สกู๊ปพิเศษ : "สลับคู่สร้างรัก 4 เวอร์ชั่นเมียจำเป็น"
เมียจำเป็น เวอร์ชั่นล่าสุด ปรับเรื่องราวตามยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปตามสมัยของโชเชี่ยลมีเดีย ดังเช่น
พระเอก "โตมร" (วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) หนุ่มเนื้อหอม นักเรียนนอก นายหัวผู้ไม่ถูกใจการโดนคลุมถุงชน ชอบดูละครเป็นชีวิตจิตใจ ชอบวางมาดแบบพระเอกในละคร ชอบสปอยล์ละครในโซเชียล เพราะเขาถือคติ #ไม่ดูสดก็โดนสปอยล์
นางเอก "ตะวัน" (รินรดา แก้วบัวสาย) แม่บ้านออนไลน์ กดจองปุ๊บ ตะวันจัดให้ปั๊บ รับงานสารพัด เพราะอยากให้แม่สบาย มีละครในหัวใจเหมือนกัน แต่เพราะความจนมันน่ากลัว เลยต้องเลือกทำงานก่อน และดูย้อนหลังเอา เพราะไม่ดูสดเลยโดนสปอยล์! ไปตามระเบียบ
นวนิยาย "เมียจำเป็น" ของ เข็มขาว เรื่องนี้ เคยจัดสร้างเป็นละครและภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้ง
อยากรู้ว่า ครั้งแรกๆ ในการเป็น ภาพยนตร์และละครเป็นอย่างไร ! มีที่มา ที่ไป อย่างไร ....
เวอร์ชั่น 1
เมียจำเป็น เวอร์ชั่นแรกเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์ของ “รัชฟิล์ม ทีวี ” โดย พันเอกพยุง ฉันทศาสตร์โกศล ทาง ททบ. 5 บทประพันธ์โดย ภักดี ปฎิภาณ / บทโทรทัศน์โดย กันตนา แพร่ภาพเมื่อ 2 กรกฎาคม-19 สิงหาคม 2521
มีเรื่องย่อ ดังนี้
คุณนายยวนใจ มีลูกสาวชื่อ หยาดฟ้า เป็นหญิงที่สวย แต่เจ้าอารมณ์ และทะเยอทะยาน ก่อนที่สามีของ คุณนายจะตาย ได้หมั้นหยาดฟ้ากับคุณโตมร ซึ่งเป็นลูกชายแฟนเก่า สามีคุณนาย ฐานะร่ำรวย อยู่ทางภาคใต้ ทําให้คุณนายไม่ค่อยพอใจนัก ปกติโตมรเป็นหนุ่มเจ้าสําราญ เป็นที่หมายปองของสาว ๆ เพราะ โตมรเป็นลูกเศรษฐีเหมืองแร่ แต่โตมรก็ไม่เคยจริงจังกับใครเลย โตมรโกรธมากเมื่อรู้ว่า มารดาของเขาหมั้นหมายผู้หญิงให้โดยไม่บอกเขา โตมรจึงวางแผนแผลงฤทธิ์กับคู่หมั้นให้สะใจ... แล้วถือโอกาสถอนหมั้นทันที
ส่วนหยาดฟ้าก็เช่นเดียวกัน เธอเองก็ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาคู่หมั้นของเธอเลย และไม่ชอบที่จะถูกคลุมถุงชนด้วย อีกทั้งดูถูกว่า คู่หมั้นเป็นบ้านนอกเชย ๆ จึงติดต่อรักใคร่กับคนที่เธอพอใจ โดยไม่สนใจคําห้ามปรามของมารดา เมื่อคุณนายยวนใจรู้ว่า โตมร คู่หมั้นเจ้าสำราญของบุตรสาวจะเดินทางมาก็ไม่สบายใจ คิดไม่ตกว่า จะทํายังไงดี เพราะตัวเองเคยขอความช่วยเหลือเรื่องเงิน ทองกับพ่อ - แม่ของโตมรจึงเป็นหนี้บุญคุณกันอยู่ ในที่สุดก็คบคิดกับลูกสาว ให้ตะวัน สาวกําพร้าที่อาศัยอยู่ในบ้านปลอมเป็นคู่หมั้นของโตมรแทน...ตะวันเป็นเด็กกตัญญูที่เธอยอมร่วมมือกับหยาดฟ้า ก็เพราะความยากจน และถูกบังคับ
