xs
xsm
sm
md
lg

Review : 9 เหตุผลที่คุณจะตกหลุมรักซีรีส์ “Emily in Paris”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



Review : 9 เหตุผลตกหลุมรัก Emily in Paris ซีรีส์มากกว่าโลกสวยจากผู้สร้าง Sex and the City

โดย Softlens




ถือว่าเป็นไปตามคาดสำหรับ ‘Emily in Paris’ (เอมิลี่ในปารีส) ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ที่ออกฉายบน Netflix ไม่กี่วันก็สร้างความปังจนไต่อันดับ 1-2 ในแบบที่เรียกว่า ‘นอนมา’

นั่นเพราะนี่คือผลงานใหม่โลกสีชมพูของดาร์เรนสตาร์มือเขียนบทและโปรดิวเซอร์ที่เคยส่งให้ Sex and the city (หรือที่เหล่า FC เรียกสั้นๆ ว่า SATC) กลายเป็นซีรีส์ระดับตำนานมาแล้ว โดยครั้งนี้เป็นการกลับมาวาดสีสันอีกครั้งผ่านตัวละคร เอมิลี่คูเปอร์นักการตลาดสาวชาวอเมริกันผู้เต็มไปด้วยจินตนาการและมองโลกในแง่ดี

พล็อตเดิมดูสบาย รู้ตัวอีกทีดูยันหว่าง

Emily in Paris เล่าถึง เอมิลี่คูเปอร์ (รับบทโดยลิลี่ คอลลินส์) นักการตลาดสาวชิคาโกผู้โชคดีแบบไม่คาดฝัน เมื่อได้โอกาสไปร่วมงานกับบริษัทการตลาด ที่ ปารีส มหานครแห่งมนต์เสน่ห์ในฐานะ Amarican points of view แทนเจ้านายของเธอที่ท้องแบบปัจจุบันทันด่วน เอมิลี่กระโจนใส่งานนี้แบบมั่นใจเกินร้อยในความสามารถด้านโซเชียลมีเดียตามสายงานโลกยุค 4.0 แต่การมาปารีสกลับไม่ได้สวยหรูอย่างที่วาดไว้ เมื่อเอมิลี่ต้องเอาตัวรอดจากปัญหาป่วนๆ ที่บุกมาทักทายเธอแบบไม่ทันตั้งตัว

พล็อตหลักยังคงวนเวียนอยู่กับมุก Amarican Dream แต่ความสนุกที่ทำเอาติดหนึบ อยู่ที่ความแสบสันต์ของบทและส่วนผสมสไตล์ ดาร์เรนสตาร์ที่ใส่มาได้ลงตัว พาให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็น Sex and the city เวอร์ชั่น 2020 เบาๆ ก็ว่าได้ ไม่แปลกใจหากระหว่างดูจะแอบอมยิ้มไปพร้อมกับซึมซับแรงบันดาลใจในการทำงานจากบุคลิกแสนมีชีวิตชีวาของสาวเอมิลี่ส่วนจะโดนคาถาใดป้ายยามา เรารวมมาให้รู้กันที่นี่

1.โดนความน่ารักน่าเอ็นดูของ ลิลี่ คอลลินส์ ตกอย่างจัง : ลิลี่คอลลินส์นักแสดงสาวตาคมเล็กพริกขี้หนูจากภาพยนตร์ Mirror Mirror และ Love, Rosieถ่ายทอดความเป็น เอมิลี่ สาวมั่นโลกสวยหัวไวเจ้าไอเดียได้อย่างมีเสน่ห์ ต้องบอกก่อนว่าตลอดทั้งเรื่องซีรีส์จะเล่นกับไดอะล็อกจิกกัดระหว่างวัฒนธรรมอเมริกันและวัฒนธรรมยุโรปและด้วยตัวละครเอมิลี่ที่เสมือนเป็นตัวแทนของคนอเมริกันจ้า แถมไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลยสำหรับรับมือช่องว่างของภาษา วัฒนธรรมผู้คน ขนาดไม่เรียนพูดฝรั่งเศสมาด้วยซ้ำ
นี่จึงกลายเป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่สร้างความโป๊ะและความเพลียให้กับเพื่อนร่วมงานและเจ้านายของเธอ ซึ่งถ้าไม่ได้การแสดงของลิลี่ และความประนีประนอมแบบเอมิลี่ เราๆ ก็อาจรำคาญและเกลียดตัวละครตัวนี้ไปเลยก็ได้ โดยซีรีส์เรื่องนี้ลิลี่ทุ่มสุดตัว แถมยังรั้งเก้าอี้โปรดิวเซอร์ร่วมอีกด้วย

