Review : “La Révolution” ซีรีส์ซอมบี้เรียลๆ บนฉากปฏิวัติฝรั่งเศส!
โดย Softlens
ตัวอย่าง
เบื้องหลังการฟิตติ้งของนักแสดงหลัก
ไม่บ่อยนักที่จะมีซีรีส์ฝั่งยุโรปเบียดขึ้นมาอยู่ท็อปชาร์จยอดนิยมบน Netflix ประเทศไทยทันทีที่ออกฉาย แต่ต้องยอมรับว่าออริจินัลเน็ตฟลิกซ์สัญชาติฝรั่งเศสเรื่อง La Révolution (ปฏิวัติเลือด) มาได้ถูกจังหวะถูกเวลา เพราะไหนจะมาในเดือนฮาโลวีนแล้ว ยังมาฉายในช่วงที่ไทยกำลังมีประเด็นร้อนทางการเมืองอีกด้วย
ด้วยชื่อเรื่องและเรื่องย่อเรื่องบนหน้าเว็บเน็ตฟลิกซ์โปรยไว้แสนสั้นว่า “ผลงานอิงประวัติศาสตร์ที่นำมาตีความใหม่ เมื่อโรคร้ายปริศนาได้แพร่ระบาดไปทั่วฝรั่งเศสในช่วงศตวรรษที่ 18 จนนำไปสู่การต่อสู้สุดโหดเหี้ยมระหว่างกลุ่มกบฏและชนชั้นสูง”
อ่านแค่นี้แล้วคาดหวังจะได้ชมประวัติศาสตร์การเมืองปฏิวัติฝรั่งเศสคงผิดถนัดเพราะ La Révolution เป็นการยำแฟนตาซีสไตล์ซอมบี้ เวทมนตร์ สืบสวนคดี ความขัดแย้งทางการเมือง และความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น ในยุคตกต่ำขีดสุดมาผสมผสานรวมกันบนฉากสองปีก่อนการปฏิวัติฝรั่งเศส ผลลัพธ์ที่ได้จึงออกมาเป็นซีรีส์แนวทริลเลอร์พีเรียดสุดเรียลสไตล์ซอมบี้ปารีเซียงดาร์กๆยุค 1787
อย่างที่ โอร์เฮเลียน โมลาส์ (Aurélien Molas) นักเขียนและผู้สร้างซีรีส์เรื่องนี้จุดประกายเรื่องนี้จากประเด็นที่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าการปฏิวัติฝรั่งเศสไม่เกิดขึ้นอย่างที่เราๆ เข้าใจกัน? โอร์เฮเลียนจึงจินตนาการขึ้นใหม่ซะเลยผ่านซีรีส์ฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ซึ่งฟังพล็อตแบบนี้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงซีรีส์ซอมบี้แดนกิมมิสุดเข้มข้นอย่าง Kingdom และภาพยนตร์เรื่อง Abraham Lincoln Vampire Hunter ประธานาธิบดี ลินคอล์น นักล่าแวมไพร์ (2012)
La Révolution ในฉบับโอร์เฮเลียน โมลาส์เดินเรื่องโดย 2 ตัวละครหลักคือ โจเซฟ กิโยตอง แพทย์ประจำเรือนจำ (บุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ผู้มีชื่อเสียงในฐานะผู้คิดค้นเครื่องประหารกิโยติน) ผู้มุ่งมั่นทำหน้าที่แพทย์ จนเมื่อเขาสงสัยในความบริสุทธิ์ของนักโทษต่างชาติ ทำให้เริ่มค้นหาความจริงจนพาเข้าไปพัวพันกับการปกปิดของผู้มีอำนาจและความลับของโรคระบาดจาก“เลือดสีน้ำเงิน” ที่แพร่กระจายในหมู่ชนชั้นสูง จนกลายสภาพเป็นพวกหิวกระหายกินเนื้อคน รวมถึงถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้องกับการต่อสู้ของพวกกบฏ
ส่วนอีกตัวละคร คือ เอลิซ ท่านหญิงจากตระกูลชั้นสูง พี่สาวผู้เข้มแข็งที่ต้องการปกป้องน้องสาวใบ้ผู้มีนิมิตประหลาด และไม่พอใจกับความเป็นธรรมของสังคม โดยทั้งสองตัวละครนี้มีจุดร่วมให้มาบรรจบกัน ตรงที่เอลิซเคยเป็นอดีตคนรักของพี่ชายโจเซฟ นามอัลแบร์ แต่เพราะรักต่างชนชั้น ทำให้อัลแบร์ถูกฆ่า แต่จู่ๆ วันหนึ่งทั้งสอง (เอลิซและโจเซฟ) กลับมาเจออัลแบร์ตัวเป็นๆ อีกครั้งหลังเขาตายไปนานกว่า 12 ปี