เมื่อโตมรเดินทางมาถึง เขาก็ได้พบกับคู่หมั้นตัวปลอม คือ ตะวัน ในนามของหยาดฟ้า โตมรก็เกิดความประทับใจในกิริยามารยาทและความงามอย่างธรรมชาติของตะวัน จนกระทั่งเกิดเป็นความรัก จึงเปลี่ยนความตั้งใจเดิมที่คิดจะถอนหมั้นเป็นแต่งงานด้วย โตมรขอร้องให้คุณนายยวนใจพาตะวันเดินทางไปบ้านของเขาเพื่อจัดพิธีแต่งงานให้สมเกียรติ เมื่อพิธีแต่งงานผ่านไปแล้ว คุณนายยวนใจก็เดินทางกลับมาเล่าให้หยาดฟ้า ลูกสาวฟังถึงการแต่งงานที่หรูหราของตะวันกับโตมร และ ฐานะที่ร่ำรวยของโตมรด้วย ทําให้หยาดฟ้าเกิดความเสียดาย และอิจฉาตะวัน เพราะคนรักของเธอเกิดค้าขายพลาดท่าทําให้หมดตัว หยาดฟ้าจึงคิดจะขู่เอาเงินจากตะวัน ทำให้ตะวันสงสารสามีที่ต้องมาเสียเงินเพราะเธอ ตะวันอยากจะบอกความจริงก็ไม่กล้า แต่ก็ไม่ยอมหักหลังโตมรอีกต่อไป แม้จะถูกข่มขู่อย่างไรก็ตาม
หยาดฟ้าโกรธมาก จึงได้บอกความจริงกับโตมร ตะวันเป็นเพียงเมียจำเป็นของโตมร ที่ไม่มีพื้นเพ หรือฐานะอะไรเลยปลอมตัวมาหลอกหลวงเป็นหยาดฟ้าเท่านั้น ทําให้โตมรโกรธตะวันอย่างที่สุด โตมรทั้งรักทั้งแค้น พอรู้ว่าตะวันต้มเขา...เขาก็หาทางตอบแทนตะวันอย่างร้ายกาจหลายอย่าง วิธีใดที่จะทําให้ตะวันเจ็บช้ำน้ำใจได้โตมรเป็นต้องทําทันที ทําให้ตะวันเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมานทั้งกายและใจทีเดียว
กว่าตะวันจะทําให้โตมรเข้าใจได้ เธอก็ต้องพบกับความชอกช้ำใจอย่างแสนสาหัส ตะวันต้องถูกทําร้ายจิตใจทั้งทางผู้ที่คิดร้ายต่อโตมร และตัวโตมรพร้อมด้วยครอบครัวของโตมรเองอีกด้วย แต่ตะวันก็ไม่ย่อท้อ เธอพยายามทําความดีพิสูจน์ตัวเองว่าเธอมีความจริงใจต่อโตมรแค่ไหน จนในที่สุด โตมรก็เกิดความประทับใจในเมียจําเป็นของเขา
เมื่อตะวันได้เอาชีวิตเข้าแลกสามีสุดที่รัก ป้องกันทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศของเขาไว้ได้ โตมรจึงต้องกลับมางอนง้อตะวัน และในที่สุดเขาก็ทําให้ตะวันพบกับความสุขอย่างไม่คาดฝัน ในบั้นปลายของชีวิต
เวอร์ชั่น 2
ต่อมา เป็นภาพยนตร์ไทย เมื่อปี 2523 นำแสดงโดย ไกรสร แสงอนันต์ (สยาม) , สุพรรษา เนื่องภิรมย์ (ตะวัน), สุพรรณี จิตเที่ยง (หยาดฟ้า),ศรินทิพย์ ศิริวรรณ(ยวนใจ), วิยะดา อุมารินทร์(โสภิตดา), อำภา ภูษิต (กิ่งแก้ว) กำกับการแสดงโดย ชายน้อย - แสนยากร , จำนงค์ คงแสนยา ถ่ายภาพ
