ไดมอนด์อายส์ ตา-สัมผัส-ผี 2 ตอนที่ 3 : ฤทธิ์ยาซอมบี้
ชื่อสากล :Diamond Eyes 2
บทโทรทัศน์ : สายขิม
ภายในรถ หลังผับวีไอพี แดนกับเนมกำลังคุยกัน
"ว่าไง มีนัดอะไรสำคัญ ถึงขั้นต้องโทรตามฉัน"
"ก็คิดว่าสำคัญจนคุณน่าจะอยากรู้ นี่คือเบาะแสเครือข่ายอีกธุรกิจหนึ่งของ THE SUN"
แดนหน้าเครียดมองเนม เนมยื่นรูป4-5 ใบให้แดนดู เป็นรูปภาพการชกมวยในห้อง VIP
"คู่ค้าที่ทำธุรกิจมืดของผมหลายคนที่พัทยาได้รับ smsและ barcode ชวนให้ไปดูไฟท์คลับ"
"ไฟท์คลับ?"
"สายรายงานว่า THE SUN มีธุรกิจต่อยมวยเถื่อนใต้ดินที่พัทยา รับแทงเดิมพัน สูงเป็นล้าน ไม่มีสถานที่และเวลาตายตัว แขก VIP ที่มีสิทธิเข้าชมจะรู้ตัวล่วงหน้าก่อนวันแข่งแค่สามวันเท่านั้น" เนมว่า
"นายอยากให้ฉันส่งคนแทรกซึมเข้าไปเพื่อความชัวร์"
"ไม่.. ผมจะแทรกซึมเข้าไปที่ไฟท์คลับนั่นเอง"
เนมชูมือถือที่มี smsแสดง barcode บอกสถานที่จุดนัดหมายและเวลาจากที่มาลึกลับให้แดนดู
"เพื่อนนักธุรกิจของผม recommend ผมไป และคงเข้าตาพวกมัน ผมจะเข้าไปดู ไฟท์คลับที่พัทยา และคอยส่งข่าวมาให้คุณ อย่างน้อยเราอาจจะได้เบาะแสของ THE SUN มากขึ้น" เนมว่า
เสียงวิทยุเพลงโบราณกำลังเปิดอยู่ในห้องโถงของบ้านสาลี่ ยายกำลังนอนฟังวิทยุอยู่บนเก้าอี้โยก
สาลี่แอบคุยโทรศัพท์อยู่ในมุม หน้าตาร้อนรน
"ฉันไม่ได้ฆ่าคนตาย!"
สาลี่หันไปมองยาย กลัวยายได้ยิน ก่อนเบาเสียงลง
"นักมวยนั่นมีอาการแปลกๆอยู่แล้ว ทุกคนก็เห็น"
คนดูแลบอก "ไม่มีใครเห็นทั้งนั้น.. ทุกคนเห็นแต่ว่าแกชกมันตาย"
"ไม่จริง! ยังไงแกก็ต้องจ่ายเงินฉันมา ค่าขึ้นชก ไม่งั้นฉันจะบอกทุกคนเรื่องไฟท์คลับให้หมด!"
"แกจะไปรู้เรื่องอะไรในไฟท์คลับ แกมันก็แค่คนขึ้นชกเท่านั้น! ตำรวจตามจับข้อหาฆ่าคนตายกับแกอยู่ร่อมร่อ เอาเงินจากฉันไปตอนนี้ แกก็ไม่มีปัญญาเอาไปรักษายายแกหรอก"
สาลี่ได้ยินก็ตกใจ พวกมันสืบข้อมูลของเธอ
"แกรู้ได้ยังไง"
ภาพในมือถือส่งมาเป็นภาพถ่ายจากด้านนอกบ้านของสาลี่ เห็นยายนอนอยู่
"แก ไอ้พวกชั่ว อย่ามายุ่งกับยายฉันนะ!"
"สู้แกตามตำรวจไปดีกว่า ฉันจะไม่ยุ่งกับยายแก แถมจะให้เงินก้อนใหญ่กว่าที่ตกลงไว้ด้วย หลักแสน ..รับรองว่าพอค่ารักษาตายายแกแน่"
สาลี่ได้ยินก็เงียบไป..
"ถ้าปิดปากเอาไว้ เงินก้อนนั้นก็จะลอยไปอยู่ในบัญชีแก คิดดูดีๆก็แล้วกัน"
สาลี่คิดหนัก เม้มปากเครียด
วันใหม่ พ.ต.ท. แดเนียลซาโต้พลิกรูปสาลี่กลับไปกลับมา
"เด็กใหม่โนเนมของไฟท์คลับ"
จ่าวาวเคาะประตูก่อนจะเดินมาที่ห้อง ในมือถือเอกสาร แดนพับรูปเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อทันที
"จ่าวาวรายงานตัวคะ"
พอก้าวเดินวาวก็สะดุดล้มจนเอกสารกระจายเกลื่อน
แดนถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นมาช่วยวาวเก็บเอกสาร
"ขะ..ขอ..ขอโทษค่ะท่านรอง พอดีวาวตื่นเต้นไปหน่อ..ย ขาเลยพันกัน"
"ผมแค่เรียกจ่ามา จ่าจะตื่นเต้นอะไร"
"ก็..ท่านรองเรียกวาวมามอบหมายงานไม่ใช่หรอคะ" จ่าวาวยิ้ม
"ผมแค่จะบอกว่าผมจะไม่อยู่สักสองสามวันนะ อยากไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัดสักหน่อย"
"พักผ่อน! ตะ..ตอน..ตอนนี้เนี่ยหรอคะ" จ่าวาวงง
แดนพยักหน้าก่อนจะดันเอกสารเข้าใส่มือวาวเหมือนเดิม
"ใช่ มีเรื่องอะไรก็จัดการกันไปได้เลย ถ้าด่วนมากก็โทรหาผมได้ตลอด โอเคนะ"
แดนเดินจากไป
วันใหม่ ที่บ้านแดน เอมิ หมอก้อย ซิน ทั้งหมดกำลังเตรียมตัวออกเดินทางไปพัทยากัน เอมิและซินอยู่ในชุดโหมดไปทะเลจัดเต็ม
ซินและแดนกำลังช่วยกันยกกระเป๋าขึ้นหลังรถ
หมอก้อยบอก "กระเป๋าฉัน ให้ฉันยกเองดีกว่าค่ะ"
ซินยกมือห้าม "ไม่ต้องเลยครับ เลดี้" แล้วชี้หมอก้อย "แอนด์เจนเทิลแมน" แล้วผายมือไปทางตัวเองกับแดน "ให้พวกผมยกให้ดีกว่าครับ"
หมอก้อยมีท่าทีเกรงใจอย่างเห็นได้ชัด
"นั่นน่ะสิคะ เอมิอุตส่าห์พาบอดี้การ์ดไปด้วยตั้งสองคน"
แดนหันมาเห็นเอมิ ซินหยอกหมอก้อยหมดรูปก็ยิ้มขำ
"ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเถอะ"
เสียงแสนแสบดังเข้ามา "พร้อมแล้วครับ!"
หมอก้อย,เอมิ,ซิน โพล่งพร้อมกัน "แสนแสบ!"
แสนแสบยืนยิ้มหน้าทะเล้น ใส่เสื้อฮาวายกางเกงขาสั้น หมวกปีกกว้างสะพายเป้ พร้อมยิ่งกว่าพร้อม
ซินโวยวาย "นี่มาได้ไงเนี่ย! ใครชวนมา!"
"เอ้า! ก็ฉันเห็นแกจัดเสื้อผ้ายิ้มหน่อยยิ้มใหญ่ ปากบอกจะไปเที่ยวกับเอมิ ฉันก็คิดว่าแกต้องลืมชวนฉันแน่ๆ ฉันก็เลยมาเองไง"
"โธ่! นี่มันทริปฮันนีมูน แบบ.."
