xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องย่อ “รักนิรมิต” (มีคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เรื่องย่อ “รักนิรมิต”

ชื่อเรื่อง “รักนิรมิต” - The Miracle
บทประพันธ์ : ชวาลามารุต
บทโทรทัศน์ : น้องนุช ชวาลา
กำกับการแสดง : มารุต สาโรวาท
แนวละคร : โรแมนติกแฟนตาซี
วัน-เวลาออกอากาศ : ตอนแรกในวันจันทร์ที่ 20 เมษายนนี้ เวลา 22.15 น. ทางช่องทรูเอเชี่ยนซีรีส์ และออกอากาศทุกคืนวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 บนแอปพลิเคชัน ทรูไอดี เริ่มตอนแรกวันจันทร์ที่ 27 เมษายน 2563
เรียบเรียงใหม่ : ละครออนไลน์

#รักนิรมิต #TheMiracle #ทรูโฟร์ยูช่อง24 #lakornonlinefan #ยืนหนึ่งข่าวละคร



“ความรักเป็นสิ่งสวยงาม แต่ถ้าเมื่อใดมีความแค้นเข้ามาข้องเกี่ยว ความรักจะกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัว แม้เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ข้ามชาติ ข้ามภพ ข้ามดินแดน ความรักและความแค้นจะยังคงตามจองล้างจองผลาญ เพื่อให้ได้ความรักนั้นมาครอบครอง หากแต่ 'รักนิรมิต' อยู่เหนือทุกสิ่ง เวทมนตร์ใดก็มิอาจพรากความรักไปได้”

เรื่องย่อ

ดวงตา นัยนา และเนตรนภา เคยเป็นเพื่อนรักกันในอดีตตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ ทั้ง 3 คนต่างรักและมีความสัมพันธ์กับเอกอัครราชทูตราชันย์ ศักดาดำรง ความอิจฉาริษยาและจอมวางแผนของเนตรนภา ได้ทำให้ “ดวงตาและนัยนา” หวาดระแวงและเลิกคบกัน ขณะเดียวกันเนตรนภาก็ไปเป่าหูราชันย์ให้เห็นความเลวร้ายของเพื่อนทั้งสองคน สุดท้าย...เนตรนภา สมปรารถนาได้แต่งงานอยู่กินกับราชันย์ จนมี “ลูกชาย” คนหนึ่ง

บริเวณพิพิธภัณฑ์แหล่งอารายธรรมไอยคุปต์ ลุ่มแม่น้ำไนล์ มีหนุ่ม-สาวคนไทยชื่อ ไนล์นที และอัสวัน เพลิดเพลินมีความสุขกับการได้สัมผัสกับสิ่งคุ้นเคย ... ทั้งคู่ ไม่รู้จักกัน ไม่เคยพบกัน แม้จะย่ำเดินบนหนทางเส้นเดียวกัน

เมฆา เจ้าของสตูดิโอ, นิตยสารและเวบไซต์ “สกาย” เจ้านายของอัสวัน ผู้เป็นช่างภาพสาวในสตูดิโอ ได้โทร.ข้ามประเทศแจ้งว่า จะมีงานถ่ายภาพโปรโมตไฮโซ-เซเลบป้ายแดง หน้าใหม่ของเมืองไทย !
อัสวัน เป็นที่รักของเพื่อนๆในออฟฟิศทุกคน ไม่ว่าจะเป็น พงศ์พันธ์,จอย, พิมมี่,อ๊อฟ รวมถึงแม่บ้านอย่าง “การะเกด” ที่เมฆาไม่ชอบ และชอบดุด่าอยู่บ่อยๆ อัสวันก็ยังซื้อของฝากเป็นผ้าพันคอลายดวงตาฮอรัสให้
ที่แท้ ! ไฮโซฯ เลือดใหม่ ผู้ถูกกล่าวถึงคือ ไนล์นที ! นั่นเอง

มีการวางแผนเปิดตัวหนุ่มคนนี้แบบครบวงจร ตั้งแต่ การวางคอนเซ็ปต์ถ่ายภาพนิ่งเพื่อทำพรีเซนเตชั่นในวันเปิดตัว, ลงบทสัมภาษณ์ในนิตยสารสกาย และอื่นๆอีกมากมาย อัสวันรับหน้าที่ช่างภาพถ่ายภาพแฟชั่นไว้หลายเชต ก่อนเชตสุดท้าย แว๊บหนึ่ง ขณะที่เธอมองผ่านช่องวิวไฟน์เดอร์ เห็นว่า ไนล์นที มีเลือดไหลเปรอะคอและเสื้อ ทำเธอตกใจ .... เมื่อต้องถ่ายรูปในช่วงท้าย ปรากฏว่า ดวงไฟหล่นจากเพดาน ก่อนลงถึงตัวของไนล์นที เธอก็ผลักให้เขาไปพ้นทาง แต่ก็ได้รับแผลและเลือดไหล จนเมฆาต้องพาไปโรงพยาบาล

การะเกด แม่บ้าน ทำอะไรก็ไม่ถูกใจเจ้านายอย่างเมฆาจนถูกไล่ออกจากสกาย ไนล์นทีซึ่งพักคนเดียวในคอนโดฯ จึงรับเข้ามาเป็นแม่บ้านส่วนตัว

วันเปิดตัวไฮโซคนใหม่ ภาพต่างๆที่ขึ้นบนจอโปรเจกเตอร์ จู่ๆ ก็ปรากฏ ภาพ “นักรบอียิปต์โบราณ” บนจอรูปหนึ่ง เรียกเสียงฮือฮากันทั่วงาน อัสวันไม่เคยถ่ายภาพชุดนี้ เมื่อค้นจนถี่ถ้วน ก็ไม่มี !

ต่อมา คุณหญิงโรส ศักดาฤทธิรงค์ ที่คุ้นเคยกับเมฆา จะจัดละครเวทีการกุศลเรื่อง “ ไอด้า มิวสิคัล” และดัน “เพนนี” ลูกสาวให้มาสนิทสนมกับไนล์นที ลูกชายของอดีตทูตราชันย์ (เสียชีวิตแล้ว) กับเนตรนภา และได้ เศรษฐา สถาปนิกหนุ่ม ผู้เป็นแฟนหนุ่มของอัสวัน เป็นผู้สร้างฉากให้กับละครเรื่องนี้

ไนล์นที รับบท “แม่ทัพราดาเมซ” , เพนนี รับบท “ไอด้า” และ พลอย เพื่อนของเพนนี รับบทเป็น “เจ้าหญิงเอมนิริส” - “ต้อ” มารุต สาโรวาท กำกับการแสดง

ทั้งไนล์นที, อัสวัน, เศรษฐา เริ่มมีความฝันแปลกๆเข้ามาเกี่ยวข้อง
“ผมฝันว่า ตัวเองเป็นราดาเมซ แล้วคุณคือ ไอด้า”

“ไอด้า” หรือ “อาอีดา” เป็นอุปรากรภาษาอิตาลีความยาว 4 องก์ ประพันธ์โดยจูเซปเป แวร์ดี เนื้อเรื่องกล่าวถึง ไอด้า เจ้าหญิงเอธิโอเปีย (นูเบีย) ถูกจับเป็นเชลยและถูกใช้งานเยี่ยงทาสในอียิปต์ ได้พบกับ ราดาเมซ หัวหน้าองครักษ์ และว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้าหญิงเอมนิริส ธิดาของฟาโรห์ ราดาเมซมีความรักกับไอด้า และมีความลำบากใจที่ต้องเลือกระหว่างความภักดีและความรัก สุดท้ายทั้งคู่พร้อมยอมตายในอ้อมแขนของกันและกันในวิหารไอซิส

เศรษฐาฝันเห็น ดวงตาในวิหารเทพเจ้าฮอรัส ! แปลกเหลือเกิน ที่ไนล์นที สวมสร้อยคอ “ดวงตาฮอรัส” ด้านขวา เป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย เปรียบดั่งพระอาทิตย์ ส่วนอัสวัน สวมสร้อยดวงตาข้างซ้าย สัญลักษณ์เพศหญิง เปรียบประดุจพระจันทร์

แม้ว่า เศรษฐากับอัสวัน จะคบเป็นแฟนกันมาหลายปี แต่เขาไม่เคยพาคนรักไปพบและทำความคุ้นเคยกับแม่ของเขาเลยสักครั้ง เพราะเศรษฐารู้ว่า ดวงตา ได้รับความกระทบกระเทือนจากความหลัง ทำให้อารมณ์ขึ้นๆลงๆไม่คงที่ ยากที่ใครจะรับได้ และวันหนึ่ง ดวงตา แม่ของเศรษฐาอยากรู้จักคนรักของลูกชาย ! วันนัดหมาย ทุกคนคาดไม่ถึงว่า ดวงตา จะถามคาดคั้นอัสวันว่า แม่เธอชื่ออะไร ? ทั้งยังบอกว่า ผ้าพันคอที่อัสวันคลุมมาวันนั้น เป็นของเธอ ! เอาคืนมานะ ...

จุลทรรศน์ เพื่อนของราชันย์ที่อยู่ในวงการทูตแวะมาเมืองไทยเพื่อสะสางเรื่องราวที่ค้างคาอยู่ ตามที่ราชันย์เคยไหว้วานไว้เมื่อนานแล้ว

ก่อนงานแต่งงานของราชันย์กับเนตรนภาไม่นาน ราชันย์ได้รู้ความจริงจากจุลทรรศน์ แต่ไม่อาจแก้ไขสิ่งใดได้แล้ว เขาพร้อมจะรับผิดชอบเด็กที่เป็นลูกของเขา ทั้งนัยนาและดวงตากลับเมืองไทย ทนการดูถูกจากสังคมรอบข้างว่า ท้องไม่มีพ่อ ไม่ได้กลับเรียนเรียนต่อโทที่อังกฤษ ไม่มีใครได้ข่าวของทั้งคู่อีกเลย แม้ราชันย์จะเคยมาที่เมืองไทยหลายครั้งเพื่อสืบข่าวก็ตาม การเดินทางกลับเมืองไทยครั้งนี้ ทำให้จุลทรรศน์ทราบจากดวงตาว่า ราชันย์เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว

จุลทรรศน์บอกดวงตาว่า พี่-น้อง 2 คนคือ เศรษฐาและไนล์นทีได้พบและร่วมงานกันแล้วจากข่าวละครเรื่องไอด้าที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่เขายังไม่พบลูกของนัยนา ! ดวงตาบอกว่า เธอคิดว่า เธอพบลูกสาวของนัยนาแล้ว เธอชื่อ อัสวัน

เมื่อไนล์นทีพาอัสวันมาที่ยังคฤหาสน์.... แม่บ้านชื่อ ผ่อน ก็รายงานสายตรงมาหาเนตรนภาทันที เนตรนภาคิดถึงคำพูดของนัยนาที่เคยบอกเธอว่า “รักอียิปต์ รักแม่น้ำไนล์ รักพีรามิด สฟิงซ์ ถ้าฉันมีลูก ฉันจะตั้งชื่อลูกว่าอัสวาน”
อัสวาน เป็นชื่อเมืองและชื่อเขื่อนกั้นแม่น้ำไนล์

จุลทรรศน์บอกให้เนตรนภารับความจริงทุกเรื่องราวที่เธอก่อขึ้น แต่เธอรับไม่ได้ ถ้าลูกคนอื่นจะมาทวงความเป็นธรรม ! ชิงสมบัติ

ทุกคนทิ้งระยะห่างจากการเป็นคนรักหันมาเป็นพี่น้อง แล้ววันหนึ่ง เนตรนภาก็ทำให้ทุกคนช็อก ! เธอประกาศว่า ไนล์นที ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของราชันย์ ! บังเอิญว่า เมฆาและคุณหญิงโรสแอบเข้ามาได้ยินพอดี ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ! เมื่อเนตรนภาคลอดลูก ปรากฏว่า ทารกน้อยเสียชีวิต เธอจึงให้นางพยาบาลหาพ่อแม่ที่สมัครใจยกเด็กให้เธอ พร้อมกับจ่ายค่าตอบแทนไป ... และนางพยาบาลคนนั้นคือ ผ่อน แม่บ้านในปัจจุบันนั่นเอง

ทุกคนหนีการทำงานละครเวที นัดหมายกันไปอียิปต์โดยไม่บอกใคร เพื่อค้นหาความจริง
ณ พิพิธภัณฑ์ไคโร ทั้ง 3 ได้รู้จักกับดร.โยธิน ผู้รอบรู้ในเรื่องอียิปต์วิทยา

จุลทรรศน์ แจ้งกับทุกคนว่า หลังจากเสร็จสิ้นการแสดง “ไอด้า เดอะมิวสิคัล” จะมีการเปิดพินัยกรรมของราชัน เนตรนภาไปพอใจ อ้างว่า พินัยกรรมนั้นเป็นของปลอม แต่เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงคนเดียวของท่านทูต

วันแถลงข่าว แพรว ซึ่งรับบท เจ้าหญิงเอมนิริส ในละครเวที เดินกร่าง ตาแข็ง เข้าไปจิกตบเพนนี ซึ่งรับบท “ไอด้า” สื่อมวลชนชอบใจ นึกว่า เป็นไอเดียของสกายออกาไนซ์เพื่อเรียกกระแส !

รอบซ้อมใหญ่ ดร. โยธิน ในฐานะผู้เชี่ยวชาญเรื่องอียิปต์วิทยาถูกเชิญมาให้ช่วยดูความถูกต้อง และฉากวันพิพากษา เขาบอกว่า เจ้าหญิงเอมนิริสจะต้องถือ “อังค์” ของเทพีไอซิสด้วยถึงจะถูกต้อง เวลากระชั้นชิดคงไม่สามารถทำได้ทัน ซึ่ง “อังค์”นี้ เป็นหนึ่งในของสะสมที่มีอยู่ในพิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของครอบครัวศักดาดำรง

ส่วนที่เป็นสีสัน เพื่อให้อุปรากร ไอด้า เชื่อมโยงกับเทพ-เทวีบางส่วนของไอยคุปต์ คือ
เจ้าหญิงเอมนิริส เฝ้าติดตามแม่ทัพราดาเมซ มานานถึง 3,300 ปี จนรู้ว่า เขามาเกิดเป็น “ไนล์นที” ส่วนไอด้า ศัตรูหัวใจของนางมาเกิดเป็น “อัสวัน”
ไอด้า บูชาเทพฮอรัส ดังนั้นเทพฮอรัสจึงติดตามมาคุ้มครองเธอทุกชาติภพ

เอมนิริส บูชา อาเปป หรือ อโพฟิส (Apophis) ซึ่งไม่ได้ถือว่าเป็นเทพ ไม่มีใครบูชา และไม่มีวิหารให้กราบไหว้ ลักษณะทางสรีระเป็นงู อยู่ใต้ดิน ผนังพักอาศัยเป็นเกล็ดสีเขียวเหลือบฟ้าและดำ เจ้าหญิงเอมนิริส ให้อาเปปช่วยหาข่าวและติดตามคนคู่นี้ บางคราวก็ออกคำสั่งให้ทำร้ายศัตรู เอมนิริสและอาเปปมาสังเกตการณ์ในโลกปัจจุบันหลายครั้ง บางครั้งก็พาเอาบุคคลที่เกี่ยวข้องกลับไปยังอดีต

ในตำนานเทพ อาเปปจะกลืน “เทพรา” หรือ สุริยเทพ ซึ่งเราเรียกเหตุการณ์นี้ว่า “สุริยคราส” ในช่วงที่อาเปปกลืนเทพรานี้ จะสามารถย้อนเวลากลับไปสู่อดีตเพื่อแก้ไขบางสิ่งได้
“ช่วงเวลาที่เทพราถูกกลืนกิน เป็นช่วงเวลาอาถรรพณ์ที่ความมืดจะชนะความสว่าง ... เราจะทำพิธีกรรมเพื่อชีวิตที่เป็นอมตะของเราทั้งสอง”
เอมนิริสจะหยิบเอาเหตุการณ์เดิมที่ให้ “ไอด้าและราดาเมซ” ถูกฝังทั้งเป็น มาตัดสินใหม่ !

ดร. โยธิน เล่าให้เศรษฐาฟังว่า แม้ว่า “เทพเซต (Set)” จะเคยฆ่าเทพ “โอซิริส” พ่อของ“เทพฮอรัส” ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่หน้าที่สำคัญของเทพเซตก็คือ การเป็นทัพหน้าบนนาวาแห่งสุริยเทพ ใช้หอกหรือฉมวกทิ่มแทงต่อสู้ ฟาดฟันกับอาเปป ซึ่งปกติจะมีชัยชนะอยู่ตลอด มีบางคราวที่รบแพ้ เทพราก็จะถูกกลืนกิน บางครั้งเพียงบางส่วน บางคราวก็หมดดวง ดร.โยธินบอกว่า หนทางที่จะทำให้อาเปปคลายเทพราได้ก็คือ เทพฮอรัส ต้องไปยืมอาวุธจากเทพเชตมาใช้ในการนี้

ก่อนรอบเพรส ภายนอกโรงละครเกิดเหตุการณ์สุริยุปราคา
ไนล์นทีและอัสวันอยู่ในห้องพิพิธภัณฑ์ในคฤหาสน์ศักดาดำรง จะหยิบอังค์เพื่อจะไปโรงละคร ปรากฏว่า ห้องปิดล็อก ไม่มีสาเหตุ ...แล้วทุกคนที่เกี่ยวข้องกลับไปสู่อดีต

เทพฮอรัสไปขอยืมหอกจากเทพเชต เริ่มต่อสู้กับอาเปปที่กำลังกลืนสุริยเทพใกล้มิดดวง ทุกตำแหน่งที่ทิ่มแทงนั้นไม่ได้ผล จนสุดท้าย แทงเข้าที่คอหอย อาเปปร้องครางอย่างเจ็บปวด คายสุริยเทพโดยพลัน ฝ่ายเอมนิริสยังไม่ได้พิพากษา... โลกกลับสู่แสงสว่างอีกครั้ง ส่วนไนล์นทีและอัสวันพบว่า นอนอยู่ที่พื้นห้องพิพิธภัณฑ์

รอบเพรสในวันต่อมา พอละครถึงฉากพิพากษา จู่ๆ ลมพัดแรง ไฟช็อต ฉากละครล้มปลิวไปตามแรงลม ผู้คนวิ่งหนีตาย เมฆาโดนฉากทับ เศรษฐาเอาตัวบังเพนนีพ้นจากอันตราย
จู่ๆ การะเกด ก็โผล่มาที่หลังโรงละคร !? พาไนล์นที และอัสวันหนีไปตามทาง แต่ทางนั้น ลึกเข้าสู่วิหารไอซิส ... เมื่อเธอหันหน้ากลับมาอีกครั้ง กลับกลายเป็นเจ้าหญิงเอมนิริส

ระหว่างการพิพากษา เทพีไอซิส ก็ปรากฏตัวขึ้น
“พอได้แล้วเอมนิริส เจ้าวนเวียนอยู่ในกิเลส โมหะ โทสะของเจ้ามากเกินไปแล้ว เจ้าไม่สามารถหลุดพ้นออกไปได้เลย ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะนำทางเจ้ากลับสู่ที่เจ้าควรชดใช้กรรมที่เจ้าทำไว้”
เมื่อเทพีไอซิสเรียก “อะนูบิส” ก็ปรากฏตัวขึ้นเพื่อพาเอมนิริสไปยังโลกแห่งความตายเพื่อชั่งน้ำหนักของหัวใจ

เทพอะบูนิสนี้ มีเทพลักษณะเป็นหมาในสีดำ เป็นหัวหน้าในการทำมัมมี่ และพิธีฝังศพ เทพีไอซิสรักเหมือนลูกแท้ๆของตัวเอง หากตาชั่งฝั่งหัวใจเบากว่าขนนกของเทพีมาอัตก็แปลว่า คนนั้นเป็นคนดี

เรื่องราวของอดีต จบที่เทพีไอซิสบอกให้ลูกชายคือ เทพฮฮรัส พาไนล์นทีและอัสวัน กลับสู่โลกมนุษย์
ต่อมาทุกอย่างเสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์ ไนล์นทีรักกับอัสวัน, เศรษฐารักกับเพนนี ส่วนเนตรนภายังไม่ยอมทิ้งทิฐิ พร้อมสัมภาระเดินออกจากคฤหาสน์ศักดาดำรง ...

รายชื่อนักแสดงละคร “รักนิรมิต”

เพชร โบราณินทร์ : ไนล์นที หรือ แม่ทัพราดาเมซ
อลิสา จณิน โวลล์มันน์ : อัสวัน หรือ นางทาสไอด้า
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา : เศรษฐา
แนน-สศิรา ทวียนต์ชัย : เพ็ญนี
ปอ-อรรณพ ทองบริสุทธิ์ : พงศ์พันธ์
หนุ่ม-สุรวุฑ ไหมกัน : เมฆา
พิมพ์-พิมพ์พรรณ ชลายนคุปต์ : ดวงตา
กิ๊ก-มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ : เนตรนภา
รัชนี ศิระเลิศ : คุณหญิงโรส
แจ๊บ-เพ็ญเพชร เพ็ญกุล : จุลทรรศน์
หงหยก-จันษกร กิตติวัฒนากร : นัยนา (ในอดีต)
น้ำ-กัญญ์กุลณัช ปัญญากิตตินันท์ : ดวงตา (ในอดีต)
เอม-สาธิดา ปิ่นสินชัย : เนตรนภา (ในอดีต)
วสันต์ อุตตะมโยธิน : ดร.โยธิน
นราวดี เรืองเพ็ง : เจ้าหญิงเอมนิริส

เทพเจ้าไอยคุปต์

ศิรัช เย็นรักษา : เทพโอซิริส
พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช : เทพีไอซิส
ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา : เทพฮอรัส
นรภัทร สกุลซ้ง : เทพเซธ
ชยณัฐ รุ่งเรืองวิวัฒน์ : อาเปป
เกียรติศักดิ์ แสงแพง : เทพอะนูบิส

ไนล์นที-อัสวัน

ไนล์นที-อัสวัน

ไนล์นที-อัสวัน

เศรษฐา-อัสวัน

เศรษฐา-เพนนี-ไนล์นที-อัสวัน

ไนล์นที

อัสวัน

เนตรนภา-ไนล์นที

เนตรนภา

เศรษฐา

คุณหญิงโรส ศักดาฤทธิรงค์ -เพนนี

ท่านทูต “ราชันย์ ศักดาดำรง”

อดีต : ดวงตา-นัยนา-เนตรนภา

จุลทรรศน์

เมฆา

พงศ์พันธ์

ดร. โยธิน

มวลหมู่ไอยคุปต์ – อุปรากร เรื่อง “ไอด้า” (อาอีดา) เจ้าหญิงนูเบียถูกจับเป็นเชลยในอียิปต์ ได้พบกับ ราดาเมส หัวหน้าองครักษ์และว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้าหญิงอัมเนอริส ธิดาของฟาโรห์ ราดาเมสต้องเลือกระหว่างความรักกับความจงรักภักดี  และทั้งคู่เลือกที่จะจบชีวิตในอ้อมแขนของกันและกันในวิหารแห่งไอซิส

แม่ทัพราดาเมซ -นางทาสไอด้า

แม่ทัพราดาเมซ หัวหน้าองครักษ์และว่าที่เจ้าบ่าวของเจ้าหญิงอัมเนอริส ธิดาของฟาโรห์

นางทาสไอด้า เจ้าหญิงเอธิโอเปียถูกจับเป็นเชลยไปเป็นทาสในอียิปต์

เจ้าหญิงเอมนิริส ธิดาของฟาโรห์ คู่หมั้นของแม่ทัพราดาเมซ

แม่ทัพราดาเมซ, นางทาสไอด้า, เจ้าหญิงเอมนิริส

เทพโอซิริส, เทพีไอซิส เทพบิดร-มารดาแห่งไอยคุปต์

กลุ่มเทพ “ฮอรัส, โอซิริส, ไอซิส, เซธ”  – “โอซิริส” ถูก “เซธ” น้องชายฆ่าชิงบังลังก์ เอาศพใส่โลงถ่วงที่แม่น้ำไนล์ แต่โลงดันล่องไปตามแม่น้ำ “เทพีไอซิส” ติดตามหาศพสามี  ระหว่างทางคลอด “เทพฮอรัส” นางต้องใช้กุศโลบาย เพื่อให้เซธรับปากว่าจะไม่ฆ่าฮอรัสก่อน เซธชิงศพได้ก่อนจึงตัดชิ้นส่วนศพทิ้ง กระจายไปทั่ว นางต้องตามชิ้นส่วนทั้งหมดมาทำพิธี และรักษาศพเพื่อรอวันหวนคืนโลกอีกครั้ง

เทพีไอซิส มเหสีของเทพโอซิริส ต้นแบบของราชินีในอุดมคติผู้เปรียบเสมือนเทพมารดร ผู้คุ้มครองฟาโรห์ทุกพระองค์ในสมัยอียิปต์โบราณ

เทพฮอรัส บุตรของเทพเจ้าโอซิริสและเทวีไอซิส เป็นเทพเจ้าที่มีศีรษะเป็นเหยี่ยว มีฐานะเป็นเจ้าแห่งท้องฟ้า ดวงตาข้างซ้ายเป็นพระจันทร์ ส่วนดวงตาข้างขวาเป็นพระอาทิตย์ ทำหน้าที่คุ้มครองราดาเมซและนางทาสไอด้ามาทุกชาติ

เทพเซธ - พี่น้องร่วมท้องเดียวกับเทพโอซิริส, เทพีไอซิส ซึ่งเป็นลูกของเทพีนุต ซึ่งมีด้วยกัน 5 คน  ถือเป็นเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุด ตอนเกิดได้ฉีกท้องแม่ออกมาดูโลก

เทพอะนูบิส - เป็นหัวหน้าในการทำมัมมี่ และพิธีฝังศพ เป็นลูกของเทพโอซิริส และเทพีเนฟทิส เทพีไอซิสรักเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ในโลกแห่งความตาย เทพอนูบิสจะทำหน้าที่ชั่งน้ำหนักของหัวใจของดวงวิญญาณ หากเบากว่าขนนกของเทพีมาอัต แปลว่าบุคคลนั้นเป็นคนดี

อาเปป - ไม่ถือเป็นเทพเจ้า ไม่มีใครบูชา ไม่มีวิหารสักการะ ทุกค่ำคืนจะโจมตีสุริยเทพ และต้องพ่ายแพ้แก่เทพเซธที่คุ้มครองอยู่ แต่เมื่อใดที่อาเปปมีชัยเหนือสุริยเทพ ท้องฟ้าก็จะมืดมิดไปชั่วขณะ ก็คือ “สุริยคราส” นั่นเอง

ฮอรัส-โอซิริส-เทพเซธ

มัมมี่-อาเปป-เอมนิริส-อะนูบิส

มัมมี่


กำลังโหลดความคิดเห็น