“หมีเอก” ลูกทีม “โค้ชก้อง” คว้าแชมป์! “เดอะ วอยซ์ 2019”
เสียงสูงจี๊ดโดนใจ “หมีเอก” ลูกทีม “โค้ชก้อง” คว้าแชมป์ “เดอะ วอยซ์ 2019” รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท
แข่งขันกันอย่างดุเดือด ในที่สุด “เดอะ วอยซ์ 2019” (The Voice 2019) ก็ได้แชมป์คนที่ 8 ได้แก่ หนุ่มเสียงสูงทรงพลัง หมีเอก-เอกกมล บุญโพธิ์ทอง นักร้องอิสระ วัย 25 ปี ลูกทีม โค้ชก้อง-สหรัถ ที่โกยคะแนนโหวตสูงสุดไปถึง 30% แซงหน้าคู่แข่งทั้ง 5 คน จิ๋ว, แพรจ๋า, พิม, ออย และ ปังปอนด์ ไปอย่างฉิวเฉียด และคว้ารางวัลเงินสด 1 ล้านบาท จาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และยังมีโอกาสเซ็นสัญญาเป็นศิลปินกับค่ายเพลงคุณภาพชื่อดังอีกด้วย หลังจากขับเคี่ยวมากันถึง 15 สัปดาห์ โดย หมีเอก เป็นนักร้องสายร็อกที่มีเสียงสูงเป็นเอกลักษณ์ โดยมีฐานแฟนคลับตั้งแต่รอบบลายด์ออดิชัน แจ้งเกิดทันทีในเพลง “ไม่มีฝีมือ” และรอบชิงชนะเลิศได้นำเพลง “คิดถึง+ทำได้เพียง” มาร้องได้สุดอลังการประทับผู้ชมมากที่สุด
การแข่งขันเริ่มถ่ายทอดสดเวลา 20.15 น. ณ สตูดิโอสตาร์ฮอลลีวูด พุทธมณฑลสาย 5 เปิดเวทีด้วยโชว์พิเศษจากอดีตโค้ชสายแซ่บ ดา เอนโดรฟิน มากระตุกต่อมแห่งความสุข พร้อมการรวมตัวของอดีตลูกทีม ซีซั่น 5 และ 6 นำโดย เกิบ, พลอย, โอบ, ข้าวฟ่าง, เก่ง มาร่วมถ่ายทอดเพลงฮิตตลอดกาลให้หวนคิดถึง อย่างเพลง “การเดินทางที่แสนพิเศษ”, “อย่าทำให้ฟ้าผิดหวัง”, “สิ่งสำคัญ” ซึ่งการหวนเวทีครั้งนี้ ดา กล่าวว่า “การได้นำเพลงอัลบั้มของเอนโดรฟินมาร้องเปิดฮอลล์ออฟเฟรมวันนี้ ทำให้คิดถึงบรรยากาศเดิมๆ แสดงถึงระยะทางการเดินทางที่อเมซิ่งมากๆ เชื่อว่าเวที เดอะ วอยซ์ จะยังคงเติมความสุขของคนตามหาความฝันอย่างไม่สิ้นสุด”
จากนั้นเป็นโชว์เปิดตัวโค้ชและผู้เข้าแข่งขันทั้ง 6 คนสุดท้าย นำโดย ทีมโค้ชป๊อบ-ปองกูล ที่ควงลูกทีมทั้ง 2 จิ๋ว-สกุณชัย เปลี่ยนรัมย์ และ ปังปอนด์-อุมาภรณ์ กาละซิรัมย์ ถ่ายทอดเพลงเนื้อหาน่ารักหัวใจสีชมพู “จังหวะจะรัก” เซอร์ไพรส์คนดูด้วยการรวมตัวลูกทีมที่มาร่วมร้องประสานเสียงอย่างอบอุ่น ต่อด้วยโชว์จาก โค้ชโจอี้ บอย และลูกทีมคนสวย แพรจ๋า-ญาณวรรธน์ เจริญอธิพัฒน์ ในเพลงโป๊งชึ่งสนุกๆ พกเมียมาด้วยหรอ และ เมียไม่มี
