Scoop : “พัคชินฮเย-ซงจุงกิ” ลุกขึ้นมาเฟี๊ยซใน “Sisyphus VS Vincenzo”
By AnsurLady
ทีเซอร์ Sisyphus
ซีรีส์ Sisyphus ปล่อย Enigma สู่โลกโซเชียล
ตัวอย่าง Sisyphus จากเน็ตฟลิกซ์
ด้วยฝีมือการแสดงที่ไม่ว่าจะเล่นหนังหรือซีรีส์เรื่องไหน แนวไหนเป็นอันปังปุริเย่ไปหมด เลยไม่แปลกใจที่แฟนๆเน็ตฟลิกซ์ (Netflix)จะได้ดูผลงานของนางเอกเกาหลีคนดังระดับท็อปสตาร์ในบ้านเราอย่าง “พัคชินฮเย” แบบแฮตทริค 3 เรื่องรวดในรอบ6 เดือน!นับตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่อง Alive,The Call ที่ออนแอร์ทางเน็ตฟลิกซ์ (Netflix)เมื่อเดือนกันยายนและพฤศจิกายนปีก่อน ซึ่งล้วนเป็นแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ต่อเนื่องมาจนถึงผลงานบู๊ไซไฟเรื่องล่าสุดที่เพิ่งออนแอร์ไปเมื่อวันที่ 17 กพ.อย่างเรื่อง Sisyphus (รหัสลับข้ามเวลา)
ซีรีส์เรื่อง Sisyphus (ซิซีฟัส) ที่กำลังเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ เป็นซีรีส์แอ็คชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ที่ช่อง JTBC ตั้งใจปลุกปั้นความมันส์แบบจัดเต็มเพื่อให้สมกับเป็นซีรีส์เฉลิมฉลองวาระสำคัญอย่างการครบรอบหนึ่งทศวรรษแรกของช่องและซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งของขวัญวันเกิดชิ้นเยี่ยมของนางเอกสาว พัคชินฮเย เช่นกัน เพราะซีรีส์ออกฉายทางช่อง JTBC และ Netflix ในทุกวันพุธ-พฤหัส
เรียกว่าออกฉายวีคแรกต้อนรับวันเกิดอายุครบ 31 ปีของเจ้าตัวพอดี (พัคชินฮเยเกิดวันที่ 18กพ.) โดยเรื่องนี้ สาวพัคชินฮเยลงทุนฝึกคิวซ้อมบู๊กับทีมงานตั้งแต่ก่อนเริ่มถ่ายทำจริงกว่าหนึ่งเดือนครึ่ง และเปิดกล้องถ่ายทำฉากแอ็คชั่นล่วงหน้าไปก่อนพระเอก “โชซึงอู” ถึง 2 เดือน เพราะบทบาทในเรื่องนี้ พัคชินฮเยต้องแข็งแกร่งไม่แพ้สาวทูมเรเดอร์กันเลยทีเดียว ต้องคว่ำผู้ชายได้ด้วยมือเปล่า เป็นสาวแม่นปืน นักปาระเบิด บู๊ระห่ำสุดๆกว่าผลงานทุกเรื่องที่เคยแสดงมา จนพระเอกถึงกับออกปากชมด้วยความทึ่งว่า ลูกเตะและการออกหมัดต่อยของสาวหน้าหวาน พัคชินฮเยนั้น “น่าเหลือเชื่อมาก”
ว่ากันว่า จินฮยอก ผู้กำกับคนดังของซีรีส์เรื่องนี้ ที่เคยสร้างให้ซีรีส์ Legend of the blue sea, The Master’s Sunและ Doctor Strangerดังเปรี้ยงมาแล้ว และทีมคนเขียนบท ได้เล็งนักแสดงนำของเรื่องไว้ตั้งแต่แรกว่าต้องเป็นพระนางคู่นี้เท่านั้น หากสุดท้ายแคสต์แล้วไม่ลงตัวที่คนใดคนหนึ่ง ก็จะเปลี่ยนไปสร้างผลงานเรื่องอื่นแทนไปเลย
ด้วยชื่อเรื่องอันแปลกหูของซีรีส์ Sisyphus(ซิซีฟัส)ได้สร้างความท้าทายให้แฟนๆ ตั้งคำถามถึงความหมายที่แท้จริงของซีรีส์ได้ไม่น้อย แม้ทางผู้สร้างซีรีส์จะบอกว่า ซิซีฟัสเป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานเรื่อง The Myth of Sisyphus ซึ่งเป็นเรื่องราวของพระราชาคนหนึ่งที่ได้รับการลงโทษจากพระเจ้าให้กลิ้งหินไปบนภูเขา ก่อนที่หินจะกลิ้งตกลงมาและกลิ้งขึ้นไปใหม่วนเวียนอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
แก่นแท้ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อหาของซิซีฟัสนั้นสามารถตีความในเชิงปรัชญาถึงแง่คิดความเป็นมนุษย์ได้มากมายหลายประเด็น จึงยิ่งน่าสนใจว่า ทางผู้สร้างจะตีความออกมาได้ลุ่มลึก น่าสนุกและมอบคติสอนใจได้ดีแค่ไหน เพราะพล็อตของซิซีฟัสมีการระดมสมองศึกษาค้นคว้าและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการใส่จินตนาการแห่งโลกอนาคตมาไว้ในซีรีส์ให้สมจริงกันมายาวนานกว่า 4 ปีเลยทีเดียว กว่าจะออกมาเป็นที่พอใจของทุกฝ่าย ทีมงานเลยมั่นใจมากว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีเนื้อหาเข้มข้นและไม่มีทางเหมือนซีรีส์เรื่องใดที่เคยดูมาก่อนแน่นอน!!!
ภาพของเกาหลีที่ถูกนำเสนอผ่านซิซีฟัส จึงปรากฎภาพของโลกสองใบของเกาหลียุคปัจจุบันและเกาหลีโลกอนาคต ปี 2035 โดยทีมผู้สร้างละเอียดถึงขั้นในบางฉาก หากสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่ามีการจำลองภาพแหล่งช้อปปิ้งดังอย่างเมียงดงไปไว้ในโลกอนาคต โดยยังมีร้านดังบางร้านในยุคนี้อยู่ในฉากเสมือนจริงด้วย ตลอดจนละเอียดแม้กระทั่งการสอดแทรกความสุขเล็กๆ น้อยๆ ให้นางเอกในเรื่องได้อิงกระแสนิยมตามประสาสาวๆ ให้เธอเป็นแฟนคลับที่ชอบฟังเพลงวงบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง BTS และบทเพลง Spring day ที่นางเอกในเรื่องชอบฟัง ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพลงโปรดของผู้กำกับนั่นเอง
การคิดค้นนวัตกรรมใหม่อย่างไทม์แมชชีนเครื่องข้ามเวลาได้สำเร็จโดยพระเอก ฮันแทซุลวิศวกรอัจฉริยะในโลกปัจจุบันเป็นผู้คิดค้นขึ้นมาได้ ในขณะที่นางเอกสุดแกร่ง คังซอเฮ ที่ข้ามเวลามาจากโลกอนาคต ซึ่งเป็นโลกที่มนุษย์ต่างเผชิญความยากลำบากต้องแก่งแย่ง และเข่นฆ่ากันเพื่อเป็นผู้อยู่รอดให้ได้ และได้ช่วยชีวิตฮันแทซุลไว้ได้ทั้งคู่ต่างต้องแท็คทีมกันเพื่อภารกิจสำคัญบางอย่างกอบกู้เกาหลี รวมถึงช่วยให้แต่ละคนได้กลับไปแก้ไขในสิ่งที่ปรารถนาโดยมีฉากเบื้องหลังที่ผูกปมของคู่นี้ไว้หลายเงื่อนงำจากความเกี่ยวโยงในการเดินทางข้ามเวลา ทั้งปริศนาการเสียชีวิตของพี่ชายพระเอกในอดีตความลับสุดอันตรายที่ซ่อนไว้ของไทม์แมชชีนสุดล้ำไปจนถึงเรื่องราวเกี่ยวพันจากภาพถ่ายงานแต่งงานระหว่างเขาและเธอที่อยู่กันคนละโลก
ซิซีฟัสเป็นหนังแอ็คชั่นไซไฟผสานการซ่อนปมลึกลับไว้ที่เชื่อแน่ว่า คนดูต้องลุ้นระทึกไปกับการไขปมปริศนาของเรื่องในแต่ละตอน โดยเฉพาะตัวละครลับหมัดเด็ดของเรื่อง วายร้ายที่สื่อถึงสัญลักษณ์ “Enigma” นั้น คือ “ใคร”ในเรื่องกันแน่!
ต้องมาลุ้นกันว่า เรตติ้งของซิซีฟัสจะทะยานไกลทะลุสถิติสูงสุดที่ช่อง JTBC เคยทำไว้ได้เกิน 20
หรือไม่ หลังจากออกสตาร์ทเรตติ้งสองตอนแรกในเกาหลีจบอยู่ที่เรตติ้ง 6.677 และมีทีท่าจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จากกระแสความแรงที่ติดอันดับแชมป์เรตติ้งอันดับ 1 ซีรีส์ที่ฉายทาง Netflix สามประเทศซ้อนทันทีที่ออกฉายวีคแรก ทั้งในไทย มาเลเซียและฟิลิปปินส์
ทีเซอร์ซีรีส์Vincenzo ทาง tvN
ตัวอย่าง Vincenzo จากเน็ตฟลิกซ์
ส่วนช่อง tvN ก็ไม่ปล่อยให้แฟนๆ ซีรีส์เกาหลีได้หยุดพักสายตากันเลย หลังจากยืนหนึ่งครองความฟินนัมเบอร์วันจากซีรีส์พีเรียดสุดพีค “Mr.Queen” มาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุดฟาดเรตติ้งต่อแบบจุกๆ ด้วยซีรีส์ฟอร์มจัดอีกหนึ่งเรื่องมาฉายต่อกันทันที ให้ทุกวีคเอนด์ของสาวก K-Series ต้องตามดูแค่เรื่องนี้เท่านั้น !
“Vincenzo” (วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย) ซีรีส์เท่ๆ เข้มๆ ดุดันที่พระเอกซูเปอร์สตาร์ “ซงจุงกิ” คัมแบ็คกลับมาทำให้สาวๆ ได้ใจสั่นไปกับมาดมาเฟียโอปป้าหน้าอ่อนสไตล์อิทาเลียนร้ายๆ กันทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยรับชมได้แบบซับไตเติ้ลถูกลิขสิทธิ์ได้ทาง Netflix ตั้งแต่เสาร์ที่ 20 กพ.ที่ผ่านมา
ซีนเรียกแขก อวดซิกแพ็คเบาๆ ของซงจุงกิ ตั้งแต่ EP.1
กว่าสองปีที่หายไปจากหน้าจอแก้วเกาหลีนั้นไม่เสียเปล่าจริงๆ เพราะในการรับบทเป็น วินเซนโซ่ กาซาโน นั้น แฟนๆจะได้เห็นหนุ่มหน้าหวานอย่างจุงกิ พลิกบทบาทครั้งใหญ่ในลุคทนายความใส่สูทเนี๊ยบมาดกร้าวใจคอยฟาดฟันความยุติธรรมแบบดาร์คๆ
นอกจากจะต้องคีพคาแรคเตอร์ความเป็นหนุ่มเอเชียที่เติบโตในดงมาเฟียอิตาลี ถือแก้วไวน์ สูบไปป์ในเรื่องแล้ว อีกหนึ่งความน่ากรีดร้องคงเป็นการได้ยินพระเอกหนุ่มคนดังพูดภาษาอิทาเลียนให้ได้ยินบ่อยครั้งในเรื่องนี้แน่นอน โดยจุงกิลงทุนติวภาษากับคุณครูแบบตัวต่อตัวเพื่อให้ได้ความสมจริงมากที่สุดเลยทีเดียว
“ระหว่างกลับไปเยี่ยมประเทศบ้านเกิด ทนายมาเฟียชาวเกาหลีที่ไปใช้ชีวิตอยู่ในอิตาลีได้โอกาสทวงความยุติธรรมและทำให้กลุ่มบริษัทสุดโฉดได้ลิ้มรสผลกรรมอย่างสาสม”
จากคำโปรยบนเว็บไซต์ของซีรีส์เรื่องนี้ทางNetflix และประโยคสั้นๆเพียงประโยคเดียวของวินเซนโซ่ ที่กล่าวไว้ว่า “มีแค่ความชั่วร้ายเท่านั้นที่ลงโทษความชั่วร้ายได้” ก็เพียงพอแล้วกับนิยามความฟาดที่แฟนๆ จะได้เห็น ตาต่อตา ฟันต่อฟันของจุงกิ ในรูปแบบที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ยังอดยอมรับไม่ได้ว่า บทพระเอกในเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นฮีโร่แต่ทว่าก็แสนโหดเหมือนไปโกรธใครมาร้อยชาตินั้น ทำให้จุงกิเองก็ค้นพบว่า ตัวเองได้นำเอาด้านเฟี๊ยซๆแบบโกรธแค้นที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมาใช้ในการรับบทตัวละครนี้เช่นกัน รวมถึงการแสดงที่ใส่ไม่ยั้งของอีกสองนักแสดงนำในเรื่อง ทั้งนักแสดงสาวคุณภาพ จอนยอบินที่มารับบทเพื่อนบ้านจอมแสบของพระเอกอย่าง ฮงชายอง นางเอกผู้เป็นทนายความสาวฝีปากกล้ายอมพุ่งเข้าชนทุกอย่างเพื่อให้ชนะคดี และทนายความหนุ่มฝึกหัดผู้ช่วยนางเอกไฟแรงอย่าง จางจุนอู ก็ได้นักร้องหนุ่มหน้าคมซิกแพ็คแน่น แทคยอน 2PM มาสร้างสีสันให้คนดูสาวๆ ดับเบิ้ลความสุขคูณสองจากการได้ดูคนหล่อประชันกันแน่นจอ