ซินทำหน้าอึดอัดใจ แล้วก็ลากเสื้อแสนแสบมาใกล้ๆก่อนกระซิบ
"ดับเบิ้ลเดท..อะ เข้าใจ๊"
"แต่เค้าอยากไปเที่ยวนินา" แสนแสบมองเอมิอ้อนๆ "นะๆ รถมีที่เหลือนี่นา รถคันเบ้อเริ่มอ่า นะๆ เอมินะ เค้าปิ้งาร์บีคิวอร่อยนะ"
แดนเสียงนิ่งๆ "จะไปกันได้รึยัง สายแล้ว"
เอมิสงสารแสนแสบเดินไปเกาะแขนแดน
"ลุงคะให้แสนแสบไปด้วยกันนะคะ หลายคนสนุกดี"
แดนมองอย่างราคาญนิดๆ "อย่าก่อเรื่องก็แล้วกัน"
แสนแสบยกมือไหว้ "ขอบคุณคร๊าบ"
แสนแสบเฮนำทุกคนวิ่งขึ้นรถไปก่อน แล้วบอก
"แกมานั่งหลังข้างฉันเลยไอ้ซิน"
เอมิจูงหมอก้อยขึ้นรถไป ตามไปด้วยซินที่ทำหน้าเซ็งๆ
หมอก้อยหันมามองแดน เห็นแดนหยิบกระดาษอะไรออกมาดู ก่อนเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ
ภายในห้องสอบสวน สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ สาลี่หน้ายังมีร่องรอยของบาดแผล นั่งตาโรยเหมือนคนไม่ได้นอน ผิดกับตำรวจที่นั่งอยู่ตรงข้าม ท่าทางหงุดหงิด
ตำรวจโมโห
"นี่คุณตั้งใจมามอบตัว แต่กลับไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลย แล้วผมจะสืบสวนข้อเท็จจริงได้ยังไง"
สาลี่มองหน้าตำรวจนิ่ง เล่นสงครามประสาท
"ผมให้เวลาคุณมาทั้งวันแล้วนะ ถ้ายังไม่พูดอธิบายอะไร ด้วยหลักฐานที่มี คุณเตรียมตัวเข้าตารางได้เลย"
สาลี่ฟังแล้วท่าทางเหมือนไม่ได้ยิน ตำรวจเลื่อนเก้าอี้ด้วยความโมโห
ตำรวจเปิดประตูออกไป
แววตาสาลี่เหม่อลอย
สภาพในบ้านสาลี่ดูลำบาก อยู่แบบตามมีตามเกิด
ยายนั่งอยู่หน้าบ้าน โดยสาลีนั่งกำลังหยอดตาให้
ยายดึงมือสาลี่มากุมไว้ สาลี่น้ำตาคลอ
"ไม่ต้องเสียเงินเสียทองมารักษาตายายหรอกลูก เก็บเงินไว้ใช้อยู่ใช้กินดีกว่า"
"ถ้าหนูไม่เอาเงินรักษายาย หนูจะมีเงินไว้ทำไม"
"แต่เงินมันไม่ใช่น้อยๆนะลูก"
"ไม่ต้องห่วง หนูมีวิธี"
ภายในรถ แดนขับรถอยู่ หมอก้อยนั่งคู่ข้างๆ ซิน เอมิและแสนแสบนั่งหลับอย่างหมดสภาพอยู่ด้านหลัง
"เมื่อกี้ยังเจี๊ยวจ๊าวอยู่เลย ตอนนี้หมดแรงกันทุกคนละ"
แดนขับรถหน้าเครียด เหมือนมีเรื่องในใจ ไม่ได้ยินเสียงหมอก้อยพูด
"คุณคะ"
แดนไม่ได้ยินเสียงหมอก้อยพูด
"คุณแดนคะ" หมอก้อยเสียงดังขึ้น
แดนเริ่มรู้ตัว " ว่าไงหมอ เรียกผมทำไม"
"คุณเหม่อตอนขับรถแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า"
"ผมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ ไม่ได้มีอะไรสำคัญหรอก"
"แน่ใจนะคะว่าไม่สำคัญ ฉันเห็นว่าคุณกังวลทั้งวันเลย ทริปนี้ไม่ใช่การมาเที่ยวของคุณใช่มั้ยคะ"
หมอก้อยเหลือบมองกระเป๋าเสื้อแดนที่มีรูปซ่อนอยู่ แดนรู้ว่าหมอก้อยรู้ทัน
"คิดมาก ผมก็แค่อยากพาเอมิมาพักผ่อนก็เท่านั้น คุณเองก็หลับเถอะ อีกสักพักก็ถึงแล้ว"
แดนเอื้อมมือไปเปิดวิทยุให้ดังขึ้น เป็นการจบบทสนทนา
หมอก้อยมองออกไปนอกหน้าต่างสีหน้าค่อนข้างกังวล
แดนเดินนำทุกคนเข้ามาเช็คอินที่โรงแรม
เอมิ ซิน และแสนแสบมองไปโรงแรมริมทะเลอย่างอึ้งๆ
เอมิตื่นเต้น "โรงแรมติดชายหาดขนาดนี้เลยหรอคะ"
"ด้านบนมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งบนดาดฟ้า หรูที่สุดในแถบพัทยาเลย" แดนว่า
แสนแสบสะกิดซิน "ไหนแกบอกสิ.. ลุงเอมิรวยแค่ไหนนะ"
"แหม่ ยืนกันอยู่แค่นี้ยังนินทาแบบเผาขนอีก ถ้าแกอยากรู้ก็ถามเองเซ่ะ"
ซินผลักแสนแสบไปทางแดน แสนแสบยื้อยุดแทบไม่ทัน แดนมองขำ
"ทุกคนพักผ่อนตามสบายนะ ขึ้นไปก่อนได้เลย"
เสียงเนมเข้ามา "ไม่คิดว่าจะมาพักผ่อนกันทั้งครอบครัวแบบนี้นะครับเนี่ย"
เนมในชุดสูทท่าทางหล่อเหลา เดินเข้ามาหาทั้งห้าคน
แดนมองเนมตาเป็นประกาย รู้ว่าเนมจะมาส่งข่าวแน่
"เอ๊ะ นี่นายก็มาเที่ยวเหมือนกันเหรอ โลกกลมจัง เจอกันอีกแล้ว" เอมิถาม
เนมหลิ่วตาให้เอมิทันที ซินหน้าตึงเดินมาบังด้านหน้าเอมิ
"ปลื้มจังครับ ที่เอมิจำผมได้"
"เหรอ ...น่าปลื้มตรงไหน คำว่าเจอกันอีกแล้ว...บางที ก็อาจหมายถึง เจออยู่ได้
น่าราคาญมากกว่า"
เอมิตีแขนซิน "พูดอะไรเนี่ย ขวางโลก" ก่อนคุยกับเนม "นายชื่ออะไรนะ เนมใช่มะ"
เนมยิ้มปลื้ม "ว้าว ปลื้มสองต่อ จำชื่อผมได้แบบนี้" เนมเหล่ซินกวน "คงไม่ใช่ราคาญแล้วล่ะ เค้า
เรียกว่า ชะตาต้องกันมากกว่า"
เอมิร้อนตัวหันไปทางซินทันที
"ก็แค่บังเอิญน่า"
ท่าทางยียวนของเนม ทำให้ซินและแสนแสบไม่ชอบหน้าทันที
แดนบอกกับหมอก้อย "ผมฝากคุณเช็คอินหน่อยนะ"
แดนจับแขนเนมแล้วลากเดินไปที่อื่น หมอก้อยมองตาม
แดนคุยกับเนมอยู่มุมใดใด แดนหน้าตึง
"นอกจากเรื่องที่นายเหล่หลานสาวฉัน นายมีอย่างอื่นอยากบอกอีกมั้ย"
เนมหัวเราะขำ "ผมแค่จะมาส่งข่าวเรื่องไฟท์คลับต่างหากครับ"
แดนเปลี่ยนเป็นสีหน้าจริงจังทันที
"มีข่าวอะไรอีก"
เนมส่งมือถือ "ข้อความลับ"
แดนดูมือถือเนม เห็น smsและ barcode อีกรอบ พร้อมยืนยันจุดนัดหมายและสถานที่
"นี่พวกมันไม่มีการเลื่อนวันชก แสดงว่าไม่กังวลเรื่องนักมวยโนเนมคนนั้นเลย"
"นี่แหละที่แปลก นักมวยโนเนมคนนั้นก็ไปมอบตัวกับตำรวจเองตั้งแต่เช้าแล้ว"
"มอบตัวเอง?"
"ผมคิดว่าคงตั้งใจไปรับผิด ไม่ให้เรื่องราวสาวไปถึง THE SUN ได้ อย่างไงซะ เรื่องนี้ ต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนเบื้องหลังแน่ๆ"
แดนนิ่งคิดตามที่เนมพูด
"งั้น..ฉันคงต้องเช็คกับตำรวจที่นี่สักหน่อย ส่วนนาย..."
เนมนิ่งรอคำสั่งจากแดน
"ไม่ต้องเข้าใกล้เอมิมากก็ดี"
เนมขำในความหวงหลานสาวของคุณลุง
ที่ออฟฟิศ หน่วย DEI
หมวดสาริน คุยโทรศัพท์อยู่ที่โต๊ะ
"ครับท่านรอง ...จ่าจักรนำทีมลงพื้นที่ตรวจสอบยาเสพติดอยู่ที่เชียงใหม่ครับ ..ได้ครับ พัทยาหรอครับ เดี๋ยวผมไปเองครับท่านรอง....เอ่อ....ต้องเอาไปด้วยหรอครับ"
หมวดสารินชะงักแล้วหันไปทางจ่าวาว ก่อนรับคำ
"เอ่อ..ได้ครับ"
หมวดสารินวางโทรศัพท์ แล้วเลื่อนเก้าอี้ไปหาวาว
"นี่คุณเก็บของและเตรียมตัวไปพัทยา"
"ไปพัทยา..จะชวนไปเที่ยวทะเลหรือคะ"
"อย่ามโน ท่านรองสั่งมีงานด่วนต้องใช้รถตู้หน่วยปฎิบัติผ่ายไอที อาจจะต้องมีการแฮ๊คข้อมูลพวกองค์กรมวยใต้ดิน"
"ไม่ได้ค่ะ"
"ทำไมไม่ได้"
"ก็เพราะท่านรองบอกว่าจะไปพักร้อนฉันเอารถเข้าศูนย์ไปคะ"
"เฮ้ยอะไรของคุณ ใครสั่งเมื่อไหร่จะเลิกทำเกินหน้าที่ซะที"
"ไม่ต้องห่วงคะ ฉันจัดการได้ด้วยคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว"
"โม้"
"ไม่ได้โม้ วาวซะอย่าง"
ทุกคนกำลังยืนรอลิฟท์ เอมิมีท่าทีตื่นเต้นสุดๆ ดีใจที่ได้มาเที่ยว
"เอมิอยากไปกินร้านอาหารทะเลอร่อยที่เขาบอกว่าอยู่ริมหาดมากเลยค่ะ เราไป กินกันเลยนะคะ"
"แค่คิดถึงขาปูสดๆ จิ้มน้าจิ้มซีฟู๊ดนะ โอ้โห เปรี้ยวปาก" แสนแสบลากเสียงยาว
ซิน เอมิ แสนแสบ สามคนทำท่าเคลิ้ม ตะกละ น้ำลายไหล
หมอก้อยหัวเราะ "แต่นี่ยังไม่ใช่มื้อเย็นเลยนะจ้ะ รีบไปหรือเปล่า"
แดนบอก "ไว้มื้อเย็นละกัน เดี๋ยวลุงก็ว่าจะออกไปเดินดูอะไรในเมืองสักหน่อย เอมิไปเดิน