สนุกไม่หยุดกับโชว์ฟินๆ จาก ทีมโค้ชก้อง-สหรัถ และลูกทีม 2 คนสุดท้ายสายร็อกกับสายแจ๊ส นำโดย หมีเอก-เอกกมล บุญโพธิ์ทอง และ พิม-พิม-ยศวดี เปรมเจริญ” ในเพลง “ชอบก็บอกชอบ” ต่อด้วยกับโชว์สวยๆ ของแม่เสือและลูกเสือระหว่าง โค้ชเจนนิเฟอร์ คิ้ม กับลูกทีมหนึ่งเดียว ออย-กุลจิรา ทองคำ ในเพลงพ่นไฟ “Un-Break My Heart” โดยครั้งนี้ โค้ชคิ้ม ขอมาทวงคืนบัลลังก์ความเป็นตัวแม่ เพื่อส่งต่อให้ ออย ไปสู่ฝั่งฝันอีกครั้ง
สำหรับกติกาการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ เป็นการแข่งขันแบบเพลงเดียวจบ โดยลำดับการแข่งขัน มีดังนี้ คนแรก คือ จิ๋ว และตามด้วย แพรจ๋า พิม ออย ปังปอนด์ และ เอก ตามลำดับ เพื่อหาเพียงหนึ่งเดียวที่มีคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้ชมทั้งประเทศ 100% ในรูปแบบ One Number One Vote คือ 1 หมายเลขเบอร์โทรศัพท์ สามารถโหวตให้คะแนนผู้เข้าแข่งขันได้ 1 คน และ 1 ครั้ง เท่านั้น
สำหรับคนแรกที่เปิดเวทีมาน้ำตาก็ไหลเลย คือ จิ๋ว-สกุณชัย เปลี่ยนรัมย์ ลูกทีม โค้ชป๊อบ-ปองกูล มาในเพลง “ขอโทษ” เพลงเพื่อชีวิตโชว์ตัวตน ที่พาให้ผู้ฟังเดินทางไปถึงความรู้สึกบาดลึก ต่อด้วยนักร้องสาวสวยขี้เล่น แพรจ๋า-ญาณวรรธน์ เจริญอธิพัฒน์ ลูกทีม โค้ชโจอี้ บอย มาในเพลง “Saving all my love for you” พาอินในท่วงท่าและแก้วเสียงที่สดใสขึ้นกว่าเดิม มาที่คนที่ 3 คือ พิม-พิม-ยศวดี เปรมเจริญ ลูกทีม โค้ชก้อง ในเพลง “Till It Happens To You” ให้คนฟังได้ดื่มด่ำในห้วงทำนองเพลงแจ๊ส ที่เหมาะกับโทนเสียง พิม เป็นที่สุด
ด้านคนที่ 4 ได้แก่ สาวน้อยเสียงทรงพลัง ฉายา “ดีว่าห์ตัวอ่อน” ออย-กุลจิรา ทองคำ ลูกทีม โค้ชเจนนิเฟอร์ คิ้ม มาในเพลง “เธอบอกให้ลืม+คุกเข่า” ผ่านคีย์โน้ตสูงตามใจสั่ง อีกหนึ่งนักร้องตัวเกร็ง ต่อมาเป็นคนที่ 5 สาวบุรีรัมย์น้ำเสียงกินใจ ปังปอนด์-อุมาภรณ์ กาละซิรัมย์ ลูกทีม โค้ชป๊อป ปองกูล มาในเพลง “หนุ่มน้อย” มิติใหม่แห่งการร้องเพลงเพื่อชีวิตที่หาฟังยากในเสียงผู้หญิง และคนสุดท้ายปิดการแข่งขันอย่างสวยงามของหนุ่มหุ่นหมีน้ำเสียงทรงพลัง หมีเอก-เอกกมล บุญโพธิ์ทอง ลูกทีม โค้ชก้อง มาในเพลง “คิดถึง+ทำได้เพียง” ที่ทำเอาเวทีลุกเป็นไฟ และเต็มอิ่มไปกับทักษะการร้องเสียงสูงที่เกินมาตรฐาน
ลุ้นอย่างต่อเนื่อง กับการประกาศผลโหวตสูงสุด 2 คนสุดท้าย ในรูปแบบ One Number One Vote นั่นคือ จิ๋ว และ หมีเอก สองหนุ่มน้ำเสียงต่างสไตล์ แต่ด้วยสไตล์การร้องจัดจ้านมาตั้งแต่รอบบลายด์ออดิชั่น จนชนะใจคนฟังทั้งประเทศ ในรอบชิงชนะเลิศผู้ชมทางบ้านต่างเทคะแนนโหวตให้ หมีเอก สูงสุดถึง 30% ในขณะที่ จิ๋ว ได้คะแนนโหวตตามมาแบบติดๆ ที่ 29% ถือเป็นการทำแชมป์ครั้งที่สองของ โค้ชก้อง ในฐานะที่เป็นโค้ชมาทั้ง 8 ซีซั่น
โดย หมีเอก กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากคว้าแชมป์ “เดอะ วอยซ์ 2019” ว่า “ตั้งแต่ผมเริ่มประกวดร้องเพลง ผมก็เฉียดได้แชมป์มาหลายเวทีแล้ว สำหรับเวทีเดอะ วอยซ์ เคยมาสมัครเมื่อซีซั่น 2 แต่ต้องผิดหวังกลับไป จนมีโอกาสเป็นแบ็คสเตจให้ พี่สงกรานต์ ในวันที่เขาได้แชมป์ จึงอยากมีโอกาสนี้บ้าง จึงเป็นแรงผลักดันให้กลับไปพัฒนาตัวเอง จนปีนี้ได้มีโอกาสเข้ามา เดอะ วอยซ์ 2019 ผมจึงตั้งทำโชว์มาให้ดีทุกรอบจริงๆ จนวันนี้คว้าแชมป์ได้สำเร็จ”
ด้าน โค้ชก้อง ชื่นชมลูกทีมว่า “วันนี้เขาทำได้ดีจริงๆ รู้สึกภูมิใจในตัวเขา ขอบคุณที่ร้องเพลงที่พี่เลือกให้ เพราะเห็นแล้วว่าเพลงคิดถึง และเพลง ทำได้เพียง เหมาะกับร่องเสียงของเขาที่สุด เขาเปรียบเหมือนเครื่องยนต์พลังแรงม้าสูง อยู่ที่ว่าจะปรับจูนเขายังไงให้ดีที่สุด วันนี้ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนโหวตที่โหวตให้ เอก ยังไงบนถนนเส้นทางดนตรีเขาต้องไปได้สวย เป็นศิลปินได้สมดั่งใจแน่นอน”
Profile
ชื่อเล่น : เอก
ชื่อ : นาย เอกกมล บุญโพธิ์ทอง อายุ : 25 ปี
ภูมิลำเนา : นครปฐม ที่อยู่ปัจจุบัน : นนทบุรี
อาชีพ : นักร้องอิสระ (ร้องกลางคืน)
ทีมโค้ชก้อง สหรัถ
Blind Auditions : ไม่มีฝีมือ
Knockout : เสียใจได้ยินไหม
Battles : เพลงลูกแก้ว VS หนิง-กานดา สุวรรณใจ
Live ไขว้ทีม : เจ็บจนพอ
Final : คิดถึง+ทำได้เพียง
- เป็นคนนครปฐม เพิ่งย้ายมาอยู่นนทบุรีเช่าบ้านอยู่กับเพื่อน
- เคยเรียนที่ซุปเปอร์สตาร์คอลเลจ เอกกีตาร์ เป็นคณะดนตรีในมหาวิทยาลัยสยาม เป็นรุ่นแรก แต่ตอนนี้ดรอปเรียน
- คุณแม่ขายอะไหล่รถยนต์ คุณพ่อแยกทางกันแล้ว ไม่ได้ติดต่อกัน มีพี่ชาย 1 คน
- สนิทกับคุณแม่และพี่ชายมาก คุยได้ทุกเรื่อง พี่ชายก็ส่งคลิปมาประกวดเดอะวอยซ์ด้วย แต่ไม่เข้ารอบ
- เริ่มต้นร้องเพลงตั้งแต่เด็ก ร้องเล่น ๆ ทั่วไป แต่พอเข้าอนุบาล มีงานลอยกระทง อยากโชว์ร้องเพลงก็เลยขึ้นไปร้องเพลง “ตะลึง” ของอนัน อันวา จุดเปลี่ยนคือ ตอน ม. 2-3 พี่ชายซื้อกีตาร์มาที่บ้าน ก็แอบไปเล่นจนเล่นได้ แต่จนถึงตอนนี้พี่ชายก็ยังเล่นไม่ได้ หลังจากนั้นก็เริ่มจริงจัง และรู้สึกว่าตัวเองไม่ชอบเรียน แล้วก็ไม่อยากเรียนช่างตามที่ที่บ้านอยากให้เรียน เลยไปเรียนดนตรี โกหกที่บ้านว่าเรียนจบมาเป็นครูได้ ก็เลยได้เรียน แต่จริง ๆ ที่บ้านไม่สนับสนุนเลย กลัวเป็นนักดนตรีแล้วจะลำบาก
- ชอบเพลงแนวร็อก ศิลปินที่ชอบที่สุด คือ ZP Theart นักร้องนำวง Skid Row ถ้าศิลปินไทยชอบ
หรั่ง ออเคสตร้า โป่ง หินเหล็กไฟ
- เคยสมัครเดอะวอยซ์ซีซั่น 2 แต่ไม่ได้เข้ารอบบลายด์ ตอนนั้นผิดหวังเกือบจะเลิกประกวดแล้ว แต่มีคนมาบอกให้ไปสมัคร KPN Award ครั้งที่ 24 ปรากฏว่าอยู่ถึง 4 คนสุดท้าย พอครั้งที่ 25 ก็ได้เป็นตัวแทนรุ่นไปแข่ง KPN รวมรุ่นก็ได้อยู่ถึง 4 คนสุดท้าย เคยไปรายการ Stage Fighter ได้แชมป์ 3 สมัย
- เคยเป็นนักร้องรับเชิญให้วงพอส ได้ร่วมร้องเพลงกับวงพอสในคอนเสิร์ต ได้ไปร้อง เพราะเรียนกีตาร์กับครูเอ (มือกีตาร์วงพอส) ตอนเรียนก็ขอครูเอไปช่วยงาน ไปขนเครื่องดนตรี ดูคอนเสิร์ต เก็บประสบการณ์ แล้วขณะนั้นวงพอสกำลังขาดนักร้องนำเวลาโชว์ก็จะมีนักร้องคนอื่น ๆ ไปร้องแทน เอกจึงได้โอกาสนั้นด้วย
- เคยเล่นกีตาร์แบคอัพให้ “นิต้า ชูการ์อายส์” รู้จักเพราะเป็นเพื่อนเรียนที่เดียวกัน เขามาชวนให้ไปช่วยเล่น
- เคยฟอร์มวงกับเพื่อน ๆ ตอนเรียนมหาวิทยาลัย งานแรกก็ไปเล่นงานปีใหม่ในคุกเลย เป็นความทรงจำที่ดีมาก เพราะทั้งสนุก และทำให้คนในนั้นมีความสุขด้วย
- อยากอยู่ทีมโค้ชโจอี้ บอย ชอบแนวคิดการทำโชว์แบบใหม่ ๆ
- อยากเป็นนักร้องเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จ มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง
