Scoop : เมื่อ “Blackpink” ครองโลก สาวๆ “Girls' Generation” จึงขอโชว์กึ๋นการแสดง ใน 3 ซีรีส์ส่งท้ายปลายปี!
By AnsurLady
ตัวอย่าง : ซีรีส์เรื่อง Private Lives
ตัวอย่าง : Teaser เรื่อง Hush
ตัวอย่าง : Teaser เรื่อง Run on
หลังเดบิวต์ให้แฟนเพลง K-Pop ทั่วโลกได้รู้จักวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อ “Blackpink” เมื่อ 5 ปีก่อน วงการเกิร์ลกรุ๊ปของเกาหลีก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การเปิดตัวเพลงของ Blackpink คือ การ Disrupt แวดวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีวงอื่นๆ แบบแทบเรียกได้ว่า “ไร้คู่แข่ง” ในปัจจุบัน เพราะความเจ๋ง ความเก่ง และความสำเร็จในหลายเพลงดังของ Blackpink ทำให้พวกเธอกลายเป็น “ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก” ที่ได้รับการยอมรับและปรากฎตัวมากที่สุด ไม่ว่าจะบนเวทีประกาศรางวัลระดับอินเตอร์ไปจนถึงเทศกาลดนตรี และคอนเสิร์ตบิ๊กเนมของโลก ชนิดยากจะหาเกิร์ลกรุ๊ปวงใดในโลกก้าวตามได้ทันแล้ว
ทั้งที่หากจะให้คิดชื่อวงเกิร์ลกรุ๊ป K-Pop สักวงที่มีบารมีมากพอจะขึ้นมาท้าชิงก่อนที่จะมีสาวๆ ลิซ่า เจนี่ โรเซ่ และจีซู แจ้งเกิดนั้น ชื่อของเกิร์ลกรุ๊ปรุ่นพี่ตัวท็อปจากค่าย SM อย่าง Girl’s Generation ก็เคยโด่งดังครองใจแฟนๆ ไปทั่วโลกเช่นกัน ถึงแม้จะยังไม่ทรงอิทธิพลต่อผู้คนในทุกๆ การขยับตัวได้มากเท่าที่ Blackpink ทำได้ในตอนนี้ แต่ศักยภาพของสาวๆ วงเกิร์ลส เจเนอเรชั่น หรือ SNSD นั้น เรียกได้ว่า แต่ละคนมีสไตล์และความสามารถที่โดดเด่นระดับตัวแม่กันเกือบทั้งวง เป็นที่ยอมรับในระดับเอลิสต์ของวงการบันเทิงเกาหลีในเกือบจะทุกๆ ผลงานของทั้ง 8 สาว
แม้สามสมาชิกของวงอย่างทิฟฟานี่ ซูยอง และซอฮยอน ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด ตั้งแต่ปี 2017 คงไว้เพียงสถานภาพการเป็นสมาชิกวงดังเดิม ในขณะที่อีก 5 สมาชิกยังคงอยู่ในความดูแลภายใต้ค่าย SM ทว่าเมื่อเริ่มถึงจุดอิ่มตัวในวงการเพลงหลังจากไขว่คว้าความสำเร็จมากว่าทศวรรษ แฟนๆ เลยทยอยได้เห็นสาวๆ วง SNSD หลายคน แตกแขนงแสดงศักยภาพในด้านอื่นๆ ของแต่ละคนออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
โดยเฉพาะอดีต “มักเน่” สมาชิกที่เด็กที่สุดของวงอย่าง“ซอฮยอน” ในวัย 29 ปี นั้น ถือเป็นสมาชิกของ SNSD ที่น่าจับตามองในฐานะ “นักแสดง” มากฝีมือตามรอยพี่ๆ ในวงที่หันมาเอาดีทางการเป็นนักแสดงอย่าง “ยุนอา” และ “ซูยอง” โดยเฉพาะการรับบทบาทแซ่บครบรสที่ฉีกออกไปจากตัวตนของเธอ ในซีรีส์นักต้มตุ๋นเรื่อง Private Lives ทางช่อง JTBC และ Netflix ที่เพิ่งออกอากาศจบไปเมื่อสิ้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
แม้ซอฮยอนจะเคยเดบิวต์การแสดงมาตั้งแต่ปี 2013 แถมยังเคยพิสูจน์ฝีมือจากการแสดงละครเวทีมาแล้ว และประสบความสำเร็จเป็นที่พูดถึงจากละครเพลงสุดคลาสสิคเรื่อง Mama Mia และ Gone with the wind ตั้งแต่สมัยยังอยู่ภายใต้สังกัดของ SM
แต่ด้วยภาพลักษณ์การเป็น “น้องเล็ก” หนึ่งในนักร้องเมนของวง SNSD ที่มีบุคลิกน่ารักเรียบร้อย เลยทำให้ทางค่ายดูเหมือนจะเน้นให้เจ้าตัวโฟกัสกับการเป็นนักร้องมากกว่าผันตัวมาเอาดีทางจอแก้วหรือจอเงิน เห็นได้ชัดจากผลงานซีรีส์เรื่องยาวกว่า 50 ตอน เรื่อง "Bad thief Good Thief" ที่ซอฮยอนนำแสดงนานร่วมครึ่งปี ที่ทางค่ายไม่เคยเข้ามาช่วยโปรโมทใดๆ ให้ซอฮยอนเลยแม้แต่น้อย ต่างกับนักแสดงคนอื่นใน SM ที่ค่ายช่วยทำให้ทั้งนั้น
ด้วยเหตุนี้ในซีรีส์แอ็กชั่นดราม่าผสมโรแมนติก เรื่อง Private Lives แฟนๆ เลยได้เห็นการปลอมตัวในสารพัดรูปแบบของซอฮยอน การเชือดเฉือนบทในลุคสาวนักต้มตุ๋นที่ต้องการล้างแค้นให้พ่อ แถมการแสดงคู่กับพระเอกหนุ่มหล่อสูงยาวเข่าดี “โกคยองพโย” เป็นครั้งแรกในเรื่องนี้ ก็ทำเอาเคมีคู่จิ้นฟุ้งกระจาย เพราะอดีตสาวน้อยมักเน่ ของแฟนๆ โซวอนกล้าที่จะลุกมาเลิฟซีนจูบแบบเผ็ดร้อน แถมทั้งคู่ยังเล่นเข้าขากันสุดๆ จนได้รับฉายาว่าเป็นเหมือนคู่แต่งงานใหม่เลยทีเดียว เรียกว่า ‘ฉายแวว’ การเป็นนักแสดงคุณภาพอย่างเต็มที่ว่า ซอฮยอนโตแล้ว จะรับบทแซ่บแค่ไหนก็ได้ !
ด้านสาวยุนอา ถือเป็นเมมเบอร์ SNSD ที่มีผลงานทั้งซีรีส์และภาพยนตร์โด่งดังมาหลายเรื่อง การันตีฝีมือการแสดงของยุนอาได้เป็นอย่างดีจากรางวัลมากมายที่เธอได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการคว้ารางวัล นักแสดงหญิงยอดนิยมจากซีรีส์ถึงสามเรื่อง You are my Destiny, Cinderella Man และ Love Rain ก่อนจะก้าวมาคว้ารางวัลสุดยอดนักแสดง และรางวัลคู่พระนางยอดเยี่ยม จากซีรีส์เรื่อง Prime Minister and I ขณะที่ภาพยนตร์แอ็กชั่นคอมเมดี้ลุ้นระทึกฝ่าหมอกหนีตาย เรื่อง Exit ก็สร้างรายได้เป็นอย่างดีติด Top 3 หนังทำเงินสูงสุดในปี 2019 และส่งให้ยุนอาคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดนิยมมาครองจากเวที 40th Blue Dragon Movie Award
งานแสดงของยุนอานั้นโดดเด่นเป็นที่จดจำในหลากหลายคาแร็กเตอร์ ไม่ใช่แค่บทนางเอกหน้าใสสวยหวานเหมือนอย่างคาแรคเตอร์การเป็นไอดอลที่มีภาพลักษณ์ดูใสบริสุทธิ์เหมือน “นางฟ้า” แห่งวงเกิร์ลส เจเนอเรชั่นเท่านั้น ล่าสุด “Hush” ซีรีส์เรื่องใหม่ของยุนอาที่กำลังเตรียมฉายส่งท้ายปลายปีทางช่อง JTBC ในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ บทบาทก็เข้มข้นจนทำให้เจ้าตัวยอมหวนกลับมาเล่นซีรีส์อีกครั้งในรอบ 3 ปี
ยุนอา รับบทนักข่าวสาวไฟแรงที่ทำงานอยู่ในบริษัทด้านสื่อสารมวลชน โดยซีรีส์เน้นหนักไปที่การสะท้อนภาพการดิ้นรนของชีวิตคนทำงานในออฟฟิศ ที่ต้องผจญทั้งปัญหาต่างๆ ในแต่ละวันมากมาย โดยเฉพาะการทำงานด้านงานข่าวที่เต็มไปด้วยความท้าทาย เรื่องจริยธรรมสื่อ ถือเป็นซีรีส์ดราม่าอีกเรื่องที่น่าจะโชว์ฝีมือทางการแสดงของยุนอาให้พัฒนาไปอีกขั้น โดยเรื่องนี้ ยุนอาประกบคู่กับนักแสดงหนุ่มรุ่นใหญ่ “ฮวังจองมิน” ที่ยอมหวนคืนจอในรอบ 8 ปีเช่นกัน
ด้านอีกหนึ่งสาว SNSD“ซูยอง” ก็กำลังจะมีซีรีส์เรื่องใหม่แนวโรแมนติกดราม่า “Run on” ออกฉายทางช่อง JTBC ในวันที่ 16 ธ.ค. นี้เช่นกัน โดยซูยองรับบทเป็นซีอีโอสาวบริษัทเอเจนท์ด้านกีฬา ที่ต้องพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่มาสานต่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่พ่อของเธอได้สร้างเอาไว้ให้ได้
ซูยอง ถือเป็นรุ่นพี่ที่มีผลงานแสดงรวมแล้วมากกว่าสมาชิกคนอื่นๆ ในวง เธอรับบทนำในซีรีส์และภาพยนตร์รวมแล้วเกือบ 15 เรื่อง แม้เจ้าตัวจะไม่ได้รับบทเป็นนางเอกเสมอไปเหมือนอย่างเพื่อนร่วมวงคนอื่นๆ แต่ซูยองก็มักเลือกรับบทนำที่มีความน่าสนใจ เช่นเดียวกับบทบาทในเรื่องนี้ ที่ซูยองต้องรับบทเป็น ซอดันอา หญิงสาวที่ต้องอยู่ท่ามกลางการแข่งขันตลอดเวลา แฟนๆ จะได้เห็นเธอในมาดผู้บริหารสาวระดับสูงที่ต้องการทำทุกอย่างให้ออกมาสมบูรณ์แบบเสมอ เรียกได้ว่า ถึงแม้จะห่างหายจากแวดวงเพลงไป ทว่าตลอดไตรมาสสุดท้ายของปี แฟนๆ โซวอนของ SNSD จะได้เต็มอิ่มกับการดูศิลปินวงโปรดทางหน้าจออย่างจุใจ แถมเป็นซีรีส์ที่มีเนื้อหาหลากหลายและพล็อตเข้มข้นน่าดูทุกเรื่อง