Preview : The Crown 4 “เลดี้ ไดอานา” มาแล้ว!
โดย Softlens
8 ฉากประวัติศาสตร์และตัวละครที่ทำให้คนทั้งโลกรอดู The Crown ซีซั่น 4 !
ตัวอย่างซีรีส์
ถือเป็นซีรีส์ที่มีแฟนๆ รอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่ง สำหรับ The Crown ออริจินอลซีรีส์ฟอร์มจัดของ Netflix นับตั้งแต่ปรากฏตัวนซีซั่นแรก และได้รับความคาดหวังมากที่สุดในซีซั่น 4 นี้ ที่เนื้อเรื่องเดินทางมาถึงช่วงเวลาการปรากฏตัวครั้งแรกของ 2 ผู้หญิงคนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ได้แก่ เลดี้ไดอานา เจ้าหญิงแห่งปวงชน (People's Princess) และมาร์กาเร็ต แทตเชอร์หญิงเหล็กแห่งการเมืองอังกฤษ ที่จะมาร่วมไทม์ไลน์เดียวกันกับสตรีสูงสุดของเครือจักรภพอังกฤษ ‘ควีนเอลิซาเบธที่ 2’
ล่าสุด Netflix ได้ปล่อยทีเซอร์ออกมากระตุกต่อมเผือกเหล่า FC พร้อมประกาศเป็นทางการแล้วว่าทุกคนจะได้ชมซีซั่น 4 พร้อมกันทั่วโลก15 พฤศจิกายน นี้
งานนี้ต้องมีย้อนความเรื่องย่อกันสักหน่อย สำหรับซีรีส์ The Crownตอนซีซั่น 1เริ่มต้นในช่วงที่เจ้าหญิงอลิซาเบธแต่งงานกับเจ้าชายฟิลิปในปี พ.ศ.2490จนเรื่องราวมาถึงซีซั่น 3 จะเป็นการเล่าช่วงปีพ.ศ.2508ในช่วงเวลาที่เหล่าราชวงศ์ไว้อาลัยกับการจากไปของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีผู้เปรียบดั่งเสาหลักของชาติและจบซีซั่นลงด้วยการเฉลิมฉลองการครองราชย์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 ในปี พ.ศ. 2520ไปพร้อมการยุติชีวิตแต่งงานของเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตกับลอร์ดสโนว์ดอน
สำหรับซีซั่น 4 จะเริ่มปลายยุค 70-80 โฟกัสไปที่เรื่องราวราชาธิปไตยที่มาบรรจบกับการครองอำนาจ 11 ปีของมาร์กาเร็ตแทตเชอร์และติดตามความสัมพันธ์อันซับซ้อนของเจ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอานาอย่างใกล้ชิดไปจนถึงการหลอกลวงในความสัมพันธ์ของระหว่างคามิลลาและเจ้าชายชาร์ลส์(ปัจจุบันรู้จักในชื่อ คามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์) ที่นำไปสู่ความร้าวฉานในชีวิตสมรสของเจ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานา
ในทีเซอร์The Crownซีซั่น 4 จะรู้สึกได้ถึงภาพความโดดเดี่ยวของไดอานาภายใต้ชุดแต่งงานที่กลายตำนานยาวกว่า 25 ฟุต ท่ามกลางสายตาสาธารณชนที่มีต่อสถาบันกษัตริย์ในเวลานั้น ก่อนเหตุการณ์ต่างๆ จะค่อยๆ หล่อหลอมเจ้าหญิงไดอานาจากเด็กสาวขี้อายอายุ 19 ปีไปเป็นไอคอนระดับโลก
เสน่ห์สำคัญที่ให้ซีรีส์ The Crown เป็นที่จับตาของคนทั้งโลก ไม่ได้อยู่ที่ความเนี้ยบของโปรดักชั่น หรือการประชันบทบาทของนักแสดงฝีมือจัดจ้านเท่านั้น แต่อยู่ที่การเปิดเผยอีกแง่มุมของบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ที่มีช่วงเวลาใกล้เคียงกับปัจจุบัน แถมตัวละครเกือบครึ่งในเรื่องยังมีชีวิตอยู่! มาเล่าในรูปแบบของละคร ไม่ใช่สารคดี ในฐานะผู้สร้างและนักแสดงนั่นย่อมหมายถึงความท้าทายและอ่อนไหวอยู่มากทั้งการสร้างการเขียนบท และบทบาทการแสดงอย่างที่ โอลิเวีย โคลแมน ผู้รับบทราชินีอลิซาเบธที่ 2ให้สัมภาษณ์กับเดอะ มิลเลอร์ ว่า “มีแรงกดดันมากขึ้นเมื่อคุณกำลังเล่นบทคนที่ยังมีชีวิตอยู่และจะมีความกลัวว่าพวกเขากำลังเฝ้าดูเรา และจะไม่ชอบมัน”
หากแต่ในมุมของผู้ชมเรียกว่านอกจากต่อมเผือกราชวงศ์จะร้อนขั้นสุดแล้ว ยังอดลุ้นไม่ได้ว่าผู้สร้างจะหยิบฉากใดในประวัติศาสตร์มาปรากฏบนแผ่นฟิล์ม เช่นเดียวกันในซีซั่น 4 นี้
และนี่คือลิสต์สำคัญที่เราจะได้เห็นในThe Crown ซีซั่น 4 นี้
1.ยืนยันตามที่มีข่าวออกมาแล้วว่า เอ็มม่า คอร์รินนักแสดงหน้าใหม่ที่หลายๆ คนยกย่องว่าเธอมีส่วนละม้ายคล้ายเจ้าหญิงไดอานา จะมารับบทเจ้าหญิงผู้เป็นที่รักของปวงชนในวัย 20 ต้นๆ โดยเรื่องราวในซีซั่น 4 จะเริ่มต้นตั้งแต่เลดี้ไดอานามีอายุ 18 ปี จนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ซึ่งในซีซั่นนี้จะได้เห็นเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของเลดี้ไดอานาไม่ว่าจะเป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเธอกับราชวงศ์อังกฤษ, การหมั้นและพิธีอภิเษกกับเจ้าชายชาร์ลส์ ที่ได้รับการจารึกและถูกกล่าวขวัญมากที่สุดงานหนึ่งของโลก
ภาพเหตุการณ์จริงของพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายชาร์ลส์และเลดี้ไดอานา
2.นอกจากนี้ยังมีการโฟกัสฉากการเดินทางสำคัญๆ ที่น่าจดจำของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าชายชาร์ลส์ เช่น การเยือนนิวยอร์กของเจ้าหญิงไดอานา, การเดินทางไปออสเตรเลียในเที่ยวบินบนเครื่องบินคองคอร์ดซึ่งแน่นอนว่าฉากเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์บางอย่างระหว่างเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าชายชาร์ลส์ รวมถึงแฟชั่นและพัฒนาการการรับมือกับสาธารณชนของเจ้าหญิงที่จะกลายเป็นแฟชั่นไอคอนในเวลาต่อมาทีมงานจัดเต็มเรื่องแฟชั่นยุค 70-90 มาให้ผู้ชมได้เล่นเกมจับผิด ระหว่างฉากบนจอและภาพเหตุการณ์จริง
3.การปรากฏตัวของมาร์กาเร็ตแทตเชอร์ผู้หญิงคนแรกของอังกฤษที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษยาวนานที่สุดซึ่งได้ จิลเลียน แอนเดอร์สันนักแสดงดังจาก The X-FilesและSex Educationมารับบทนี้ งานนี้ไม่ใช่แค่แฟนๆ เท่านั้นที่ดีใจ แม้แต่ โอลิเวีย โคลแมนผู้รับบทราชินีอลิซาเบธที่ 2 มาตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ก็ยังตื่นเต้น เพราะโดยส่วนตัวเธอคลั่งไคล้การแสดงของจิลเลียนอยู่แล้ว
ฉากหนึ่งที่แฟนๆ ต่างใจจดใจจ่อรอคอย คือ การเผชิญหน้าระหว่างมาร์กาเร็ตแทตเชอร์และราชินีอลิซาเบธที่ 2 เพราะนี่คือส่วนที่ทีมประวัติศาสตร์และทีมเขียนบทต้องมาเติมเต็ม เนื่องจากจนถึงวันนี้ยังไม่เคยมีความชัดเจนว่าระหว่างสตรีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองนั้นมีปฏิสัมพันธ์อย่างไรแบบที่ แอนดรูว์ มารร์ (Andrew Marr) นักเขียนชีวประวัติของพระราชินี พูดถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาว่า "ยาก"
"นี่คือผู้หญิงสองคนที่อายุใกล้เคียงกัน แต่มีภูมิหลังแตกต่างกันมาก หลังจากที่ทั้งสองผ่านความทรงจำทางการเมืองในช่วงปีที่ปั่นป่วนและกดดันมากที่สุด" !
4.ในซีซั่น 4 นี้ ผู้ชมมีแนวโน้มจะได้เห็นเจ้าชายชาร์ลส์ในแง่มุมที่แตกต่างจากซีซันที่แล้วจากบทบาท ‘เด็กหนุ่มแอบเก็บกด’ มาเป็น ‘ชายหนุ่มเจนโลก’ มากขึ้น
5.ตามรายงานจาก Tatler ผู้กำกับได้การคัดเลือกนักแสดงที่มารับบทเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดและเจ้าชายแอนดรูว์พระโอรสของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2ในวัยผู้ใหญ่ โดยได้นักแสดงอังกฤษหน้าใหม่อย่างแองกัส อิมรี และทอม เบิร์น มารับบทเจ้าชายทรงเสน่ห์ทั้งสอง หล่องานดีเหมือนตัวจริงแค่ไหน ดูรูปพิสูจน์กันเอง
6.ตามไทม์ไลน์ของซีซั่น 4 ทำให้เชื่อได้ว่าจะได้เห็นภาพแรกบนจอของเจ้าชายวิลเลียม ในวัยเตาะแตะนับตั้งแต่การประสูติและการเสด็จพระราชดำเนินครั้งแรก
7.หนึ่งในประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จะได้เห็นในซีซั่นนี้ ตามเดลี่เมล์ระบุ คือ การปรากฏตัวของ ไมเคิล ฟาแกน บุคคลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้บุกรุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของพระราชวังบักกิงแฮมโดย เพราะเขาคือชายเพี้ยนที่บุกรุกเข้าไปจนถึงห้องนอนของพระราชินีได้ในปีพ.ศ.2525
8.หลายคนสงสัยว่าจะได้เห็นราชวงศ์ที่มีชื่อเสียงชาติอื่นๆ นำมาสร้างเป็นตัวละครในซีซั่นนี้หรือเปล่า? เพราะจากไทม์ไลน์ตามที่ระบุไว้โดยTatlerเนื้อเรื่องซีซั่น 4 จะมีฉากงานศพของ หลุยส์ เมานต์แบ็ตเทน พระนัดดาที่เจ้าชายชาร์ลส์ทรงไว้วางพระทัยมาก จึงต้องมีฉากราชวงศ์ยุโรปเข้าร่วมมากมายรวมถึงเจ้าหญิงเกรซแห่งโมนาโกและพระสวามีเจ้าชายเรนีเยร์ด้วย แม้เรื่องนี้ยังไม่มีการยืนยัน แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้ชมจะได้เห็นเจ้าหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดสองพระองค์ร่วมเฟรมบนหน้าจอเดียวกัน
และเป็นเรื่องโชคดีสำหรับแฟนพันธุ์แท้ซีรีส์ The Crown เพราะซีซั่นนี้ยังคงนักแสดงชุดเดิมจากซีซั่นที่แล้วไว้ครบ เสริมทัพด้วยตัวละครใหม่ที่จะให้เราลุ้นหน้าจอพร้อมกัน 15 พฤศจิกายน นี้บนNetflixเท่านั้น
หมายเหตุ
1.23 ปีที่แล้ว 31 สิงหาคม 2540 ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ (Diana, Princess of Wales) สิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่อุโมงค์ลอดใต้สะพานปองต์เดอลัลมา (Pont de l’Alma) ใจกลางกรุงปารีส หลังจากพยายามหนีการไล่ล่าของปาปาราซซี่
2.แอนดรูว์ มารร์ (Andrew Marr) นักข่าวชาวอังกฤษ-นักวิจารณ์การเมือง และเคยเขียนหนังสือ The Real Elizabeth: An Intimate Portrait of Queen Elizabeth II
อ้างอิงเรื่อง - ภาพ :
www.vogue.com.au/culture/features/everything-you-need-to-know-about-season-4-of-the-crown/news-story/5642efff3d0cf8e33824eb30664b17a9
www.townandcountrymag.com/society/tradition/a26796131/the-crown-princess-diana-actress/
www.townandcountrymag.com/leisure/arts-and-culture/a30120980/margaret-thatcher-gillian-anderson-the-crown-season-4/
www.townandcountrymag.com/leisure/arts-and-culture/a33625662/olivia-colman-queen-elizabeth-the-crown-worries-watching/
https://metro.co.uk/2020/03/02/unknown-actor-tom-byrne-cast-young-prince-andrew-netflixs-crown-kind-unfortunate-12333288/