เรื่องย่อ "เมียจำเป็น" จาก เพจThai Movie Postersมีดังนี้
หลังจากที่คุณพระ (สมควร กระจ่างศาสตร์) พ่ายแพ้ความรักแก่เพื่อน ซึ่งบังเอิญไปจีบผู้หญิงคนเดียวกันที่ชื่อยวนใจ (ศิรินทร์ทิพย์ ศิริวรรณ) จึงได้ตัดสินใจเดินทางลงใต้ ไปทํางานอยู่ที่จังหวัดยะลา ต่อมาก็ได้แต่งงานอยู่กินกับสมใจ (พงษ์ลัดดา) ผู้ซึ่งมีฐานะร่ำรวยคนหนึ่งในยะลา
ต่อมาคุณพระได้เปลี่ยนอาชีพใหม่ โดยการหันมาทําเหมืองแร่แทน แต่ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ จึงทําให้ต้องประสบกับการขาดทุนอยู่เป็นประจํา จนแทบจะหมดตัว พอดีคุณพระเกิดนึกถึงเพื่อนรักขึ้นมาได้ จึงได้ชวนให้มาร่วมทําเหมืองด้วย ซึ่งเพื่อนของคุณพระก็ไม่ขัดข้อง
และหลังจากที่คุณพระได้เพื่อนมาร่วมทําเหมืองด้วยแล้ว กิจการเหมืองของคุณพระก็ค่อย ๆ ดีขึ้น ๆ จนกระทั่งคุณพระได้กลายเป็นเศรษฐีผู้มั่งคั่ง และด้วยสํานึกในบุญคุณของเพื่อนที่มาช่วยกอบกู้ฐานะให้ คุณพระจึงได้มอบเงินก้อนหนึ่งให้กับเพื่อน ไว้เป็นทุน แต่เพื่อนกลับไม่ยอมรับเงินของคุณพระแม้แต่บาทเดียว คุณพระจึงได้เอาเงินก้อนนั้นไปซื้อแหวนวงหนึ่ง กับบ้านอีกหลังหนึ่ง มามอบให้เพื่อนแทน โดยออกอุบายบอกเพื่อนว่า เป็นสินสอดในการหมั้นของลูกเราสองคนในอนาคตข้างหน้า ซึ่งใจจริงแล้ว คุณพระเองก็ไม่ได้หวังให้ลูกแต่งงานกัน แต่ที่ต้องพูดเช่นนั้น ก็เพื่อต้องการให้เพื่อนรักรับของกํานันเหล่านั้นเอาไว้เท่านั้น ซึ่งก็ได้ผล
ต่อมาเพื่อนของคุณพระเกิดเสียชีวิตลง และก่อนตายก็ได้ให้กําเนิดลูกสาวแก่ยวนใจคนหนึ่งชื่อว่า หยาดรุ้ง (สุพรรณี จิตเที่ยง) ส่วนทางคุณพระกับสมใจนั้น ก็ได้ให้กําเนิด ลูกชายคนหนึ่งชื่อว่า สยาม (ไกรสร แสงอนันต์) เหมือนกัน
เมื่อเวลาผ่านไป 20 ปี สยามกับหยาดรุ้ง ต่างก็โตเป็นหนุ่มเป็นสาว จนกระทั่ง วันหนึ่งสยามผู้ซึ่งมีนิสัยกระล่อน และเสือผู้หญิง เกิดไปเห็นสัญญาของพ่อที่หมั้นผู้หญิงไว้ให้คนหนึ่งเข้า ก็เกิดความอยากที่จะดู คู่หมั้นคนที่พ่อหมั้นให้ ว่าจะสวยขนาดไหนขึ้นมาทันที โดยคิดในใจว่า ถ้าหากสวยก็จะเอา แต่ถ้าไม่สวยก็จะขอแหวนคืน ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มีแฟนอยู่แล้วคนหนึ่งชื่อว่า โสภิตดา (วิยะดา อุมารินทร์) และหลังจากที่ได้รับอนุญาติจากผู้เป็นพ่อ ให้เดินทางเข้ากรุงเทพ ฯ ไปดูคู่หมั้นแล้ว สยามจึงได้เขียน จดหมายไปบอกคุณนายยวนใจล่วงหน้า
