กรงกรรม @Netflix !
ช่วงนี้ คนส่วนใหญ่ขานรับนโยบาย Work From Home ของบริษัทต่างๆ เพื่อสร้าง Social Distancing ในการป้องกันไวรัส Covid 19 … แน่นอนว่า ส่วนหนึ่งของชีวิตยังคงทำงานเหมือนเดิม และส่วนที่เป็นสันทนาการ และไลฟ์สไตล์อาจจะต้องเปลี่ยนไป แน่นอน ! คนอาจจะหันมาชมละครและซีรีส์กันมากขึ้น
แน่นอนว่า อิทธิพลของแอพใหม่ๆที่ครองใจคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ WeTV ต้องได้รับการตอบรับมากยิ่งขึ้น เพราะมีงานต่างๆรวมไว้ให้คุณได้เลือกชมกัน
วันนี้ ... 24 มีนาคม Netflix จะจูงมือ “แม่ย้อย” เถ้าแก่เนี้ยเจ้าของกิจการร้านค้าและโรงสีจากชุมแสง ผู้เจ้ากี้เจ้าการกับทุกเรื่องของทุกคนในครอบครัวมาพบกับคุณๆอีกครั้ง และนี่คือ เรื่องย่อขนาดยาวตามตรงตามตอนต่างๆของละครเรื่องนี้ทั้ง19 ตอน มาให้อ่านกันอีกรอบ
#ละครออนไลน์ #กรงกรรม #ช่อง3 #Netflix
“กรงกรรม" สร้างจากบทประพันธ์ของ จุฬามณี เขียนบทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา กำกับการแสดง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรงจง ค่าย แอคอาร์ต เจเนเรชั่น จำกัด
นักแสดง
ราณี แคมเปน : เรณู / จิรายุ ตั้งศรีสุข : กมล(อาซา) / ใหม่ เจริญปุระ : ย้อย / ฐกฤต ตวันพงค์ : ปฐม (เฮียใช้) / ชนาธิป โพธิ์ทองคำ : ประสงค์(อาตง) / วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ : มงคล (อาสี่) / ปรียากานต์ ใจกันทะ : จันตา / จิตรภาณุ กลมแก้ว : ปลัดจินกร / รินรดา แก้วบัวสาย : วรรณา / พิชชาภา พันธุมจินดา : พิไล / ธัญญภัสร์ ภัทรธีรชัยเจริญ : บุญปลูก / เด่นคุณ งามเนตร : ก้าน / อรเณศ ดีคาบาเลส : เพียงเพ็ญ / ปริญญ์ วิกรานต์ : หลักเซ้ง / กษมา นิสสัยพันธุ์ : กำนันศร /ปริศนา กล่ำพินิจ : นางสมพร / จรรยา ธนาสว่างกุล : นางศรี / ปวีณา ชารีฟสกุล : พิกุล / ณัฐนี สิทธิสมาน : นางแรม / อรรถพล เทศทะวงศ์ : ป้อม / สิรินรัตน์ วิทยพูม : อรพรรณี / อริศรา วงษ์ชาลี : ติ๋ม / อ้อยใจ แดนอีสาน : ประนอม / ธัญชนก หงษ์ทองคำ : หวาน /สุเชาว์ พงษ์วิไล : อาจารย์ก้อน / ชลัฏ ณ สงขลา : เชิด / คัคกิ่งรักส์ คิคคิคสะระณัง : เจ๊อ๋า / ณภัทร ชุ่มจิตตรี : ไอ้หวัง / นิศาชล ต้วมสูงเนิน : บังอร / วราพรรณ หงุ่ยตระกูล : หมุ่ยนี้ / วิศรุต หิรัญบุศย์ : ดำ / ดนัย จารุจินดา : หมอสมดี / ปวันรัตน์ นาคสุริยะ : ป้าเม้า / การัญชิดา คุ้มสุวรรณ : มาลา / อรสา อิศรางกูร ณ อยุธยา : อาม่าร้านสังฆภัณฑ์ / ศิรินทรา นิยากร : เรไร / พิเชษฐ์ เอี่ยมชาวนา : อาสิทธิ์ / รัดเกล้า อามระดิษ : แย้ม / โฆษวิส ปิยะสกุลแก้ว : สุบิน / โชติรส ชโยวรรณ : กรองแก้ว / โฉมฉาย : ฉัตรวิไล : นางลิ้ม / ภคพล ตัณฑ์พาณิชย์ : ป๊อก / สิรีภรณ์ ยุกตะทัต : สายทอง / กุณกนิช คุ้มครอง : กุ่น
เรื่องย่อขนาดยาว
ตอนที่ 1
ที่เรดบาร์ ตาคลี นครสวรรค์ ตื๋มให้ทุกคนฉลองที่เรณูจะทำงานเป็นวันสุดท้าย หลังจากได้พบรักกับ
ปฐม ทั้งประนอม ติ๋ม หวาน กอดลาเรณูด้วยน้ำตา ประนอมอวยพรให้เรณูพบแต่ความสุข ไม่ต้องกลับมาทำงานที่นี่อีก แล้วปฐมหรือเฮียใช้ก็พาเรณูขึ้นรถไฟกลับไปที่ชุมแสง เพื่อพาเรณูไปอยู่ที่บ้านของตน ปฐมถามถึงครอบครัวของเรณู แต่เรณูไม่อยากพูดถึง
ที่ชุมแสง ร้านอัศวรุ่งเรืองพานิชของย้อย ย้อยดีใจที่ได้เห็นอาใช้ ลูกชายคนโตกลับบ้าน แต่พอได้พบกับเรณูเท่านั้น ย้อยก็ไล่ให้อาใช้พาเรณูกลับไปแทบไม่ทัน เพราะย้อยไม่ยอมรับ ย้อยได้หมั้นหมายอาใช้ไว้กับพิไลแล้ว แต่เรณูอ้างว่าตนเองท้อง ย้อยจนใจ แต่ไม่อาจอยู่ร่วมชายคากับเรณูได้ ส่งกุญแจให้ปฐมพาเรณูไปอยู่บ้านอีกหลังในซอย ย้อยยื่นคำขาดให้ใช้เลิกกับเรณูและพาเรณูกลับไปคืนที่ซ่องโดยเร็ว
ย้อยกลุ้มใจ รีบไปหาพระประสงค์หรืออาตงที่วัด ขอร้องให้สึกออกมาแต่งงานกับพิไลแทนเฮียใช้ ส่วนอาใช้ก็กลุ้มใจ ไปปรึกษาหลักเซ้งผู้ป็นพ่อ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ย้อยเร่งเดินทางไปที่ทับกฤช เพื่อพบกับพิกุล แม่ของพิไล ย้อยยังอยากได้พิไลเป็นสะใภ้ด้วยเพราะสนิทกับครอบครัวของพิกุลและเถ้าแก่ฮงมานาน จึงขอให้พิไลแต่งกับประสงค์มาเป็นสะใภ้รองแทน พิกุลบอกจะเกลี้ยกล่อมพิไลให้
รุ่งขึ้น เฮียใช้ต้องไปทำงานที่โรงสี จึงพาเรณูมาฝากอาซาหรือกมลไว้ที่ร้าน เรณูช่วยอาซาจัดร้านได้อย่างเรียบร้อย แต่พอย้อยกลับมาเท่านั้น ก็ไล่เรณูจนกลับออกไปแทบไม่ทัน ซ้ำยังไม่ให้อาซาเรียกเรณูว่าซ้ออีกด้วย เรณูฝืนยิ้มให้กับทุกคนทั้งที่ใจนั้นเจ็บปวด ที่ย้อยเรียกตัวเองว่าผู้หญิงโคมแดง
พระตงยังคงออกบิณฑบาตเช่นเดิม และเมื่อมาถึงที่หน้าบ้านจันตา หมุ่ยนี้ พระจึงบอกว่าจะสึกเร็วๆ นี้ ตามที่ย้อยแม่ของตนเองต้องการ หลังจากสึกออกมา ตงก็กลับมาที่ร้านย้อย บุญปลูกลูกจ้างในร้านดีใจมากที่ตงกลับมา
หลักเซ้งมาดูบ้านที่เรณูอยู่กับใช้ สงสารที่บ้านเก่ารกรุงรัง แต่เรณูก็ทำความสะอาดจนน่าอยู่ ย้อยยังไม่ชอบหน้าเรณูเช่นเดิม สั่งให้คนมางัดบ้านดูข้าวของข้างใน แต่พอเห็นบ้านสะอาดเอี่ยมก็นิ่งอึ้งไป
ตอนที่ 2
หมุ่ยนี้พาจันตาไปเปิดหูเปิดตาด้วยการดูหนังที่โรงหนังและได้พบกับปลัดจินกร ปลัดมีทีท่าชอบจันตาตั้งแต่แรกพบจนหมุ่ยนี้สังเกตได้ หมุ่ยนี้จึงพูดให้จันตาได้คิด ไม่อยากให้จมปลักอยู่แต่ความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้กับอาใช้ ที่สำคัญ ไม่อยากให้ชีวิตของจันตาต้องพบกับความลำบาก หากต้องไปเป็นสะใภ้ของย้อย
ย้อยไปที่ตลาด แอบไปดูเรณูขายขนม จึงเห็นว่าเรณูมีลูกค้าหนาแน่นจริงๆ ซ้ำเรณูยังมาซื้อข้าวของที่ร้านไปทำขนมอีก ย้อยเสียหน้าแต่ก็อยากได้เงิน จึงยอมขายของให้กับเรณูไป พอวันไหนย้อยไม่อยู่ร้าน ทั้งประสงค์และกมลต่างก็ขายของให้กับเรณูในราคาถูก แถมยังมีของแถมให้ไปอีกด้วย เรณูรู้สึกอุ่นใจไม่น้อยที่พี่น้องของปฐมไม่ได้รังเกียจตนเหมือนกับย้อย ย้อยพูดกับชาวบ้านว่าอยากให้เรณูยืนด้วยลำแข้งของตนเอง เริ่มจากการค้าขายเล็กๆ น้อยๆ ก่อน
มงคลขึ้นรถไฟที่ปากน้ำโพเพื่อจะกลับชุมแสง พบเข้ากับวรรณา หญิงสาวที่เขาเห็นหน้าอยู่บ่อยครั้งแต่ไม่มีโอกาสได้พูดกันเสียที งานนี้มงคลจึงเข้าไปนั่งใกล้ๆ แถมเลี้ยงโอเลี้ยงวรรณาอีกด้วย วรรณาไม่อยากคุยด้วยเพราะกำลังเครียดเรื่องที่แม่กำลังป่วยหนัก และต้องไปตามพี่สาวที่อยู่ชุมแสงกลับไปดูใจแม่ให้ทันเวลา พอถึงชุมแสง วรรณาก็เรียกสามล้อไปที่ร้านของย้อย ทำให้ประสงค์รู้ว่าวรรณาเป็นน้องสาวของเรณู ยิ่งเมื่อมงคลเข้ามาในร้าน วรรณายิ่งตกใจใหญ่เมื่อรู้ว่ามงคลเป็นน้องชายของปฐม พี่เขยของเธอ