เที่ยวเล่นกับเพื่อนก่อนก็ได้ เดี๋ยวค่อยกินพร้อมกันตอนเย็น"
"อ้าว! ลุงไม่ไปด้วยกันหรอคะ"
"ลุงแก่แล้วนะ เดินด้วยกันกับเด็กๆจะหมดสนุกซะเปล่าๆ ไปเถอะ ลุงไม่ได้มาพัทยาเป็นสิบๆปีแล้ว ขอเดินดูความเปลี่ยนแปลงตามตรอกซอกซอยดีกว่า"
"ไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวผมจะคอยดูแลเทคแคร์เอมิเป็นอย่างดี" ชินว่า
เอมิกระทุ้งซอกใส่ซินหนึ่งทีไปตามระเบียบ ซินจุก
แสนแสบต่อ "ครับท่านรอง ไว้ใจผม ไอ้ซินดูเอมิ ผมจะคอยจับตาดูเอมิอีกที ไม่ให้มันรุ่มร่าม
กับเอมิแน่นอน บอกแล้วให้ผมมามีประโยชน์แน่นวล 55555"
ซินเหลือบตามองแสนแสบอย่างเคืองๆ แดนยิ้ม
"งั้นลุงไปก่อนนะ เอมิ ... ฝากนายสองคนด้วย"
หมอก้อยพูดขัด "เดี๋ยวค่ะ ฉันก็อยากไปเดินเล่นในเมืองเหมือนกัน ฉันไปด้วยสิ"
"ผมจะไปธุระ ...ไม่สะดวก"
"อ้าว...ก็เมื่อกี้ลุงบอกจะไปชมเมืองไงคะ" เอมิว่า
"ใช่...หรือคุณมีอะไรปิดบัง"
แดนอึ้ง...ไม่อยากให้เอมิรู้ว่าที่จริงแอบมาทำงานเลยไม่กล้าพูดต่อ
แดนหันไปมองหมอก้อย หมอก้อยยิ้มเหมือนรู้ทัน ก่อนจะออกตัวเดินนำไปก่อน
แดนรีบเดินตามไป
"คิดว่าจะมาเที่ยวกันเป็นแก๊งใหญ่ๆสักหน่อย ลุงนี่นะ"
"ดีแล้ว.. เราจะได้อยู่ด้วยกันสองคนไง ไม่ดีหรอ" ชินว่า
"สองคนอะไรเล่า! สามสิ มีฉันด้วย" แสนแสบว่า
"ปากมากแบบนี้ ไปอยู่คนเดียวเลยไป!" ชินไล่
ซินทำท่าเหมือนจะควงเอมิ ทิ้งแสนแสบให้เฉาอยู่คนเดียว
หมอก้อยเดินนำมาหน้าโรงแรมก่อน แดนวิ่งตามมา รั้งแขนไว้
"เดี๋ยวก่อนคุณ ผม...ไม่สะดวก"
"ก็คุณบอกอยากจะไปเดินชมเมือง ฉันก็อยากเดินชมบ้าง ไม่ได้หรือไง ไปด้วยกันก็ดีออก"
หมอก้อยจะเดินนำไปต่อ แดนตามมารั้งแขนอีกที
"คุณไปกับผมไม่ได้"
"ทำไม.. เพราะคุณไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวหรอก ฉันพูดถูกมั้ย.. คุณตั้งใจมาทำ อะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับกระดาษในกระเป๋าเสื้อคุณมากกว่า"
แดนเงียบ หมอก้อยพูดถูกทุกอย่าง
"ฉันรู้ว่าตลอดการเดินทางมาที่พัทยา คุณกำลังวางแผนอะไรบางอย่าง ที่ไม่ยอมเล่าให้ใครฟัง"
หมอก้อยเดินเข้าไปหาแดน
"แต่.. ฉันจะบอกคุณว่า มันง่ายมากที่จะบอกกันตรงๆ แม้แต่เอมิ การเป็นครอบครัว คุณก็ต้องรู้จักที่จะเปิดใจตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทุกเรื่องที่คุณต้องเผชิญหน้าแค่คนเดียว บางทีคนอื่นหรือฉันอาจจะพอช่วยเหลือคุณบ้างก็ได้"
แดนมองหน้าหมอก้อย ตัดสินใจ
ณ สถานีตำรวจท้องที่ ตำรวจหน้าตาบึ้งตึงเปิดประตูออกมาเจอหมอก้อย กับแดน กำลังยืนสังเกตการณ์จากด้านนอก
แดน ชูบัตรประจาตำแหน่งของตัวเองให้ตำรวจดู
"ผมพันตำรวจโท แดนเนียล ซาโต้ ผมอยากรู้เบาะแสเบื้องหลังของไฟท์คลับ"
"ครับท่าน"
"ในห้องนั่นคือนักชกที่มีคดีที่ไฟท์คลับใช่มั้ย ได้ข้อมูลอะไรมาบ้าง"
ตำรวจท่าทางหนักใจ "ผมซักมาทั้งวันตั้งแต่มอบตัว ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมตอบสักคำถามเลยครับท่าน"
"ไม่มีการซักทอดเลยหรอ"
"ไม่มีเลยครับ ปิดปากเงียบสนิท นั่งเหมือนปลาตายมาตั้งแต่เช้า ผมไม่รู้ต้องทำไงแล้ว"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง"
ตำรวจถอนหายใจแล้วเดินออกไป แดนทำท่าจะเดินเข้าไปสืบสวนต่อ
หมอก้อยเดินไปขวางหน้าแดน
"ขอฉันลองเข้าไปคุยเองได้มั้ยคะ?"
"คุณเนี่ยน่ะ"
"ฉันเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เธออาจจะลดกำแพงได้มากกว่า อย่าลืมสิฉันอบรมจิตวิทยาการพูดมานะ อาจให้ผลดีกว่าก็ได้ คุณให้ฉันลองดูเถอะค่ะ"
ภายในห้องสอบสวน สาลี่กำลังนั่งเหม่อลอยไม่สนใจโลก เสียงเปิดประตูดังขึ้น สาลี่ไม่เหลือบมอง
หมอก้อยเดินเข้าประตูมาพร้อมขวดน้ำและขนมปัง หมอก้อยนั่งตรงข้ามสาลี่
"สวัสดี..ชื่อสาลี่ใช่มั้ยคะ ฉันเอาน้ำกับขนมปังมาให้ เห็นว่าเธอยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน"
หมอก้อยวางน้ำกับขนมปังไว้ข้างหน้าสาลี่
"รองท้องสักหน่อยเถอะ ท้องหิวสมองไม่แล่น หนทางยิ่งตันนะ"
สาลี่หันมามองน้ำ ขนมปัง และก็หมอก้อย ไล่ลำดับ แต่ก็ยังไม่สนใจ ไม่มีทีท่าอยากตอบคำถาม
หมอก้อยมองหน้าสาลี่เต็มๆ เห็นหน้าผาก หางคิว หลังมือเต็มไปด้วยแผล
"แผลทั้งนั้นเลยนิ เธอไม่ได้ทำแผลก่อนจะมามอบตัวเลยหรอ ปล่อยเอาไว้มันติดเชื้อได้นะรู้มั้ย"
หมอก้อยมองหน้าสาลี่ สาลี่มองกลับ แต่ไม่ตอบ
"เอางี้ รอแปปนะ เดี๋ยวฉันกลับมา"
หมอก้อยรีบผุดลุกก่อนจะเดินหายไป
ต่อมา หมอก้อยกำลังนั่งพันแผลให้สาลี่ สาลี่มองมือที่พันแผลของหมอก้อยไปเงียบๆ
"เป็นผู้หญิง ต่อให้ห้าวแค่ไหนก็ต้องรักตัวเอง ปล่อยให้เป็นแผลไป จะรักษายากนะ"
หมอก้อยบรรจงใส่ยาที่แผลของสาลี่ ยาแสบจนสาลี่สะดุ้งนิดๆ แต่ปากก็ยังปิดสนิทเหมือนเดิม
"ยาตัวนี้แสบหน่อยนะ...แต่ฆ่าเชื้อได้ดี แล้วเดี๋ยวหมอจะหายาทาที่ไม่ให้แผลตึงให้ รับรองไม่เป็นแผลเป็นแน่นอน"
"นี่...คุณเป็นหมอเหรอ"
หมอก้อยยิ้ม "อื้มม... ถึงจะเป็นหมอตา แต่ก็ทำแผลสวยนะ เชื่อสิ"
สาลี่ได้ยินว่าหมอก้อยคือหมอตา แววตาก็เป็นประกาย หันมาทางหมอก้อยทันที
"คุณเป็นหมอรักษาตาหรอ"
"ใช่จ๊ะ เรียนเฉพาะทางจักษุมา"
"งั้นคุณรักษาได้ทุกโรค ที่เกี่ยวกับดวงตาได้ใช่มั้ย"
"จะพูดอย่างนั้นก็ได้ ความยากง่ายต่างกันเฉพาะโรค แต่หมอก็ทำเต็มที่ทุกเคสนะ"
สาลี่พูดทันที "แล้วถ้าเป็นเยอะๆล่ะ ต้อหินมานานแบบใกล้บอด หมอรักษาได้มั้ย"
สาลี่มีท่าทีตื่นเต้นลนลานอย่างเห็นได้ชัด จนหมอก้อยเริ่มแปลกใจ
"ได้สิ แค่ใกล้บอดแต่ยังไม่บอดสนิท ยังไงก็ต้องมีวิธีการรักษาหรือบรรเทาได้แน่ๆ ส่วนใหญ่ร้ายแรงขนาดนั้นมักเป็นคนสูงอายุ หมอมีคนไข้เป็นคุณตาคุณยายเยอะเลย"
"จริงหรอ.. หมอรักษาต้อหินได้จริงๆใช่มั้ย"
หมอก้อยพยักหน้าให้สาลี่ สาลี่เข้ามาคว้ามือหมอก้อย
"หมอต้องการเท่าไร กี่แสน ต้องกี่แสน หมอถึงจะช่วยไม่ให้ยายฉันตาบอดได้ บอกมาเลย หรือเป็นล้านฉันก็จะหาให้"
"ล้าน!" หมอก้อยตกใจ "รักษาต้อหินไม่ต้องใช้ถึงล้านหรอกนะสาลี่"
"เท่าไหร่ฉันก็สู้หมอ เดี๋ยวฉันเขียนที่อยู่ให้ หมอช่วยพายายฉันไปรักษายหน่อยนะ ถ้าฉันเข้าคุก หมอจะเอาเท่าไร บอกมาแต่ต้องรับปากฉันนะว่าจะรักษาตายายให้หาย"
หมอก้อยฟังที่สาลี่พูด เริ่มปะติดปะต่ออะไรบางอย่างได้
"ที่เธอไม่ยอมให้การอะไรเลย เป็นเพราะอย่างนี้ใช่มั้ย .. เงินล้านนั่นคือ สิ่งที่เธอแลกเปลี่ยนกับการรับผิดงั้นหรอ"
สาลี่เริ่มรู้ตัว
"เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก ขอแค่ฉันหาเงินรักษาตายายได้ก็พอ"
หมอก้อยขัด "สำคัญสิ! ทำไมจะไม่สำคัญ"
หมอก้อยมองหน้าสาลี่แน่วแน่
"เธอคิดว่าจะเข้าคุกหรือเปล่าไม่สำคัญ แค่ขอให้ยายหายแล้วเคยถามยายหรือเปล่า ถ้าวันหนึ่งยายรู้ว่าเธอต้องติดคุก เพราะข้อหาฆ่าคนตาย ยายเธอจะเสียใจแค่ไหน ท่านจะอยู่ยังไง?"
