรีเบกกา

เส้นเรื่องที่ 3: คู่สามีภรรยา มาร์คนักข่าว และ แฮนนาห์ ที่มีชีวิตแต่งงานหวานชื่นดี เรื่องจะไม่วิบัติ ถ้าแฮนนาห์ไม่ได้นำเส้นผมของมาร์คส่งไปยัง The One เพื่อหาคู่แท้ของเขา เพียงเพราะเธอไม่มั่นใจในตัวเองว่าเธอใช่คู่แท้ของสามีหรือเปล่า? และระแวงว่าสามีของตัวเองจะหลงรักคู่แท้ของตัวเอง (ที่ไม่ใช่แฮนนาห์) ซึ่งนำมาถึงความพยายามกันคู่แท้ไม่ให้เข้าใกล้สามีของเธอ เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทสอบครั้งใหญ่สำหรับชีวิตแต่งงานของทั้งคู่ ในอีกด้านรีเบกกาก็ใช้ความเป็นนักข่าวของมาร์ค เป็นเครื่องมือขัดขวางทุกคนที่เป็นอุปสรรคของเธอ

บอกเลยว่าบริการนี้จะเป็นสุดยอดโซลูชั่นในฝันของเหล่าคนโสด แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่แต่งงานแล้ว ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่ตัวซีรีส์ชี้ให้เห็นชัดเจนเลยว่าสิ่งนี้กำลังทำลายชีวิตแต่งงานของใครหลายคน
ไม่รู้ว่าเพราะตัวซีรีส์มีความยาวเพียง 8 ตอนหรือเปล่า? จึงทำให้ปมคลี่คลายเร็วและคาดเดาได้ง่ายๆ อีกทั้งเส้นทางความสำเร็จของ The One ก็เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงปี ทำให้ทุกอย่างดูเหลือเชื่อไปหน่อย แถมโปรดักชั่นโดยรวมก็รู้สึกว่าธรรมดาไปสำหรับมาตรฐานซีรีส์เน็ตฟลิกซ์

ถึงหลายเสียงในหัวจะบอกเราเช่นนั้นระหว่างการชม แต่ด้วยพล็อตน่าสนใจที่ทำให้ชวนตั้งคำถามในหลายๆ แง่ ทั้งการขัดต่อศีลธรรม, ความเชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะสามารถมากำหนดคู่แท้แทนโชคชะตาได้ เหมือนกับที่มนุษย์เคยเอาชนะความตายจากโรคร้ายมาแล้ว หรือการแมทช์เนื้อคู่ด้วยดีเอ็นเอนี้ นอกจากความเข้ากันได้ของยีนส์แล้ว มันลืมไปว่ามนุษย์นั้นซับซ้อนยิ่งกว่านั้น เพราะยังต้องคำนึกถึงประสบการณ์ของคนที่เติบโตมาด้วยเพื่อความเข้ากันได้ ไปจนถึงความสุ่มเสี่ยงในการให้ข้อมูลส่วนตัวระดับดีเอ็นเอ (การเข้าฐานข้อมูลดีเอ็นเอ)
รวมถึงตัวละครอย่างรีเบกกา ที่รู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นนางตัวร้ายสุดปราดเปรื่องแต่ก็อดลุ้นไม่ได้ว่า เธอจะโดนจับได้ยังไง หรือ เธอจะหาสารพัดวิธีสกปรกอะไรมาทำให้ตัวเองรอดไปได้หรือท้ายสุดแล้วเธอกลับตัวได้?
ทั้งหมดนี้หาคำตอบได้ใน 8 EP ของ The One บน เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)

อ้างอิงเรื่องและภาพ :
เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)



รีเบกกา ในมาดซีอีโอ



มาร์ค และ แฮนนาห์ คู่แต่งงานที่ได้รับผลจากบริการของ The One

เคท กับ โซเฟีย เนื้อคู่ของเธอ

เบน อดีตของ รีเบกกา

เคท ตำรวจสาวที่ตามสืบเบื้องหลังของ รีเบกกา

เคท และคู่หูตำรวจของเธอ

รีเบกกา และ เจมส์ เมื่อครั้งเป็นนักวิทยาศาสตร์และค้นพบวิธีการแมชชิ่งดีเอ็นเอ

รีเบกกา และ เคท ที่ต่างฟาดกันไปมา


กำลังโหลดความคิดเห็น