มงคลพาวรรณาไปที่โรงสี ทำให้วรรณได้พบกับกมล แล้วมงคลก็เดินไปส่งวรรณาที่บ้านของเรณูต่อ ทำให้เรณูได้พบกับมงคล น้องคนเล็กของปฐมอีกด้วย เรณูเอาทองไปจำนำไว้กับกมลเพื่อหาเงินกลับไปบ้านเยี่ยมแม่ที่ป่วยหนัก เรณูขึ้นรถไฟกลับไปปากน้ำโพ ได้ทันดูใจเรไรเป็นครั้งสุดท้าย อดีตอันเลวร้าย ความผิดพลาดในชีวิตของเรณูผุดขึ้นมาในทันที ที่ครั้งหนึ่งเธอเคยผิดพลั้งเกิดตั้งท้องกับสามีของสายทองพี่สาวของเธอ จนสร้างความอับอายให้แก่ครอบครัว พอเธอคลอดลูกชายชื่อป๊อกออกมา เรไรผู้เป็นแม่ก็ขอร้องให้เธอจากไป ไม่อยากให้สร้างรอยร้าวกับพี่สาวและคนในครอบครัวไปมากกว่านี้อีก เรไรรับป๊อกไว้เป็นลูก ป๊อกจึงรับรู้แต่ว่าเรณูเป็นพี่สาวของเขาเท่านั้น เรณูให้ป๊อกกราบลาเรไรเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเรไรก็หมดลม พี่น้องรวมถึงชาวบ้านช่วยกันจัดงานศพเรไรอย่างกะทันหัน
งานศพเรไรถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย เพราะพี่น้องของเรณูต่างก็ไม่ค่อยมีเงินทองกันนัก เรณูให้เงินกองกลางไปห้าร้อยสำหรับจัดงานแม่ แล้วยังแอบให้เงินวรรณาน้องคนเล็กที่ยังไม่มีรายได้ไปลงขันจัดงานศพแม่ด้วย สายทองให้เรณูเอาป๊อกกลับไปเลี้ยงเองหลังจากที่เรไรตายแล้ว
ประจวบเหมาะกับที่ย้อยและหลักเซ้งเอาการ์ดแต่งงานไปให้พิกุลกับพิไลที่ปากน้ำโพ พิไลออกอาการเห็นแก่ได้เอาแต่ผลประโยชน์ให้ย้อยเห็น ทั้งให้ส่งเรือมารับห้าลำ และจองโรงแรมไว้สำหรับแขกของตน ย้อยเริ่มหวั่นใจในความงกของพิไล ขากลับตอนนั่งรถไฟยังได้ยินชาวบ้านพูดถึงเรื่องป๊อกลูกของเรณูอีกด้วย ย้อยได้ข่าวใหม่ว่าก่อนหน้าที่เรณูจะมาอยู่กับปฐม เรณูเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว เมื่อถึงบ้านจึงรีบเล่าให้หลักเซ้งและประสงค์ฟัง
ย้อยเรียกประสงค์มาบอก ห่วงว่าเมื่อแต่งงานกับพิไลแล้วจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งเรื่องสมบัติภายในบ้าน จึงให้ประสงค์อยู่แยกออกไปกับพิไลอีกหลัง แต่ให้เขามาช่วยงานและกินข้าวเที่ยงที่ร้านเหมือนเดิม ย้อยตั้งเงินเดือนให้กับสองผัวเมียในอนาคต จะยกร้านนี้ให้กับประสงค์และพิไลตามที่เคยสัญญากับพิไลไว้
ด้วยความแค้นใจเรณู ย้อยเอากุญแจไปคล้องที่หน้าบ้าน ถึงแม้สามีและลูกๆ จะไม่เห็นด้วย แต่ก็จนใจ ไม่รู้จะว่ายังไง มงคลมาช่วยงานพ่อและกมลที่โรงสี มงคลอ้อนให้ย้อยซื้อกล้องถ่ายรูปให้ตน เผื่อเอาไว้ถ่ายรูปงานแต่งประสงค์
หลังจากงานศพเรไรเสร็จสิ้น เรณูตั้งใจจะพาป๊อกกลับไปด้วย แต่ป๊อกไม่ยอม ขอไปอยู่กับหลวงพ่อที่วัด หลวงพ่อให้ป๊อกกราบลาเรณูแม่แท้ๆ ของตนเสีย ป๊อกไม่ยอมเรียกเรณูว่าแม่ เรณูเสียใจมาก เรณูบอกลากับวรรณาที่สถานีรถไฟ ให้สัญญาว่าหากลืมตาอ้าปากได้เมื่อไหร่จะพาวรรณาไปอยู่ด้วยกันและเปิดร้านตัดเสื้ออีกด้วย วรรณายิ้มอย่างมีความหวัง พอถึงบ้าน เรณูเข้าบ้านไม่ได้จึงไปหาย้อยที่บ้าน ย้อยไม่ยอมให้กุญแจ ประสงค์สงสารแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง
ตอนที่ 3
เรณูฆ่าเวลาด้วยการไปนั่งอยู่ในโรงหนังเพราะไม่มีที่นอน พอดีเจอกับหมุ่ยนี้ จันตา ปลัดจินตกร พอหมุ่ยนี้รู้เรื่องจึงให้เรณุไปนอนค้างกับจันตาเพราะความสงสาร เรณูยังไม่ยอมแพ้ เธอออกจากบ้านหมุ่ยนี้แต่เช้ามืด ทำทีเป็นนอนตากยุงอยู่หน้าบ้านย้อยทั้งคืน รุ่งเช้าป้าเม้ามาขายของที่ตลาดแต่เช้ามืด พบเรณูนอนอยู่หน้าบ้านย้อยก็ด่าว่า หาว่าย้อยกลั่นแกล้งลูกสะใภ้ โพนทะนากับชาวบ้านร้านตลาดเสียทั่ว ประสงค์กับย้อยได้ยินเสียงชาวบ้านอยู่ที่หน้าบ้านจึงออกมาดู ย้อยโกรธจัด อยากจะฆ่าเรณู หาว่าเรียกร้องความสนใจ หลอกให้ชาวบ้านมาด่าตน รอยร้าวของย้อยกับเรณูยิ่งมากขึ้นกว่าเดิม
อาซาเอากุญแจบ้านมาให้เรณูในที่สุด บอกกับเรณูว่าที่แม่โกรธ เพราะรู้ว่าเรณูเคยมีลูกมีผัวมาแล้ว เขาถามความจริง เรณูจึงเล่าให้พี่ฟังว่าถูกพี่เขยปล้ำจนท้อง และตอนนี้ลูกอยู่กับหลวงตาที่วัด แต่ตอนนี้อาใช้ยังไม่รู้เรื่อง อาซาให้กำลังใจเรณูสู้ต่อไป เอาชนะหัวใจของย้อยให้ได้ในที่สุด รอบเดือนของเรณูมา เรณูวางแผนทำเป็นทำงานหามรุ่งหามค่ำจนหกล้มแท้งลูก หลักเซ้งกับอาซาเข้ามาช่วยไปซื้อยาให้เรณูกิน แล้วบอกกับย้อยว่าเรณูทำงานหนักจนแท้งลูก แต่ย้อยไม่เคยเชื่อว่าเรณูท้องมาก่อนอยู่แล้ว ย้อยยิ่งเกลียดเรณูมากขึ้นไปอีก
มงคลกลับบ้านที่ชุมแสงเพื่อมาช่วยงานแต่งประสงค์กับพิไล พบกับวรรณาที่กำลังรอรถไฟไปหาเรณูเช่นเดียวกัน ทั้งสองจึงกลับชุมแสงด้วยกัน วรรณามาปรึกษาเรณูเรื่องการเข้าประกวดนางงาม เรณูเชียร์เต็มที่ เพิ่มความมั่นใจให้กับวรรณามากขึ้นไปอีก
คืนก่อนวันแต่งงาน ทั้งกมล มงคล ประสงค์ ไปที่ตลาดโต้รุ่ง ประสงค์หาโอกาสไปหาจันตาที่บ้านเพื่อบอกลา ประสงค์บอกกับจันตาว่าเขาเสียใจที่ไม่อาจทำตามหัวใจตนเอง จันตาให้ประสงค์รับผิดชอบต่อครอบครัว สิ่งที่ประสงค์ทำให้พ่อแม่นั้นดีที่สุดแล้ว
รุ่งขึ้น เรณูเดินไปส่งวรรณาที่สถานีรถไฟ ผ่านหน้าบ้านหมุ่ยนี้ จึงแนะนำให้วรรณารู้จักหมุ่ยนี้ อาม่า และ จันตา พอทุกคนรู้ว่าวรรณาเรียนตัดเสื้อ ก็ให้วัดตัวสั่งตัดเสื้อกันยกใหญ่ เรณูเชียร์ให้น้องสาวมั่นใจ วรรณาเริ่มภูมิใจในอาชีพตัดเสื้อของตนเอง
ประนอม ติ๋ม หวาน กลับมาที่ชุมแสง เพราะครบรอบวันตายแม่ของติ๋ม เรณูดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนๆ เล่าให้ฟังว่าวันพรุ่งนี้จะมีงานแต่งลูกชายคนรองของย้อย ย้อยยกบ้านในซอยถัดจากตลาดให้เป็นเรือนหอของประสงค์และพิไล ติ๋มจำความได้ จึงเล่าให้ฟังว่ามันคือบ้านของตนเองที่ย้อยโกงเอาจากแม่และครอบครัวของตนไป จนทำให้ติ๋มต้องบ้านแตกสาแหรกขาด และต้องมาเป็นผู้หญิงขายตัวจนถึงทุกวันนี้ ติ๋มเตือนให้เรณูระวังตัว เพราะย้อยเลือดเย็นกว่าที่คิด
รุ่งขึ้น ย้อยพาประสงค์และขบวนแห่ขันหมากไปที่ทับกฤช เพื่อแต่งงานกับพิไล ย้อยขนข้าวของเครื่องทองเพื่อแต่งสะใภ้ ทั้งประสงค์และพิไลแทบไม่ได้มองหน้ากันเลย ต่างทำกันตามหน้าที่ไปเท่านั้น มงคลรับหน้าที่เป็นช่างภาพในงานด้วย
ปฐมกลับมาเยี่ยมเรณูที่บ้านด้วยความเป็นห่วง จากจดหมายที่เรณูบอกว่าแท้งลูก ท้องสองกอดกันด้วยความรัก เรณูชวนปฐมไปงานเลี้ยงฉลองโต๊ะจีนคืนนี้ที่ย้อยจัดอย่างใหญ่โตที่ชุมแสง
ตอนที่ 4
ในงานแต่งของอาตงและพิไล แย้มมาร่วมงานด้วย ย้อยดีใจมาก ใช้พาเรณูมาแสดงความยินดี พิไลยังคงโกรธเคืองอาใช้ จึงไม่ยอมพูดดีด้วย หลังจากที่ใช้พาเรณูกลับ ย้อยแทบเป็นลมเมื่อเห็น สาวๆ แต่งหน้า แต่งตา เหมือนพวกผู้หญิงโคมแดงขึ้นไปเต้นจ้ำบ๊ะบนเวที ย้อยอับอายจนเป็นลม คืนนั้น หลักเซ้งกับพิกุลจึงต้องส่งตัวบ่าวสาวเข้าหออย่างฉุกละหุก
