สุดยอดรอบ 10 ปี “แม่นาคเดอะมิวสิคัล” !
เข้าสู่โปรเจ็กต์สุดท้ายในวาระครบรอบ 33 ปี DREMBOX กับละครเวทีเรื่องที่ 3 ซึ่งเป็นเรื่องสุดท้ายในปีนี้ “แม่นาค เดอะมิวสิคัล” ถูกนำกลับมารีเมกใหม่ในรอบ 10 ปี
ช่วง 2 ปีนี้ "แม่นาค" เวอร์ชั่นที่ถูกกล่าวถึงมาก กลับมาจัดแสดงอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ ...
ปี 2561 วันที่ 16 พฤษภาคม “แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล” ค่ายซีเนริโอ โดย นัท มีเรีย, ตู่ ภพธร (เดิมคือ อาร์เดอะสตาร์ ปี 2552)
ปี 2562 ระหว่างวันที่ 25-31 กรกฎาคม ภาพยนตร์พีเรียด ดรามา “นางนาก” ของนนทรีย์ นิมิบุตร (23 กค. 2542) กลับมาในรอบ 20 ปี
ปีนี้อีกเช่นกัน “แม่นาค เดอะมิวสิคัล” (กรกฎาคม 2552) กลับมาอีกครั้ง ด้วยบทร้องและการแสดงของแม่นาคคนเดิม “น้ำมนต์” ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
โลกของนาค DREAMBOX
“แม่นาค เดอะมิวสิคัล” เป็นละครเวทีแบบร้องเพลงทั้งเรื่องโดยไม่มีบทพูด เรียกว่า Sung - theough
การกลับมาในรอบ 10 ปีนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ “น้ำมนต์” ธีรนัยน์ จะกลับมารับบทเดิม ! ส่วนนักแสดงหลักท่านอื่นๆ หลักใหญ่คือ “คงเดิม” มีบางตัวที่เปลี่ยนไปบ้าง เนื่องจากตารางการทำงานที่ไม่สามารถปรับให้ตรงกันได้
นักแสดงเมื่อเทียบกับ ปี 2552 (กรกฎาคม และธันวาคม) กับปีนี้ จะมีบางตัวละครเท่านั้นที่เปลี่ยนไป
นาค-มาก = ธีรนัยน์ ณ หนองคาย -กนกฉัตร มรรยาทอ่อน (เดิม : วรฤทธิ์ เฟื่องอารมณ์)
แม่เหมือน= มณีนุช เสมรสุต
ป้าแก่ = นรินทร ณ บางช้าง
ตาฉ่ำ = เด๋อ ดอกสะเดา
ขุนประจัน = ญาณี ตราโมท
แม่ทองคำ = อรวรรณ เย็นพูนสุข
สายหยุด = ภคมน บุณยะภูติ(เดิม : ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล)
เรือง= เสกรัก ชัยศรศรายุทธ(เดิม : ต่อตระกูล จันทิมา)
หมอผี= ศรัณย์ ทองปาน
พระ = ดิษย์กรณ์ ดิษยนันทน์ (เดิม : ธานี พูนสุวรรณ)
* เดือนกรกฎาคม 2552 ตัวละคร "แม่ทองคำ" สลับรอบเล่นระหว่าง อรวรรณ เย็นพูนศุข และรัดเกล้า อามระดิษ
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ทาง DreamBox ได้บันทึกการแสดงสด ในรูปแบบของ "เพลง" และ "การแสดง" ไว้ บทเพลง "แม่นาคเดอะมิวสิคัล" ถูกบันทึกไว้เป็น CD 4 แผ่น มีทั้งสิ้น 49 เพลง สอดคล้องกับการแสดงละครเรื่องนี้ ซึ่งแบ่งเป็น 4 องก์
ในหลายปีก่อน เคยนำ "แม่นาค เดอะมิวสิคัล" มาฉายที่ห้องชั้น 2 ของ M Theatre
บทเพลงทั้งหมด เริ่มครั้งแรก (กรกฎาคม 2552) ทั้งหมด 51 เพลง พอเดือนธันวาคมได้ตัด 2 เพลง (อยากให้พี่อยู่ดูหน้าลูก, แม่นาคตาย) และทอนเพลงให้กระชับขึ้นอีก 11 เพลง และหากใครที่คุ้นชินกับเพลงในแผ่นซีดี จะเห็นว่า ในครั้งนี้ก็มีการทอนในบางเพลงเพิ่มอีก เพื่อความกระชับ เพราะเมื่อ10 ปีที่แล้ว ความยาวของมิวสิคัลเรื่องนี้ ราว 3 ชั่วโมงครึ่ง !
อารมณ์เพลงในแม่นาค เดอะมิวสิคัล มีความหลากหลายมาก ทั้งเพลงรัก เพลงสนุก เพลงเศร้า เพลงเสียดสี เพลงเปรียบเทียบ เพลงคติธรรม ฯลฯ จนถือว่า เป็นเพลงที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเรื่องหนึ่งของละครเวทีไทย คำร้อง ทั้งหมดโดย ดารกา วงศ์ศิริ ส่วนผู้ให้ทำนองทั้งสิ้น 5 คนคือ ไกวัล กุลวัฒโนทัย, พลรักษ์ อมาตย์ธนเสฐ, สุธี แสงเสรีชน, ระพีเดช กุลบุศย์, ดำริห์ บรรณวิทยกิจ
การตีความแม่นาค
สำหรับ “แม่นาค” เรื่องนี้ เราจะเห็นความต่างที่ผิดแผกจากหนังและละครที่เราเคยดู !
1. “นาค” ไม่ได้มีพื้นเพเป็นคนพระโขนงมาแต่เดิม หากนาคเป็นบุตรีของขุนศรีประจัน กับนางทองคำ มีความรู้ การศึกษา หนีตาม “มาก” ชาวทุ่งพระโขนงที่ไปค้าข้าวที่อยุธยา จนเป็นเหตุให้พ่อตัดลูกสาวคนนี้ มีพียงแม่ที่คิดถึงลูกสาวตลอดเวลา
2. ป้าเหมือนตั้งใจให้มากแต่งงานกับ “สายหยุด” หลานสาว จะได้ดูแลยามแก่ ฝังใจว่า นาค มาแย่งความรักที่ลูกชายมีให้กับตนไป
3. สภาพสังคม ผู้หญิงไม่ได้มีบทบาทอะไร ในสังคมโบราณในยุคผู้ชายเป็นใหญ่ มีชีวิตอยู่ไปวันๆใช้แรงงาน เพื่อครอบครัวเท่านั้น
4. เมื่อความขัดแย้งถึงที่สุด "มาก" พา "นาค" ไปสร้างครอบครัวใหม่ที่ดงตะเคียน คุ้งน้ำพระโขนง ไม่ต้องการสุงสิงกับชาวบ้านทั้งหลาย
5. แม่นาคและลูกตายขณะคลอด เป็นเพราะ "ป้าเหมือนและสายหยุด" ใช้เล่ห์สกัด ป้าแก่ หมอตำแย ไม่ให้ไปทำคลอดได้ทันเวลา จนเป็นเหตุให้นาค และลูกตายพร้อมกัน! ตามที่นางเคยสาปแช่งไว้
ทั้งหมดคือ ปฐมเหตุ ของ "แม่นาค เดอะมิวสิคัล" เรื่องนี้ คำประกาศของ “แม่นาค” เวอร์ชั่นนี้คือ “ข้ายังไม่พร้อมจะยอมตาย” และสร้างโลกขึ้นมาใหม่
บทเพลงสุดยอด !
นี่เป็นบางส่วนของเนื้อในบางบทเพลงของละครเรื่องนี้ เพื่อเป็นตัวอย่าง
เพลง "ฟ้าเป็นพยาน" เสมือนคำสาบานรักของ "พ่อมาก" และ "แม่นาค" (ดังภาพประกอบ)
เพลง "มีกรรมเพราะความรัก" (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย) เป็นตัวอย่างของเพลงในเชิงเปรียบเทียบ แสดงถึงความผูกพัน จากพรากของแม่ทองคำและลูกสาว
“โอ้ลูกน้อย แต่เท้าเท่าฝาหอยแม่คอยเลี้ยงเจ้า แต่นี้คงไม่เห็นแม้เพียงแต่เงา หัวใจแม่ร้าว โอ้เจ้าอยู่ไหน ....โอ้ใจเอ๋ยใจ หรือจนตายก็ไม่ได้เจอ (ทองคำ)
โอ้แม่จ๋า ลูกนี้เลวนักหนาทิ้งแม่ลงได้ ต่อไปแม่นี้จะเป็นเช่นไร แล้วจะมีใครคอยช่วยดูแล... โอ้ใจเอ๋ยใจ หรือจนตายก็ไม่ได้เจอ (นาค)”
เพลง “ลูกสะใภ้ทำอะไรไม่เป็น” (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย) เป็นเพลงที่แสดงถึงค่านิยมของสังคมในอดีต ซึ่งสะท้อนผ่านตัว "แม่เหมือน" ที่มีต่อลูกสะใภ้ผู้นี้
“เป็นผู้หญิงมีค่าน้อยกว่าควาย เคยได้ยินบ้างไหมหล่อนจ๋า เพราะควายมันยังขายได้ราคา แต่ผู้หญิงไม่มีค่าซักสตางค์ ... ทำงานนี่ยังไม่จะยากอะไรหือ หรือแม่หล่อนไม่เคยฝึกปรือสอนสั่ง นี่ไม่ใช่บ้านหล่อนจะได้เอาแต่นอนแต่นั่ง แค่หุงข้าวก็ยังทำไม่เป็น”
หรือเพลง “เมียหรือแม่” (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย)
“มึงรู้ไหมกูเหนื่อยแค่ไหน กว่าจะเลี้ยงลูกโตปานนั้น แทนที่มันจะแต่งเมีย มาให้กูใช้งาน กับเป็นกูต้องมาตรากตรำสอนงานมึง(แม่เหมือนขาโปรดกรุณา โปรดเมตตาลูกในท้อง) กูไม่รับเป็นหลานในไส้ จะตีให้ตัวจัญไรมันไหลออกมา ..... กูขอแช่งให้ทั้งเมียผัวจงฉิบหาย อีนาคกูขอแช่งให้มึงตาย ตาย ตาย พร้อมลูกมึง”
แม่นาคเวอร์ชั่นนี้ ตายเพราะความเกลียดชังของ แม่เหมือน และสายหยุด !
สายหยุดร้องเพลง “ลูกหมาลูกควายคลอดเองได้” (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย) ความว่า
" ก็จริง ที่ทั้งลูกหมา ลูกควาย ไม่ต้องมีหมอก็ออกมาได้ไม่ยาก แต่ว่าลูกมันก็เป็นหลานป้า เป็นลูกพี่มากด้วยไม่ใช่หรือ (สายหยุดเอ็งมันโง่เหมือนกระบือ โง่อย่างนี้จึงถูกยื้อผู้ชายไป เอ็งไม่รู้หรือไงว่า ข้าไม่อยากได้ ไอ้เด็กนั่นไม่ใช่หลานข้า ข้าๆไม่อยากให้มันเกิดมา อยากให้มันตายโหงตายห่าทั้งสองคน)
เมื่อแม่นาคจบชีวิต ไม่มีใครทำคลอด ! นางทองคำมากับเรือวิญญาณ หวังรับลูกสาวขึ้น "เรือแห่งมรณา" (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย) ไปอยู่ด้วยกัน .... “ลูกเอย เรือลำนี้ไม่รอท่า เรือแห่งมรณาต้องเคลื่อนไป ลูกจ๋ามาเถิดสายใย จงไปสู่ภพใหม่ด้วยกัน”
แม่นาคไม่ยอมขึ้นเรือมรณา ลั่นประกาศ “ข้ายังไม่พร้อมจะยอมตาย” (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย)
“ไม่ ไม่ ข้ายังไม่พร้อมจะไป ไม่ว่าจะภพภูมิใด ไม่ว่าสวรรค์บัญชา ไม่ว่านรกจะสั่ง มาอาจหยุดรั้งข้าได้ เพราะไฟในหัวใจยังโหยหา เลือดเนื้อและวิญญากระซิบว่าอย่าไป...
ยังมีหลายสิ่งที่ต้องทำ มากมายคำถาม ความจริงหลายอย่างที่ต้องหาคำตอบให้รู้ อีกทั้งคนรักที่คอยรอคอย อีกทั้งลูกน้อยที่ห่วงหา อยากเห็นอาทิตย์อุทัยกลับมาส่องชีวิตสักครั้ง ให้ความสุขกลับมาดังหวัง”
แล้ว “โลกของนาค” (ทำนอง : พลรักษ์ อมาตย์ธนเสฐ) ก็เกิดขึ้น
“โหดร้ายนักหนา ทารุณเกินกว่าจะเข้าใจ ... ฉันจะสร้างโลกนี้ขึ้นมาใหม่
ให้มีเพียงเราเท่านั้นพอ จะมีแต่คนที่ฉันรัก จะมีแต่คนที่รักฉัน มีแต่เสียงหัวเราะเบิกบาน
ไม่มีใครตาย ไม่มีใครเป็นทุกข์ มีแต่พ่อแม่และลูกน้อยกลอยใจ”
เพลงประเภท “คติธรรม” ก็มีแทรกอยู่ในละครเรื่องนี้ ดังเช่น
เพลง “สามบ่วง” (ทำนอง : พลรักษ์ อมาตย์ธนเสฐ) ที่ร้องโดยตาฉ่ำ สัปเหร่อ (เด๋อ ดอกสะเดา)
“ปุตโต คีวังได้บ่วงหนึ่ง คล้องคอไว้คือลูกยา อย่าห่วงเลยหนาจงตัดอาลัย
ภริยา ปาเทได้บ่วงสองมัดแขนแทนคู่ใจ จะห่วงเท่าไรก็ต้องจากจร
ธะนัง หัตเถ ได้บ่วงสามมัดคล้องสองข้อเท้า ห่วงทรัพย์สิน ไพร่บ่าว คนข้างหลังแม่เอย สรรพสิ่งเหล่านี้ไม่จิรัง จะยื้อยั้งเท่าไรไม่กลับคืน ...”
เพลง “ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก” (ทำนอง : ไกวัล กุลวัฒโนทัย) ที่ร้องโดย มาก - นาค- หลวงตา หมู่ชาย-หญิง
“ปิยโต ชายเต โสโก ปิยโต ชายเต ภยํ
ปิยโต วิปฺปมุสฺตสฺส นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ
ความโศกย่อมเกิดแต่ความรัก ภัยก็บังเกิดแต่ความรัก
ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้หลุดพ้นแล้วจากความรัก
แล้วภัยจักมีจากที่ไหนเล่า”
เหตุการณ์ทั้งหลาย เริ่มต้นในรัชกาลที่ 4 เมื่อเดือน 5 ปี พ.ศ. 2395 ดำเนินเรื่องราวเป็นเวลา 1 ปี จนวิญญาณแม่นาคสู่สุคติ
ความโดดเด่นของแม่นาค เดอะมิวสิคัล เรื่องนี้ คือบทเพลงทั้งหลายที่ถูกขับโดยนักแสดงที่มีเสียงร้องคุณภาพ ไม่ว่า จะเป็น ธีรนัยน์ ณ หนองคาย, มณีนุช เสมรสุต และคนอื่นๆ จนทำให้ผู้ชมดื่มด่ำไปกับเรื่องราวและบทเพลง การนำเสนอตัวอย่างในบทเพลงข้างบนนี้ อาจจะทำให้เห็นภาพเรื่องราวจากการตีความใหม่โดย “โจ้” ดารกา วงศ์ศิริ ที่แตกต่างจากแม่นาคเดิมๆ ทั้งยังได้ฝีมือการกำกับของ “ลิง” สุวรรณดี จักราวรวุธ ที่รับประกันคุณภาพและประสบการณ์การทำงานมากว่า 30 กว่าปีของค่ายนี้
บอกได้ว่า “แม่นาค เดอะมิวสิคัล” เรื่องนี้ สมบูรณ์ด้วยเนื้อหา บทเพลงที่ไพเราะ ซาบซึ้ง อิ่มเอมใน “รสรัก” ไปกับตำนานความสัมพันธ์ของ “คน” กับ “ผี” แน่นอน! กล้ารับประกันความคุ้มค่า ...
เหลืออีกไม่กี่รอบเท่านั้น
วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น.
วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น.
วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น.
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น.
วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน เวลา 19.30 น.
วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม เวลา 14.00 น.
สามารถจองบัตรได้ที่fb : dreamboxtheatrebkkหรือโทร. 085-4166661
ภาพฟิตติ้ง: นภัสรพี สุนทรธิรนันทน์ และ สุวิทย์ กิตติเธียร
ภาพการแสดง : พิชามญชุ์ ช้างขวัญยืน แห่ง Chang Photography