เมื่อทางฝ่ายคุณนายยวนใจ ได้รับจดหมายจากสยามแล้ว ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะหยาดรุ้งลูกสาวของเธอที่สยามบอกจะมาดูตัวนั้น ได้แต่งงานอยู่กินกับนาย บรรเลง (วิทยา สุขดํารงค์) ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นโทเสียแล้ว และในระหว่างที่คุณนายยวนใจกําลังกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่นั้น ก็พอดีกับตะวัน (สุพรรษา เนื่องภิรมย์) ซึ่งเป็นคนใช้ในบ้าน เอาอาหารมาส่งให้ คุณนายยวนใจจึงตัดสินใจ ที่จะเอาตะวันปลอมตัวเป็น หยาดรุ้งเพื่อให้สยามดูตัว ซึ่งแรก ๆ ตะวันก็ไม่ยอม ก็พอถูกเกลี้ยกล่อมเข้าหนักๆ ประกอบกับตะวันเองก็ต้องการจะหนีนายบรรเลงที่ชอบมาทํากะลิ้มกะเหลี่ยเสียให้ไกลจึงตัดสินใจยอมตกลงด้วย
เมื่อสยามมาเห็นตะวันเข้า ก็เกิดมีความพึงพอใจในตัวของตะวันขึ้นทันที จึงได้ชวนตะวันออกไปเที่ยว และกินข้าวด้วย และด้วยความเป็นคนกระล่อนและเสือผู้หญิง ที่มักจะได้ผู้หญิงมาเชยชมง่าย ๆ กลับต้องมาเจอกับผู้หญิงอย่างตะวัน ซึ่งไม่ยอมให้ถูกเนื้อต้องตัวเลย ทําให้สยามเกิดความพึงพอใจในตัวตะวันยิ่งขึ้น จนถึงขนาดเกิดความรักในตัวของตะวันขึ้นมาจริง ๆ จึงได้ชวนคุณนายยวนใจกับตะวันไปอยู่ที่ยะลาด้วย
เมื่อสยามพาตะวันมาถึงที่บ้านของตัวเอง กิ่งแก้ว (อําภา ภูษิต) ซึ่งเป็นพยาบาล ที่คุณหมอ ปราโมทย์ (ยิ่งใหญ่ อารยะนันท์) เพื่อนของสยามส่งมา ให้คอยดูแลดูน้อง (อัญญารัตน์) น้องสาวของสยาม ที่ป่วยเป็นโรคพิการทางขา เกิดความไม่พอใจในตัวตะวันขึ้นมาทันที เพราะกิ่งแก้วเองก็มีใจรักในตัวสยามอยู่ก่อนแล้ว จึงพยายามสอนคุณน้องซึ่งเป็นน้องสาวที่สยามรักมากที่สุด ให้เกลียดตะวัน ซึ่งคุณน้องเองก็ยอมทําตาม ทุกอย่างตามที่กิ่งแก้วบอกให้ทํา
ต่อมาสยามได้กําหนดพิธีวันแต่งงานของตัวเองกับตะวันขึ้น โดยการจัดงานแต่งงานอย่างใหญ่โตมโหฬารมาก ที่มีแขกเหรื่อ มาร่วมงานอย่างมากมาย และหลังจากที่แต่งงานกันแล้ว ตะวันก็ได้อยู่กับสยามที่ยะลานั่น
ส่วนทางด้านนายบรรเลง เมื่อรู้ข่าว ว่าตะวันได้แต่งงานกับสยาม และไปอยู่ที่ยะลาแล้ว จึงได้ติดตามไปที่ยะลาทันที เพื่อที่จะตามกะลิ้มกะเลี่ยตะวันอีก โดยพยายามเข้าคีสนิทกับสยาม ซึ่งสยามเองก็ไม่รู้ว่าบรรเลงกับตะวันนั้นรู้จักกันมาก่อน
ต่อมาวันหนึ่งบรรเลงได้ใช้อุบายหลอกตะวันว่า สยามให้มารับตัวไปที่เหมือง เพื่อให้ไปทําความรู้จักกับอธิบดีคนหนึ่ง ซึ่งครั้งแรกตะวันไม่เชื่อ และจะไม่ยอมไปกับบรรเลง แต่ทนคําขอร้องของคุณพระกับคุณนายสมใจไม่ไหว ตะวันจึงจําใจไปกับนายบรรเลงจะพาตะวันไปที่เหมืองกลับจอดรถเข้า ข้างทางลวนลามตะวัน พอดีหยาดรุ้งซึ่งทราบข่าวว่า ตัวกระล่อนเจ้าชู้ของเธอแอบหนีมาอยู่ที่ยะลา จึงได้ขับรถติดตามมาและเผอิญมาพบกับเหตุการณ์เข้า ทั้งบรรเลงและหยาดรุ้งจึงได้เกิดมีปากมีเสียงขึ้น จนกระทั่ง บรรเลงเกิดทนไม่ได้จึงได้ตบหยาดรุ้งไปฉาดหนึ่ง ด้วยความแค้นที่ถูกตบต่อหน้าตะวัน หยาดรุ้งจึงชักปืนในกระเป๋าที่พกติดตัวมาด้วย ยิงนายบรรเลงจนถึงแก่ความตาย แล้วตัวเองก็ขับรถหลบหนีไป และในขณะเดียวกันหมอปราโมทย์ได้ขับรถผ่านมาเห็นเข้า จึง ได้จอดรถแวะไปดูเรื่องราวทั้งหมดจึงได้แตกขึ้น โดยตะวันเป็นผู้เล่าให้หมอปราโมทย์ ฟังว่า ตัวเธอไม่ใช่หยาดรุ้งคู่หมั้นที่แท้จริงของสยาม แต่เป็นคนใช้อยู่ในบ้านของคุณนายยวนใจ ที่ถูกคุณนายยวนใจเกลี้ยกล่อม ให้ปลอมตัวมาเป็นหยาดรุ้ง
ซึ่งเหตุการณ์เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ ไป ขอให้โปรดอดใจไว้ชมใน “เมียจําเป็น" จากการกํากับการแสดงของ แสนยากรและชายน้อย ได้ในเร็ว ๆ นี้ โดยการอํานวยการสร้างของ ชายน้อย รุจิโรจน์ ในนาม “แคน โปรดักชั่น” และจากการดําเนินสร้างโดย สันต์ ตระวิน
เวอร์ชั่น 3
ในปี 2544 มาเป็นละครของกันตนา ทางช่อง 7 คนหลังม่าน เขียนบทโทรทัศน์ กำกับการแสดงโดย เอกภพ ตันหยงมาศกุล นำแสดงโดย สวิช เพชรวิเศษศิริ(โตมร), น้ำฝน กุลณัฐ ปรียาวัฒน์(ตะวัน), ดนัย จิรา (บรรเลง), ภัคจีรา วรรณสุทธิ์(หยาดฟ้า), อภิรดี ภวภูตานนท์ (ยวนใจ), ไพโรจน์ ใจสิงห์ (ตรง), วาสนา สิทธิเวช (ไสว), ดวงกมล ศรัทธาทิพย์ (แหยม) , ศิริพิชญ์ กฤษณะเศรณี (กิ่งแก้ว), แห้ว รีเจนซี่ (หุ่น), ฯลฯ
เวอร์ชั่น 4
ล่าสุด ทางช่อง 3 โดย พรสุดา ต่ายเนาว์คง แห่ง ดี วัน ทีวี เขียนบทโทรทัศน์โดย พิง ลำพระเพลิง กำกับการแสดงโดย อินทนนท์ รัตนากาญจน์ นำแสดงโดย วฤษฎิ์ศิริสันธนะ (โตมร), รินรดา แก้วบัวสาย ( ตะวัน), เกียรติกมล ล่าทา (บรรเลง), พิชชาภา พันธุมจินดา (หยาดฟ้า), มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ (ยวนใจ), ทูน หิรัญทรัพย์ (ตรง), ญาณี จงวิสุทธิ์ (ไสว), จาตุรงค์ โกลิมาศ (แหยม)
ทุกศุกร์ -เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคมนี้ พบกับ "เมียจำเป็น" เวอร์ชั่นล่าสุด ได้ทางช่อง 3