2.คอสตูมเก๋ แฟชั่นเริ่ด จนสาวไหนก็อยากสอย : ต้องยกนิ้วให้รสนิยมการคัดเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครหลักซีรีส์เรื่องนี้ที่ดูเพลิน เจริญใจจริงๆ เรียกว่าไม่เสียเครดิต Patricia Field สไตลิสต์ระดับไอคอนผู้อยู่เบื้องหลังSATCและ Marylin Fitoussi คอสตูมดีไซเนอร์ชาวฝรั่งเศสที่มาจับมือกันสาดพลังความชิคใส่ เอมิลี่คูเปอร์ ให้เป็นสาวอเมริกันแสนสดใส จนตอนนี้ไอเท็มไหน? โผล่เข้ามาในฉากต่างเป็นที่หมายตาเหล่าแฟชั่นนิสต้าทั้งโลกเลยทีเดียวเดินตามความสำเร็จเบาๆ ของรุ่นพี่แครี่แบรดชอว์ ใน SATC มาติดๆ

3.โลเกชั่นสวยปาดตา รักหมดใจ : นี่คือ ‘นครปารีส’ นะ! ใครจะไปทนเสน่ห์ความงดงามยากเกินต้านทาน แต่ละฉากราวกับหลุดออกมาจากโปสการ์ด ซึ่งเหล่าทีมงานไม่ได้ถ่ายทำแค่แลนด์มาร์คนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังสรรหาสถานที่สวยๆ ย่านท้องถิ่นชื่อดังของปารีสมาให้ชมอีกด้วย ไปจนถึงความตั้งอกตั้งใจในการดีไซน์ช็อตได้ออกมาเพลินตามากๆ

งานนี้สาวลิลี่นำทีมเล่าการทำงานส่วนนี้มาฝาก



4.คัลเจอร์ช็อค : ตัวซีรีส์จงใจใช้มุกคัลเจอร์ช็อกมาสร้างความปวดหัวให้กับเอมิลี่ แบบที่ตัวเธอเองยังรู้สึกว่าการมาปารีสครั้งนี้เหมือนเป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์ เพราะเธอไม่ได้เตรียมใจมารับมือความต่างทั้งภาษา วัฒนธรรม มุมมองการใช้ชีวิต ที่กลายเป็นกำแพงให้ระหว่าง ‘เธอ’ กับ ‘งาน’ ไม่ว่าจะเป็นการนับชั้นผิด, การนับวันที่สลับกัน, การตั้งคำถามในไวยากรณ์ฝรั่งเศสที่กำหนดให้มีเพศเป็นเพศชาย-หญิง เป็นต้น จนเอมิลี่ปะทะความคิดกับเจ้านาย, เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า ที่บางครั้งลามไปถึงมุกแสบๆ คันๆ โชว์ความมั่นในความเป็นชาตินิยมอเมริกันและฝรั่งเศสชาติยุโรป

อย่างฉากหนึ่งที่จูเลียนเพื่อนร่วมงานของเอมิลี่มาเคลียร์ใจกับเธอว่า “อาจเพราะมุมมองความสำเร็จระหว่างเธอ (คนอเมริกัน) กับเรา (คนฝรั่งเศส) ไม่เหมือนกัน เธอมีชีวิตเพื่อทำงาน แต่เราทำงานเพื่อมีชีวิต” โดนประโยคนี้เข้าไปก็ลับมาฉุกคิดเหมือนกันว่าแต่ละคนวัดความสำเร็จของชีวิตอย่างไร ซึ่งเราๆ ชาวเอเชียที่ดูซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเรียนรู้และโป๊ะไปพร้อมๆ กับตัวละครเอมิลี่เช่นกัน

หลายบทดูเพื่อความบันเทิงจะดีกว่า เพราะเป็นประเด็นความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมและการมองต่างมุมอย่าลืมว่าซีรีส์สร้างโดยผ่านมุมมองของชาวอเมริกัน
แต่เรื่องนี้ก็ถือเป็นบทเรียนสำหรับมนุษย์งานเหมือนว่าจะไปทำงานต่างถิ่นที่ไหน ควรทำการบ้านพื้นเพของเขามาก่อน ไม่งั้นจะตกที่นั่งเดียวกับสาวเอมิลี่ ซึ่งชีวิตจริงคงไม่ได้ผ่านไปแบบสวยๆ

5.กระตุกต่อมฮึด กระตุ้นพลังหญิง : เพราะแก่นเรื่อง คือ สาวน้อยที่หวังก้าวหน้าในหน้าที่การงานด้วยลำแข็งตัวเอง ซึ่งด้วยไหวพริบและความสามารถของเอมิลี่พลิกให้วิกฤตกลายเป็นโอกาสขึ้นมาจริงๆ แม้จะดูบังเอิญและแสนง่ายเบอร์แรงจนดูไร้เหตุผลไปหน่อยเมื่อเทียบกับโลกความจริง แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า ความเหนือจริงนี้ช่วยคลายเครียด สร้างแรงฮึดและจุดประกายให้มีพลังก้าวต่อไป (แหม...ก็หวังมีลูกฟลุ๊คเหมือนนางเอกบ้าง)