รุ่งเช้า อาใช้ไปช่วยเรณูขายขนมที่ตลาด เรณูมีความสุขมาก ก่อนกลับค่ายทหาร ใช้ไปลาย้อย ย้อยบอกให้เลิกกับเรณูแล้วหาเมียใหม่ ใช้ไม่ยอม และบอกหากต้องเลิกกับเรณูจะไม่กลับมาให้ย้อยเห็นหน้าอีก ย้อยแค้น เดินไปบ้านเรณูหลังโรงสี ด่าว่าเรณูแบบเสียหาย ทั้งคู่ถึงขั้นจะตบตีกัน เรณูเห็นหลักเซ้งเดินเข้ามาห้ามก็ทำทีเป็นว่าถูกย้อยตบ ย้อยยิ่งเกลียดขี้หน้าในความมารยาของเรณูหนักขึ้นไปอีก
ชีวิตหลังแต่งงานของอาตงดูจะยากลำบาก เพราะพิไลหุงหาอาหารไม่เป็นสักอย่าง ทั้งซักผ้าถูบ้านก็ไม่เคยทำ อาตงขอให้บุญปลูกไปช่วยทำงานบ้านแต่ย้อยไม่ยอม บุญปลูกอดสงสารไม่ได้ ไปช่วยงานที่บ้านอาตง อาตงจะให้เงินแต่พิไลไม่ยอม บุญปลูกไม่ชอบหน้าพิไลเลย พิไลให้อาตงพาไปดูกิจการที่โรงสี และซักถามเรื่องทรัพย์สมบัติทั้งหมดของย้อยกับอาซา ย้อยมาได้ยินเข้าเริ่มไม่ชอบใจพิไล พิไลเห็นเรณูเอาใบตอง มะพร้าว ใบเตย ไปขนมขาย ก็พูดจาดูถูกเรณูว่ายากจน ซ้ำยังยุให้ย้อยคิดเงินค่าของที่เรณูนำไปขายอีกด้วย
หลักเซ้งไอบ่อยจนอาซาต้องไปซื้อยาให้พ่อกินอยู่บ่อยๆ พอดีเขาได้พบกับนางศรี นางสมพร ที่พาเพียงเพ็ญมาที่ตลาด ยิ่งกว่านั้น นางศรีซึ่งเป็นลูกค้าประจำร้านย้อยก็พาเพียงเพ็ญมาที่ร้านด้วย ทั้งศรีและสมพรต่างเห็นอาซาทำงานช่วยที่ร้านอย่างขยันขันแข็ง จึงแนะนำให้เพียงเพ็ญรู้จักกับอาซา สมพรอยากได้อาซามาเป็นลูกเขยที่ฆะมัง แต่เพียงเพ็ญบอกว่าไม่ชอบ เพราะรักอยู่กับก้านอยู่แล้ว
ตอนที่ 5
แย้มบอกกับย้อยว่ามั่นใจเรื่องที่เรณูทำของใส่อาใช้ ย้อยไม่สบายใจ สั่งให้ป้อมไปสืบหาคนมีวิชาช่วยแก้ไขให้หน่อย ป้อมจึงติดต่อคนเรือซึ่งเป็นญาติของเม้า แม่ค้าในตลาด ให้ไปหาหมอมีที่เกยชัย หมอมีบอกให้ย้อยนำตัวอาใช้มาทำพิธีแก้ด้วยตนเอง เรณูรู้ข่าวเพราะเม้ามาเล่าให้ฟัง เรณูไม่สบายใจจึงกลับไปหาประนอม ติ๋ม หวานที่ตาคลีเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง
เพียงเพ็ญกลับถึงคะมังก็พบว่าก้านดักรออยู่ ทั้งสองแอบนัดพบกันตอนกลางคืนเหมือนเดิม แต่คราวนี้กำนันศรรู้ทัน ให้นางแรมนอนเฝ้าหน้าห้องไม่ให้เพียงเพ็ญไปไหน ก้านยังแอบมาหาเพียงเพ็ญเหมือนเดิม กำนันจึงให้ลูกน้องซ้อมก้านเสียยกใหญ่ ก้านยืนยัน ยังไงก็จะต้องแต่งงานกับเพียงเพ็ญให้ได้ นางกุ่นแม่ของก้านซึ่งยากจนมาก แถมยังเจ็บป่วยออด ๆ แอด ๆ สั่งห้ามไม่ให้ลูกชายไปยุ่งเกี่ยวกับลูกสาวกำนันศร เพราะรู้ว่าทั้งคู่ไม่มีวันได้ครองคู่กัน แต่ก้านไม่ยอม ก้านรับงานร้องเพลงรำวงของอาสิทธิ์ไว้ เขาแทบไม่มีอารมณ์ซ้อมเพราะคิดถึงแต่เพียงเพ็ญ จนถูกอาสิทธิ์ต่อว่า มีเพียงไอ้หวังที่เป็นเพื่อนสนิทคอยให้กำลังใจ
อาซาพบจันตาที่ร้านอัดรูป เขาขอรูปของจันตาไว้ดูต่างหน้าหนึ่งบานแต่จันตาไม่ยอมให้ ทั้งสองยื้อยุดกัน อาซาปั่นจักรยานไปส่งจันตาที่ร้านสังฆภัณฑ์ของหมุ่ยนี้ พอดีย้อยมาเห็นเข้า เมื่อกลับบ้านจึงพยายามเค้นความจริงว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร พอรู้ว่าเป็นจันตา ย้อยได้โอกาสพบที่ตลาดพอดี จึงต่อว่าจันตาอย่างหนัก หาว่าเข้าหาลูกชายตน จันตาร้องไห้ด้วยความอับอาย พอได้เจออาซาครั้งต่อมาจันตาจึงไม่กล้าพูดกับอาซาอีก
เพียงเพ็ญสารภาพว่าท้องกับก้านแล้ว กำนันกับสมพรเสียใจมาก กำนันปรึกษากับศรีว่าจะไม่ยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับก้านเด็ดขาด สองพี่น้องตกลงใจเดินทางไปชุมแสงเพื่อหาย้อย ทาบทามขออาซามาเป็นลูกเขย ย้อยได้ที เพราะไม่อยากให้อาซาไปยุ่งเกี่ยวกับจันตา จึงบอกว่าเพิ่งจัดงานแต่งอาตงไป หากกำนันอยากได้อาซาเป็นลูกเขยก็ให้ออกค่าใช้จ่ายให้ด้วย
เรณูปรึกษากับติ๋ม ประนอม หวาน กลัวมนต์เสน่ห์ที่ทำไว้กับใช้จะเสื่อมสลายหากย้อยพาอาใช้ไปแก้เสน่ห์กับหมอมี เพื่อนทั้งสามจึงพาเรณูไปหาหมอก้อน ติ๋มยุให้เรณูทำของใส่ย้อยอีกครั้งเพื่อเรียกความรักจากย้อยมาให้ได้ โดยติ๋มยอมลงทุนออกเงินให้เรณูเอง เรณูกับใช้ได้พบกันที่ตาคลี ใช้ยังคงรักเรณูเหมือนเดิม
ตอนที่ 6
ศรตามมาด่าว่าก้านที่บ้านของกุ่น ให้เจียมตัวว่าเป็นคนจน และไม่มีวันได้เป็นเขยกำนันแน่นอน กุ่นร้องไห้สงสารลูกชาย ก้านยิ่งเจ็บแค้นใจ บอกกับหวังว่าจะฉุดเพ็ญให้ได้
พิไลอยากครอบครองโรงสีและร้าน จึงยุให้ย้อยรีบแต่งกมล ออกไปอยู่บ้านกำนันศรเสียที เมื่อเรณูกลับมาจึงรู้ว่ากมลจะแต่งงาน กมลจึงบอกว่าหากสิ่งใดที่ทำแล้วพ่อกับแม่สบายใจเขาก็ยินดี เรณูพบเข้ากับหมุ่ยนี้ จึงรู้ว่ากมล กับจันตาแอบมีใจให้กัน ยิ่งไม่พอใจที่ย้อยจะบังคับเข็ญใจกมลอีกคน ย้อยไม่สบายถึงขนาดเฝ้าเก๊ะเก็บเงินหน้าร้านไม่ได้ เรณูรู้ข่าวจึงฝากยาผ่านกมลและหลักเซ้งไปให้ย้อยกิน โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าเรณูเอาอะไรให้ย้อยกิน
หลังจากที่ย้อยได้กินยาของเรณู อาการปวดท้องก็หายเป็นปลิดทิ้ง กมลสงสัยรีบมาถามว่าเป็นยาอะไร เรณูจึงบอกว่าเป็นยาผีบอก ไม่สามารถบอกใครได้ แล้วหลังจากวันนั้นย้อยก็มีท่าทีเปลี่ยนไป เริ่มเห็นความดีของเรณูมากขึ้น จนพิไลเริ่มสงสัย รุ่งขึ้นย้อยถึงขนาดเดินมาซื้อขนมร้านเรณูที่ตลาดด้วยตนเอง จนป้าเม้าแปลกใจ เรณูมั่นใจ คำแนะนำของหมอก้อนนั้นเป็นจริง ย้อยแอบตามไปดูเรณูหาบขนมขายไปทั่วอย่างน่าเวทนา ย้อยไปหาหลักเซ้งที่โรงสีเพื่อปรึกษาเรื่องเรณู ไม่อยากให้ไปเดินเร่ขายขนม อยากหางานและที่อยู่ให้เป็นหลักแหล่ง หลักเซ้งจึงเดินไปหาเรณูที่บ้าน เรณูจึงบอกอยากเปิดร้านตัดเสื้อ และพาวรรณาน้องสาวมาอยู่ด้วย หลักเซ้งเห็นดีด้วย
มงคลตามมาหาวรรณาที่ร้าน ยินดีด้วยกับตำแหน่งรองนางงาม เขาชวนวรรณาไปดูหนังแต่เธอไม่ยอมไปด้วย เมื่อมงคลพบเข้ากับมาลา ทั้งสองกอดกันนัวเนียตามความคึกคะนองของวัยหนุ่มสาว
ศรยังคงขังเพ็ญไว้ในห้องโดยให้แรมเฝ้าอยู่ไม่ห่าง เพ็ญอดข้าวอดน้ำประท้วงและอาเจียนออกมาไม่หยุด แรมกับสมพรถึงกับเครียด สงสัยว่าเพ็ญจะท้องกับก้าน เรื่องรู้ถึงหูกำนัน พ่อเข้ามาถามเพ็ญถึงในห้องด้วยตนเอง
ย้อยเข้ามาหากมลในห้อง เจอรูปจันตาในกระเป๋าจึงโกรธจัด ตัดสินใจจะรีบจับกมลแต่งงานกับเพ็ญทันที รุ่งเช้า ย้อยไปซื้อขนมเรณูแต่เช้า แล้วสั่งให้หาบขนมไปที่ร้านด้วย เรณูงงไม่เข้าใจย้อย ย้อยชวนหลักเซ้ง อาซา ไปที่บ้านของศรแต่เช้า แล้วให้ประสงค์ไปคุมโรงสีแทนวันนี้ พิไลได้ที นึกดีใจ เพราะจะได้คุมเก๊ะเงินแทนย้อย แต่เมื่อถึงเวลาย้อยจะลงเรือไป เรณูก็หาบขนมมาถึงหน้าบ้านพอดี ย้อยส่งพวงกุญแจร้านให้กับเรณู และให้เรณูมาช่วยบุญปลูกกับป้อมขายของ พิไลถึงกับอึ้ง สีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เรณูเองก็นึกแปลกใจเช่นเดียวกัน
ยังไม่ทันที่ศรกับศรีจะลงเรือไปหาย้อย เรือของย้อย หลักเซ้ง กมล ก็มาถึงที่หน้าบ้านเสียก่อน ศรพาย้อยกับครอบครัวไปดูเรือกสวนไร่นา โรงเลื่อย โรงสีจนครบ ย้อยเห็นความมั่นคงของครอบครัวศร จึงพูดคุยเรื่องการสู่ขอและยืนยันจะจัดงานแต่งวันศุกร์หน้าที่จะถึง สมพรแม่ของเพ็ญเก็บอาการดีใจแทบไม่อยู่ อยากจะเป็นลมเสียตรงนั้น ที่สามารถหาพ่อของลูกในท้องเพ็ญได้ก่อนที่ท้องจะโตขึ้นทุกวัน กำนันร้อนใจ ชวนสมพรไปบอกงานแต่งทันที ทิ้งให้แรมเฝ้าเพ็ญเพียงลำพัง ชั่วครู่เดียวที่แรมไปเข้าห้องน้ำ ก้านก็ฉวยเอากุญแจไขห้องเข้าไปหาเพ็ญ จึงรู้ว่าเพ็ญจะแต่งงานอาทิตย์หน้า ที่สำคัญ เธอกำลังตั้งท้องลูกของตนอีกด้วย สองผัวเมียคิดหาทางออกให้ตนเองอย่างเร่งด่วน
กมลเองก็รู้สึกแปลกใจที่พ่อและแม่ของเพ็ญบอกว่าเพ็ญป่วยจนไม่สามารถออกมารับแขกได้ ซ้ำการแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบจนกมลอดสงสัยไม่ได้
ตอนที่ 7
ก้านตัดสินใจจะขัดขวางการแต่งงานของเพ็ญให้ได้ ด้วยการกำจัดเจ้าบ่าวให้หายสาบสูญ จึงไปปรึกษาสิทธิ์ ขอปืนมาหนึ่งกระบอก ทั้งที่สิทธิ์ทัดทานเพราะไม่อยากให้แม่ของก้านต้องเสียใจ แต่ก้านก็ไม่ฟัง รุ่งขึ้น ก้านช่วยไปลงแขกเกี่ยวข้าวกับบังอรเพราะไม่อยากขัดใจแม่ บังอรเอาอกเอาใจก้านสารพัด ซึ่งเขาบอกกับแม่ไปแล้วว่ารักบังอรเป็นเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น เพราะหวังได้หมายตาบังอรเอาไว้แล้ว
ก้านตัดสินใจไปตามหาอาซา ว่าที่เจ้าบ่าวของเพ็ญที่ชุมแสง ก้านเดินไปที่ร้านขายยาเพื่อเอาปลาเค็มไปให้และตามหาคนที่ชื่ออาซา พอดีป้าเม้าเรียกอาซาซื้อกล้วยทอด ก้านได้ยินเต็มสองหู จึงหันมาหมายจะปลิดชีวิตอาซา แต่เมื่อได้เห็นหน้า เขาถึงกับช็อกแล้วช็อกอีก เมื่อรู้ว่าอาซาก็คือกมล เด็กหนุ่มที่มีน้ำใจช่วยออกเงินค่ายาให้แม่เขานั่นเอง ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ประดังประเดเข้ามาเต็มอก ซ้ำกมลยังเดินเอาขนมข้าวเม่ามาแบ่งให้ก้านอีก อีกใจหนึ่งเขาก็โล่งอกที่กมลจะมาเป็นพ่อของเด็กในท้องเพ็ญ เขาพูดขอบคุณกมลแล้วก็เดินจากไปอย่างช็อกสุดขีด
ศรีกับสมพรพาเพ็ญมาตัดชุดแต่งงานที่ชุมแสง เพ็ญเห็นก้านจึงรีบวิ่งมาหาเพื่อจะให้ก้านพาหนี แต่ก้านปฎิเสธ และบอกให้เธอลืมเขาซะแล้วแต่งงานกับอาซา เพ็ญเสียใจตบหน้าก้านด้วยความเสียใจ หาว่าก้านทิ้งตนกับลูก ศรีกับสมพรรีบวิ่งออกมาดู แล้วก้านก็บอกลาทั้งน้ำตา ก้านเดินกลับบ้านน้ำตานองหน้าอย่างผู้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง แล้วก้านก็เอาปืนมาคืนสิทธิ์ สิทธิ์ดีใจที่ก้านไม่ได้ทำสิ่งเลวร้ายและสำนึกตนได้
เรณูยังคงมาช่วยย้อยขายของที่ร้าน และรับหน้าที่ทำขนมงานแต่งกมลตามคำสั่งย้อยอีกด้วย พิไลหมั่นไส้ที่ย้อยกับเรณูเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย ปฐมกลับมาบ้านย้อยเพราะรู้จากจดหมายเรณูว่ากมลจะแต่งงาน พิไลแค้นใจที่ปฐมไม่มีเยื่อใยใดๆ หลงเหลือกับตน ซ้ำยังทำหวานใส่เรณูต่อหน้าเธออีก ย้อยดีใจที่ปฐมกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันพ่อแม่ลูก เรณูทำขนมเสร็จสรรพเรียบร้อย ย้อยดีใจที่เรณูมาช่วยงานเต็มที่ จึงบอกให้เรณูเรียกตนเองว่าม้าแทนเถ้าแก่เนี้ยได้แล้ว ปฐมดีใจที่ย้อยยอมรับในตัวเรณูสักที
มงคลกลับมาบ้าน วรรณาฝากของมงคลมาให้เรณู เรณูจึงรีบเอาชุดที่วรรณาตัดมาให้หมุ่ยนี้และจันตาที่บ้าน หมุ่ยนี้ชวนจันตาไปงานแต่งกมล แล้วใส่ชุดใหม่ที่จันตาตัดให้ไปงานอีกด้วย
รุ่งขึ้น ขบวนขันหมากของกมลพร้อมด้วยญาติพี่น้องไปถึงบ้านเพียงเพ็ญ กำนันต้อนรับอย่างใหญ่โต เพ็ญไม่พูดไม่จากับกมล กมลเองก็ได้แต่เฝ้ามองจันตาที่มากับจินกร วงดนตรีของสิทธิ์ก็มาบรรเลงเพลง ที่สำคัญก้านก็มาร้องเพลงที่งานนี้ด้วย ก้านร้องเพลงเกี่ยวกับความรัก เพ็ญได้ยินเลยร้องไห้ใหญ่โต กมลหันไปเห็นจึงรู้สึกแปลกใจ กมลจำก้านได้จึงเดินไปทัก สมพรรีบพากมลไปให้ไกลจากก้านทันที ก่อนจากกัน ก้านเขียนจดหมายลาเพ็ญ บอกจะรักเธอตลอดไป และขอให้ลืมเขาซะ ขอให้ใช้ชีวิตอยู่กับกมลเป็นอย่างดี เพ็ญกอดจดหมายร้องไห้อย่างน่าเวทนา พิธีเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ ทั้งจดทะเบียน ส่งตัวเข้าหอ แต่ทั้งกมลและเพ็ญต่างไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรด้วยเลยสักนิด
จันตาบอกกับหมุ่ยนี้ว่าจินกรขอเธอแต่งงาน แต่เธอยังไม่ได้ให้คำตอบ ด้านปฐมก็บอกกับเรณูว่าปลดทหารแล้วจะสมัครเป็นทหารต่อ เรณูใจหาย เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันฉันท์ผัวเมียต้องห่างออกไปอีก ก่อนกลับ ย้อยเรียกปฐมมาบอกว่าจะซื้อร้านเปิดกิจการให้กับเรณู เพราะร้านขายของจะต้องยกให้ประสงค์กับพิไล ส่วนโรงสีก็รอให้ปฐมปลดทหารแล้วกลับมาดูแล ปฐมไม่กล้าบอกแม่เรื่องที่ตนจะสอบนายสิบต่อ
ส่วนเจ้าบ่าวหมาดๆ อย่างกมล ก็ถูกไล่ให้นอนแยกจากเพ็ญ เธออ้างว่าไม่สบาย กมลเริ่มรู้สึกแปลกใจเมื่อเห็นเพ็ญต้องกินยา ก็เริ่มสงสัยว่าเธอเป็นอะไร
ตอนที่ 8
ย้อยโปรดปรานเรณูมากขึ้นทุกวัน ถึงให้ทองเรณูเอาไว้ใส่ ยิ่งกว่านั้น ย้อยยังไปจ่ายเงินค่ามัดจำร้านผ้า ที่เจ้าของประกาศเซ้งร้าน ไว้ให้เรณู และวรรณา เอาไว้ค้าขายด้วย พิไลไม่พอใจหนักมาก นึกหาวิธีเอาชนะเรณู ด้วยการมีลูกกับตงโดยเร็ว เพราะกลัว สมบัติจะตกเป็นของเรณูหมด
จันตากำลังจะไปดูหนังที่ตลาดกับจินกร แต่เธอก็พบกับตงและพิไลพอดี ตง ทักทายจันตาเล็กน้อย แต่ยังไม่ทันที่พิไล จะได้กินก๋วยเตี๋ยวราดหน้าที่ตลาด เรณูก็มาปรากฎตัวเสียก่อน ทำให้พิไลและเรณู ปะทะคารมกัน จนพิไลต้องเดินกลับบ้านไปก่อน
ส่วนเรณู ก็เล่าความลำบากของตนตั้งแต่เด็กให้วรรณาฟัง ขอให้วรรณามุ่งมั่น พยายาม ตัดเสื้อให้ดี จะได้มีลูกค้าเยอะ ๆ สองพี่น้องจะได้ตั้งหลักได้ เมื่อวรรณากลับไปที่ปากน้ำโพ ก็พบกับอาสี่ ทั้งสองไปกินข้าวด้วยกันที่ตลาด มาลามาเห็น ไม่พอใจมาก เพราะหึงหวงอาสี่
ก้านตัดสินใจ ไปเป็นนักร้องในบางกอก แม่ก้านกอดลาก้าน ด้วยความเป็นห่วง ก้านให้บังอร และหวัง ดูแลแม่แทนตนเอง ช่วงที่ไม่อยู่บ้าน
เพ็ญได้ข่าวว่าก้านไปบางกอก ก็ใจคอไม่ดี ไปตามหาก้านถึงที่บ้าน แต่กลับพบกับบังอร บังอรต่อว่า ที่เพียงเพ็ญ ยังคงมาตอแยก้านอีก ทั้งๆ ที่แต่งงานกับอาซาไปแล้ว เพียงเพ็ญเสียใจมาก
พิไลร้อนใจ บอกกับอาตง ว่าย้อยและใช้ ต้องโดนยาเสน่ห์ของเรณูแน่ ๆ แต่ตงไม่เชื่อ พิไลจึงบอกกับตง ว่าจะกลับไปเยี่ยมแม่ที่บ้าน พอดีพบกับเชิด ลูกน้องเก่าของพ่อตนเอง ที่ท่าเรือ ทั้งสองคุยกัน พิไลจึงให้เชิด พาไปหาหมอเบี้ยว เพื่อถอนของออกจากย้อยและใช้ให้ได้ แต่หมอเบี้ยวกลับทำพิธีไม่สำเร็จ พิไลแค้นใจมาก พอไปถึงบ้านแม่ที่ทับกฤช ก็เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง
ตอนที่ 9
อาซาสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ของเพียงเพ็ญและก้าน เขาปั่นจักรยานมาบ้านก้าน พบเพียงแต่แม่ ซึ่งนอนป่วยอยู่ อาซาให้เงินแม่ก้าน เอาไว้ซื้อยา แม่ก้านซึ้งใจอาซามาก แม่ของก้านป่วยหนักมาก บังอรร้อนใจ รีบหาที่อยู่เขียนจดหมายไปบอกก้าน เมื่อก้านเขียนจดหมายมาหาแม่ แต่บังเอิญเพียงเพ็ญเจอกับบุรุษไปรษณีย์เสียก่อน เธอจึงแอบเก็บจดหมายไว้
บังอรแค้นใจ ไปทวงจดหมายคืนที่บ้านเพียงเพ็ญ ทั้งสองมีเรื่องตบตีกัน จนอาซาต้องเข้ามาห้าม ก้านกลับมาหาแม่ในที่สุด แล้วคืนนั้น ก้านก็ได้เสียกับบังอร หวังมาเห็น เขาเสียใจมาก รุ่งขึ้น อาซามาที่บ้านก้าน และได้พบก้านในที่สุด เขาขอรู้ความจริงจากปากก้าน ก้านจึงเล่าเรื่องของเขากับเพียงเพ็ญให้ฟัง เมื่ออาซากลับถึงบ้าน เพียงเพ็ญก็สารภาพว่าเธอกำลังท้องลูกของก้าน อาซาให้กำลังใจ และบอกเพียงเพ็ญ ว่าจะช่วยหาทางออกให้
เรณูถูกกระชากสร้อยคอกลางตลาด ตอนเช้ามืด เรณูเสียใจมาก ยกมือไหว้ขอโทษย้อย ที่ไม่อาจรักษาสร้อยที่ย้อยให้ไว้ได้ แม่ค้าลือกันทั้งตลาด พิไลยิ้มสะใจ เพราะแท้ที่จริง พิไลเป็นคนจ้างวานให้เชิด ไปกระชากสร้อยเรณู เชิดเดินทางไปตาคลี เพื่อเอาสร้อยคอไปขาย พอดีเจอเข้ากับติ๋ม เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน เชิดไม่รู้ว่าติ๋มเป็นเพื่อนเรณู จึงเล่าเรื่องกระชากสร้อยให้ติ๋มฟัง ติ๋มจึงรู้ว่าเป็นฝีมือพิไล
วรรณาถูกมาลาตบ เรื่องที่มาลากลัว ว่าวรรณาจะแย่งอาสี่ไป วรรณาโกรธ ไม่ยอมพูดดีกับอาสี่ด้วย วรรรณาเก็บข้าวของเตรียมย้ายไปอยู่กับเรณูที่ชุมแสง อาสี่ตามมางอนง้อ และไปส่งที่สถานีรถไฟ อาสี่บอกกับวรรณา ว่าเขาจะปรับปรุงตัว รีบเรียนให้จบ และกลับไปหาวรรณาที่ชุมแสง ทั้งสองลาจากกันที่สถานีรถไฟ
ตอนที่ 10
กมลสงสารเพ็ญที่เอาแต่ร้องไห้เสียใจ จึงไปหาก้านที่บ้าน บอกให้ตั้งสติและหาทางออกให้ดีก่อนที่จะเสียเพ็ญและลูกไป พ่อและแม่เพ็ญเห็นกมลกับเพ็ญเอาแต่พูดคุยปลอบใจกันอยู่ทั้งวัน ก็คิดว่าทั้งคู่ตกลงปลงใจกันได้แล้ว โดยที่ไม่รู้เลยว่า กมลรู้ความจริงทุกอย่างแล้ว เพ็ญไม่อยากให้กมลต้องรับรู้และมาแบกรับภาระที่ตนเองไม่ได้ก่อไปมากกว่านี้ เพ็ญรู้สึกละอายใจ จึงตัดสินใจไปเซ็นใบหย่าให้กมลที่อำเภอในวันรุ่งขึ้น จินกรเป็นเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ นึกสงสัยว่าทำไมสองคนนี้ต้องหย่ากันอย่างรวดเร็ว ทั้งที่กมลก็มีทีท่าเป็นห่วงเป็นใยเพ็ญมาก หลังจากเสร็จธุระที่อำเภอ กมลก็พาเพ็ญไปเยี่ยมหลักเซ้งและย้อยที่ชุมแสง ทำให้รู้ว่าพ่อไม่สบาย เพ็ญเห็นเรณูขยันขันแข็งช่วยดูแลหลักเซ้งช่วยขายของในร้านก็นึกอิจฉาที่เรณูนั้นเข้มแข็งทำงานได้หลายอย่าง ไม่เหมือนตนที่ทำอะไรไม่ได้เลย อีกทั้งเห็นความรักในครอบครัวย้อย ตนเองยิ่งรู้สึกผิดต่อกมลและทุกคน
บังอรไปคุยทั่วตลาดว่าได้เสียเป็นเมียผัวกับก้านแล้ว ศรีได้ยินไปเล่าให้กำนันศรและสมพรฟัง กำนันรีบนำเงินให้ศรีฝากไปให้บังอร บอกว่าช่วยงานแต่ง เพราะลึกๆ กลัวก้านกลับมาหาเพ็ญ จึงอยากให้ก้านแต่งงานไปโดยเร็วที่สุด ขากลับทับกฤช กมลกับเพ็ญได้พบกับก้านและบังอร บังอรบอกว่าจะแต่งงานกับก้านอาทิตย์หน้า เพ็ญเจ็บปวดแต่ไม่ได้แสดงออกอะไร เมื่อถึงบ้าน กมลก็บอกกับศรและสมพรว่าจะกลับไปชุมแสงเพื่อดูแลพ่อที่กำลังป่วย ซึ่งทั้งสองก็เห็นดีด้วย เพ็ญช่วยกมลเก็บข้าวของ กมลให้ใบหย่าไว้กับเพ็ญหนึ่งใบ ซ้ำยังพูดให้กำลังใจเธอด้วย ก่อนจากเพ็ญขอกอดกมลพี่ชายคนนี้สักครั้ง และตั้งใจจะต้องแก้ปัญหาของตนเองให้ได้
กมลกลับมาถึงชุมแสง ทุกคนดีใจมาก เรณูเข้ามาช่วยเก็บข้าวของ จึงถามเรื่องการหย่า กมลขอร้องให้เธอช่วยเก็บเป็นความลับก่อน เมื่อถึงเวลาเขาจะบอกทุกคนเอง หลักเซ้งเริ่มป่วยหนักไอไม่หยุด แต่ไม่ยอมไปหาหมอที่โรงพยาบาล ย้อยจึงบอกให้เรณูช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง ย้อยเป็นประธานเปิดป้ายร้านเรณูบูติกของเรณูกับวรรณา ย้อยอวยพรให้กิจการไปได้ดี เรณูปลื้มมาก หมุ่ยนี้ก็มากับจันตาและจินกร จันตายุให้จินกรตัดชุดราชการเพื่ออุดหนุนวรรณาอีกด้วย กมลอยู่เฝ้าร้าน พอขึ้นมาดูพ่อก็ตกใจ เพราะมือหงิกงอไปหมด จึงรีบเรียกย้อยที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกให้ขึ้นมาดูด่วน
พิไลบอกกับประสงค์ว่าจะไปหาหมอบาง เพื่อแก้มนต์ดำที่เรณูทำใส่ย้อยกับปฐม ประสงค์เบื่อที่จะฟัง อยากให้พิไลมุ่งหน้าทำแต่ความดีมากกว่าที่จะเอาชนะเรณู บุญปลูกเอาข้าวไปส่งประสงค์ที่โรงสี เธอยังคงรักประสงค์เช่นเดิม พยายามบอกให้ประสงค์สู้ต่อไป ประสงค์ยิ้มได้เพราะบุญปลูก เมื่อพิไลกลับมา เธอรีบมาบอกกับย้อยว่าเรณูทำของใส่ย้อย ย้อยนิ่งฟังยังไม่โต้ตอบอะไร
ตอนที่ 11
ย้อยกับลูกๆ พาหลักเซ้งส่งโรงพยาบาลที่ชุมแสง หมอบอกเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทุกคนตกใจช็อก หมอบอกให้รีบส่งตัวไปที่โรงพยาบาลปากน้ำโพ ย้อยรีบตามไปเฝ้า ให้ประสงค์ดูแลโรงสี ที่โรงพยาบาล กมลเจอเข้ากับก้าน ก้านจึงรู้ว่าพ่อกมลไม่สบาย กมลบอกคงไม่ได้ไปงานแต่งก้าน เพ็ญจะดูแลลูกอย่างดี กมลบอกให้ก้านทำหน้าที่ตนเองให้ดีที่สุด
งานแต่งที่บ้านบังอรถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างเอิกเกริก บังอรแต่งตัวสวยเต็มที่ แต่รอเท่าไหร่ เจ้าบ่าวก็ไม่มาสักที หวังไปดูที่บ้านก็ไม่เจอ บังอรจึงให้ไปตามตัวที่โรงพยาบาล และเช้านั้นเอง แม่กุ่นก็หมดลม ก้านเสียใจมาก หวังเห็นสภาพนั้นแล้วก็พลอยเศร้าไปด้วย หวังขับเรือพาก้านและศพแม่กุ่นกลับบ้าน บังอรแค้นใจที่ก้านไม่ยอมมา วิ่งไปดูที่บ้าน จึงได้รู้ว่ากุ่นเสียชีวิตแล้ว ความหวังที่จะได้แต่งงานหมดกันวันนี้
เช้าวันนั้นเอง เพ็ญเก็บเสื้อผ้าแล้วออกจากบ้านไปเงียบๆ ทิ้งไว้เพียงจดหมาย แรมเข้ามาเจอ ใจความบอกกับพ่อและแม่ถึงความผิดที่ตนเองได้ก่อ ตนยอมรับว่าเป็นลูกอกตัญญู ไม่ขอทนอยู่ให้พ่อแม่อับอาย จะขอไปสู้และเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง เธอยังบอกอีกว่า กมลนั้นรู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดีแล้ว สมพรกับแรมกอดกันร้องไห้ ศรเสียใจเหมือนวิญญาณจะออกจากร่าง ด้วยความแค้นใจ ศรจึงเดินไปบ้านก้านเพื่อจะเอาผิดกับก้าน คิดว่านัดแนะพากันหนี แต่กลับเห็นก้านนั่งเฝ้าโลงศพแม่อยู่ ศรร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ก้านเองก็ช็อกไม่แพ้กัน เพราะสูญเสียทั้งแม่ เมีย และลูกในเวลาเดียวกัน
เย็นวันนั้นหลังเลิกเรียน มงคลรีบตามมาหาหลักเซ้งและย้อยที่โรงพยาบาล ย้อยอยากให้มงคลเรียนจบเร็วๆ เพราะพ่อยังห่วงมงคลอยู่มาก มงคลคิดถึงคำพูดวรรณา ที่ให้ตนเองคิดได้เสียที จึงรับปากย้อยว่าจะรีบเรียนให้จบโดยเร็วที่สุด
กมลไปที่ตลาด เจอเพ็ญที่นอนเป็นลมอยู่จึงช่วยพากลับมาบ้าน เขาขอกุญแจบ้านท้ายสวนกล้โรงสีที่เรณูเคยอยู่ แล้วพาเพ็ญไปซ่อนตัวไว้ กมลขอให้เรณูเก็บไว้เป็นความลับเพื่อให้เพ็ญอาศัยอยู่บ้านหลังนี้ก่อน เพราะตอนนี้เรณูย้ายไปอยู่ร้านผ้ากับวรรณาแล้ว ประสงค์เข้ามาเห็นจึงสงสัยในความเป็นไปของกมลและเพ็ญ
พิไลไปบอกกับป้าเม้าและแม่ค้าในตลาดว่าเรณูทำเสน่ห์ใส่ปฐมและย้อยจนคนรู้กันทั่ว หมุ่ยนี้สงสัยจึงมาถามเรณูถึงที่ร้านผ้า เพราะตอนนี้เรณูขายขนมอยู่ที่หน้าร้านไม่ได้หาบไปขายที่ไหนแล้ว เรณูทำใจ สักวันความจริงจะต้องถูกเปิดเผย
กมลไปซื้อกับข้าวที่ตลาดและพบกับจันตา ทั้งสองทักทายกัน กมลบอกว่าจันตาแต่งงานเมื่อไหร่ให้บอกตนด้วย ส่วนจันตาก็แสดงความเสียใจที่กมลต้องหย่ากับเพ็ญ
ข่าวลือเรื่องเรณูทำของใส่ปฐมกับย้อยเล่าลือกันไปทั่วตลาด จนขนมของเรณูแทบขายไม่ออก ด้วยความแค้น เรณูจึงไปหาพิไลที่ร้านขายของ ทั้งสองพูดกันดีๆ ไม่ได้ จึงตบตีกันอย่างดุเดือด คนเห็นกันทั้งตลาด สุดท้ายกมลต้องลากตัวเรณูกลับไปที่ร้านผ้าให้วรรณาดูแล ส่วนพิไลก็จะไปแจ้งความ โดยมีเจ๊อ๋าไปเป็นเพื่อน กมลให้เงินทำขวัญพิไลไปสองร้อย และบอกให้จบเรื่องราวทุกอย่าง พิไลรับเงิน แต่บอกจะไม่มีวันยอมแพ้เรณู
พิไลเดินไปที่โรงสี เห็นประสงค์หายเข้าไปในบ้านสวน เธอเดินตามไปดู พบเพ็ญอยู่ในบ้านก็ตกใจ มาถามเอาความจริงกับกมล พิไลเล่าเรื่องเพ็ญท้องก่อนแต่งกับคนอื่นที่ไม่ใช่กมลให้เจ๊อ๋าฟัง แล้วบอกว่ากมลเป็นคนโง่ พิไลรอเวลาจะบอกย้อยสักวัน
งานศพกุ่นเสร็จเรียบร้อย ก้านยกควายให้หวังหนึ่งตัว เผื่อบังอรทวงเงินที่เคยหยิบยืม เขาให้หวังเอาควายไปให้บังอรเพื่อใช้หนี้แทน ก้านเก็บเสื้อผ้าออกจากบ้านจะไปตามหาเพ็ญ หวังขอให้เพื่อนโชคดี ก้านมาหากมลที่ชุมแสง บอกจะเข้ากรุงเทพฯ กมลพาก้านมาฝากงานกับประสงค์ พูดหว่านล้อมให้ก้านเอาความดีชนะใจเพ็ญให้ได้ กมลยังมาบอกกับเพ็ญอีกว่า ขอโอกาสให้ก้านได้พิสูจน์ตนเอง ที่สำคัญ ไม่อยากให้เด็กในท้องต้องกำพร้าพ่อ
กมลออกไปข้างนอก ให้บุญปลูกช่วยเก็บเงินลูกค้าแทน พิไลมาเห็นไม่พอใจ เพราะต้องการเข้าไปดูแลเรื่องเงิน แต่บุญปลูกไม่ยอม ทำให้ทั้งสองมีเรื่องตบตีกัน ป้อมเข้าช่วยบุญปลูก พิไลตะโกนให้คนช่วย หาว่าทั้งสองจะฆ่าตนเอง
ตอนที่ 12
บุญปลูกร้องไห้ไปหาเรณูกับวรรณาที่กำลังขายของอยู่ ว่าทนพิไลไม่ไหว ส่วนป้อมก็บอกกับกมลเหมือนกันว่าอยากลาออก ทั้งกมลและเรณูต่างเกลี้ยกล่อมสองพี่น้องให้อยู่ต่อ พิไลโกรธหาเรื่องด่าทอว่าเรณูเป็นกะหรี่ จนเรณูทนไม่ไหวเอาน้ำสาดพิไลจนเปียกปอนไปหมด
ด้านมงคลก็เครียดจัด เมื่อรู้ว่ามาลาท้องทั้งไม่กล้าบอกแม่ อีกทั้งตนเองก็ไปขอวรรณาเป็นแฟนแล้วด้วย วรรณาตั้งใจเย็บเสื้อให้กับมงคล มงคลบอกให้วรรณารอให้ตนเองเรียนจบก่อนแล้วจะบอกเธอเป็นคนแรก มงคลมาส่งข่าวว่าหลักเซ้งป่วย ให้เรณูรีบไปเยี่ยม ส่วนประสงค์กับกมลก็ให้ปิดร้านหนึ่งวันเพื่อไปเยี่ยมพ่อด้วยกัน พิไลขัดใจที่ไม่ได้เป็นคนคุมเก๊ะใส่เงิน แถมต้องไปเยี่ยมคนแก่อีกด้วย ประสงค์ให้ก้านมาเฝ้าร้านหนึ่งคืน ก้านเห็นเพ็ญไกลๆ แต่ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า
บุญปลูกกับป้อมขอตามประสงค์ พิไล กมล ไปเยี่ยมหลักเซ้งที่โรงพยาบาลด้วย หลักเซ้งเห็นหน้าย้อยกับเรณูดีใจมาก ย้อยร้องไห้ไม่หยุด ส่วนปฐมก็พาอรพรรณี ลูกของเจ้านาย นั่งรถมาที่โรงพยาบาลด้วย เรณูเห็นแต่ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เรณูพาปฐมเข้าไปเยี่ยมเตี่ย หลังจากนั้นเขาก็ต้องรีบกลับ เตี่ยสั่งเสียกมล ประสงค์ และมงคลอย่างพร้อมหน้า ย้อยนั่งน้ำตาไหล สุดท้ายหลักเซ้งก็สิ้นลมอย่างสงบ เรณูต้องหยุดขายขนมเพื่อไปช่วยงานย้อย ทั้งวรรณา ประสงค์ ต่างให้กำลังใจเรณู
ด้านก้านก็พบความจริงว่าเพียงเพ็ญอาศัยอยู่ที่บ้านท้ายสวน เขาพยายามตามงอนง้อเพียงเพ็ญที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคืนดีด้วย หลังจากที่เธอท้องและต้องหนีออกจากบ้านมา และยังเสียใจที่ก้านไปมีความสัมพันธ์กับบังอร
ที่งานศพหลักเซ้ง เรณูขยันขันแข็งช่วยงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย จนแย้มชมกับย้อยว่าเรณูนั้นเป็นคนดี ย้อยเองก็รู้สึกผิดที่ครั้งหนึ่งเคยมองเรณูผิดไป ได้แต่หนักใจในความประพฤติของพิไลที่ดูจะย่ำแย่ลงทุกวัน ลับหลังก็แอบไปเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน บอกว่าจะเอามาช่วยงานศพ แต่กลับเก็บเข้ากระเป๋าตนเอง สร้างความอับอายให้กับประสงค์มาก กมลเองก็อดสงสารประสงค์ไม่ได้ แต่ประสงค์บอกจะยึดมั่นในความกตัญญู ไม่ว่าแม่ย้อยจะให้ทำอะไรตนก็จะทำตามนั้น
รุ่งขึ้น ประสงค์ พิไล กมล มงคล ตามมาช่วยงานที่วัด พิไลบอกกับย้อยว่าเพ็ญท้อง ทั้งที่เพิ่งแต่งงานกับกมลได้ไม่ถึงเดือน ย้อยเริ่มแปลกใจจึงไปถามความจริงกับกมล กมลสารภาพว่าเพ็ญท้องกับคนอื่นอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อยากขัดใจแม่จึงยอมแต่งงานกับเพ็ญ ย้อยทั้งเจ็บทั้งอาย กมลกราบแม่ ขอกลับมาอยู่ที่บ้านอีกครั้ง ความเสียใจถึงกับทำให้ย้อยเป็นลม
เรณูแค้นใจที่พิไลเป็นคนไปบอกย้อยจนเกิดเรื่อง ทั้งสองจึงตบตีกันชุลมุน ปฐมกลับมาทันวันงาน เรณูดีใจมาก บอกกับปฐมว่าปิดเทอมเมื่อไหร่จะพาป๊อกกลับมาอยู่ด้วยกัน
ตอนที่ 13
เรณูเปิดร้านขายสาคู-ข้าวเกรียบปากหม้อ ที่หน้าร้านผ้าของวรรณา สองพี่น้องช่วยเหลือกันและกัน จันตากับอาซาก็มาให้กำลังใจด้วย ยิ่งใกล้วันแต่งงานจันตามากเท่าไหร่ อาซาก็รู้สึกใจหายมากขึ้นเท่านั้น เจ๊อ๋ารีบยุพิไลให้เอาโรงสีมาเป็นของตนให้ได้ เพราะใช้ก็ใกล้จะปลดทหาร ส่วนอาซาก็กลับมาอยู่บ้านแล้ว พิไลจึงรีบยุให้ย้อยหาเมียใหม่ให้ซาอีกครั้ง เรณูให้วรรณาเอาขนมไปให้ย้อย วรรณาไม่อยากไปแต่ก็จำใจ เธอโดนพิไลด่าหาว่าเป็นกะหรี่กันทั้งบ้าน ซ้ำยังไปอ่อยอาซาอีก กลับถึงบ้าน วรรณาร้องไห้กับเรณูและห้ามไม่ให้เรณูไปมีเรื่องกับพิไลอีก
ก้านยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานที่โรงสี เก็บเงินไว้ให้เพ็ญเลี้ยงลูก แต่เพ็ญยังไม่ยอมหายโกรธ ถึงแม้อาซาจะช่วยเกลี้ยกล่อมอีกแรง ด้านบังอรก็บอกกับหวังว่าจะตามก้านกลับมาแต่งงานกับตนเองให้ได้
ด้วยความแค้นใจ ย้อยเดินทางไปที่ฆะมังเพื่อไปหากำนันศรที่บ้าน ย้อยบอกว่าให้ศรีเอาสินสอนกับทองหมั้นไปคืนตนเองให้ครบ ไม่งั้นย้อยไม่ยอมแน่ สุดท้าย ทั้ง ศร สมพร ศรี มาหาย้อยถึงร้าน ศรเอาสินสอดทองหมั้นมาคืน ร้องไห้เสียใจในสิ่งที่ทำลงไป ขอโทษย้อยจากใจจริง
ติ๋ม ประนอม หวาน มาเยี่ยมเรณูถึงที่ร้าน วรรณารู้สึกอับอายกับกลุ่มเพื่อนของเรณู ติ๋มเอาสร้อยคอของเรณูให้ดูและบอกว่าได้จากคนที่พิไลว่าจ้างให้มากระชากสร้อยจากคอเรณู เรณูจึงรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะพิไลวางแผนไว้นั่นเอง
งานวัดชุมแสง เรณูกับวรรณาไปขายขนม เพียงเพ็ญตามมาช่วยอีกแรง อาซากับก้านตามมาที่ร้านเรณู พบจันตามากับจินกรด้วย อาซาเริ่มใจคอไม่ดี รู้สึกถึงความรักแท้ที่ตนเองมีต่อจันตา และกำลังจะสูญเสียจันตาไป ที่งานวัด ก้านเจอสิทธิ์ที่เวทีรำวง สิทธิ์ชวนก้านขึ้นไปร้องเพลง บนเวที ก้านบอกไม่อยากได้รางวัลแต่ขอร้องเพลงฝากรักเอาไว้ในเพลงให้กับเมียสุดที่รัก เพ็ญได้ยินนั่งน้ำตาไหล เดินหนีกลับบ้านไป อาซา รีบบอกให้ก้านตามไปโดยเร็ว เพ็ญบอกเธอไม่ใช่ลูกสาวคนร่ำรวยอีกต่อไป แต่ก้านก็ยังยืนยันที่จะรักเพ็ญต่อไป สุดท้าย เพ็ญจึงใจอ่อน เรียกก้านเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยกัน ก้านจึงไม่ต้องนอนตากยุงอีกต่อไป
อาซามาหาเรณูที่ร้านทุกวัน ย้อยเข้าใจผิดคิดว่าอาซาชอบวรรณา จึงตัดสินใจไปทาบทามสู่ขอวรรณาจากเรณู พอวรรณารู้ก็รีบปฎิเสธทันที เรณูพยายามถามว่าวรรณามีใครในใจ แต่วรรณาไม่ยอมตอบ
สมพรกับศรตัดสินใจมาตามหาเพ็ญด้วยตนเอง เจอกับอาซาเข้าพอดี อาซากับตงจึงพาศรกับสมพรมาหาเพ็ญกับก้านที่บ้าน ก้านกราบขอโทษพ่อและแม่เพ็ญ เพ็ญเองก็เสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อแม่อับอาย ศรบอกให้ทั้งคู่กลับไปที่ฆะมังลัวจะจัดงานแต่งให้สมใจ ทุกคนกอดกันร้องไห้ดีใจใหญ่
ตอนที่ 14
สมพรกับศร ตัดสินใจ มาตามหาเพ็ญด้วยตนเองที่ชุมแสง เจอกับอาซาเข้าพอดี อาซากับตง จึงพาศรกับสมพร มาหาเพ็ญกับก้านที่บ้าน ก้านกราบขอโทษพ่อและแม่เพ็ญ เพ็ญเองก็เสียใจที่เป็นต้นเหตุทำให้พ่อแม่อับอาย ศรบอกให้ทั้งคู่กลับไปที่ฆะมัง จะจัดงานแต่งให้สมใจ ทุกคนกอดกันร้องไห้ดีใจใหญ่ อาสิทธิ์ดีใจที่ก้านกับเพียงเพ็ญได้อยู่ด้วยกันในที่สุด อาสิทธิ์บอกว่า มีคนติดต่อให้ก้านไปร้องเพลงอัดแผ่นเสียง แต่ก้านไม่อยากแยกจากเพ็ญ จึงปฎิเสธไป บังอรมาที่บ้านกำนันศร มาทวงก้านคืนจากเพ็ญ ก้านบอก จะไม่มีวันรักใครนอกจากเพ็ญ และขอโทษบังอรต่อหน้าทุกคน บังอรหมดหนทาง จึงบอกว่าตนเองท้อง แต่ศรียืนยันว่าไม่เป็นความจริง บังอรอายมาก กระโดดน้ำตายต่อหน้าทุกคน หวังตกใจ รีบลงไปช่วยทันที หวังปลอบใจให้บังอรทำใจ และรักคนที่เขารักบังอรอย่างจริงใจ ซึ่งก็คือตนเอง บังอรร้องไห้กับอกหวัง
อาสี่เขียนจดหมายหาวรรณา บอกจะรีบสอบ แล้วมาหา วรรณายิ้มดีใจ แต่แล้วเธอก็ต้องฝันสลาย เมื่อวันรุ่งขึ้น มาลามาหาวรรณา และบอกว่าท้องกับอาสี่ วรรณาเสียใจหนัก แต่ไม่พูดอะไรออกมา พอดีเรณูกลับมาจากวัด จึงรู้เรื่องราวทุกอย่าง เธอพามาลา ไปหาย้อยที่ร้าน มาลาสาบานว่าลูกในท้องเป็นของอาสี่ แต่หากอาสี่ไม่ยอมรับผิดชอบ เธอก็สาบแช่งอาสี่ ย้อยได้ยิน ก็โกรธจัดไล่มาลากลับไป
อาสี่สอบเสร็จ เพื่อนชวนไปกินเหล้าด้วยกัน แล้วเพื่อน ๆ ก็พากันลงไปว่ายน้ำ พอดีเพื่อนอาสี่จมน้ำ อาสี่ลงไปช่วย แต่กลับจมน้ำไปเสียเอง ย้อย และทุกคนในบ้านรู้ข่าว ย้อยร้องไห้จนหมดสติ เรณูเตรียมตัวเดินทางไปปากน้ำโพ ฝากให้วรรณาดูแลร้าน วรณายังอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ ทั้ง เรณู อาซา ย้อย เดินทางไปปากน้ำโพด้วยกัน อาตง กับพิไลเฝ้าบ้าน เมื่อถึงวัด ย้อยหัวใจสลาย เมื่อเห็นโลงศพลูกชาย เรณูพามาลามากราบขอโทษย้อย แต่ย้อยยังไม่ยอมให้อภัย เพราะยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียอาสี่ไป
เรณูไปหาอาใช้ที่ตาคลีเพื่อส่งข่าวอาสี่ อาใช้บอกจะรีบตามไป แต่ที่สำคัญกว่านั้น เรณูเห็นมีผู้หญิง นั่งอยู่บนรถของอาใช้ด้วย เธอมั่นใจ อาใช้เปลี่ยนไปเป็นอื่นแล้ว เรณูพบกับประนอม และหวาน เรณูเห็นติ๋มมีแผลบนหน้าเป็นรอยลึก จากการถูกเชิดทำร้าย ติ๋มเตือนให้เรณูระวังพิไล กับเชิดไว้ ที่สำคัญ กลัวว่าพิไล จะจ้างหมอก้อน ให้ล้างเสน่ห์ที่เรณูทำไว้กับย้อยอีก
ในระหว่างที่เรณูกำลังเครียด เธอก็ได้รู้ว่าตัวเองท้อง อาซาดีใจกับเรณู เรณูร้องไห้เพราะเครียดจัด สารภาพกับอาซา ว่าตนเองทำเสน่ห์ใส่ย้อยและอาใช้ แต่อาซากลับไม่โกรธเคือง บอกจะดูแลปกป้องเรณูเอง เรณูซึ้งใจ น้ำตาไหลออกมา
ทั้งอาตง พิไล บุญปลูก ป้อม วรรณา ต่างตามมาศพของอาสี่ พอพิไลรู้ว่าเรณูท้อง ก็ตกใจ ส่วนย้อย ยินดีมากที่จะได้หลานที่เกิดกับอาใช้ และเรณู
ตอนที่ 15
ใช้มางานศพอาสี่พร้อมกับอรพรรณี เรณูหน้าซีดด้วยความเสียใจ วรรณานำเสื้อฮาวายที่ตัดให้อาสี่มาด้วย เรณูเห็นจึงรู้ว่าวรรณารักกับอาสี่ สองพี่น้องกอดกันร้องไห้เสียใจในโชคชะตา งานศพอาสี่เสร็จเรียบร้อย เรณูก็กลับมาขายของดังเดิม รอวันที่อาใช้ปลดทหารแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ติ๋มไปหาหมอก้อน หาทางเอาคืนล้างแค้นพิไลกับเชิด
อาซาเจอหมุ่ยนี้กับจันตาที่ตลาด หมุ่ยนี้ขอให้อาซาไปช่วยถ่ายรูปงานแต่งให้ อาซายินดีที่ได้พูดจากับจันตามากขึ้นกว่าแต่ก่อน ที่งานแต่งงาน วรรณาไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว เรณู กมล อยู่กันพร้อมหน้า สุบินและ กรองแก้ว พี่สาวของจินกร ก็มาร่วมงานด้วย ถึงตอนที่สุบินและกรองแก้วขึ้นไปรดน้ำสังข์ เมื่อได้เห็นหน้าจันตาถึงกับช็อก กรองแก้วประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจันตาเคยเป็นเมียน้อยของสุบินมาก่อน จินกรช็อก รู้สึกอับอาย ทั้งพี่และแม่ไม่ยอมรับการแต่งงานในครั้งนี้ จันตาตกใจเป็นลมหมดสติไป เรณูให้อาซาอุ้มจันตากลับไปที่ร้าน อาซาปลอบใจจันตา จันตาร้องไห้กับอกอาซา ส่วนเรณูก็แค้นใจ ต่อว่าสุบินกับกรองแก้วกลับไป ที่มาทำลายงานแต่งของจันตา เรณูเสียใจที่จินกรไม่ปกป้องจันตา ทั้งหมุ่ยนี้กับอาม่าก็เสียใจมาก
ตอนที่ 16
อาซาไปรอจันตาที่สถานีรถไฟ เรณูกับวรรณาไปส่งจันตา อาซาไม่ให้จันตากลับสุโขทัย แต่ขอไปใช้ชีวิตร่วมกันกับจันตาที่เชียงใหม่แทน ย้อยรีบตามมาที่สถานีรถไฟ ให้เงินทุนครั้งที่อาซาเคยแต่งงานไปตั้งต้นกับจันตา แล้วบอกถ้าตั้งตัวไม่ได้อย่ากลับมาให้เห็นอีก อาซากับจันตาก้มกราบย้อยร้องไห้กันพร้อมหน้า หมุ่ยนี้กับอาม๊ารู้ข่าวจากเรณูก็ดีใจไม่น้อยที่จันตามีอาซาดูแล
ย้อยยังคงเศร้าที่ทั้งลูกผัวทยอยจากไป อาตงก็ไม่มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน เพราะพิไล ไม่รู้จักพอ บ้านช่องไม่เคยคิดดูแล อาตงตัดสินใจกลับมาอยู่ที่ร้านกับแม่ ให้พิไลอยู่บ้านเพียงลำพัง เชิดมาหาพิไล นัดไปหาหมอสมดีด้วยกันที่ท่าไม้ รุ่งขึ้น เชิดนำทองมาขายให้พิไล โดยที่พิไลไม่รู้ว่าเชิดไปปล้นแล้วฆ่าเจ้าทรัพย์ตาย ตำรวจตามมาวิสามัญนายเชิดต่อหน้าพิไล พิไลเลยถูกตำรวจจับตัวไปสอบปากคำ อาตงตามมาประกันตัว พิไลกังวลจึงไปหาหมอสมดีให้แก้เคราะห์ของย้อยที่เรณูทำใส่ หมอสมดีตกลงใจจะมาหาย้อยด้วยตนเอง
ย้อยป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและรู้ว่าตนเองเป็นเบาหวาน พิไลได้ทีตอนที่ย้อยเป็นลม ปลดสร้อยออกจากคอย้อยแล้วโทษว่าเรณูเป็นคนขโมย
หมอสมดีมาหาย้อยถึงที่ร้าน เขาเห็นหมอกควันปกคลุมไปทั่ว หมอสมดีช่วยขจัดปัดเป่าให้ แต่บอกย้อยว่าต้องเดินหน้าทำความดี เพราะเคราะห์กรรมที่ทำไว้หนักหนา ย้อยนึกไปถึงอดีตที่เธอเคยพลั้งมือฆ่าลิ้มแม่ผัวตายไปต่อหน้า ย้อยยอมรับในชะตากรรม ชาวบ้านต่างมามุงดู เม้ารีบไปตามเรณูมาดูให้เห็นกับตา
ตอนที่ 17
หมอสมดีทำพิธีขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากตัว พิไลด่าว่าเป็นฝีมือของเรณู ชาวบ้านต่างโกรธแค้นด่าว่าเรณูกับวรรณาอย่างน่าเวทนา
เรณูกับวรรณาไม่มีหน้าจะอยู่ชุมแสงต่อไป หมุ่ยนี้ไปส่งที่สถานีรถไฟ แล้วเรณูก็ไปจากชุมแสง ย้อยเองก็เสียใจไม่น้อย พอลุกเดินไหวก็รีบไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ลิ้มทันที ขากลับย้อยเจอหมุ่ยนี้ หมุ่ยนี้นำจดหมายที่เรณูเขียนไว้ให้ย้อย ย้อยอ่านจดหมายพลางร้องไห้ เรณูขอโทษย้อยในทุกสิ่ง ย้อยรู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะตนมีทิฐิมากเกินไป ย้อย เสียใจที่สูญเสียเรณูไป
เรณูกับวรรณาย้ายไปอยู่พยุหะคีรี เรณูไม่ย้อท้อ เริ่มต้นทำขนมขายอีกครั้ง เรณูไปหาหมอก้อนให้ทำพิธีถอนของออกจากเฮียใช้และปล่อยเขาไป
พิไลต้องนอนอยู่บ้านคนเดียวเพราะอาตงไปเฝ้าย้อย เจ๊อ๋ายุให้พิไลระวังบุญปลูกให้ดี ว่าจะมาแย่งอาตงไป พิไลจึงไปตบตีบุญปลูกที่ร้าน ย้อยไม่สบายใจ ถามอาตงไปว่าความจริงเป็นเช่นไร อาตงบอกว่าเขาไม่ได้มีอะไรเกินเลยกับบุญปลูก
ระหว่างที่ย้อยกำลังเครียด อาซากับจันตาก็กลับมา ย้อยดีใจมาก บอกอาซาว่ายกตึกที่ปากน้ำโพให้อาซาเพื่อไปค้าขายกับจันตาต่อไป อาซากราบแม่ ย้อยจัดงานแต่งงานของอาซากับจันตาขึ้นอย่างเรียบง่าย อาใช้ปลดทหารกลับมา ย้อยดีใจมาก ปฐมรู้จากอาซาและอาตงว่าเรณูท้องก็รู้สึกเศร้าใจ เวทนาในชะตากรรมของเรณู ปฐมตัดสินใจบอกย้อยว่าจะไปใช้ชีวิตร่วมกับอรพรรณีที่กรุงเทพฯ ออกไปจากบ้านแบ้ด้วยตัวเอง เรณูกับวรรณาต่างช่วยกันค้าขาย โดยมีปลัดจินกรไปมาหาสู่อยู่เสมอ
ตอนที่ 18
ทางด้านติ๋มแค้นที่ถูกไอ้เชิดทำร้ายปางตาย จึงไปขอให้หมอบางช่วย แต่หมอบางปฏิเสธเรื่องการทำไสยดำจนถึงแก่ความตาย ติ๋มจึงวานต๋อมพี่ชายไปหาหมอเบี้ยว
เมื่อทำคุณไสยเสร็จ พิไลก็ทุรนทุราย เพ้อว่าจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา จนมีข่าวลือทั่วชุมแสงว่าพิไลอาการเหมือนผีเข้า และว่าเรณูเป็นคนทำเพื่อชำระแค้น
ติ๋มกลัวว่าเรื่องราวจะบานปลายไปถึงเรณู จึงออกไปประกาศหน้าบ้านย้อยว่าเป็นฝีมือตน ถ้าพิไลอยากหายดีก็ต้องให้พิไลมาคุยกันหน้าบ้าน ไม่เช่นนั้นอาตงจะโดนไปด้วย
ย้อยกลัวว่าอาตงจะเดือดร้อนจึงเรียกพิไลออกมา และต้องป่าวประกาศเรื่องร้ายๆ ที่ตนทำไว้ให้คนทั้งชุมแสงฟัง หมอสมดีขอให้พิไลคลายความเคียดแค้นและความละโมบในใจ พร้อมกับนึกถึงพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์อยู่พักใหญ่จึงหายดี เมื่อพิไลได้สติก็ขอกลับไปอยู่ที่ทับกฤชเพราะอับอายชาวชุมแสง โดยอ้างว่าจะขอกลับไปบวชชี
เมื่อย้ายมาอยู่พยุหะคีรีเรณูก็ตัดสินใจเปิดร้านขายข้าวเกรียบปากหม้อเพื่อหารายได้ ฝ่ายปฐมปลดทหารก็กลับมาอยู่ชุมแสงพร้อมกับอรพรรณี โดยตั้งใจจะมาตกลงกับเรณูเรื่องลูกและเมียใหม่ของเขา แต่เรณูย้ายไปแล้วจึงไม่ได้เจอกัน ปฐมกราบลาย้อยขอไปใช้ชีวิตอยู่กับอรพรรณี ปฐมออกจากบ้านแบ้ไปแล้วจริงๆ
อาซาพาจันตากลับมาเยี่ยมย้อยในเวลาต่อมา กมลกับจันตาค้าขายจนตั้งตัวได้ และมีความสุขมาก ย้อยจึงยกตึกแถวของตนที่ปากน้ำโพให้ทั้งสอง และตั้งใจว่าตนจะย้ายไปอยู่ด้วยเพราะใกล้โรงพยาบาลมากกว่าที่ชุมแสง ส่วนประสงค์นั้นให้ดูแลกิจการทั้งหมดที่มีในชุมแสงต่อไป
ตอนที่ 19 อวสาน
3 ปีต่อมา ย้อยเหมือนมีลูกเล็กอีกคน เพราะมาลาคลอดลูกแล้วมาทิ้งไว้ให้เลี้ยง ส่วนมาลากลับไปแต่งงานที่เขากะลา ประสงค์แต่งงานกับบุญปลูก วรรณาได้แต่งงานกับปลัดจินกร อาซา มีลูกสาวกับจันตา เรณูรับป๊อกมาอยู่ด้วยกันที่พยุหะคีรี พร้อมกับเลี้ยงดูลูกชายที่เกิดจากอาใช้อย่างดี แถมกิจการขายขนมไทย ข้าวเกรียบปากหม้อ และสาคูไส้หมู ก็ขายดิบขายดี จากการพูดบอกปากต่อปากของลูกค้า
ผิดกับทางฝั่งอาใช้ แม้จะเรียนสูงและได้ไปทำงานในบริษัทของพ่ออรพรรณี จนมีลูกด้วยกัน 1 คน แต่เขากลับไม่มีความสุขเลย อรพรรณีออกเที่ยวเตร่เริงราตรีทุกคืน จนวันหนึ่งอาใช้เดินทางกลับมาเยี่ยมย้อยที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับเรณูที่มาเยี่ยมย้อยเช่นกัน ทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจกัน
ในช่วงบั้นปลายชีวิต โรคเบาหวานของย้อยกำเริบหนักจนต้องตัดขาทิ้ง ระหว่างพักฟื้น อาใช้ตั้งใจขับรถกลับมาเยี่ยมแม่ แต่เกิดอุบัติเหตุรถชนจนบาดเจ็บสาหัส ย้อยได้ยินข่าวก็ช็อกตาตั้งขาดใจตายในวัย 51 ปี อรพรรณีได้ยินข่าวอุบัติของผัวก็ไม่แยแส ดูแล้วว่ารักษาไปก็ไม่หายเป็นปกติแน่ จึงปฏิเสธเรื่องความช่วยเหลือทางการเงิน และสุดท้าหย่าขาดกัน
อาตง และ อาซา ตัดสินใจจำนองที่ดินมรดกที่ย้อยแบ่งให้ทั้งหมด เพื่อนำมาเป็นค่ารักษาพี่ชาย
อาใช้รักษาตัวอยู่นานถึง 3 ปี ก็กลับมาเป็นปกติ โดยมีเรณูคอยดูแลเป็นอย่างดี ทั้งสองคนช่วยกันค้าขาย จนขยายกิจการร้านขนมเปิดเป็นโรงงานขนมได้ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก
สมาชิกบ้านแบ้ที่เหลือ ยึดหลักคำสอนของหลักเซ้งและย้อย ต่างพากันสร้างครอบครัวของตน และอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข