รีวิวครึ่งแรก The King Eternal Monarch – โลกขนานของ “คนคู่เหมือน”
ชื่อเรื่อง : The King Eternal Monarch
ชื่อไทย : จอมราชันบัลลังก์อมตะ
แนวซีรีส์ : โรแมนติก / แฟนตาซี / สืบสวน สอบสวน
ผู้ผลิต : Hwa&Dam Pictures
ผู้กำกับการแสดง : แบคซังฮุน (ผลงาน “Love in the Moonlight” – รักเราพระจันทร์เป็นใจ) และ จองจีฮยอน (ผลงาน Search: WWW – เสิร์ชรักตามหาหัวใจ)
คนเขียนบท : คิมอึนซุก (ผลงาน “Mr. Sunshine” – สุภาพบุรุษตะวันฉาย)
ออกอากาศทางช่อง : SBS (เกาหลีใต้) / ทาง Netflix (ไทย)
จำนวนตอน : 32 EP (SBS ออกอากาศ 2 ช่วง) / 16 EP ทาง Netflix
วัน เวลา ออกอากาศ : ศุกร์ - เสาร์ เวลา 22.00 น. (ตามเวลาเกาหลีใต้) และ เวลา 21.30 น. (ทาง Netflix ตามเวลาไทย)
ระยะเวลาออกอากาศ : 17 เมษายน – 6 มิถุนายน 2563
ชายหนุ่มรูปงามในอาภรณ์แปลกตา ขี่ม้าสีขาวงามสง่า เหยาะย่างมาตามถนนในย่านจตุรัสควังฮวามุน กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ก่อนจะลงจากม้า แนะนำตัวกับ ผู้หมวดจองแทอึล ตำรวจสายสืบ ที่ลงรถไปตรวจสอบและทำการจับกุมว่า
“ฉันคือกษัตริย์แห่งจักรวรรดิเกาหลี บังเอิญข้ามมาที่นี่ พร้อมสายฟ้าฟาดและเสียงฟ้าคำราม”!!!
นี่อาจไม่ใช่เนื้อเรื่องใหม่เอี่ยม เพราะที่ผ่านมาผู้สร้างซีรีส์เกาหลี ได้นำเสนอ “พล็อตโลกคู่ขนาน” หรือการมีอยู่ของ “โลกอีกใบ” กันมาแล้วไม่น้อย อาทิ Time Slip Dr. Jin ดร.จิน หมอข้ามศตวรรษ (2555), Queen In Hyun’s Man - มหัศจรรย์รักข้ามภพ (2555), W รักข้ามมิติ (2559), Signal สัญญาณลับ ล่าข้ามเวลา (2559), Tunnel – อุโมงค์ลับซ่อนมิติ (2560), Saimdang, Light’s Diary - ซาอิมดัง บันทึกรักตำนานศิลป์ (2560), Live Up to Your Name – คุณหมอสองภพ (2560)
ผู้จัด ผู้ผลิตไทยเรา ก็พยายามรังสรรค์ “โลกคู่ขนาน” มาเสนอไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าละครหรือซีรีส์ชาติใด ชนิดที่เคยทำเอาคนดูเอียนมาแล้ว เพราะมาออกอากาศไล่เลี่ยกัน แต่ที่ชัดเจนสุดคงต้องยกให้ “ทวิภพ”, “บุพเพสันนิวาส” และ เพลิงพรางเทียน
The King Eternal Monarch จอมราชันบัลลังก์อมตะ เป็นเรื่องราวของ อีกน (อีมินโฮ) กษัตริย์แห่ง “จักรวรรดิเกาหลี” Kingdom of Corea ที่พยายามจะหาทางปิดประตูมิติเชื่อมโลกคู่ขนาน โดยร่วมมือกับ จองแทอึล (คิมโกอึน) ตำรวจนักสืบสาวที่ใช้ชีวิตอยู่ใน “สาธาราณรัฐเกาหลี” Republic of Korea เพื่อปกป้องชีวิตของผู้คนจากอันตราย ด้วยน้ำมือของ หัวหน้ากบฎ อีริม (อีจองจิน) ลุงแท้ๆ ของอีกน
นักเขียนบท “คิม อึนซุก” (Kim Eunsuk) เจ้าของผลงานขึ้นหิ้งมากมาย ทั้ง Lovers in Paris-ฝันรักปารีส, Secret Garden, The Heirs, Descendants of the Sun และ Goblin เธอสร้างความประทับใจให้กับผู้ชม ด้วยเนื้อเรื่องแปลกใหม่อันน่าตื่นเต้นชวนติดตาม ประสมเข้ากับซีนโรแมนติกชวนฟินในระดับที่ดูไปต้องหุบยิ้มกันไม่ลง
คราวนี้ก็เช่นกัน “คิม อึนซุก” อวดพล็อตโลกคู่ขนานอันแปลกต่างไปจากซีรีส์ที่ผ่านมาได้อย่างสุดว้าว ด้วยการสร้างคาแร็คเตอร์ตัวละครทุกตัวในโลกฝั่งหนึ่ง ให้มีตัวตนอยู่จริงในโลกคู่ขนาน! ไม่เท่านั้น ยังลงลึกไปในรายละเอียด ที่ว่า “คู่เหมือนแห่งโลกคู่ขนาน” มีดีเอ็นเอ ตรงกันเป๊ะ
จอมราชันบัลลังก์อมตะ เปิดเรื่องด้วย การสอบสวน ผู้จ้องหา อีริม ชายวัย 70 ปี แต่กลับดูเหมือนคนอายุ 50 ในข้อหา ฆาตกรรม กบฎอีริมพาคนดูไปทำความรู้จักตัวละครนับจากปีที่เขาก่อกบฏ ในปี 1994 ทิ้งปริศนาให้คนดูต้องลุ้นและติดตาม ว่าเหตุใดเขาจึงถูกจับกุมได้ในปี 2019 หรืออีก 25 ปีต่อมา โดย จองแทอึล และ คังชินแจ สองตำรวจนักสืบแห่งเกาหลีใต้
และ “คิม อึนซุก” ได้ใช้ “คู่เหมือน” นี้ หลอกล่อคนดูให้ตายใจ ก่อนจะหาจังหวะเผยให้อึ้งเป็นระยะ ซึ่งใน EP8 ตอนล่าสุด นี้ ก็ได้เผยตัวตนตัวละครสำคัญ อย่างน้อย 2 คน ว่าเป็นคนจากโลกอีกใบหนึ่ง!
จะหาใครมาเป็น “เจ้าชาย” ในยุคที่เราอยู่ในห้วงเวลาการเรียนรู้ชีวิตปกติใหม่ A New Normal นี้ ที่คนดูจะเชื่อใจได้อย่างง่ายดายเท่า อีมินโฮ อีกเล่า
อีกน ผู้หล่อเหลางามสง่า ฉลาดเฉลียว เจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มยามอยู่ต่อหน้าคนรัก และเดียวดายในบางโอกาส หรือในยามบ้านเมืองคับขันต้องบัญชาการรบในเครื่องทรงทหาร(เรือ)เต็มยศ ก็สมาร์ท ชวนละลาย บทบาททั้งหลายเหล่านี้ถูกอีมินโฮ ถ่ายทอดออกมาอย่างเปี่ยมเสน่ห์
น่าเห็นใจ นางเอกตาชั้นเดียว “คิมโกอึน” ที่ต้องมาแบกภารกิจนางเอกของเรื่องและต้องถูก อีมินโฮ จูบ!! ในบท หมวดสาวยอดนักสืบ “จองแทอึล” แห่ง สาธารณรัฐเกาหลี และคู่เหมือน สาวหน้ากระ “ลูน่า” นางโจรตัวแม่ เจ้าของคดียาวเป็นหางว่าวในโลก จักรวรรดิเกาหลี ที่ทำทุกอย่างรับทุกจ็อบเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
เมื่อคนดูไม่รักนักแสดงแล้ว บทบาท จองแทอึล ในหลายฉากที่ต้องเข้าพระเข้านางที่สมควรฟิน มันเลยทำให้คนดูหัวร้อน และบูลลี่เธอถึงขั้น “ไม่คู่ควร” กับ อีมินโฮ เรียกว่าดีกรีความรุนแรงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่เธอโดนเขม่นตอนประกบ สองสามีคนดู กงยู กับ อีดงอุค ใน Goblin เลยทีเดียว
คิม โกอึน เป็นผู้หญิงประเภทสวยพิศ ต้องมองเธอนานๆ นางไม่ใช่สวยผาดหยาดเยิ้ม ดูการแสดงของเธอแล้วให้ประหวัดถึง “แซนดรา โอห์” (Sandra Oh) นักแสดงสาวลูกครึ่งเกาหลี-แคนาดา แห่ง ซีรีส์ตัณหานักบุญ Grey's Anatomy เธอคนนั้นพาลุค “ความเอเชี่ยน” ไปสู่บันเทิงอินเตอร์ อย่างน่าภาคภูมิใจ
แต่ที่เสียงสนับสนุนไม่มีแตก ต้องยกให้ “ดาบหนึ่งใต้นภา” บทบาทที่ “อูโดฮวาน” (Woo Dohwan) ถ่ายทอดออกมาอย่างแตกต่าง ออร่ากระจัดกระจายอยู่ทั้งเรื่อง ทั้งในบท “โจอึนซอบ” หนุ่มทะเล้นขี้เล่นขี้ขลาดในโลก สาธารณรัฐเกาหลี กับบท โจยอง หัวหน้าองครักษ์มาดขรึมหล่อเนี้ยบเก่งกาจสามารถบู๊ครบครัน
สำหรับบทศัตรูของอีกน ได้นักแสดงพระเอกรุ่นใหญ่ อีจองจิน (Lee Jungjin) ผู้มีรางวัลการันตีความสามารถทางการแสดง มารับบทเป็น อีริม อย่างสมศักดิ์ศรี ทั้งอำมหิต และน่ายำเกรง คอซีรีส์แรกรุ่น คงคุ้นหน้าลุงแกจาก Love Story in Harvard ที่เล่นประกบสองพระนาง คิม แรวอน และ คิมแทฮี เอาไว้
มวลสารความจิ้นความฟินของ The King Eternal Monarch ได้กระจายจากคู่พระนาง ไปยังสาววายด้วยคู่จิ้น “โจกน” (โจยองและอีกน) และประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมจากการแสดงที่น่ารักน่าชังอันเข้าขาของ “อีมินโฮ” กับ “อูโดฮวาน”
หนึ่งในแก่นและสารที่ผู้สร้างกับคนเขียนบทต้องการสื่อไปยังคนดู ถูกบอกเล่าผ่านบทสนทนา ระหว่างมยองนารี (รับบทโดย คิม ยองจี) เพื่อนรุ่นน้องคนสนิท ที่บอกกับ จองแทอึล ถึง “คู่เหมือน” เอาไว้ว่า
“ต้องมีคนใดคนหนึ่งต้องตายเสมอ นั่นคือกฎสมดุลของจักรวาล อะไรที่มีเพียงหนึ่ง เมื่อมีสองขึ้นมาก็จะวุ่นวาย”
ไม่เพียงความลับของขลุ่ยวิเศษ “มันพาชิกจ็อก” ที่เป็นพาหะพา อีริม และ อีกน ข้ามไปมาระหว่างสองโลก ยังมีเรื่องราวที่ซ่อนซุกอยู่อีกมาก และคาดว่าผู้สร้างกับนักเขียนบทคงรวมหัวกันบิดเรื่องไปมาให้คนดูฉงนฉงาย
ปริศนาที่ว่า เหตุใด อีกน ในวัย 8 ขวบ จึงมีบัตรตำรวจของหมวดจองแทอึล
“คู่เหมือน” ของ “อีกน” ที่บอกไว้ว่าตายตั้งแต่ตอน 8 ขวบ จริงอย่างนั้นหรือ?
ทั้งหลายเหล่านี้ ล้วนรอคนดู ไปลุ้นระทึกอยู่ในครึ่งเรื่องหลัง!!
.
ขอบคุณภาพจาก Netflix