ไดมอนด์อายส์ ตา-สัมผัส-ผี 2 ตอนที่ 5 : ดวงตาเตือนภัย !
ชื่อสากล :Diamond Eyes 2
บทโทรทัศน์ : สายขิม
มิ้งเดินมาตามทางเดินเจอกับเอมิที่นั่งรออยู่พอดี
"ขอคุยอะไรด้วยหน่อยซิ"
มิ้งนั่งข้างๆเอมิ
"ถ้าแกยังคิดว่าฉันเป็นเพื่อนแก เลิกทำงานอย่างงี้เถอะ"
"แต่ที่ฉันทำมันคืองานฉันนะเว้ย"
"แกหางานอย่างอื่น ทำก็ได้นิ"
"ก็ไอ้ที่ฉันทำ มันไม่ได้เสียหายใช่ปะ ฉันไม่ได้ขายตัวนะ"
"ฉันรู้...แต่เพื่อนคนอื่นไม่คิดอย่างฉันไง มันคิดว่าแกเป็นเด็กไซส์ไลน์"
"ก็แล้วแต่พวกมันดิ แกอะคิดแบบนั้นหรอ"
"ฉันเชื่อใจแก แต่แกเชื่อใจฉันสักครั้งได้ไหม"
"ถ้าฉันเลิกทำงานนี้ ฉันจะเอาเงินที่ไหนใช้ละ บ้านฉันจนไม่ได้รวยเหมือนบ้านแกนะ"
"ก็ถ้าแกไม่ใช้ของฟุ่มเฟือย กินอยู่แบบพอเพียง ก็น่าจะพอนะ หรือถ้าแกเดือดร้อนจริง ฉันช่วยแกได้นะ"
"ฉันเกรงใจอะ"
"แกจะเกรงใจทำไม ฉันเพื่อนแกนะ ฉันขอเถอะ แกเลิกยุ่งกับพี่นิว พี่บุ้งเหอะ 2 คนนั้นไม่ใช่คนดีแบบที่แกคิด"
มิ้งคิดตาม
ในมหาวิทยาลัย เอมินั่งอยู่ เปิดเลคเชอร์ มีเพื่อนๆนั่งอยู่ด้วย
เพื่อนถาม "มิ้งไปไหน ไม่มาอีกแล้วหรอ"
"อืม"
เอมิคิดถึงมิ้งอย่างเป็นห่วง
บริเวณหน้ามูลนิธิกู้ภัย ซินคุยโทรศัพท์กับเอมิ พร้อมๆกับเปลี่ยนชุดหมี กู้ภัย
"พี่ซิน ไปเป็นเพื่อนเอมิหน่อยสิ เอมิจะไปตามมิ้ง"
"เดี๋ยวๆใจเย็นๆเอมิ ทำไมต้องเสียงหงุดหงิดเบอร์นั้น"
ที่มหาวิทยาลัย เอมิรู้สึกตัวว่าหงุดหงิดไปจริงๆ
"เอ่อ...เอมิขอโทษ แต่นีน่าหายไปแบบติดต่อไม่ได้ คอนโดไม่กลับ 2 วันสองคืนแล้วน่ะสิ
แชทไลน์ยังไม่อ่านเลย มันผิดปกตินะ"
ซินพยายามเลี่ยงเดินออกมา มีเสียงรถเปิดไซเรนเข้ามาในมูลนิธิ
"พรุ่งนี้ได้มั้ยอะ วันนี้ซินไม่ว่างจริงๆ"
"งั้นไม่เป็นไร"
เอมิวางสายงอนๆ ใช้ความคิด
ในห้องพัก บุ้งเปิดตู้เย็น หยิบน้ำผลไม้ เทใส่แก้ว จากนั้นนำผงยาใส่ในแก้วน้ำผลไม้ลงไป ก่อนเดินไปหามิ้ง
"น้ำส้มมาแล้วจ้า"
"พี่บุ้งจะพาหนูไปไหนคะเนี่ย วันนี้"
"วันนี้มีงานกินเลี้ยงโต๊ะแชร์ของพวกไฮโซน่ะ ดื่มก่อนเร็ว"
มิ้ง หยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เพียงครู่เดียว มิ้งเริ่มมองเห็นภาพตรงหน้าเบลอ ๆ
เอมิยืนจดๆจ้องอยู่หน้าคอนโดหรูของบุ๊งนานมากแล้ว จะเข้าก็ไม่กล้าเข้าจนมืดแล้ว
เอมิลองพยายามโทรหานีน่าอีกคราวนี้ติด เอมิดีใจ
"เฮ้ย ติดแล้ว" เอมิลุ้นๆเสียงตึ๊ดๆสายเรียกในโทรศัพท์ "รับสินีน่า รับหน่อย"
เสียงเหมือนมีคนรับสาย แต่ก็ตัดไปในทันที เอมิอึ้ง ...รีบโทรกลับอีกรอบแต่ไม่ติดแล้ว
เอมิยิ่งงุ่นง่านเป็นห่วง ตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่าง
เอมิตัดสินใจจัดหน้าจัดผมเดินนวยนาดเข้าไปอย่างมั่นๆที่ล็อบบี้อย่างมีแผน
ล็อบบี้คอนโดหรูราคาสูง ระบบคีย์การ์ดชัดเจนไม่น่าชึ้นไปง่ายๆ
เอมิเดินมาที่เคาน์เตอร์ เขยิบเสื้อนักศึกษาให้คอกว้างขึ้น
"สวัสดีค่ะ มาพบใครคะ"
เอมิยิ้มหวาน "หนูเป็นเด็กในสังกัดพี่บุ๊งน่ะค่ะ พี่บุ๊งนัดให้มาดูแล...ป๋า ไรงั้น"
พนักงานมองหัวจรดเท้าเหยียดในที แต่ไม่แสดงออกมาก "อ่อค่ะ งั้นเชิญคุณนั่งรอตรงนั้นได้เลยค่ะ"
"ไม่ได้ค่ะไม่ได้ หนูต้องเปลี่ยนชุดค่ะพี่ พี่บุ๊งบอกเตรียมชุดไว้ให้ที่ห้องแล้วให้หนูขึ้นไปเลย"
"เราเปิดให้คนนอกขึ้นไปโดยพลการไม่ได้หรอกค่ะ นอกจากเจ้าของห้องจะลงมารับเอง หรือต่อสายตรงลงมาจากห้อง โทรไปเรียกลงมารับสิคะ"
"เอ่อ...โทรแล้วค่ะ แต่พี่เค้าคงแบบ เอ่อ อาบน้ำอยู่น่ะค่ะ น่าจะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์หรือแบบปิดเสียงอะไรงี้"
เอมิเล็งๆที่เครื่องสายภายใน
"งั้นขอลองโทรขึ้นไปจากสายภายในได้มั้ยคะ เอ่อ..ห้องอะไรนะคะ"
พนักงานมองอย่างจับผิด
"หนูเคยมาแล้วค่ะ แต่จำไม่ได้ คอนโดหรูสูงส่งขนาดนี้ แค่ชั้นยังมึนแล้วเลยค่ะ"
"คุณบุ๊งอยู่แค่ชั้นสี่ค่ะ"
"นั่นง่ะ มิน่าขึ้นลิฟต์แป๊บเดียวถึง ....ห้องอะไรนะคะ พี่กดให้หนูหน่อยก็ได้ค่ะ"
พนักงานมองเอมิอย่างไม่ค่อยเชื่อใจ แต่ก็กดเบอร์ห้อง
ที่จอโทรจะมีเลขห้องที่กดไป เอมิชะเง้อมองรีบจำ แล้วแกล้งทำเป็นสายเข้า
"อุ้ยๆไม่ต้องละค่ะ พี่บุ๊งโทรมาละค่ะ วางเลยค่ะวางเลย"
เอมิเอื้อมมือกดวางให้เฉยเพราะกลัวบุ๊งรับสายจะความแตก แล้วรีบทำเป็นโทรคุยกับบุ๊ง
เอมิพูดคนเดียว "ค่า ...พี่บุ๊ง ถึงแล้วค่า ใช่ค่ะใช่"
เอมิเดินแยกไป หลบอยู่มุมบันไดหนีไฟแต่เห็น รปภ เฝ้าอยู่
เอมิเล็งนานมาก เอมิลุ้น รปภ สายโทรศัพท์เข้า จังหวะ รปภ หันมารับสาย หรือเดินห่างไปนิดนึง
เอมิรีบวิ่งแว๊บขึ้นบันไดหนีไฟไป รปภ หันมาแว๊บ เกือบจับได้ เฉียดฉิว
เอมิวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟมาได้จนถึงชั้น 4 แต่ปรากฎว่าเปิดประตูเข้าชั้น 4 ไม่ออก เอมิหงุดหงิด
"บ้าจริง เปิดไม่ออกทำไงดีเนี่ย"
เอมิมองผ่านช่องกระจกของบันไดหนีไฟ มองเห็นทางเดินคอนโด เอมิมองหาห้องที่จำไว้
สายตาเอมิผ่านช่องกระจก มองที่ป้ายเลขหน้าห้อง ไล่ไป 4/ 312 ไล่ไปเรื่อย
เอมิ 4/314 ...ห้องนั่นแน่ๆ
เอมิพยายามชะเง้อดูไป ขยับลูกบิดประตูไปแต่ก็เปิดไม่ออก
แล้วประตูห้อง 4 / 314 เปิดออกมาจริงๆ
บุ้งประคอง นีน่าที่มีอาการมึนๆสลึมสะลือออกมาจากห้อง
เอมิเห็นรีบหลบ แต่ก็พยายามแอบดู
บุ๊งประคองนีน่าหรือมิ้งค์มาที่ลิฟต์ นีน่าเดินได้แต่เหมือนคนตกอยู่ในฤทธิ์ยามึนๆหลอนๆ
บุ๊งกดลิฟต์ เอมิที่ยังหลบอยู่ตัดสินใจวิ่งลงไปจากบันไดหนีไฟ
ชั้นล่างคอนโดฯหรู ลิฟต์เปิดออก บุ๊งประคองนีน่าที่ดูมึนออกมาจากลิฟต์ เอมิเปิดประตูบันไดหนีไฟข้างลิฟต์ออกมากระหืดกระหอบ
เอมิเข้าชาร์จ
"พี่จะพาเพื่อนเอมิไปไหน"
เอมิเข้าไปดึงตัวนีน่าออกมาจากบุ๊ง บุ๊งดึงคืนอย่างแรง นีน่าโซเซ
บุ๊งตกใจ "นี่แกมาได้ไง อย่ามายุ่งน่า"
บุ๊งโกรธผลักอกเอมิ เอมิโมโห ผลักตอบ
"ปล่อยนีน่านะ"
"แกนี่มันเผือกไม่เลิกจริงๆ"
เอมิเขย่าตัวนีน่า "นีนา นีน่าตื่นสิ" เอมิมองบุ๊งอย่างเอาเรื่อง "นี่พี่ทำอะไรนีน่าเนี่ย"
"แส่นักนะแก เล่นกับใครไม่เล่น"
บุ๊งเงื้อมือจะตบ เอมิกันไว้ รปภ ต้องเข้ามาแยก
ทุกอย่างดูชุลมุน พนักงานล็อคเอมิ รปภ ล็อคบุ๊ง ที่เกรี้ยวกราด
เหตุการณ์เหมือนภาพวงจรปิด...
พ.ต.ท. แดเนียล ซาโต้บอก
"กล้องวงจรปิดเห็นนักท่องเที่ยวล่าสุดที่หน้าห้องนี้ แต่มันห่างจากตอนเกิดเหตุหลายชั่วโมงมาก
มีใครเห็นผู้ตายก่อนหน้านี้อีกมั้ย"
ภายในห้องประชุม หน่วยDEI เอมิเล่าต่อ
"พอสงบ มิ้งก็มีสติขึ้นมานิดนึง เอมิพาไปที่รถมิ้งพักสักแป๊บ เราก็ขับรถออกมากัน
ส่วนพี่บุ๊ง เอมิไม่รู้แล้วค่ะว่าเค้าไปไหน เอมิอยู่กับมิ้งทั้งคืนที่ห้อง วันที่เอมิบอกลุงว่า
ค้างบ้านมิ้งนะคะ เราสองคนเป็นพยานให้กันได้"
จ่าวาวถาม "แต่กล้องวงจรปิดในคอนโดบอกว่า บุ๊ง เดินออกจากคอนโดไปทางลานจอดใกล้เคียง
กับเวลาที่เอมิพามิ้งไปไม่นาน แล้วก็เห็นว่าสักพักรถมิ้งก็ออกไป และไม่มีใคร
เห็นบุ๊งอีกเลย ไม่กลับไปที่ห้องอีกเลยค่ะ"
"แล้วกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถล่ะครับ" ซินถาม
"มันแย่ตรง กล้องวงจรปิดในลานจอดก็เสียน่ะสิคะ"
เห็นแค่กล้องทางออกคอนโดว่า รถมิ้งออกมา
"เอมิออกมากับมิ้งแค่สองคนแค่นั้นจริงๆค่ะ"
ทุกคนมองหน้าเอมิอึ้งๆ
"ทำไมหน้าเหมือนไม่เชื่อเอมิกันเนี่ย" เอมิถาม
"วาว เก็บข้อมูลจากกล้องทางออกมาระยะเวลาช่วงนั้น มีรถใครออกไปอีกบ้าง
ตรวจสอบว่าเป็นของใครบ้าง" แดนว่า
"ได้ค่ะ"
ทางห้องสอบสวน จ่าจักรกำลังสอบมิ้ง
"คุณคิดว่าเอมิมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของบุ้งหรือเปล่า"
"ไม่มีแน่นอนคะ พี่บุ้งเนี่ยคนไม่ชอบเค้าเยอะเหมือนกัน อาจเป็นคนอื่นก็ได้ที่ทำแบบนี้"
"แต่ว่าเอมิ เป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับบุ้งก่อนจะถูกฆาตกรรม"
"เอมิ ไม่ใช่คนทำคะ" มิ้งยืนยัน
แสนแสบดูไอแพด ในห้องรับแขก บ้านแดน
"เชี่ยอย่างโหด"
ซินกระชากจากมือแสนแสบมา
"พอเลย ปิดไม่ต้องดูแล้ว ดูด้วยว่าใช่เวลามั้ย"
หมอก้อยบอกแดน
"ฉันว่าเด็กๆไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องนะคะ"
"ตอนนี้มิ้งยังตกใจอยู่"
เอมิหน้าเศร้า "ค่ะลุง แต่พวกเราไม่เกี่ยวจริงๆนะคะ"
"ตำรวจกำลังหาหลักฐานจากทางคอนโดมิ้งไว้บ้าง น่าจะมีภาพยืนยันที่อยู่ของเราสองคนได้
ไม่ต้องห่วง"
"แหม...แต่ถ้าฆ่าคนจริง ก็ไม่เอามาเก็บที่คอนโดให้คนเห็นป่ะ" แสนแสบว่า
"นี่ไม่มีใครเชื่อจริงๆหรอคะ ก็หนูบอกว่าไม่ได้ทำไง หนูไม่ได้ทำ"
เอมิโกรธ ที่ทุกคนไม่เชื่อและเดินออกจากวงสนทนาไป
อยู่ๆผีบุ๊งโผล่มาผ่างงงง!! จนซินสะดุ้ง ซินรีบกลบเกลื่อน
แดนก็เห็นเหมือนกันแต่เก็บอาการ
แสนแสบเดินออกมาคุยโทรศัพท์
"เออใช่...เก็บข้อมูลอยู่ เออ...ก็รู้ว่านักข่าวเหมือนกัน แต่บอกไม่ได้จริงๆ เค้าเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยน่ะเว่ย ไม่ใช่ฟันธงว่าเป็นผู้ต้องหา" แสนแสบฟังฝ่ายตรงข้ามอย่างตื่นเต้น "ห๊า...มีเรื่องข่าวว่าผีเหี้ยนหนักด้วยเหรอ ที่ไหนวะ ข้างแม่น้ำ? เห็นแต่แขน แต่ขา กระดึ๊บๆ จริงดิ"
แสนแสบเม้าท์เพลินๆ ซินโผล่มาจับแขน แสนแสบตกใจสะดุ้งสุดตัว
"เฮ้ย เชี่ย ไรวะหัวใจจะวาย"
แสนแสบวางสาย
"แค่อยากขอร้องอ่ะ ว่าอย่าเพิ่งให้เข่าวเรื่องเอมิกับมิ้ง ยังไงขอสืบให้แน่ใจก่อน"
"เออ รู้น่า ไอ้ความอยากได้ข่าวก่อนส่งก่อนคลุกวงในของฉันน่ะทำเอาเรื่องไปกันใหญ่มาหลายคดีแล้ว ฉันปฏิญาณแล้วว่า ต่อไปจะเป็นนักข่าวที่มีจรรยาบรรณ"
"เยี่ยม ต้องงี้ดิ"
แสนแสบกระซิบ "ซิน แต่จะว่าไป ก็สงสัยเอมิกับมิ้งเหมือนกันใช่ป่ะ ไม่พูดอะไรเลย เอาแต่ร้องไห้แล้วบอกไม่อยากพูดถึง มันต้องมีไรดิวะ"
ซินอ้ำอึ้ง ก่อนจะเหลือบมองผีบุ๊ง แล้วพูดลอยๆว่า
"มันไม่ใช่แค่เรื่องไม่ให้การหรอก มีบางอย่างเหมือนกันที่มันแบบเหมือนว่า...เอมิกับมิ้งน่าจะเกี่ยวข้อง"
เสียงเอมิจากข้างหลังโพล่งมา
"นี่แม้แต่ซินก็ไม่เชื่อใจเอมิเหรอ"
ซินตกใจหันไป รีบวิ่งไปหา
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะเอมิ"
"ไม่ใช่แล้วยังไง เอมิได้ยินเต็มสองหู"
"กับเอมิผมไม่เคยไม่เชื่อใจ แต่เอมิจะรู้เรื่องลึกๆของมิ้งไงได้ ถ้าทำใจให้เป็นกลาง ก็ต้องเห็นว่ามิ้งไม่ยอมให้การอะไรจนน่าสงสัยป่ะ"
"แต่เอมิอยู่กับมิ้งตลอด ถ้าพูดแบบนี้ก็เชื่อว่าเอมิโกหกเพื่อช่วยเพื่อน ใครจะคิดยังไงก็ช่าง
แต่คนใกล้ตัวมันต้องเชื่อใจกันป่ะ"
เอมิพูดทั้งน้ำตา น้อยใจ วิ่งหนีไป ซินอึ้ง
ซินยืนเครียดๆ หลังทะเลาะกับเอมิ แดนออกมาคุยด้วย
"เอมิเสียใจมากนะ รู้ใช่มั้ย"
"ผมไม่ใช่ไม่เชื่อใจเอมินะ"
"แต่สงสัยมิ้ง?"