6.สารพัดหนุ่มแซ่บทรมานใจสาว : ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานผู้สร้าง SATC มีหรือจะขาดเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นใครก็อิจฉาเอมิลี่ เพราะมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบให้เธอไม่น้อย แต่ละนายนอกจากความหล่อแซ่บสไตล์ปารีเซียงแล้ว ยังดีกรีไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเกเบรียลเชฟหนุ่มสุดหล่อเพื่อนบ้านอพาร์ทเม้นท์เดียวกัน, อองตวน เจ้าของบริษัทน้ำหอม ลูกค้าคนสำคัญของบริษัทที่เอมิลี่ทำงานอยู่, โทมัส อาจารย์ด้ายภาษากาย, น้องชายของคามิลล์เพื่อนรักที่ทำงานในชาโตว์, ดั๊ก นักการเงิน แฟนของเอมิลี่ที่ชิคาโก นี่แค่กรุบกริบเบาๆ ในซีรีส์ยังมีให้เลือกอีกเพียบ

ความเคมีแรงของเอมิลี่และเกเบรียล



7.มิตรภาพต่างแดนแสนน่าเอ็นดู : แม้เอมิลี่เริ่มต้นผูกมิตรได้ไม่ดีนักกับเพื่อนที่ทำงาน แต่หลังการปรับตัว ก็ทำให้เพื่อนๆ เปิดใจและให้ความช่วยเหลือ แต่เพื่อนคนแรกในปารีสของเอมิลี่ กลับไม่ใช่คนปารีส แต่เป็น มิ้นดี้ ชาน ลูกสาวอภิมหาเศรษฐีจีนที่ฝันอยากเป็นนักร้องและหนีมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ปารีสและคามิลล์สาวฝรั่งเศสผู้ดูแลแกลเลอรี่แต่ดันเป็นกลายเป็นแฟนของเกเบรียลซะงั้น ทำเอาเอมิลี่ยั้งจิตไม่ไปปล่อยใจไปกับเกเบรียล (วุ่นไปอีก) เพราะไม่อยากทำลายมิตรภาพกับเพื่อนผู้แสนดี

8.โซเชียลมีเดีย-เทคโนโลยีก็ไม่ได้แก้ปัญหาได้ทุกสิ่ง : ความเป็นสายแข็งด้านโซเชียลมีเดียระดับอินฟลูเอนเซอร์ในเรื่องจะได้เห็นเอมิลี่ใช้สกิลโซเชียลฯ ผ่านปัญหาไปได้อย่างชิลล์ๆ (ถึงจะง่ายจนดูโอเว่อร์เกินจริงก็ตามที) แต่ก็ชี้ให้เห็นประโยชน์ของการใช้โซเชียลมีเดีย
แต่อาจไม่ใช่กับความรัก เพราะระหว่างที่เธอกับแฟนหนุ่มพยายามรักษาความสัมพันธ์ไกล ผ่านสารพัดเทคโนโลยี แต่ท้ายสุดแล้วมนุษย์ก็ต้องการการสัมผัสจริงๆ ที่ท้ายสุดเอมิลี่ก็ตัดใจแบบไม่มีลังเลกับแฟนหนุ่มที่ชิคาโก เมื่อเขาทิ้งตั๋วเครื่องบินไม่มาหาเธอที่ปารีส และตัดพ้อว่ารักทางไกลไม่มีทางเป็นไปได้

9.เลือกทางเดินของตัวเอง แม้ไม่ได้สวยหรู : หลายตัวละครในเรื่องแสดงให้เห็นถึงการยืนหยัดบนทางเดินที่ตัวเองเลือก แม้ว่ามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และต้องยอมรับผลที่จะตามมา อย่างเช่น ฉากเลิกกันทางโทรศัพท์ของเอมิลี่และแฟนหนุ่ม ฉากนี้ไม่เพียงแสดงว่าเทคโนโลยีไม่ได้เป็นคำตอบของทุกอย่างแล้ว ยังแสดงเห็นถึงมุมมองสาวสมัยใหม่ที่เลือกยืดหยันอดทนเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง เพราะอย่าลืม ณ เวลานั้นที่ปารีส เอมิลี่ต้องเผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง กลับไม่เลือกแพ็คกระเป๋ากลับบ้าน แต่เลือกสู้ต่อและเชื่อมั่นในคุณค่าของตัวเอง
หรือมินดี้ เพื่อนเอมิลี่ที่เลือกเป็นพี่เลี้ยงเด็กในปารีส เพื่อให้ตัวเองเป็นอิสระจากการขีดเส้นของครอบครัว, เกเบรียลปฏิเสธเงินของพ่อแม่แฟนเพื่อเป็นทุนซื้อร้านอาหารมาเป็นของตัวเอง หรือ ซิลเวีย เจ้านายของเอมิลี่ เลือกมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับอองตวนแบบไม่ได้เป็นเจ้าของเขา ทั้งที่เขามีภรรยาอยู่แล้ว

เทียบความเชื่อมโยงระหว่าง EIP ถึง SATC

จากนี้ไปจะเป็นการเอาใจเหล่าติ่ง SATC เพราะสำหรับ FC เชื่อแน่ว่าการดู Emily in Paris ก็หวังอยากได้เสพกลิ่นอายและอรรถรสน้องๆ Sex and the City ซึ่งยืนยันได้เลยว่า ‘ใช่’
-ดาร์เรนสตาร์ ยังคงสไตล์ความเป็นซีรีส์รอมคอมไว้ครบสูตร บ่อยครั้งตัวละครเอมิลี่แก้สถานการณ์ได้ง่ายไปหน่อย แต่เพราะตัวบทเขียนมาได้แบบแซ่บๆ ถ้าไม่คิดมาก ก็ดูเอาเพลินได้
-อารมณ์ของซีรีส์ยังคงให้ตัวละครผูกพันกับเมือง แบบที่เอมิลี่ตกหลุมรักปารีส และแครี่แบรดชอว์หลงรักนิวยอร์ก
-แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มที่ให้อารมณ์เหมือนดูสายย่อของSex and the City ผสม The Devil Wears Pradaและ Gossip Girl
-คาแร็กเตอร์ตัวละครที่มีความคล้ายกันสะท้อนความเป็นผูหญิงยุคใหม่อย่าง เอมิลี่ มองโลกในแง่ดี เป็นนักการตลาด+อินฟลูเอนเซอร์ ที่สนุกกับการสร้างสรรค์โพสต์ลงบนโซเชียลขณะที่แครี่ มีความสุขกับการเป็นคอลัมนิสต์เรื่องเซ็กซ์หรือคามิลล์ เพื่อนสนิทของเอมิลี่ มีอาชีพเป็นผู้ดูแลแกลเลอรี่เช่นเดียวกับ ชาร์ลอตยอร์ก หนึ่งในเพื่อนสนิทของแครี่
-มิตรภาพระหว่างเพื่อน แม้ใน Emily in Parisจะชูประเด็นนี้ไม่ชัดและแบนไปหน่อย ไม่เหนียวแน่นเท่ากับ Sex and the Cityแต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นนี้ไปซะทีเดียว
-หนุ่มหล่อเลือกไม่ถูก : มุกนี้แทบก็อปปี้มาเต็มๆ แม้ใน Emily in Parisจะไม่ดุเดือดร้อนแรงโจ่งแจ้งเหมือนSex and the Cityแต่รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์แบบอีรุงตุงนังโดยเฉพาะเกเบรียลที่มีแนวโน้มกลายเป็น MR.BIG 2 เพราะเขามีเจ้าของแล้ว
-ตัวซีรีส์สอดแทรกความเป็นเฟมินีนและอยู่ไม่ห่างจากวงการแฟชั่นเหมือนกัน

และอีกมากมาย สปอยล์กันถึงขั้นนี้แล้ว ต้องลองไปชมต่อกันเอง ซีซั่นแรกมีแค่ 10 EP ต่อ EP สั้นๆ แค่ 30 นาที ดูไม่เหนื่อยมาก ระวังแค่กด EP แรก จะหยุดไม่ได้ก็เท่านั้นเอง...

อ้างอิงเรื่องและภาพ :

Netflix Official

สารพัดชุดเริ่ดและไอเท็มเก๋ ที่มาใหม่แทบทุก EP

อาการเซลฟี่ที่จะเห็นเอมิลี่ทำอยู่เป็นประจำ









เกเบรียล ที่อ่อยเอมิลี่ตลอดเวลา

แก๊งสามสาว กับโมเมนต์คาเฟ่แบบสาวปารีเซียง

จูเลียนและลุค เพื่อนร่วมงานชวนป่วง

อองตวน ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำหอม กับความหล่อแบบชายเจนโลก

ซิลเวีย เจ้านายของเอมิลี่ และลุค เพื่อนเกย์ของเอมิลี่

เอมิลี่และเพื่อนรักคามิลล์

เกเบรียล เชฟหนุ่มสุดหล่อ ที่เห็นแล้วอยากกินเชฟมากกว่า








กำลังโหลดความคิดเห็น