ตัวซีรีส์ดีไซน์โปรดักชั่นได้อลังการงานสร้างมากๆ สีภาพสวยสะกดประหนึ่งดูภาพยนตร์ หรือภาพโฆษณาทีวีก็มิปาน เสื้อผ้าหน้าผม ไปจนถึงการออกแบบสถานที่ยุค 1787 ทำออกมาได้สมจริงทุกรายละเอียดเรียกว่าฉากระดับน้องๆภาพยนตร์เรื่อง Les Misérables เหยื่ออธรรม ไปจนถึงหลายๆ ฉากเสียดสีระบบชั้นชนที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม
ตลอดเรื่องจะรู้สึกถึงความอึมครึมและม่านหมอก ได้อารมณ์ปริศนาลึกลับอันแน่นไปด้วยความโกรธเกรี้ยวของตัวละคร ผู้ชมจะลุ้นไปตลอดว่าปมที่ตัวซีรีส์ค่อยๆ ปล่อยออกมา จะเฉลยออกมาอย่างไร โดยเฉพาะซอมบี้ในเวอร์ชั่นฝรั่งเศสนี้จะมีหน้าตาอย่างไร
จุดนี้แอบสปอยส์ไว้ก่อนเลยว่า “เลือดสีน้ำเงิน”ที่เป็นจุดกำเนิดโรคระบาดและทำให้เหล่าขุนนางกลายร่างนั้น ไม่ได้ทำให้คนกลายร่างเป็นซอมบี้ไร้สติวิ่งพล่านไล่กัดคอคนอย่างที่เราๆ คุ้นเคยกัน แต่มันมีเลเวลความคลั่ง ช่วงแรกการติดเชื้อจะทำให้คนตายแล้วฟื้น มีสติครบสมบูรณ์ อารมณ์รุนแรงและมีพละกำลังมากกว่าคนปกติ ก่อนจะเริ่มหิวกระหายเนื้อมนุษย์ คุ้มดีคุ้มร้าย ควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะความหิวโหยซึ่งนี่เป็นจุดหนึ่งที่ซีรีส์แอบแดกดันช่องว่างระหว่างชนชั้น เพราะมันทำให้ขุนนางข่มเหงสามัญชนมากขึ้น เพราะเล่นล่ามาเป็นอาหารกินกันสดๆ แต่คุณสมบัติของเชื้อโรคนี้เองทั้งฝั่งกบฏและขุนนางนำเอามาเป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อ
ยิ่งพอโทนเรื่องเป็นแนวเรียลลิสติก ดังนั้นไม่ต้องคาดหวังฉากเหนือมนุษย์แบบโอเว่อร์แอคชั่น แต่จะได้เห็นความโหดดิบๆ ฉากเลือดสาด แทงสด หักดิบกันจะๆ ชนิดว่าดาบตัดมือเห็นกระดูกเส้นเอ็นกันชัดๆ ฉากหักคอกันเน้นๆ หรือฉากชันสูตรพลิกศพก็ดีไซน์ศพออกมาได้สมจริงเกินมาตรฐานซีรีส์แนวสืบสวนทั่วไป
ขณะเดียวกันการใช้ประวัติศาสตร์จริงมาตีความใหม่ แม้จะเป็นจุดแข็ง แต่ก็เป็นจุดอ่อนในคราวเดียวกัน เพราะความพยายามผสมทุกเรื่องราวให้ครบ ทำให้การเล่าเรื่องมีความซับซ้อน ตัวละครมากมายเกินจำได้หมดและการดำเนินเรื่องในช่วง 2 ตอนแรกที่แสนเชื่องช้าสไตล์หนังยุโรป อาจทำให้หากใครชอบแนวนี้คือชอบไปเลย แต่ถ้าไม่ชอบคือเทตั้งแต่ต้นเรื่อง ยิ่งถ้าละสายตาไปสักซีนอาจทำให้ต่อเรื่องไม่ติด
แม้พล็อตจะไม่ต่างไปจากแนวซอมบี้รุ่นใหม่ที่อยากฉีกกรอบเดิมๆ แต่ก็ถือว่าเป็นอรรถรสใหม่ สำหรับใครที่อยากดูการตีความซอมบี้รสชาติฝรั่งเศสกู้ชาติ ซึ่งสามารถรับชมได้ทาง Netflix มีเบาๆ 8 ตอน
อ้างอิงเรื่องและภาพ :
www.netflix.com/th-en/title/80992775