"ก็..."
"เพราะเห็นผีคนตายมาตามล่ะสิ"
ซินสงสัย "นี่ท่านรองรู้?"
แดนกลบเกลื่อน "ก็เดาเอา นายมันสายเห็นผีอยู่แล้วนี่"
"อืม ก็ใช่ฮะ ...คือถ้าวิญญาณตามติดใครก็น่าเกี่ยวพันกัน"
แดนก็เหลือบมองผีบุ๊ง ที่ยืนนิ่งอยู่ข้างซิน แดนแกล้งไม่เห็น
"ถ้างั้น นายก็คงเป็นฆาตรกรต่อเนื่องน่ะสิ"
"ห๊า?"
"อ้าว ก็มีผีหลายตัว มาให้นายเห็นตลอด บางทีก็ตามนายมาไม่ใช่เหรอ"
"แหม...มันไม่ใช่งั้นป่ะ ก็เพราะผมบังเอิญเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น"
"โลกนี้ไม่มีความบังเอิญหรอก เค้ามาให้เห็นเพราะมีเหตุผล"
"ยังไงฮะ"
"ผีที่มาให้นายเห็นวันนี้ ตามอาจไม่ใช่เอมิกับนีน่าก็ได้ แต่เค้าตามคนที่สื่อสาร
กับเค้าได้เพื่อขอให้ช่วย"
ซินคิดตาม "เอ่อ นี่คือ...ตามผม" แล้วเหมือนนึกออก "อ้าว งั้นผมก็เข้าใจเอ
มิกับนีน่าผิดน่ะสิ ต้องไปง้อแล้ว"
"ไม่ต้องเลย เค้าขึ้นนอนกันหมดแล้ว นายกลับไปได้แล้ว ทีหลังจะพูดอะไรก็
ใช้สติด้วย....ไปละ"
แดนหันหลังเดินไป เสียงซินพูดตามหลัง
"แต่อย่างนึงที่ผมแน่ใจ คือท่านรองก็เห็นเหมือนที่ผมเห็น"
แดนไม่หันมาตอบ แอบยิ้มแล้วเดินจากไป
พื้นที่โล่งแจ้ง ตอนกลางคืน แสนแสบเปิดดูข่าวฆาตกรรมของบุ้ง
"ไอ้ซิน แกว่าเป็นฝีมือเอมิหรือเปล่า"
"ไม่อะ พี่เชื่อหรอ"
"เฮ้ย ไม่มีทางเชื่อหรอก"
"นั่นดิ เอมิไม่มีวันทำร้ายคนขนาดนั้นหรอก"
"แต่ก็มีแค่เอมินะ ที่ทะเลาะกับบุ้งชัดเจนขนาดนั้น และแรงอาฆาตก็พอที่จะทำให้เอมิ ทำแบบนั้นได้ปะ"
"เฮ้ย แกแค่ผู้หญิงทะเลาะกันปะวะพี่ เอมิฆ่าคนไม่ได้หรอก คนเลยนะ หั่นแบบหั่นไส้กรอกเลยนะ"
"นั้นนะซิ ฉันก็ไม่เข้าใจทำไมตกเป็นผู้ต้องสงสัยไปได้"
"นั้นซิ เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังแน่ ไม่ใช้สกิลนักข่าวพี่อ่ะ"
"แหมนี่ถ้าคิดได้จะมานั่งบื้ออย่างนี้หรอ"
"ผมว่านะ พวกเราต้องทำอะไรซักอย่าง"
วันใหม่ ซินมาสืบเรื่องบุ๊งเพื่อหาข้อมูลช่วยเอมิให้พ้นผิด ที่มหาวิทยาลัย
ซินส่งไลน์หาเอมิ
"ขอโทษนะ ผมจะไม่แค่ขอโทษเฉย ผมจะหาทางช่วยให้เอมิกับนีน่าพ้นข้อสงสัย ผมสัญญา"
ซินส่งข้อความ แต่เอมิไม่อ่านเลยตั้งแต่เมื่อคืน
"ไม่เปิดอ่านตั้งแต่เมื่อคืน สายก็ไม่รับ หนักแน่ ไอ้ซินเอ๊ย"
ซินมองรอบๆ บรรยากาศหน้าคณะที่เอมิเรียนอยู่
เจอ 3 สาวขาเม้าท์แก๊งค์ที่เคยเม้าท์บุ๊งกับนิวเดินผ่านมาพอดี เหล่ๆซินแบบหล่อดี
"ใครอ่ะ ไม่เคยเห็นเลย อปป้านะเนี่ย"
"เด็กคณะอื่นมั้งแก ฉันจอง"
"ถามเค้ายังแก ว่าเค้าเอาแกมั้ย"
ซินเห็นว่า 3 สาวมอง เลยเดินเข้าไปหา
"สวัสดีครับ เรียนคณะนี้รึเปล่าครับ"
นักศึกษา1 ตอบ "ค่ะ...มาหาใครเหรอคะ"
"คือ....ผมเคยรู้จักกับบุ๊ง น้องที่เพิ่งเสียน่ะครับ ผมอยากเจอกับเพื่อนที่สนิทเค้า"
นักศึกษา2 กระซิบเพื่อน "ที่แท้ก็ลูกค้าเล้า"
"คือผมอยากฝากซองไปทำบุญ แต่อยากแน่ใจว่าถึงมือพ่อแม่น้องเค้า แค่นั้นครับ"
นักศึกษา3 บอก "อ่อ...เค้าไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ก็ต้องมีซัมติงเอื้อประโยชน์กัน"
"แต่มีคนนึงนะ เรียกว่าคู่หูมาม่าซังเลยก็ได้ โน่น มาพอดี" นักศึกษา 1 บอก
นักศีกษาสาว พยักหน้าให้มองรถหรูอีกคันของนิวที่กำลังขับผ่านไปอย่างเร็ว แต่เลี้ยวไปทางหลังคณะ
ซินมองตาม
นิวใส่แว่นตาดำ ไม่ใช่ชุดนักศึกษา หน้าเครียดๆ ขับรถไปอย่างเร็วจนคนหันไปมองทั้งคณะ
นิวเอารถเข้ามาจอดไกลมากจนผิดสังเกตุ เหมือนตั้งใจมาจอดแอบไว้ ในบริเวณดงไม้ร้างๆ
นิวลงมาอย่างรีบร้อนพร้อมกระเป๋าเหมือนใส่เสื้อผ้าใบย่อมๆ
ซินทักทายจากด้านหลัง
"สวัสดีครับ"
นิวสะดุ้ง "บ้าจริง อะไรเนี่ย ตกใจหมด"
"ขอโทษจริงๆครับ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้ตกใจ แค่อดใจไม่ไหว"
รถสปอร์ตรุ่นนี้มีไม่กี่คันในเมืองไทยแล้วคันนี้ก็สวยกริบมาก เลยอยากตามมาใกล้
แต่ไม่นึกว่าคนขับจะสวยกริบกว่า
นิวเซ็งๆ "นี่นา ฉันไม่มีเวลาว่างให้มาแอ๊วเล่น"
"โอเค งั้นยิงตรงนะ...ผมไม่เล่น ผมจริงจัง ผมขับรถตรงมาที่นี่ครั้งแรกก็เพื่อมาหาคุณ"
"มาหาฉันเหรอ หมายความว่าไง"
"มีคนบอกผมว่าเด็กในสังกัดคุณงานดี ผมไม่ได้มาซื้อกินเอง แต่ผมทำงานกับนักธุรกิจต่างประเทศ มีกี่คนเหมาหมด แต่ขอคัด"
นิวมองอย่างชั่งใจสักพัก
"พี่ไม่ใช่เด็ก มอนี้แน่นะ"
"อืม"
"มีรถมา?"
"มีสิ"
"งั้น....ถ้าอยากได้ของดี หนูขอไปรถพี่ เดี๋ยวจัดให้หนักๆ"
"เค ดีล"
ซินเดินนำนิวไปที่รถ นิวดูระแวงๆมองซ้ายขวา
เป็นจังหวะเดียวกับเอมิกำลังเดินเข้าคณะ
เห็นไกลๆว่าเป็นรถซิน เอมิหยุดมอง เห็นนิวนั่งคู่ออกไปกับซิน เอมิอึ้ง
ซินเห็นเอมิ ซินกังวล แต่ไม่กล้าทำให้นิวรู้ว่ารู้จักกับเอมิ ซินรีบหลบตาเอมิก่อนขับรถผ่านหน้าไปซะงั้น
เอมิยิ่งงอนเสียใจกว่าเดิม
"เนี่ยนะ ที่บอกว่าขอโทษ"
เอมิมองตามอย่างเสียใจ
บนรถ นิวดูเครียดๆ ซินพยายามชวนคุย
"เสียใจด้วยนะเรื่องเพื่อนน้องน่ะ"
"ใคร?"
"ก็...คนที่โดนฆ่าหั่นศพไง เพื่อนสนิทคุณไม่ใช่เหรอ?"
"อ่อ ใช่ สนิท สนิทมากด้วย"
"น้องคงเสียใจมาก"
"เสียใจสิ มากๆ"
"เรื่องมันเป็นไงเหรอ เค้าไปมีเรื่องกับใคร"
"คนอย่างมัน ศัตรูเยอะแยะไปพี่ พี่จะสนใจอะไรมันนักหนา"
"เปล่า ก็เห็นเป็นเรื่องฮอท แชร์สนั่นขนาดนั้น ใครก็สนใจสิ"
สายโทรศัพท์นิวเข้า นิวมองอึ้งๆยังไม่รับ
"ขอตัวแปป นะคะ"
"อ๋อ...ได้ดิ"
ที่ร้านกาแฟชานเมือง ซินเดินแยกมา ซินพยายามโทรหาเอมิแต่เอมิไม่รับ
"งานเข้ากว่าเดิมอี๊ก เอมิอย่าเพิ่งคิดไปไกลนะ"
ซินได้แต่ส่งข้อความไปอีก
"อย่าเข้าใจผิดนะ ไม่ใช่อย่างที่เห็น กลับไปจะอธิบายให้ฟัง นะๆ"
ซินถอนหายใจยาว มองหานิวไม่เจอ ซินเข้าไปในร้าน
ผ่านเวลาสั้นๆ....ซินถือกาแฟมาให้นิว แต่เห็นนิวแยกไปคุยโทรศัพท์ที่มุมห่างไกลคน
ซินแอบเดินไปหลบมุม หาที่แอบฟัง
นิวกำลังคุยเสียงเครียด
"ค่ะนาย....หนูรู้ค่ะ แต่หนูต้องให้นายช่วยจริงๆนะคะ นายส่งคนมารับหนูนะ" ก่อนฟังสักพัก แล้วบอก "โธ่... นายคะ ไกลขนาดนั้น หนูจะหาทางไปได้ไง ... หนูไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้นะนาย ก็ได้ค่ะก็ได้
หนูจะหาทางไปเอง ก็ดีเหมือนกันบ่อนอยู่ตรงข้ามชายแดน แต่นายต้องช่วยหนูนะสัญญานะคะ ค่ะขอบคุณค่ะนาย"
นิววางสาย เดินมาในร้าน
"เดี๋ยวเราต้องไปที่อื่นนะคะ ขอเปลี่ยนสถานที่คะ"
ค่ำแล้ว ใกล้ถึงชายแดน ซินพยายามชวนคุย
"นี่ต้องมาไกลขนาดนี้เลยเหรอ"
"พี่..รับรองว่าในนี้ มีตัวท๊อปเป็นโหล งานวีไอพีแบบนี้มีไม่บ่อย หนูพามาแบบเอ็กเซ็คครูซีฟเลยนะ แต่พี่ต้องเหยียบเลยนะ"
"บ่อนเถื่อน?"
"พี่รู้ได้ไง?"
"เดายากตรงไหน ถ้าต้องมีที่วีไอพีซ่อนตัวนอกเขตแบบนี้ ก็ต้องมีบ่อนอยู่แล้ว แต่ไม่ต้องห่วง
พี่ก็นักเสี่ยงโชคเหมือนกัน เอาจริงๆนะ ถ้าได้เป็นเมมเบอร์ด้วยได้จะเยี่ยมมาก"
"หนูจัดให้ได้ แต่พี่ต้องสัญญาว่าจะไม่บอกใครว่ามาส่งหนูที่นี่"
"เค ดีล"
ซินหาจังหวะเลียบๆเคียงๆถามเรื่องบุ๊งอีก
"แล้วนี่น้องไม่ไปงานศพเพื่อนเหรอ?"
"ไม่อ่ะ หนูสนิทกับมัน แต่ไม่รู้จักพ่อแม่มันหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบ้านมันอยู่ไหน มันโมหน้าซะลืมร่างเดิมไปแล้ว มาไกลมาก ที่จริงมันมาถึงตรงนี้ได้ก็เพราะหนูนะ"
"น้องเข้าวงการก่อนงี้เหรอ?"
"ใช่สิ ตอนแรกก็แค่ชวนมันรับงาน แต่แม่งมารยาล้ำพี่ เริ่มหาเด็กส่งนายเอง หนูก็ไม่อะไรนะ
แต่นานๆเข้า นายเรียกหาแต่มัน คือเหยียบใครได้มันเหยียบอะ"
"ตกลงนี่เพื่อนกันจริงป่ะเนี่ย"
"หมดเวรหมดกรรมกันก็ดีแล้ว อย่าได้เจอะเจอกันอีกเลย"
อยู่ๆ ซินก็ขับรถเซเหมือนตกใจอะไร
"เป็นไรพี่?"
ซินเหลือบมองเห็นผีบุ๊งอยู่ข้างหลัง ซินสะดุ้ง
บนถนน ... ซินขับรถมาเจอด่าน
ซินจอดรถและเปิดหน้าต่าง
"ไปไหนกับครับนี่"
ซิน กับนิวมองหน้ากัน
นิวทำท่าเหมือนคนป่วย
"มันแน่นหน้าอกไปหมดเลยคะ จะให้เขาไปส่ง รพ."
ตำรวจเห็นท่าทางของนิว ก็เชื่อ
"อ่ะ.ไปไป"
บนถนน ...
"พี่เจอปั๊มข้างหน้าจอดหน่อยนะ ปวดฉี่"
"ได้ๆ"
ต่อมา ซินขับรถเข้ามาจอดในปั๊มน้ำมัน
"รอแป๊บนึงนะ"
นิวเปิดประตูรถรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
เวลาผ่านไปสิบนาที ซินนั่งรอนิวในรถ เขารู้สึกว่านิวเข้าห้องน้ำนานเกินไปจึงเปิดประตูรถลงไปตามนิว
ซินเดินมาที่ห้องน้ำ พยายามตะโกนเรียกนิว
"น้อง ....น้องนิว ได้ยินมั้ย น้อง"
ซินเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิงเปิดประตูดูทีล่ะห้อง แต่ไม่พบนิว
"โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ ทำไงดีวะเนี่ย กลับไม่ได้ไปไม่ถึง"
ซินอึ้งไม่รู้จะเอาไง โทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ จะไปต่อก็ไปไม่ถูกหลงทิศไปหมด
"เอาวะ ในเมื่อใช้จีพีเอสจากโลกดิจิตอลไม่ได้ ขอใช้จีพีเอสจากโลกอื่นแล้ว"
ซินยกมือไหว้อธิษฐาน
"น้องบุ๊ง ถ้าการตามนิวมาจะคลี่คลายคดีฆาตกรรมของน้องได้ ก็ขอให้นำทางให้ด้วย"
ผีบุ๊งปรากฎตรงหน้า ผ่าง!!!ซินขอเอง สะดุ้งเอง
เช้าวันใหม่
เอมิเซ็งๆยังไม่อยากไปมหาลัยมานั่งเล่นที่ห้องแดนในหน่วย แดนมองอย่างสงสาร
"ไม่สบายใจก็ยังไม่ต้องไปเรียน"
"มีแต่คนมองเอมิเป็นตัวประหลาด"
"ก็ต้องมีสติ เข้มแข็ง เราไม่ได้ทำ เดี๋ยวความจริงก็ปรากฏ"
"ค่ะลุง ...ขอตั้งสติก่อน แต่ยังไงบ่ายๆคงต้องแวะไปส่งงานนิดนึง"
"แต่ลุงมีงานน่ะสิ"
"ไม่เป็นไรค่ะ เอมิไปแท๊กซี่ได้"
"แต่ต้องระวังตัวนะ ยังไงลุงจะให้คนตามดูห่างๆ พวกมันยังไม่ได้หลักฐานมันกัดไม่ปล่อยหรอก"
"แต่เอมิไม่มีจริงๆนะคะ พยายามค้นหาหลักฐานอะไรที่พ่อน่าจะซ่อนไว้แล้ว แต่ไม่เจอเลยค่ะ
พ่อไม่เคยบอกอะไรด้วย"
"ลุงเชื่อว่าต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งที่นึกไม่ถึง" แดนนึกได้ "แล้วนี่เคลียร์กับซินรึยัง"
เอมิหน้างอน "ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ค่ะ เค้าจะคิดอะไรจะทำอะไรก็เรื่องของเค้า"
แดนขยี้หัว "เรานี่น้า"
วาวผลักประตูเข้ามาพอดี
"ท่านรองคะ เรื่องรถที่ออกจากคอนโดเหยื่อที่เช็ค คนสุดท้ายที่ใช้รถคันนั้น
เป็นเพื่อนสนิทเหยื่อที่ลือว่าเป็นแม่เล้าส่งเด็กเหมือนกัน ชื่อนิว"
วาวส่งแฟ้มรูปให้แดนดู แดนเปิดดู เอมิได้ยินหันมามอง
"ตอนนี้เราเพิ่งพบว่ารถคั้นนั้นจอดทิ้งไว้หลังมหาวิทยาลัยค่ะ แบบตั้งใจจอดทิ้ง
แล้วเด็กคนนี้ก็หายตัวไปตั้งแต่เมื่อวาน"
"ไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ"
"เอมิรู้เหรอว่าเค้าไปไหน"
"ไม่รู้ว่าไปไหน แต่รู้ว่าไปกับใคร แล้วก็สาปสูญไปด้วยกันเลยด้วย"
"หมายความว่าไง"
แดนกับวาวมองหน้าเอมิ พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ
ซินขับรถมาถึงโรงแรมที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวบริเวณชายแดน
ซินจอดซุ่มอยู่มุมหนึ่ง เสียงสายเข้าหน้าจอมีแสงวาบๆ แต่ขาวเว่อร์รับก็ไม่ได้วางก็ไม่ได้
"บ้าจริง รับก็ได้ ใครโทรมาก็ไม่เห็นอีก จะโทร.บอกท่านรองก็ไม่ได้"
ซินเซ็ง ลงจากรถเดินไปซุ่มดูไกลๆอย่างหงุดหงิด มองไปไกลๆ
"ทำไงดีวะ คิดๆๆซิไอ้ซิน"
ซินพยายามใช้ความคิดอย่างหนักว่าจะทำยังไงต่อดี มองหาบ้านคนก็ไม่มีอยู่ในสายตาเลย
บรรยากาศหน้าโรงแรมบริเวณชายแดน มีการ์ดคุมเข้ม เดินไปมา
การ์ดพกปืนคุมเข้มรอบๆ
ในห้องมืดๆ นิวท่าทางหวาดกลัว นั่งตรงข้ามชายชุดดำในเงามืด ที่นั่งไขว่ห้าง
บอสกับเจได ประกบข้างซ้ายขวา
เดอะซันบอกเสียงเข้ม "เล่ามาให้หมด"
นิวสะดุ้งตัวสั่น มองล่อกแล่กหลอนๆ
นิวเริ่มเล่า .....
น้ำเสียงนิวเคียดแค้น "มันแส่หาเรื่องเอง อีสารเลวนั่น"
จุนกิแฟนของนิวถือกระเป๋าฟิตเนสเข้ามาในห้องพัก เห็นนิวสวมชุดนอนนั่งบนโซฟา กำลังดูแคตตาล็อกนาฬิกาหรู
"ทำไมกลับดึกจังตัวเอง"
"นัดเทรนเนอร์กับลูกค้าที่ฟิตเนส"
"ผู้ชาย ผู้หญิง"
"ผู้ชาย"
นิวจุ๊บแก้ม "ต่อไปเลิกทำงานแบบนี้เถอะ"
"เลิกทำแล้วจะเอาเงินที่ไหนใช้"
"ก็นิวไง ผัวคนเดียวเลี้ยงได้ ขอแค่ตัวเองรักเค้าคอยเป็นกำลังใจให้เค้าก็พอแล้ว นี่วันนี้นิวเพิ่งได้เงินก้อนใหญ่มาก็เลยจะสั่งซื้อโรเล็กซ์ให้จุนอ่ะ"
"เค้ารักนิวที่สุดเลย"
จุงกิจะจูบนิว แต่นิวยกมือกันไว้
"อี๊ ตัวเหนียวจัง ไปอาบน้ำก่อนไป๊"
จุงกิลุกขึ้นออกไป แต่ไม่ได้หยิบกระเป๋าฟิตเนสไปด้วย จะได้ยินเสียงไลน์ดังมาจากมือถือในกระเป๋าฟิตเนส
นิวหยิบมือถือจุนกิมาเช็คข้อความ
บุ๊งส่งภาพเซ็กซี่ หลายๆภาพแนบข้อความ "คืนนี้คิวบุ๊งบ้างนะ" ผู้ชายส่งสติ๊กเกอร์ OK /
ขอบคุณครับ"
นิวโกรธจัด
นิวโกรธจัด อยู่ในรถในลานจอด
สายตามองออกไปนอกรถ เห็นว่าเอมิประคองนีน่าที่ยังมึนๆมาที่รถ ที่จอดถัดไปไกลๆ
รถนีน่า ออกไปแล้ว
บุ๊งกำลังเดินตรงมาที่รถนิว หน้าแค้นใจมาก
นิวขับรถไปตามถนนนอกเมือง บรรยากาศตึงเครียด จนบุ๊งทนไม่ไหว
"ทำไมต้องขับรถมาให้ไกลขนาดนี้วะ แกจะพูดอะไรก็พูดเลยมะ"
นิวหน้านิ่งเครียด มองเห็นจุดเปลี่ยวๆ ไม่มีคนข้างทาง นิวหักจอดข้างทาง
นิวเปิดรูปหน้าจอที่แคปแชทมา
"แกทำงี้กับฉันได้ไงวะ?"
บุ๊งตอบขำๆไม่กลัว
"แกจะไรนักหนาวะ ไอ้จุนกิมันก็แค่โฮสท์ เราก็แบ่งกันใช้ปกติเหมือนคนอื่นป่ะ"
"แกก็รู้ว่าไม่เหมือน ฉันจริงจังกับมัน"
"ก็เพราะว่าเห็นว่าแกจริงจังอะแหละ ฉันถึงพิสูจน์ให้แกเห็นว่ามันไม่จริงจังกับแก นิว
ไหนๆก็เคลียร์กันแล้ว เราทำงานงี้แกหลงคนแบบนี้ไม่ได้นะเว่ย"
"มันเรื่องของกูป่ะ"
"อ้าว....นีมึงขึ้นกูกับกูก่อนนะ กูหวังดีนะเนี่ย"
"หวังดีเชี่ยไร นี่ผัวกู แล้วคนอย่างมึงอะนะหวังดี กูเป็นคนพามึงมาเจอนาย แต่เดี๋ยวนี้มีใครเห็นหัวกูมั้ย มึงเหยียบหัวกูส่งเด็กให้นายเอง อย่านึกว่ากูไม่รู้"
"ก็เพราะมึงหลงไอ้กะจั๊วนั่นไง นัดไม่เป็นนัดกับนายกี่ครั้งแล้ววะ นายถึงต้องไดเรคหากู"
"มึงไม่ต้องไม่อ้าง มึงตั้งใจเหยียบกู กูรู้ มึงนึกว่ามึงเป็นใครถึงแย่งทุกอย่างไปจากกูห๊า อีกระหรี่"
นิวกระชากหัวบุ๊งมาตบก่อน บุ๊งตบกลับ
"มึงก็กระหรี่เหมือนกันแกละวะ ตบมาตบกลับไม่โกง"
บุ๊งโมโหตบก่อน ทั้งคู่ตบกันนัวในรถ
นิวเสียเปรียบ นิวคว้าสะเปะสะปะ เจอมีตะไบทำเล็บที่หล่นอยู่ข้างรถ นิวจ้วงแทงที่หัวใจ
บู๊งกระตุกตาค้างก่อนสิ้นลม นิวมองตกใจ
ในห้องมืดๆ นิวท่าทางหวาดกลัว นั่งตรงข้ามชายชุดดำในเงามืด นิวพูดตาขวางดูจิตๆ
"ดีสมน้ำหน้า ...มึงสมควรตาย"
นิวหน้าดูจิตๆ หลอนๆ เสียงสบถของเดอะซันในความมืดด้วยความโมโห
เดอะซันว่า "SHIDEI (ไปตายซะ)"
นิวสะดุ้งแต่ยังรองรอบๆหลอนๆ
ในอดีต ในห้องมืดว่างๆพื้นเหมือนกระเบื้องห้องน้ำ เป็นช่วงนิวหั่นศพบุ๊ง ชิ้นส่วนบางส่วนถูกแยกจากกัน
นิวพูด กับหั่นศพหลอนๆ
"อีเพื่อนชั่ว ....สารเลว... มันเหยียบหัวฉัน....มันแย่งทุกอย่างไป ...ตาย มันตาย!"
บรรยากาศลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ยามเช้า
เฮลิคอปเตอร์สตาร์ทเครื่องรอ จ่าวาวกับหมวดสารินเดินฝ่าลมไป วาวถือแท๊บเลตมาด้วย
"โทรศัพท์ซินยังโทรเข้าได้ถึงจะไม่มีคนรับสาย แต่เช็คพิกัดจากจีพีเอสได้ค่ะ"
"ดี ...ตามไว้ ไปทางบกไม่ทันแน่ เกือบถึงชายแดนแล้วใช่มั้ย" สารินบอก
"ใช่ค่ะหมวด"
"งั้นรีบไปกัน"
หมวดสารินรีบพาวาวไปที่เครื่องบิน
เครื่องบินขึ้นไป
หมวดสารินกับวาวอยู่บนเฮลิคอปเตอร์กำลังพูดสายกับแดนผ่านหูฟัง
"ท่านรองครับ ผู้หญิงต้องสงสัยเป็นเครือข่ายของเดอะซัน เราอาจได้เจอตัวเดอะซันตัวเป็นๆเลย"
หมวดสารินฟังสักครู่
"ได้ครับ"
หมวดสารินตัดสาย พูดกับนักบินเฮลิคอปเตอร์
"หาที่ลงจอดให้ใกล้เป้าหมายที่สุด"
เจไดหันมาส่งหนังสือเดินทางปลอมให้นิว
"นี่หนังสือเดินทางปลอม นายให้เอามาให้ แล้วให้ไปส่งไกลๆ แล้วนี่เงิน ให้แค่นี้แหละ
หาที่กบดานไปก่อน"
"ขอบคุณมากพี่ ฝากขอบคุณนายด้วย"
บอสมองนิวแบบอีนี่อาการหนักแล้ว
ซินซุ่มดู แอบถ่ายรูปไปด้วย
"ไม่มีกล้องมือถือ ก็ยังมีกล้องเชยไอ้แสบติดรถมา เอาวะ ถ้าเป็นอะไรไปอย่างน้อยก็ได้ข่าวใหญ่ติดกล้องไปฝากไอ้แสบ"
ซินกำลังตั้งใจถ่ายรูป อยู่ๆหมวดสารินมาจับไหล่จากด้านหลัง ซินเกือบชก สารินหลบทัน
"เฮ้ย ใจเย็นๆไอ้น้อง"
"หมวด!! มาได้ไงเนี่ย ตกใจหมด"
"เราสิต้องถามว่านายมาที่นี่ได้ไง แล้วโทรมาทำไมไม่รับ"
ซินควักโทรศัพท์ให้ดูว่าพังแล้ว
"โทรได้ก็โทรไปแล้วสิ"
"แล้วตกลงมาได้ไง"
"ผมไปสืบเรื่องคดีฆ่าหั่นศพที่มหาลัยเอมิ เจอเพื่อนสนิทของคนตาย มันมีพิรุธแปลกๆ
ตอนแรกก็ตั้งใจแค่จะหลอกถาม แต่เรื่องไปกันใหญ่ ไว้ผมค่อยเล่า แต่ที่แน่ๆ ที่นี่ไม่ธรรมดา"
"ใช่ ที่นี่เป็นหนึ่งในบ่อนเคลื่อนที่ของเดอะซัน" จ่าวาวว่า
"โอว โกโซบิ๊กจริงๆ"
ทั้ง 3 ซุ่มดูด้วยกัน
"แล้วนี่เราจะซุ่มเฉยๆไม่ทำอะไรจริงเหรอครับ"
"จ่า รอคำสั่งบุก"
จ่าจักรพร้อมกำลังคนเตรียมบุก
"ป่ะ"
ทุกคนเตรียมพร้อม
"คุณรออยู่ที่นี่ละ"
หมวดสารินพูดกับจ่าวาว
"นายด้วย"
หมวดสารินพูดกับซิน
"ให้ฉันไปด้วยซิจะได้ช่วยคุณได้"
"ช่วยเป็นตัวถ่วงอ่ะ ไม่ว่า"
"ปะ.."
หมวดสารินหันไปส่งลูกน้องให้บุก
ตำรวจเดินสำรวจภายในอาคาร
"จ่าขึ้นไปดูตรงดาดฟ้าปะ"
หมวดรินกำลังเดินสำรวจอยู่ด้านล่าง เลยไม่เห็นคนร้ายที่ดักซุ่มอยู่ด้านบน
ปัง !
จ่าวาว ยิงคนร้ายจากด้านบน
"ยังคิดว่าฉันเป็นตัวถ่วงอยู่ไหม"
"ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันอนุญาตให้จ่าวาวไปคนเดียว นายไปรอด้านนอก"
หมวดสารินหันไปพูดกับซินที่มากับจ่าวาว
"ก็แล้วแต่นะ"
จ่าจักร และตร.กำลังต่อสู้กับคนร้ายที่ดักรออยู่
บอส เจได กระหน่ำยิงจากประตูของอีกฝั่งมาที่ ชิน วาว
คนร้ายปะทะกับ ตร .โดนยิง
นิววิ่งหนีมาหลังได้ยินเสียงปืน
"มอบตัวซะนิว มันยังไม่สายนะ ยอมกลับตัวกลับใจ แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่"
"ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ตั้งใจ"
"พี่รู้... วางปืนนะนิว"
นิวทำถ้าเหมือนจคล้อยตาม
"ค่อยๆวาง"
นิวเห็น บอส เจได กำลังขับเรือผ่านมา
"ถอยไป เขากำลังมารับฉันแล้ว"
เรือกำลังแล่นมาด้วยความเร็ว นิวโดนยิงตรงอกซ้าย
ต่อมา ... นักข่าวรายงานข่าวปิดคดีฆ่าหั่นศพเน็ตไอดอล
โดยฆาตกรชื่อนิว เป็นเพื่อนสนิทของผู้ตายที่โกรธแค้นเพราะผู้ตายลักลอบเป็นชู้กับแฟนหนุ่ม แต่ในข่าวแจ้งว่า ผู้ตายกลัวความผิดจึงระเบิดสมองฆ่าตัวตายขณะกำลังหลบหนี ...
สำนักงานDEI จ่าวาวและหมวดสารินกำลังดูข่าวนิวจากจอคอมพิวเตอร์
"ทำไมต้องเสนอข่าวบิดเบือนความจริงด้วย"
ทั้งๆที่เห็นชัดๆว่านางถูกยิงตายไม่ใช่ฆ่าตัวตาย
"มันต้องมีอะไรปิดบังอำพรางไว้แน่ๆ งานนี้คงไม่จบลงง่ายๆหรอก"
จ่าวาวบอกแดน
" ท่านคะ เรื่องที่ท่านให้ตรวจสอบรถจากคอนโดคดีฆ่าหั่นศพอะคะ ทั้งหมดมี 12 คัน วาวตรวจสอบแล้ว มี 1 คัน เท่านั้นที่ระบุเจ้าของไม่ได้ รถคันนั้นนำเข้าจากต่างประเทศคะ"
แดนหน้าเครียด
ในโชว์รูม
รวีบอกกับแดน
"ตั้งแต่ฉันได้ข้อมูลลับจากนาย ฉันก็ตรวจสอบให้ตลอดนะ นี่บอกตรงๆนะเว้ย ฉันไม่สบายใจเลย ที่มีมาเฟียมาแฝงตัวอยู่ในวงการรถนำเข้า และทำให้วงการเสียชื่อเสียง ถึงเวลาต้องใช้ไม้แข็งกับไอ้ยูจินี่แล้วละ"
"ยังไงก็ฝากนายหาทางให้ฉันเข้าถึงตัวยูจิด้วยละกัน"
"ได้ ไม่ต้องห่วง"
"ขอบคุณเว้ย ไปก่อนนะ"
บริเวณทางเดินในมหาวิทยาลัย
เนมโทรหาเอมิ "ฮาโหลเอมิ อยู่ไหน"
"อยู่ ม. คะ กลังจะกลับบ้าน"
"เดี๋ยวพี่ไปรับนะ"
"ได้คะ"
ชายคนหนึ่งเดินมาจากด้านหลังเอมิ เอาผ้าปิดปาก จับตัวไป
เอมิ ร้องให้คนช่วย โทรศัพท์ตกพื้น
"ฮาโหล เอมิ เอมิ เกิดอะไรขึ้น"
เนมรีบสตาร์ทรถมอไซต์
บนถนนรถมอไซต์กำลังขับไล่รถยนต์ที่จับตัวเอมิ
"เฮ้ย มีคนตามมา"
คนร้ายยิงสกัดรถมอไซต์
เนมตัดสินใจเร่งความและตัดหน้ารถยนต์เพื่อทำให้รถยนต์เสียหลัก
เนมรีบทิ้งรถวิ่งไปหาเอมิ
"เอมิ เป็นอะไรไหม"
"พี่เนม"
เอมิบาดเจ็บที่ตา
เอมิซ้อนมอไซต์เนม
หน้าห้อง ในโรงพยาบาล เนมโทรหาแดน
"ท่านรองครับ เอมิถูกเศษกระจกบาดตาแต่ว่าตอนนี้หมอดูอาการอยู่.... ได้ครับ"
เนมวางสาย
เวลาต่อมา หมอก้อยบอก
"หมอเอาเศษกระจกออกให้แล้วนะจ๊ะ โชคดีที่ไม่ไปโดนจุดอันตราย แต่ว่ายังไงช่วงนี้อาจมองไม่ชัดไปหลายวันเลยนะ ยังไงก็ต้องพักสายตาด้วยนะจ๊ะ"
"ขอบคุณคะ"
"ยังเจ็บอยู่ไหม"
"นิดหน่อยคะ"
"กลับบ้านไปพักผ่อนด้วยนะ"
บรรยากาศตั้งแต่สนามบิน ในเมือง วิถีชีวิตตอนเช้าที่เมืองฟุกุโอกะหรือคีตะคิวชู
ผู้คนขวักไขว่ เอมิใส่แว่นตาดำไกลๆ ตอนออกจากสนามบิน มีชายชรายืนรออยู่
เอมิวิ่งไปกอดซาโตชิ ตาของเอมินั่นเอง
ตอนนั่งรถตู้เห็นว่าซาโตชินั่งในรถกับเอมิผ่านเมืองๆจนเข้าเมืองคิตะคิวชูเห็นปราสาทโคคุระไกลๆ
ซาโตชิพาเอมิมาพักที่เรียวกังที่พิมเคยมาพัก เพราะแดนคิดว่าเป็นSafe house ที่ดีที่สุด
"ที่นี่เป็นที่ที่ลุงของหลานมั่นใจว่าปลอดภัยที่สุด ซึ่งตาก็เห็นด้วยนะ ที่บ้านตาเป็นจุดสนใจเกินไป"
"เอมิกลัวจังค่ะตา"
"ไม่ต้องห่วงตา อยู่นี่ทั้งคน ตาไม่ปล่อยให้หลานเป็นอะไรแน่นอน"
คุณป้าเจ้าของเรียวกังมาต้อนรับเหมือนเดิม สนทนากับตาเป็นภาษาญี่ปุ่น
"สวัสดีค่ะเชิญข้างในค่ะ"
"ผมจองไว้แล้วขอห้องที่เงียบๆหน่อยนะครับ"
"วันนี้มีคนพักอยู่ก่อนแค่คนเดียวค่ะเชิญเลือกห้องตามสบาย"
คุณป้าโค้งคำนับ ซาโตชิจูงเอมิไปดูห้อง
ระหว่างทางไปห้องเอมิรู้สึกเย็นหลังวาบเมื่อเดินผ่านห้องหนึ่งที่เปิดประตูไว้ เป็นห้องของอิทาโกะหญิงร่างทรงตาบอด
เอมิหยุดมอง แทนสายตาแบบเบลอๆมีผีเสื้อสีดำ บินอยู่รอบๆตัวอิทาโกะในห้อง
ซาโตชิพาเอมิมากินโซบะบนกระเบื้องร้อน ซึ่งเป็นเมนูเด็ดของเมืองชิโมโนเซกิ เอมิยังมองไม่เห็นจับโดนกระเบื้องจนร้อนมือ
"อุ๊ย...ร้อนอะไรคะเนี่ยตา"
"นั่นไงตาหลานยังมองไม่ค่อยเห็น ไม่ต้องๆ เดี๋ยวตาตักให้ ร้านคาวาระโซบะนี่เมนู
โซบะบนกระเบื้องร้อนนี่เป็นเมนูซิกเนอเจอร์ของเมืองชิโมโนเซกิเลยนะ"
เอมิคีบเข้าปาก "หืม ...อร่อยจัง"
"เป็นวิธีปรุงแบบญี่ปุ่นโบราณแท้ๆเลยล่ะ ตามาทีไรพลาดไม่ได้เลย แม่หลานก็ชอบนะ"
"คิดถึงแม่กับยายจัง"
"ตาขอโทษนะ"
"ไม่ใช่ความผิดของตาสักหน่อยค่ะ เอมิแค่คิดว่าอยากฝันถึงแม่บ้าง อยากคุยกับแม่
บ้างในฝันก็ยังดี"
"เป็นอย่างนั้นได้ก็คงดีเออ...ป้าเจ้าของเรียวกังบอกว่า ผู้หญิงตาบอดอีกคนที่พักในเรียวกังที่เดียวกับเอมิเป็นอิทาโกะ"
"อิทาโกะ?"
"อิทาโกะคือร่างทรงที่ต้องบำเพ็ญศีลและเป็นผู้ติดต่อกับวิญญาณที่โอเรซานเป็นวัดทางเหนือของญี่ปุ่นที่รู้จักกันในนามประตูแห่งชีวิตหลังความตายตาก็รู้มาแค่นี้จากยายของหลานนั่นแหละ ทั้งแม่ ทั้งยายเราสนใจเรื่องนี้มาก ตั้งแต่แม่เราเกิดอุบัติเหตุตกเขาพร้อมแดเนี่ยลตั้งแต่เด็กๆ"
"แม่เคยเล่าเรื่องอุบัติเหตุอยู่เหมือนกัน แต่แปลกที่แม่ไม่เคยพูดถึงลุงเลย"
"เป็นความผิดของตาเองที่ไม่ให้ใครพูดถึงเด็กคนนี้ ตามันตาแก่ยึดมั่นถือมั่นทำให้
ชีวิตของเด็กคนนึงต้องระหกระเหินจนเจอเรื่องเศร้ามากมาย"
"ทำไมลุงถึงเศร้านักเหรอคะ"
"ก็....หลังจากที่เค้าเสียเมียกับลูกไปในอุบัติเหตุนั่นแหละ ตาเคยได้ยินแม่ของหลาน
คุยกับยายว่าความพิเศษที่ดวงตาเค้าเห็นวิญญาณตั้งมากมาย แต่เค้าเศร้าที่ไม่เคยแม้แต่เห็นวิญญาณเมียและลูกเลย ไม่มีโอกาสแม้กระทั่งขอโทษ"
เอมิอึ้งตกใจ "นี่ลุงก็เห็นวิญญาณเหมือนกับแม่กับพ่อของเอมิเหรอคะ"
"ก็หลังจากที่แม่กับลุงของหนูตกเขานั่นแหละ"
เอมิอึ้งไม่รู้มาก่อนเลย ในอดีต
ความซนของซาเอโกะตอนเด็กในวัย 15 ปี
อวดดีอยากถ่ายรูปล่าท้าผีซาเอโกะห้อยกล้องโพราลอยด์ไปด้วย
“ผีโคนาคิ-จิจิ”ผีหน้าแก่ในตำนานที่ซ่อนตัวในป่าลึก เอริโกะเข้าป่าไปตามหา แดนเป็นวัยรุ่นเป็นห่วงเลยต้องตามไปด้วย
"เดินเร็วๆสิพี่แดน"
"เล่นอะไรเนี่ยซาโอโกะ มันใช่เรื่องเล่นๆเหรอไอ้ล่าท้าผีเนี่ย"
"กลัวล่ะสิกลัวก็ไม่ต้องตามมาดิ"
"แล้วพี่จะปล่อยให้เราเล่นแผลงๆกลางป่าคนเดียวได้ไงเพ้อเจ้อ"
"ก็ซาเอโกะพนันกับเพื่อนไว้ว่าจะถ่ายรูป“ผีโคนาคิ-จิจิ” ให้ได้เค้าลือกันว่ามีคนเห็น
ในป่านี้นี่นา"
"ผีอะไรนะ"
"ก็ผีโคนาคิ โจโจผีหน้าแก่ในตำนานไงเป็นผีร้องโหยหวนซ่อนตัวในป่าลึก"
ซาเอโกะวิ่งลั้นลาเข้าไปในป่า ใช้กล้องไปทั่วโดยมีแดนส่องไฟฉายนำทางให้
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนจนน่าขนลุกทั้งคู่ยืนนิ่ง
เงาวาบบางสิ่งวิ่งไปมาข้างหลังพร้อมเสียงโหยหวนดังใกล้ขึ้น
ผีหน้าแก่หลอกในป่าพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวน ทั้งคู่วิ่งหนีจนตกเขา
แดนและซาเอโกะนอนหมดสติบนพื้นแผลเต็มตัว
หลวงพ่อนั่งหลับตาสวดมนต์อยู่ตรงกลางระหว่างทั้งคู่พระลูกวัดคนหนึ่งจับชีพจรทั้งคู่บอกว่าชีพจรอ่อนมาก
หลวงพ่อสวดมนต์ก่อนเอามือวางที่ตาของทั้งสองคน เกิดแสงวาบที่ตาของทั้งคู่) ทั้งสองคนสะดุ้งรู้สึกตัว
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เห็นผี
ในหน่วยกู้ภัย ซินตะโกนอย่างอารมณ์เสียดัง
“โอ๊ย อยากไปญี่ปุ่นโว้ย”
ซินนั่งอยู่ในหน่วยกู้ภัยกับแสนแสบ ซินโวยจนแสนแสบสะดุ้ง
“จะตะโกนเพื่อ... อยู่กันสองคนแค่นี้”
“ก็มันหงุดหงิดโว้ย อยากไปแต่ทำไรไม่ได้”
“ส่งฝาชาเขียวไปชิงโชคมะเมิง”
“ไม่ขำ ไปเล่นไกลๆเลย”
“เอ้า ก็ช่วยคิดไง หรือจะแบบรับงานไซด์ไลน์ แบบสาวๆแก๊งค์ฆ่าหั่นศพนั่นน่ะ เอามะ พวกบาร์โฮสน่ะ พอรู้แหล่งน่ะเว้ย”
“ยังอีกยัง จะบวกใช่มะ”
“โหดว่ะ สายบวกไปอี๊ก แล้วมาบ่นงี้จะเอาไงวะ”
“ค่าตั๋วไม่ใช่เรื่องใหญ่ป่ะวะ แต่ไม่รู้เอมิอยู่เมืองไหนน่ะสิ”
“ก็โทรถามดิวะ จะยากไร”
“ก็ถ้าติดต่อได้จะมาบ่นงี้ไมวะ โห่ย”
เสียงมือถือซินดังพอดี ซินเห็นว่าเอมิเฟสทามมา ซินดีใจมาก
“เฮ้ย เอมิ”
ซินดีใจรีบรับสาย เดินแยกไป
“เอมิ ...ผมจะเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย”
แสนแสบมองตามอย่างหมั่นไส้
“หน้าหมาหงอยหายเชียวนะมึง แหม่”
เอมิ เดินอยู่ในวัดญี่ปุ่น วีดีคอลคุยกับซิน
“ขอโทษทีนะคะ เอมิใช้เครื่องเดิมเบอร์เดิมไม่ได้ ลุงสั่งห้ามเด็ดขาด ตาเพิ่งหาเครื่องใหม่มาให้ใช้วันนี้เอง”
ซินหามุมคุยเงียบๆอย่างตื่นเต้น
“ผมเข้าใจ ผมถึงได้แต่รอจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วเนี่ย ตั้งแต่เกิดเรื่อง เรายังไม่ได้เคลียร์กันเลย ผมอึดอัดจะตายอยู่แล้วที่เราแยกกันแบบไม่ไม่เข้าใจกันแบบนี้”
“เอมิรู้เรื่องหมดแล้ว ขอโทษนะซินที่เอมิงอแงไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ซินเสี่ยงชีวิตช่วยหาหลักฐานให้เอมิพ้นผิด เอมิผิดเองที่ไม่เชื่อใจซิน”
“ผมก็ผิด ที่พูดให้เอมิไม่สบายใจ แต่ช่างเถอะ ได้ยินแบบนี้ค่อยโล่งอกหน่อย เอมิเป็นไงบ้าง ตาหายเจ็บรึยัง”
“หายแล้วค่ะ แค่ยังเบลอๆบางที ...กับ....มีภาพซ้อนแปลกๆ”
“ภาพซ้อนเหรอ ยังไง? ไปหาหมอรึยัง”
“คงไม่มีอะไรหรอก มันคงเป็นเอฟเฟคที่ตากระทบเทือนนิดหน่อยแหละ แต่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ”
“จริงเหรอ ยังไงผมก็ห่วงอยู่ดี ไปอยู่คนเดียวต่างบ้านต่างเมืองแบบนั้น”
“เดี๋ยวๆ เอมิเป็นคนญี่ปุ่นนะ ต่างบ้านต่างเมืองตรงไหน”
“เออ จริง...ลืมเลย”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เอมิดูแลตัวเองได้ แล้วอยู่ที่นี่ปลอดภัยชัวร์ เอมิห่วงแต่คนที่โน่น
มากกว่า”
“ผมไม่เป็นไร”
“ใครบอกว่าห่วงตัวเล่า”
“อ้าว... แล้วนี่ห่วงใครบอกมานะ”
“ก็...หมอก้อย แล้วก็...ลุงน่ะสิ”
“หมอก้อยน่ะเข้าใจได้ แต่ลุงเอมินี่ทำไมต้องห่วง”
เอมิแว๊บคิดถึงเรื่องที่อิทาโกะพูด เป็นคัทสั้นๆ
“เอมิเจอใครบางคนที่นี่ เตือนว่าลุงอยู่ในอันตรายมากๆ แล้วที่สำคัญดวงตาพิเศษของลุงจะนำเรื่องร้ายถึงชีวิตเหมือนอย่างที่พ่อเคยเจอ”
“ดวงตาพิเศษเหรอ?? นั่นไง ผมว่าแล้วว่าลุงของเอมิต้องเห็นเหมือนที่ผมเห็น”
“อิกาโกะบอกว่า ตาของลุงมีพลังมากกว่าที่ใครจะรู้ด้วยซ้ำ”
“มากกว่าเหรอ?? มากกว่ายังไง”
ซินคิดตามอย่างสงสัยว่าอะไรที่มากกว่า
แดนยืนใช้ความคิดในห้องทำงานที่หน่วย DEI มองไปนอกหน้าต่าง
แว๊บนึงมีเงาดำวูบสะท้อนเงาในกระจก แดนยืนมองนิ่งๆ หลับตาลงเหมือนทำสมาธิ ก่อนจะลืมตาอีกครั้ง เห็นยังมีเงาสะท้อนในกระจก แต่กลับเป็นซินซะงั้น
แดนหันมา
“ใครอนุญาตให้นายเข้ามาที่นี่”
“ผมเข้าออกที่นี่ตั้งแต่ผู้กองเพชรยังอยู่แล้วครับ รปภ.รู้จักผมทุกคน”
ซินยิ้มกวนๆ
“นายมีธุระอะไร”
“ผมแค่อยากจะเปิดใจกับคนสายจิตสัมผัสเหมือนกันก็แค่นั้น แหม...หลอกผมมาตั้งนานเลยนะครับท่านรอง”
“ไม่ได้หลอก แค่ไม่ได้บอก”
ชินหน้าตาจริงจัง “เอาจริงนะครับ ดวงตาที่ผมได้มาก็เป็นของน้องสาวท่านรอง ผมก็มีสิทธิ์รู้ไม่ใช่เหรอ ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วมันจะเป็นยังไงต่อไป”
แดนวางงาน มองซินอย่างชั่งใจว่าซินก็พูดถูก
ภาพย้อนอดีตสั้นๆ แดนกับซาเอโกะตอนตกเขา พระญี่ปุ่นช่วยชีวิตไว้
แดนนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เห็นผี
“หลวงพ่อโซเซนบอกฉันว่า การได้ชีวิตที่สองของมนุษย์ย่อมต้องแลกด้วย
บางอย่างเสมอ”
แดนเล่าให้ซินที่กำลังฟังอย่างตั้งใจ
“ทั้งฉันทั้งน้องสาวเราฟื้นจากความตาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยพลังพิเศษที่เราไม่เคยอยากได้ หลังจากนั้นชีวิตเราก็เปลี่ยนไป”
“ยังไงเหรอครับ”
“แล้วชีวิตนายเปลี่ยนไปยังไงล่ะ หลังจากเห็นวิญญาณน่ะ”
“เยอะครับ จากเป็นเด็กห่ามๆใช้ชีวิตแบบไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่มีอะไรจะเสีย ก็รู้เห็นค่าการมีชีวิตมากชึ้น เพราะความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อม”
“ไม่ใช่แค่เอื้อม แต่มันอยู่รอบๆตัวเราตลอดเวลาต่างหาก”
แดนเหลือบมองเงาดำ ที่วนเวียนรอบตัวเขา แดนหน้าเครียดจนซินรู้สึก
“ท่านรองเห็นมากกว่าวิญญาณใช่มั้ยครับ ท่านรองเห็นอะไรอยู่หรอ”แดนมองรอบๆ
อย่างระแวงบ้าง
แดนมองนิ่ง เสียงเย็น
“เงาเตือนของความตาย ของคนใกล้ตาย!”
ซินขนลุกเบาๆ “แบบ...ยมทูตน่ะเหรอครับ”
แดนพยักหน้านิ่งๆ
“ซึ่งตอนนี้ท่านรองก็เห็นในห้องนี้”
แดนพยักหน้านิ่งๆอีก
“ซึ่งมีแค่เรา 2 คน เอ่อ....ก็แปลว่า ไม่ผมก็ท่านรอง...ที่...ใกล้ตายเหรอ”
แดนพยักหน้านิ่งๆช้าๆอย่างเครียดๆขั้นสุด ซินอึ้งเสียววูบ
เสียงโทรศัพท์มือถือแดนดังขึ้น แดนรับสาย
“ฮัลโหล รวี......ได้สิ จะนัดกันที่ไหน”
แดนอยู่ในห้องทำงานรวีมองๆตามรูปภาพเกี่ยวกับมนต์ดำลึกลับในห้องรวี บนชั้นโชว์พวกเครื่องรางต่างๆ และมีตุ๊กตาหุ่นฟางที่ใช้สาปแช่ง / บนชั้นหนังสือมีหนังสือเกี่ยวกับ ตำนานความลึกลับ /อำนาจพิเศษ / คำสาปและความเชื่อ
“แกสนใจศาสตร์ลี้ลับอะไรพวกนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่พ่อแม่ฉันตายไป ฉันก็พยายามเรียนรู้เรื่องโลกหลังความตาย เพื่อหาทางที่จะได้พบพวกท่านอีกครั้ง”
“แล้วเจอมั๊ย”
“ฉันได้แค่รู้สึกถึงความตายแต่ดวงตามองไม่เห็น”
“คนเรานี่ก็แปลก ชอบข้ามเขตพื้นที่ของพระเจ้า ทั้งๆที่ไม่ควรไปยุ่ง แต่ก็นั่นแหละนะมนุษย์ อยากรู้อยากเห็นไปทุกเรื่อง”
“แต่ถ้าฉันสามารถมองเห็นวิญญาณคนตายได้มันก็คงจะดีนะ”
รวีจ้องมองแดนจริงจัง
อ่านต่อตอนที่ 6