"ยายไม่มีวันเชื่อหรอกว่าฉันทำ! ยายจะรู้ว่าฉันไม่ได้ทำ"
"โลกมีอีกหลายวิธีเลยน่ะสาลี่ ที่จะทำให้ความเชื่อของคนเรามันสั่นคลอน ถ้าเธอรับผิดและเข้าคุกไปทั้งๆที่ไม่ได้ทำ ยายเธอก็ต้องอยู่คนเดียวกับหลานที่โดนตีตราว่าเป็นฆาตรกร"
สาลี่เริ่มนิ่ง คิดตามที่หมอก้อยพูด
"เธออาจคิดว่าดวงตาของยายคือทุกอย่าง แต่เธอก็คือทุกอย่างของยาย เหมือนกันนะสาลี่"
หมอก้อยยื่นมือไปกุมมือของสาลี่ที่สั่นเทาเอาไว้ หมอก้อยประสานสายตากับสาลี่
"เชื่อฉันนะสาลี่ เธอยังมีทางเลือก"
นอกห้อง แดนยืนมองหมอก้อยเกลี้ยกล่อมสาลี่อยู่ ก็เห็นเงาดำตะคุ่มๆ เป็นผู้หญิงอยู่ด้านหลังของตัวเอง
แดนระแวงรีบหันไปมองด้านหลังทันที
เงาดำผู้หญิงกำลังจ้องตัวเองอยู่
หมอก้อยเปิดประตูออกมาหาแดน
เงาดำนั้นสลายหายไป
"สาลี่พร้อมที่จะให้ข้อมูลแล้วค่ะ"
ตำรวจแปลกใจ "จริงหรอครับ! ไม่น่าเชื่อคุณทำได้ไงเนี่ยะ"
"ค่ะ" หมอก้อยบอกแดน " รีบเข้าไปกันเถอะค่ะ ก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจ"
หมอก้อยหันมายิ้มให้แดน
หมอก้อยยักคิ้ว "บอกแล้วว่าฉันมีประโยชน์กว่าที่คุณคิด"
ภายในห้อง แดน หมอก้อย ตำรวจ นั่งตรงข้ามสาลี่ สาลี่มองแดนอย่างหวาดระแวง หมอก้อยพยายามเกลี่ยไกล่สถานการณ์
"ไม่ต้องกลัวนะนี่คือพันตำรวจโทแดเนี่ยล เพื่อนหมอเอง เค้าช่วยเธอได้แน่นอน ไว้ใจได้ เล่าทุกอย่างให้เค้าฟังนะ สาลี่"
แดนและหมอก้อยมองสาลี่ลุ้นๆ
สาลี่มองหน้าแดนอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจเปิดปากเล่า
"ฉัน....เอ่อ...ที่จริงไม่ได้สนใจจะต่อยไฟท์คลับมาตั้งแต่แรกหรอก ฉันอยากเป็นนักมวยอาชีพ ยายฉันเป็นคนทำกับข้าวของค่ายมวย ฉันโตมากับกระสอบทราย ก็ครูพักลักจำแอบฝึกมาเรื่อยๆ ฉันก็อยากเป็นนักมวยถูกในที่สว่างนะ"
ภาพต่างๆในอดีตผุดขึ้น
สาลี่ที่แอบครูพักลักจำท่าของครูมวยที่สอนเด็กในค่ายอยู่ข้างๆ
สาลี่ที่ช่วยยายทำกับข้าวไป แอบมองคนซ้อมไป
"แต่ไม่มีใครให้โอกาสฉัน ยายก็บอกให้ฉันเลือกทางเดินที่สบายกว่านี้ แต่ฉันก็สู้เพื่อความฝัน จนกระทั่งตาของยายเริ่มแย่พร่ามัวหนักจนตายายแทบจะมองไม่เห็น ฉันก็รู้ว่าฉันหมดเวลาฝันแล้ว"
สาลี่เล่าไปก็น้ำตาคลอ
"ฉันไม่มีทางเลือก ฉันต้องการเงิน ฉันเลยไปสมัครเป็นนักมวยไฟท์คลับ"
"เธอไปสมัครกับใคร ใครเป็นคนพาเธอเข้าไป"
"มีนักมวยที่เคยมาต่อยที่ค่ายคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรหรอก แต่บอกว่า รู้จักกับนักธุรกิจหลายคนที่ชอบความบันเทิง เขาชวนฉันให้ไปต่อย ถ้าชนะฉันจะได้เงินแมทละเป็นแสนๆ"
"แล้วเธอยังติดต่อกับเขาได้อยู่ไหม"
"เมื่อคืน.. เขาโทรหาฉัน บอกให้ฉันรับผิดข้อหาทะเลาะวิวาทชกคนตาย ไม่พูดถึงไฟท์คลับแล้วจะให้เงินก้อนใหญ่ .. ไปรักษายาย"
"แล้วเธอก็เลยต้องยอมรับผิด?" แดนว่า
หมอก้อยมองสาลี่ลุ้นๆ สาลี่น้ำตาร่วง
"แต่ฉันไม่ได้ฆ่าคนตาย ฉันไม่ใช่ฆาตกร"
แดนแย้ง "แต่เธอก็ชกคนตายจริงๆไม่ใช่เหรอ"
"ไม่จริง! คู่ชกฉันมีอาการแปลกๆ กระวนกระวายงุ่นง่าน เหมือนหายใจไม่ออกแปลกๆตั้งแต่ขึ้นชก เพิ่งปล่อยไปหมัดเดียว ถ้าฉันรู้ว่าหมัดเดียวจะทำให้เขาล้มได้ขนาดนั้น ฉันไม่มีวันปล่อยหมัดหรอก!"
"เธอเชื่อว่าต้องมีอะไรตุกติก?"
"ใช่...ฉันบริสุทธิ์ ฉันไม่ได้ฆ่าใคร"
"ถ้างั้นฉันถามเธอเป็นคำถามสุดท้าย เธอยอมทำอะไร มากแค่ไหน เพื่อพิสูจน์ความจริงของตัวเอง"
แดนมองหน้าสาลี่ สาลี่มองหน้า ตัดสินใจ
"ทุกอย่าง ฉันยอมทำทุกอย่าง"
บริเวณริมทะเล เอมิกำลังถ่ายรูปอยู่ริมทะเล คนเดียว
มิจฉาชีพ เดินเข้ามาแย่งมือถือ
"ปล่อยนะ...." เอมิยื้อแย่งโทรศัพท์กับมิจฉาชีพอยู่
เนมเข้ามาช่วยไว้ เขาดึงมือถือเอมิจากมือมิจฉาชีพ มิจชาชีพตกใจและรีบวิ่งหนีไป
"คุณเนม!"
เนมหันมาหาเอมิ มองตั้งแต่หัวจรดเท้า เอมิรู้สึกเขิน
เอมิแว้ดถาม "มองอะไรคุณ"
"มองว่าคุณเป็นอะไรหรือเปล่าน่ะสิ"
เอมิเขิน "ไม่เป็นไรหรอกคุณ"
"หรอ.. ผมไม่อยากให้คุณไม่สวย"
เนมมองเอมิยิ้มๆ พอใจที่เห็นเอมิเขิน
"ขอบคุณมากนะที่อุตส่าห์ช่วย ถ้าฉันโดนกรีดกระเป๋าจริง ลุงต้องดุฉันแน่ๆ โตป่านนี้ยังดูแลตัวเองไม่ได้"
"ลุงคุณดุขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ก็หน้านิ่งขนาดนั้น เดาใจไม่ถูกเลยล่ะ"
"งั้น...ผมว่า คุณต้องหาคนมาช่วยคุ้มครองเพิ่มแล้วล่ะ"
เนมหยอดใส่เอมิไม่หยุด
ซินที่กำลังเดินถือน้ำปั่นสองแก้วยิ้มเดินมา เห็นเนมเข้ามาคุยกับเอมิ ก็รีบวิ่งมาขวาง
"เฮ้ย นาย! ถอยให้ห่างออกจากเอมิเลยนะ!"
"ซิน! จะเสียงดังทำไมเนี่ย" เอมิถาม
"มายุ่งอะไรกับเอมิอีก คิดจะทำอะไร?"
"พอเลยซิน! เขามาช่วยเอมิไว้นะ"
เนมกวนๆ "ก็ถ้านายเป็นบอดี้การ์ดที่ดีไม่ได้ ระวังนะ จะมีคนแย่งหน้าที่" ก่อนหันกลับไปพูดกับเอมิ
"ไว้เจอกันคราวหน้าครับ"
ก่อนไปเนมก็ยังไม่วายหลิ่วตาให้เอมิ จนซินรู้สึกปรี้ดอีกรอบ
เนมเดินหายไปแล้ว ซินยังคงสีหน้าไม่พอใจ หันไปบอกกับเอมิ
"เอมิอย่าไปยุ่งกับคนแบบนั้นเลยดีกว่า ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดี ไม่น่าไว้ใจ"
"อคติไปป่ะ เมื่อกี้เขาอุตส่าห์ช่วยเอมิไว้นะ มองคนแง่ร้ายจัง"
"แฟนผม ผมดูแลเองได้"
ซินได้ยินเอมิชมเนมหน้าก็งอง้ำ เอมิยื่นมือไปดึงน้ำปั่นออกมากจากซิน
"ใช่เหรอ??..ก็ถ้ามาเร็วกว่านี้ เอมิก็ไม่ต้องลำบากให้คนอื่นช่วยมั้ง"
"เอ้า! ก็ให้ไปซื้อน้ำเอง ผิดอีกงี้"
ซินเดินตามเอมิที่งอนเดินนำไป
มุมห้องลับในห้อง VIP ชายชุดดำรับโทรศัพท์ก่อนจะกดวาง
"ไอ้เด็กใหม่หมัดหนัก มันโทรมาเพื่อขอขึ้นชกอีกรอบครับนาย มันบอกว่าตำรวจปล่อยตัวมันชั่วคราว เพราะยังไม่มีหลักฐานทั้งศพทั้งพยาน มันต้องการใช้เงิน"
ชายลึกลับยกไวน์ขึ้นจิบก่อนเงียบไป
"ดี โทรกลับไปบอกมันให้เตรียมตัว ขึ้นชกอีกรอบคืนนี้เลย"
"แต่.. "
"มันเดินมาให้เชือดถึงที่ แกก็อย่าทำให้มันผิดหวัง ปิดปากมันคาเวทีคืนนี้ไปเลย
เรื่องจะได้ไม่สาวมาถึงเรา"
ชายชุดดำโค้ง "ครับนาย"
ยิ้มมุมปากของชายชุดดำ บรรยากาศน่ากลัว
ท่ามกลางบรรยากาศที่ทุกคนดูตึงเครียดในห้องหนึ่ง สาลี่แต่งตัวเหมือนจะไปขึ้นชก
ตำรวจติดเครื่องมือ GPS ติดแอบไว้ที่คอเสื้อคลุมของสาลี่
"เราจะกันเธอไว้เป็นพยาน แต่เธอต้องขึ้นชกที่ไฟท์คลับอีกครั้ง ไม่ต้องห่วง" เสียงแดนบอก
ตำรวจคอยแทรคตามรอยGPS ที่อยู่บนตัวเธอไปจนถึงไฟท์คลับให้ได้ ขอแค่
จับคนที่อยู่เบื้องหลังการชกพวกนี้ให้เจอ
สาลี่หยิบนวมคู่ใจที่สึกหรอมาดู พร้อมกับมองตัวเองในกระจก
"ได้หลักฐาน และเจอศพของคู่ชกเธอเมื่อไหร่ เธอก็จะเป็นอิสระ พ้นข้อกล่าวหา" แดนว่า
ตำรวจติดกล้องให้สาลี่จนเสร็จ เช็คความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย
สาลี่หยิบนวมใส่กระเป๋า กระชับคอเสื้อ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
บนท้องถนน เส้นทางกรุงเทพฯ - พัทยา
หมวดสารินขับรถมาตาม GPS ที่จ่าวาวบอกว่าเป็นทางลัดจนหลงทาง มาเจอทางทำถนน
"ไหนๆ...ไอ้ที่ว่าวาวซะอย่างของคุณ GPS ระบบลับล่าสุดของคุณ มาเจอทางทำถนนไม่ลาดยางเนี่ยนะ"
"ก็มันเป็นทางลัดตัดใหม่จริงๆนี่คะ ย่นระยะทางไปเกือบ 20 กม แต่ GPS มันจะไปรู้มั้ยล่ะ ว่ามันยังทำทางไม่เสร็จ"
หมวดสารินโมโห
"ทีหลังก็อย่าโม้อวดฉลาดออกความเห็นให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนซ้ำๆ"
วาวหันมองรู้สึกโดนจี้ใจดำอีก รู้ว่าหมวดสารินพูดถึงเรื่องแอ๊บบี้ในที วาวเม้มปากแน่น ก่อนระเบิดความน้อยใจรัวๆ
"ฉันขอโทษนะคะ ที่ความเห็นของฉันทำให้แฟนหมวดถึงกับต้องลาออก ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ ฉันก็แค่บอกสิ่งที่ฉันเห็น นี่หมวดจะแค้นฝังหุ่นขยี้ปมฉันไปถึงไหน"
"นี่คุณ...คุณกำลังกล่าวหาว่าผม เอาเรื่องส่วนตัวมาปนมาเป็นอารมณ์กับเรื่องงานอยู่นะ เรื่องที่ผมว่าคุณไม่มีเรื่องส่วนตัว มันเรื่องงานล้วนๆ"
"ไม่จริงหรอก หมวดอคติกับฉันเรื่องคุณแอ๊บบี้"
หมวดสารินยิ่งของขึ้น
"ผมแยกแยะเป็น ผมมืออาชีพพอ หันมองตัวเองเถอะว่าโปรพอมั้ย ที่ผมไม่อยากทำงานด้วยเพราะอะไร"
"ใช่สิ...ก็อย่างที่หมวดบอกนั่นแหละ ฉันมาหูหมาตาแมว โพล่งอะไรโง่ๆ ไม่มีกาละเทศะ เฉิ่ม เชย ติ่งละคร วางตัวไม่เหมาะสมกับหน้าที่ ไม่มีอะไรดีสักอย่าง"
หมวดสารินหันมาอย่างเหลืออดขับรถไปด้วย "อะไรของคุณเนี่ย เพราะงี้ไงผมถึงว่าคุณไม่
โปร ทำตัวเป็นเด็ก DEI เป็นหน่วยสืบสวนระดับประเทศที่มีความน่าเชื่อถือ ดูตัวเองซะก่อนว่ามีความสามารถพอมั้ย งอแงเป็นเด็กสามขวบ พอเลยผมจะกลับทางเดิม"
หมวดรินบ่นรัวๆ แล้วหักเลี้ยวอย่างเร็วจะกลับทางหลัก แต่ตายังมองวาวที่ตาแดงๆอย่างหมั่นไส้
วาวเห็นรถบรรทุกคนใหญ่สวนมา แต่หมวดสารินไม่เห็น วาวตัดสินใจดึงพวงมาลัยหักลงข้างทาง จนรถเสียหลักลงข้างทาง ก่อนรถบรรทุกจะเฉียดไปนิดเดียว
หมวดสารินอึ้ง รู้สึกผิดเบาๆ หันมองวาวอีกที วาวหัวแตกมีเลือดไหลตรงหางคิ้ว หมวดสารินตกใจ
เย็นวันเดียวกัน หมอก้อยกำลังนั่งบนรถอยู่กับแดน
"นี่คงไม่ได้อันตรายเกินไปสำหรับสาลี่ใช่มั้ยคะ"
"ผมหวังไว้อย่างนั้น แต่นี่เป็นหนทางเดียว ที่จะพาเราไปจนถึงไฟท์คลับ และพิสูจน์ความจริงได้ ผมจะไปส่งคุณที่โรงแรมก่อน หมวดรินกำลังตามมา"
"ไม่อะ ฉันจะไปด้วย" หมอก้อยบอก
"ไม่ได้ มันอันตรายเกินไป"
"ฉันเป็นคนเกลี้ยกล่อมสาลี่ให้ไปเสี่ยงตาย แล้วฉันจะทิ้งเค้าไปแบบนี้ได้ไงคุณ กลับไปโรงแรม ฉันก็หลับไม่ลงหรอก"
"คุณนี่มันดื้อจริงๆ"
"ทำไงได้ ก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว คุณก็เห็นแล้วนี่ว่าฉันช่วยคุณด้วย"
"งั้นลาออกจากหมอ มาเป็นตำรวจคู่หูผมเลยมั้ยล่ะ"
"เป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็น่าสนนะ ฉันก็อยากสืบเรื่องที่ฉันค้างคาเหมือนกัน แต่เป็นคู่หูคุณน่ะขอบาย"
"ผมก็บายเหมือนกัน"
แดนส่ายหัวกลัวความดื้อของหมอก้อย ก่อนหยิบมือถือขึ้นกดส่งข้อความให้ N (เนม)
รถตกถนน เอาขึ้นไม่ได้ วาวหัวแตกนิดหน่อย หมวดสารินขอดูแผล
"คุณหัวแตกนี่ ขอผมดูหน่อย"
จ่าวาวปัดป้อง "ไม่ต้อง...ฉันดูแลตัวเองได้"
"อย่ามาอวดเก่งน่า"
"คำก็อวดเก่ง สองคำก็อวดฉลาด ถ้าฉันไม่หักพวงมาลัย ป่านนี้บวกสิบล้อไปแล้ว
ไม่ใช่แค่หัวแตกป่ะ?"
หมวดสารินอึ้ง ยอมรับในใจว่าจริง "เอ่อ"
แดนโทรเข้ามาพอดี หมวดสารินเลยต้องแยกมารับสาย
"ครับท่านรอง พอดีมีอุบัติเหตุนิดหน่อยครับ แต่ผมประสานตำรวจท้องที่ให้มารับ
แล้ว อาจจะไปถึงช้าหน่อย ขอโทษจริงๆครับ"
"งั้นหมวดประสานตำรวจท้องที่ให้ตามผมมาตามพิกัดที่ส่งให้ก่อนนะ เราต้องรีบแล้วพยานอาจอยู่ในอันตราย"
"ครับได้ครับ...ผมจะรีบไป ขอโทษจริงๆครับ"
สารินวางสาย หงุดหงิด
"จะทันการมั้ยเนี่ย เฮ้อ"
ก่อนจะเห็นวาวกำลังแปะพาสเตอร์เก้ๆกังๆที่หางคิ้ว
"มาผมช่วย จะได้รีบไป รถตำรวจมาแล้ว"
มีเสียงไซเรนดังใกล้มา
วาวเลี่ยง "ไม่เป็นไรฉันจัดการเอง...จะมาว่าอะไรอีก จะมาว่าที่ทำรถตกถนนจนไป
ช่วยภารกิจท่านรองไม่ทันอีกใช่มั้ย ตกลงค่ะ...ฉันมันไม่ได้เรื่องสักอย่าง กลับไป ฉันจะลาออกจากหน่วยเอง"
หมวดสารินอึ้ง อะไรวะ แค่จะมาช่วยติดพาสเตอร์
สาลี่ยืนรอที่จุดนัดหมายที่ข้างทางเปลี่ยวอย่างตื่นเต้น มือมีเหงื่อออกเต็มไปหมด
รถตู้สีขาวหรูหรา ติดฟิล์มดำสนิทเข้ามาจอดด้านหน้าสาลี่
ชายชุดดำสองคนลงมา ล็อคแขนสาลี่ชิดกับประตูรถ ก่อนจะลงมือคลำตามร่างกายของสาลี่
สาลี่เหลือบมองไปทางด้านซ้ายของตัวเอง ไกลๆ เห็นรถของแดนแอบซุ่มอยู่ก็โล่งใจ
ชายชุดดำปล่อยตัวสาลี่ ก่อนจะผูกตาด้วยผ้าสีแดง และดันสาลี่ขึ้นรถไป
ชายชุดดำสองคนมองหน้ากัน กวาดตาไปรอบๆ อย่างระแวง แล้วขึ้นรถขับไป
หมอก้อยเห็นภาพสาลี่กำลังโดนชายชุดดำพาขึ้นรถไปต่อหน้า สีหน้าตื่นเต้น กังวลใจ
"สาลี่ถูกพาขึ้นรถไปแล้วค่ะ เราขับตามไปเลยดีมั้ยคะ"
"รอให้พวกมันขับไปได้สักพักก่อน ไม่งั้นจะรู้ตัว"
หมอก้อยพยักหน้า แดนรีบหยิบวอมารายงาน
"พวกมันงับเหยื่อแล้ว ดูตำแหน่งGPS ก่อนจะลงมือแกะรอยได้"
จุดแดงขึ้นที่หน้าจอรถของแดน GPS บนตัวสาลี่เริ่มทำงาน
แดนกระชากเข็มขัดก่อนจะสตาร์ทรถ ตกใจเหมือนเห็นเงาดำนั่งอยู่บนรถตัวเองด้านหลัง
แดนเริ่มหันไปมองอีกรอบ ไม่พบอะไร.. แดนเริ่มรู้เงื่อนงำอะไรบางอย่าง วิญญาณตามเขามา
มือถือเนมข้อความเข้า
เนมกำลังกินเหล้ากับเพื่อนนักธุรกิจและภรรยา ก่อนหยิบมือถือขึ้นมาดู แล้วพบว่าเป็นข้อความจาก D “เสือออกล่าเหยื่อแล้ว”
เนมอ่านแล้วก็ชะงัก ก่อนจะเปลียนสีหน้ากลับมาเป็นหนุ่มปาร์ตี้แบบเดิม
เพื่อนนักธุรกิจถาม "คุณคิดว่าการชกวันนี้จะเป็นยังไง?"
"มันคงสนุกน่าดู ผมไม่เคยไป ต้องถามคุณกับลิซ่ามากกว่า ว่าไฟท์คลับมันแค่ไหน" ก่อนยกเหล้าจิบ
"สุดยอด! ฉันรับรองว่าคุณไม่มีทางผิดหวัง ไฟท์คลับเป็นการต่อยมวยที่ตื่นเต้นที่สุดที่ฉันเคยดูมา แถมเงินเดิมพัน ถ้าวางถูกข้าง คุณก็รวยข้ามคืน" ลิซ่าว่า
"เดิมพันด้วยหรอ" เนมถาม
ชายชุดดำสองคนเดินตรงมาที่โต๊ะของเนมและเพื่อนๆ
เพื่อนนักธุรกิจของเนมยื่นโทรศัพท์ที่มีข้อความและบาร์โค้ดให้ชายชุดดำสแกน เนมสังเกตการณ์
เพื่อนนักธุรกิจ ยูก็เอาให้เค้าดูสิ แล้วเราจะได้ไปสนุกกัน"
เนมส่งข้อความและบาร์โค้ดให้ชายชุดดำ
ชายชุดดำทั้งหมดเช็คความเรียบร้อยในรายชื่อก่อนโค้งให้เนมและเพื่อน ผายมือไปตามทางเดิน
เพื่อนและภรรยาเดินนำเนมออกไป เนมเดินตามออกไป
ท่ามกลางแขก VIP ทุกคนนั่งรออย่างตื่นเต้น แต่งตัวหรูหราสวยงาม
โฆษกใส่หน้ากาก กำลังยืนประกาศบนเวที
"ขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่ไฟท์คลับ!"
แขก VIP ตบมือ "เฮ!"
ทุกคนเฮลั่น บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายบ้าคลั่ง
"การต่อสู้ที่ดุเดือดและเถื่อนที่สุด สำหรับรอบนี้ เสือสาวดาวรุ่งของเราที่เพิ่งล้มแชมป์
สามสมัยซ้อนคาเวที กลับมาหวนสู่สังเวียนอีกครั้ง"
แขก VIP ตาเป็นประกาย ใจจดจ่อกับบนเวที หนึ่งในนั้นมีเนมที่นั่งดูโฆษกอยู่อย่างตั้งใจ
โฆษก และ.. เหมือนทุกครั้ง ชิพเดิมพันอยู่ในซองบนเก้าอี้ของทุกท่านจะมีมูลค่า แต่ละชิพจะมีมูลค่า 100,000 บาท
เนมหยิบซองที่วางบนเก้าอี้มาดู เปิดออกเห็นเป็นเหรียญปั้มตราไฟท์คลับ
โฆษกประกาศ
"แขกทุกท่านสามารถเดิมพันชิพลงในโหลของนักชกที่ท่านคิดว่าจะเป็นแชมป์ได้ และวันนี้นัดล้างตาแบบถึงเลือดถึงเนื้อ ไม่หมอบคาเวทีไม่หยุดชก ถ้าใครแทงได้ ไฟท์คลับของเราจะจ่ายให้เป็นสองเท่า!"
คนเฮดังลั่นทั่วไปทั้งห้อง เนมหมุนชิพดูหาความผิดปกติ
บางคนกรูไปหยอดชิพลงในโหล โหลของสาลี่เต็มไปด้วยกองชิพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกเดินลงเวที ยิ้มให้กับชายชุดดำ
ชายลึกลับ THE SUN ที่เห็นข้างหลังเหมือนเป็นนายใหญ่ กำลังนั่งไขว่ห้างจิบไวน์แดง
ชายชุดดำ เดินเข้ามาโค้ง บอก
"แขก VIP เริ่มลงเดิมพันกันแล้วครับนาย แขกลงชิฟในโหลเด็กโนเนมกัน เยอะเลยครับ"
ชายลึกลับยิ้มมุมปาก
"ดี! ทำให้พวกมันมีความหวัง บ้าคลั่งกันให้สุดๆ ยิ่งดี"
"นักชกสองคนก็มาถึงแล้วครับ นายจะให้ขึ้นสังเวียนเลยมั้ยครับ"
"ยัง เดิมพันหนักแบบนี้ รอก่อน"
ชายชุดดำโค้งรับ "ครับนาย"
ชายลึกลับยิ้มเหี้ยม..
"กำชับบอกคู่ชกให้ดูแลสาลี่ให้ฉันหน่อย.. ว่าถ้าวันนี้ไม่มีใครตายบนเวที มันจะไม่ได้เงินจากฉันสักแดงเดียว"
ชายชุดดำขนลุก รู้ว่าวันนี้สาลี่ลำบากแน่
แดนและหมอก้อยขับมาตามทางเปลี่ยวและมืดมากขึ้นเรื่อยๆ
"แน่ใจนะคะ ว่าเราตามมาถูกทาง ทำไม"
"ผมขับตาม GPS มาเรื่อยๆ ยกเว้นแต่ว่า.. "
แดนขับจนเจอจุดที่สีแดงกระพริบอยู่ หมอก้อยมองไปรอบๆ เป็นที่รกร้างว่างๆ ไม่มีตึก ไม่มีสถานที่อะไรเลย
"คุณ! ฉันว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วล่ะ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ"
แดนรีบปลดเข็มขัดก่อนลงวิ่งลงไปดูที่พื้นหน้ารถ
"อยากจะลงก็ลง คุณ! คุณ! รอฉันด้วยสิ"
หมอก้อยรีบปลดเข็มขัดลงรถตามแดนไป
แดนส่องไฟฉายไปตามพื้น ก่อนจะพบกับเสื้อคลุมของสาลี่ที่โดนขยำกองอยู่กับกระเป๋า และข้าวของที่พื้น หมอก้อยวิ่งตามมา เห็นเสื้อคลุมในมือแดน ก็ตกใจ
"นี่มันเสื้อคลุมที่ติด GPS ของสาลี่นี่คะ"
"ไม่ได้การละ เราต้องรีบหาสาลี่ให้เจอเร็วที่สุด"
หมอก้อยและแดนวิ่งขึ้นรถ หมอก้อยตื่นตกใจจนแทบจะร้องไห้
"ถ้าพวกมันเจอ GPS บนตัวสาลี่แบบนี้ "
"แบบนี้จะทำยังไง GPS ก็ไม่มี ไฟท์คลับอยู่ไหนก็ไม่รู้!"
แดนหยิบมือถือขึ้นมา พยายามโทรติดต่อกับ N
แดนวางมือถือลงเครียดไม่รู้จะทำยังไง
"ผมติดต่อสายไม่ได้ พวกมันน่าจะยึดโทรศัพท์ของทุกคนที่เข้างานไปด้วยแน่ๆ"
"นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ สาลี่อาจจะโดนพวกมันทำจนตายก็ได้!"
แดนเครียดไม่รู้จะทำไง ทันใดนั้นรถที่สาดไฟ ก็เห็นเงาวิญญาณของนักมวยที่ตายอีกครั้ง ยืนอยู่หน้ารถ จ้องแดนเขม็ง ก่อนจะค่อยๆหันหลัง เดินตรงไปตามทาง
"คุณ! คุณ! ฟังฉันอยู่ปะเนี่ย"
แดนคิดออก รีบหันมาบอกหมอก้อย
"คาดเข็มขัดเร็วคุณ ผมรู้ว่าเราจะหาไฟท์คลับเจอได้ยังไง"
แดนรีบขับรถตามทางที่วิญญาณเดินหายไป
ในห้องลับ VIP เชียร์ดังกระหึ่มลั่นจากกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย
สาลี่กำลังชกกับคู่ชกฝรั่งตัวใหญ่กว่าตัวเองเกือบเท่าตัว คู่ชกฝรั่งอัดกระแทกหมัดมาเต็มแรง สาลี่หน้าหันตามหมัด สภาพดูสะบักสะบอม
กองเชียร์เชียร์ "สู้มัน! สู้มัน! สู้มัน!"
สาลี่พยายามดันตัวเองลุกต่อยสู้ แต่ทุกครั้งจะเห็นตอนกำลังต่อยคนตายเข้ามาขัด เสียงคนดูว่า
"ตายแล้ว! มันตายแล้ว! ไอ้ฆาตกร!"
"ไม่! ไม่จริง! " สาลี่สั่นหน้า
คู่ชกฝรั่งเห็นสาลี่สะบัดหัวแปลกๆ เอามือปิดหูปิดตา ได้จังหวะก็อัดสวนอีกดอก
เนมมองภาพสาลี่ที่กาลังจะแพ้แบบกังวล เพื่อนต่างชาติลุกขึ้นโวยวายไม่พอใจที่สาลี่สู้ไม่ได้
นักธุรกิจฝรั่งว่า "เด็กดาวรุ่งจะแพ้ไม่ได้นะ ไอกับลิซ่าเดิมพันเอาไว้! " พูดแล้วก็ให้หงุดหงิด "ถ้า 200,000 เสียหายเมื่อไร กิจการไอโดนยึดแน่"
เนมมองไปรอบๆ เริ่มเห็นแขก VIP หลายคนหน้าเครียด เริ่มอ่านเกมออก THE SUN ตั้งใจจะทำอะไร
เนมพึมพา "ที่แท้ตั้งใจสร้างเด็กใหม่ที่ล้มแชมป์สามสมัยได้ มาก็เพื่อทำแบบนี้นิเอง"
บนเวทีก็ยังดุเดือดเหมือนเดิม เมื่อสาลี่พยายามส่ายหน้าเรียกสติ ดันตัวเองลุกขึ้น เตะฝรั่งออกไปได้ สาลี่ลุกขึ้นมาฮึดสู้อีกครั้ง ชกแบบไม่คิดชีวิต
คนดูเชียร์สาลี่ดังลั่น
แดนขับรถมาทางทางก่อนเบรกหัวแทบทิ่ม วอบอกพิกัดกับกองกำลังเสริม
"หมวดริน มาถึงแล้วใช่มั้ย ..ส่งกำลังเสริมมาที่พิกัดผมได้เลย"
แดนหยิบปืนขึ้นมาเช็คก่อนจะเหน็บไว้ที่หลัง
"คุณแน่ใจใช่มั้ย ว่าเป็นที่นี้"
"ผมแน่ใจ ที่นี้ต้องเป็นไฟท์คลับแน่ๆ"
แดนหันไปเห็นเงาวิญญาณเดินเข้าไปในตึกช้าๆ ก่อนจะรีบหันบอกหมอก้อย
"คุณรออยู่ที่นี่แหละ เผื่อมีอะไรอันตราย"
"ระวังตัวด้วยนะคุณ"
แดนพยักหน้าให้หมอก้อย ก่อนจะเปิดประตู วิ่งลงไป
สาลี่พยายามกู้คะแนนกลับมา แต่บาดแผลเต็มตัว ชกวืดอยู่หลายรอบ
คู่ชกเห็นสาลี่สู้ไม่ได้ก็ยิ่งได้ใจ ต่อยซ้าย ต่อยขวา แล้วก็ล็อคคอสาลี่ขึ้นมาจากพื้น
นักธุรกิจต่างชาติตะโกน "สู้หน่อยสิ! สู้เขาหน่อย! โว้ย ทำไมวันนี้มันห่วยอย่างนี้"
เนมดูเพื่อนที่กำลังหัวเสีย ก่อนจะหันไปมองสาลี่บนเวที
คู่ชกล็อกสาลี่มาแทงเข่าที่ท้อง สาลี่ทรุดลงไปกองที่พื้น สายตาเริ่มพร่ามัว มือที่ยันพื้น ยันยังไงก็ดันตัวขึ้นมาไม่ได้
เนมเครียด "ถ้ายังปล่อยให้สาลี่ชกถ่วงเวลาแบบนี้ต่อไป สาลี่ได้ตายคาเวทีแน่"
เนมเหลือบมองไปที่ประตูทางออก เห็นคัตเอาท์ฉุกเฉิน เนมครุ่นคิด
สาลี่โดนทุ่มลงกับพื้น สภาพย่ำแย่เลือดเต็มหน้า
คู่ชกของสาลี่เดินอาดๆรอบเวที มั่นใจว่าชนะแน่
คนดูส่งเสียงเชียร์ต่อเนื่อง
เนมเห็นก็เครียด เนมหันไปบอกเพื่อนนักธุรกิจ
"ไอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
เพื่อนนักธุรกิจไม่ได้สนใจเนม เพราะเชียร์อยู่ เนมเดินออกมา
ใกล้ๆเวที เนมเดินมองซ้ายมองขวา ดูลู่ทาง
ชายชุดดำเห็นเนม มองซ้ายขวาก็รู้สึกไม่ไว้ใจ ชายชุดดำแอบเดินตามเนม
เนมเดินมาจนใกล้คัทเอ้าท์ เนมจ้องมองคัทเอ้าท์อยู่เห็นมีชายชุดดำคนหนึ่งยืนคุมใกล้ๆตรงนั้นอยู่
เนมหันไปมองบนเวที เห็นสาลี่โดนกรรมการนับอยู่ สาลี่แทบลุกไม่ขึ้นแล้ว แต่ก็พยายามยันตัวขึ้นมา
เนมหันไปมองทางคัทเอ้าท์อีกที ชายชุดดำคนนั้นเดินออกห่างจากคัทเอ้าท์ไปแล้ว
"เอาก็เอาวะ"
เนมเดินตรงไปทางคัทเอ้าท์ แต่ก่อนที่จะถึงคัทเอ้าท์นิดเดียวก็มีมือหนึ่งมาจับไหล่เนม เนมชะงักหันไปดู
ชายชุดดำอีกคนที่ตามเนมมาจับไหล่เนมไว้แน่น
"คุณจะไปไหนครับ"
เนมอึกอัก พยายามหาทางเอาตัวรอด
"เอ่อ.. ห้องน้ำ ไปทางไหนครับ"
ชายชุดดำจ้องเนมเขม็ง เหมือนจะหาความผิด ก่อนชี้ไปทางขวา
"ด้านนู้นครับ"
เนมรีบเดินออกมา ก่อนเป่าปากโล่งอก แต่สีหน้าก็ยังเครียดที่หาวิธีช่วยสาลี่ไม่ได้
ชายชุดดำได้รับข้อความในบลูทูธ แล้วเดินมาโค้งบอกชายลึกลับ
"นายครับ มีตำรวจเข้ามาในพื้นที่ของเราครับ"
ชายลึกลับมองที่มอนิเตอร์ เห็นสาลี่กำลังกลับมาชกได้เปรียบ คนดูยิ่งลงเงินให้สาลี่
ชายลึกลับโมโห กำแก้วไวน์แน่น สั่งการชายชุดดำ
"ไปจัดการมันซะ อย่าให้มันมาขัดลาภฉัน"
ชายชุดดำโค้งรับคำสั่ง
ชายลึกลับมองดูมอนิเตอร์คู่ชกต่อ
เสียงกองเชียร์ดังกระหึ่มลอดออกมาตรงบันได
ตำรวจสาวเท้าเร็วมากขึ้นไปตามเสียง จนถึงประตูสีแดงก่ำบานใหญ่ขอบทอง เป็นประตูหนักมากเปิดไม่ออก
"ประตูโลหะหนามากเปิดไม่ออกครับ พังไม่ได้แน่ๆ" หมวดสารินว่า
เสียงวอจากหมวดรินดัง เป็นเสียงวาว
"มีประตูลับทางด้านหลัง 15 นาฬิกาค่ะ"
วาวกับคอมที่เชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมจนได้
วาวยิ้ม "มือชั้นนี้แล้ว" ก่อนพูดกับอินเตอร์คอมต่อ "ไม่ใช่ประตูโลหะแน่นอนค่ะ หมวด
พังได้ จัดเลย"
หมวดสาริน เผลอแอบยิ้มกับความเก่งของวาวเบาๆ
"ได้...จัดไป"
ตำรวจพุ่งไปตามทางที่วาวบอก หมวดสารินยิงลูกบิด ตำรวจถีบเข้าไปจนได้
แดนวิ่งนำ ตำรวจตามเงามาจนถึงทางตันที่มีประตูหลอกเป็นห้องเก็บของ
เงาวิญญาณหันมาชายตามองแดน ก่อนจะเดินหายเข้าไปหลังประตู
แดนทำท่าจะตามเข้าไป
แดนพยักหน้าสั่งให้หมวดคนหนึ่งลองเข้าไปเปิด ปรากฏว่ามีบันไดลงไปข้างล่าง
แดนเริ่มส่งสัญญาณให้ตำรวจบุกฝ่าเข้าไป
แดน และตำรวจเดินลงมาตามบันได
บริเวณที่นั้นเกือบมืดสนิท มีเพียงไฟฉายส่องนำทาง และแสงที่ลอดมาทางหน้าต่างที่ปิดสนิทไว้เท่านั้น
"ทุกคนระวังด้วย" แดนบอก
หมวดสารินที่ตามมาด้านหลังกระชับปืนเมื่อได้รับคำสั่งเตือน แต่พอเดินผ่าน ซอกหนึ่ง ตำรวจนั้นก็โดนปิดปากและลอบทำร้ายก่อนที่ทันจะส่งเสียง
ตำรวจท้ายแถวโดนเก็บไป 2-3 คน คนที่ 4 กำลังจะโดน แต่ตำรวจคนนั้นไหวตัวทัน เลยยิงปืนสวนไป
แดนได้ยินเสียงปืนเลยหันไปมองท้ายแถว เห็นชายชุดดำยิงตำรวจคนนั้น
แดนส่งเสียงให้เปิดฉากสู้ทันที
"ยิง!"
แดน ตำรวจ ยิงปะทะสู้กับพวกชายชุดดำ
ทางด้านสาลี่เท้าตัวโงนแงนอยู่ที่พื้น เลือดออกปาก หัวแตก ไม่มีตรงไหนของร่ายกายที่ไม่มีแผล
สาลี่พยายามยันตัวขึ้นมาจากพื้น ที่ไม่ขึ้นแล้ว
คู่ต่อสู้ยิ้มกริ่ม เดินย่างขุมเข้าไปหาสาลี่
โฆษกเห็นว่าการต่อสู้ใกล้จะจบลง ก็ยิ่งเร่งเร้าแขกในห้อง VIP มากขึ้น
"เอาล่ะครับ เห็นทีฝรั่งสาวหมัดหนักของเรา ก็กำลังจะปิดจ๊อบดาวรุ่งในตำนานที่ต้องร่วงกันคาเวทีวันนี้แล้วนะครับ ใครที่ลงเงินฝั่งของดาวรุ่งเอาไว้ ก็ทำใจได้เลย"
สาลี่กัดปากจนเลือดออก พยุงตัวให้ลุกขึ้นมาเกือบสำเร็จ แต่คู่ชกก็คว้าเสื้อสาลี่มาให้ลอยจากพื้น ก่อนจะกดชกปิดจ๊อบในหมัดเดียว
เนมลุกขึ้นเหมือนพุ่งไปที่คัทเอาท์ฉุกเฉิน แต่ไม่ทันจะถึงตำรวจกับแดนก็บุกเข้ามาก่อน
"หยุด! นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ" หมวดสารินตะโกนบอก
แขก VIP ทั้งหมดลุกฮือ พากันวิ่งหนี เจ้าหน้าที่กำลังปิดล้อมไฮโซทั้งหลายที่แตกฮือ
คู่ชกสะบัดสาลี่ลงกับพื้นก่อนวิ่งหนีลงเวทีไป กำลังจะหนีไปได้ แต่เนมที่อยู่แถวนั้นกลับผลักเก้าอี้ให้ขวางทาง คู่ชกสาลี่ล้มลงกับพื้น ตำรวจรวบตัวไว้ได้ แต่เนมว่องไวหลบหายไปที่ประตูได้แทน
สาลี่นอนหงายอยู่บนเวที ตาพร่ามัว เหลือบไปเห็นแดนที่กำลังกวาดปืน จำกัดพื้นที่เสียหาย
สาลี่เห็นแดนค่อยๆวิ่งมาหาตัวเอง ตาเริ่มจะปิดด้วยความโล่งใจ
"สาลี่!" แดนเขย่าสาลี่ "คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า"
"ก็ถ้าช้าอีกนิด ฉันคงตายคาเวทีนี่แล้วล่ะ"
สาลี่พยายามฉีกยิ้มด้วยความโล่งใจ
แดนบอกกับตำรวจ "หมวด พาพยานไปปฐมพยาบาลหน่อย"
แดนประคองสาลี่ให้กับหมวดริน ก่อนจะหันไปสั่ง
"พาทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ไปสอบสวนให้หมด อย่าให้มีใครหายไปแม้แต่คนเดียว"
แดนยืนบนเวที กำลังจะลงไปทำตามหน้าที่ แต่กลับเห็นเงาดำแวบไปอยู่ด้านหลัง แดนหันตามทันที
เงาดำแวบมาอีกรอบ จ้องแดนเขม็ง แดนรีบเดินตามไป
เงาดำนั่นเดินหายเข้าไปในผนังด้านหนึ่ง แดนกระชับปืน ก่อนมุ่งไปหาผนังนั่นทันที
ห้องมืดสนิท แสงสลัวๆ ผนังที่จริงๆแล้วเป็นประตู ค่อยๆถูกผลักเข้ามาด้วยความระมัดระวัง
แดนเดินเข้ามาในมุมลับ มือถือปืนระยะสายตา แต่ไม่พบใคร
แดนเดินไปหน้ากระจกที่เห็นด้านนอกทุกอย่าง เห็นเวทีมวย เห็นประตู มีกล้องวงจรปิดมากมายที่เปิดอยู่ในห้อง
แดนเดินไปดูที่เก้าอี้ใหญ่และโต๊ะข้าง แดนถูรอยเปียกของโต๊ะสีแดงขึ้นมาดู
"ไวน์แดง?"
แดนมองไปรอบๆ รู้ว่ามีใครสักคนอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้แน่นอน
ชายลึกลับนั่งอยู่บนรถ บนเบาะข้างๆ มีขวดชิพของสาลี่ที่ถูกเทกองอยู่
"แขกถูกจับไปเกือบหมดแล้วครับนาย เอาไงดีครับ"
ชายลึกลับหมุนชิพในมือ คิ้วขมวดเป็นปม
"ปล่อยไป ไม่มีใครสาวถึงฉันได้หรอก ก็แค่นักพนักงานหน้าโง่"
"ครับ"
ชายชุดดำโค้ง ก่อนจะปิดประตูให้
รถค่อยๆเคลื่อนตัวออกอย่างช้าๆ
มุมปากของชายลึกลับแสยะยิ้ม ก่อนจะพูดอย่างน่ากลัว
"แต่ไอ้ตำรวจหน่วยพิเศษนั่น ฉันเอาคืนแน่!"
แขก VIP ไม่ว่าจะไทยหรือฝรั่ง ต่างถูกพาตัวขึ้นรถตำรวจ ท่ามกลางการรัวแฟลชของนักข่าวในพื้นที่ไม่หยุด
ป้าแขก VIP ทำท่าบังหน้า "อย่ามาถ่ายฉัน ออกไป! ฉันจะให้ผัวฉันจับพวกแกให้หมด"
"อย่าพูดมากนะป้า ตอนนี้พูดไปก็ทำให้ผัวป้าจะโดนจับมากกว่า"
ป้าพยายามดิ้นหนีตำรวจ แต่ก็ถูกล็อคและดันขึ้นรถตำรวจไป
แสนแสบกำลังรายงานข่าวถ่ายทอดสดออกทีวี
"ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบุกทลายไฟท์คลับ หรือเครือข่ายมวยเถื่อน ใต้ดินลับผิดกฏหมาย ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านหาดพัทยา โดยที่การเดิมพัน แต่ละรอบเงินเดิมพันสูงถึงรอบละ 20,000,000 บาท ตอนนี้ตำรวจกำลัง พยายามสืบหาเจ้าของเครือข่ายต่อไป"
ต่อมา ... สาลี่นั่งอยู่ตรงข้ามแดนบนโต๊ะ แผลบนร่างกายถูกทำแผลหมดแล้ว
"คู่ชกคุณตายจากการถูกฉีดยาโด๊ปเกินขนาด ไม่ได้ตายจากการต่อสู้"
"ฉันเป็นผู้บริสุทธ์"
"ใช่" แดนพยักหน้า
สาลี่ยิ้มดีใจ
"ขอบคุณนะคะ ไม่งั้นฉันคงต้องเป็นแพะอยู่ในคุกไปทั้งชีวิต"
"ไม่หรอก คุณทำไปเพราะความจำเป็น ผมเข้าใจ"
"แล้ว..นี่คุณรู้หรือยังคะ ว่าใครที่เป็นเจ้าของไฟท์คลับ"
"แขกหลายคนให้การไปในทางเดียวกัน ว่าเริ่มถูกชวนให้ไปไฟท์คลับ หลังจากไปซื้อรถในเต้นท์รถหรูในพัทยา โดยเฉพาะแขก VIP ที่เป็นคนต่างชาติ ที่ชอบเช่ารถขับเวลามาติดต่อธุรกิจ"
คุณกำลังสงสัยว่าคนที่อยู่เบื้องหลัง... น่าจะเป็นใครสักคนที่ทำธุรกิจเต้นท์รถ" สาลี่ว่า
"เป็นไปได้.. แต่ฉันก็ได้แค่เดา เพราะไม่มีใครเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของ เจ้าของไฟท์คลับ"
แดนครุ่นคิดในใจ
แดนพึมพา "เหมือนที่ไม่มีใครเคยเห็น THE SUN"
แดนและหมอก้อยเดินออกมาส่งสาลี่
"แล้วนี่เธอจะทำอะไรต่อไป" หมอก้อยถาม
สาลี่ยักไหล่
"ฉันก็คงกลับไปดูแลยายเหมือนเดิม"
"ไม่ต้องห่วงนะ ฉันรับปาก กลับถึงกรุงเทพเมื่อไร จะติดต่อเรื่องรักษาของยายเธอให้ สบายใจได้"
"ฉันเป็นหนี้พวกคุณจริงๆ ขอแค่ตาของยายหายดี ฉันก็พอใจแล้ว"
"แล้วเรื่องต่อยมวยเธอ"
"ฉันคงไม่กล้าต่อยมวยใต้ดินอีกแล้วละ พวกคุณมั่นใจได้เลย"
"เธอจะทิ้งความฝันการเป็นนักมวยหรอ"
"เปล่า ฉันจะกลับไปทำมันให้สำเร็จต่างหาก ฉันเลิกเชื่อทางลัดแล้วละ ฉันจะเป็นนักมวยอาชีพหญิงที่โด่งดัง และหาเงินมาดูแลยายให้ได้"
หมอก้อยอดยิ้มให้สาลี่ไม่ได้ ที่เห็นการเปลี่ยนแปลง สาลี่ยิ้มตอบ
สาลี่เดินเข้าไปหาแดน
"คุณติดหนี้ฉันนะ เรื่องที่ให้ฉันรอบนเวทีจนเกือบตาย"
แดนยิ้ม "สุดวิสัย ผมขอโทษจริงๆ ผมจะจำหนี้คุณไว้"
"ไม่ต้องหรอก แค่ช่วยหาไอ้ตัวการเฮงซวยนั่นให้เจอ แล้วช่วยจัดการให้ฉันที เอาแรงๆสักสิบหมัด"
บรรยากาศดูคลี่คลาย แดนและหมอก้อย หัวเราะกับท่าทีห้าวของสาลี่
"เอาเถอะ คงต้องแยกย้ายแล้ว ฉันหวังให้คุณโชคดี จับผู้ร้ายได้เร็วๆนะ"
"เช่นกันสาลี่ ผมขอให้คุณโชคดี"
"เดี๋ยวฉันโทรไปบอกเรื่องโรงพยาบาลนะ แล้วเจอกัน"
สาลี่ยกมือบายบายแดน ก่อนเดินออกไป
แดนเดินนำหมอก้อยไป หมอก้อยงง
"ไปไหนคุณ ไม่จัดการเรื่องผู้ต้องหาทั้งหมดก่อนหรอ"
"ไม่ละ ผมมีเรื่องสำคัญกว่าต้องกลับไปทำ"
"เรื่องอะไรจะสำคัญกว่าการจับผู้ร้ายอีกละคุณ!"
"ก็เรื่องที่คุณกับผม ปล่อยเด็กสามคนเอาไว้ที่โรงแรมไง"
"เออ จริงด้วย ฉันลืมไปเลย! ตายๆๆ"
ต่อมา แดนกับหมอก้อย เดินเข้ามาในโรงแรม เจอเอมิ ซิน และแสนแสบดักรอที่ล็อบบี้
เอมิเห็นหมอก้อยกับแดนเดินมา ก็ปราดไปหา หน้าตาไม่พอใจ
"ไหนบอกว่าตั้งใจพาเอมิมาเที่ยว ทำไมอยู่ดีๆ ลุงแดนกับหมอก้อยก็ออกไปทลายคลับซะงั้นล่ะคะเนี่ย"
ซินตบหัวแสนแสบ "แล้วนี่ก็เหมือนกันอยู่ๆก็หายหัว"
"เอ้า...วิญญาณนักข่าว สายส่งข่าวมาก็ต้องสิ ดีนะที่ผมเป็นคนมีไหวพริบ เตรียมตัวพร้อมเสมอ ได้ข่าวเด็ดตลอดๆ"
"เป็นอย่างงี้อีกแล้ว เอมิใจคอไม่ดีเลยนะ ทำไมไม่บอกกันตรงๆล่ะคะลุง"
เจอเอมิวี้ดใส่ หมอก้อยกับคนเย็นชาอย่างแดนก็ทำหน้าไม่ถูก
"ขอโทษจริงๆนะเอมิ ทุกอย่างเกิดขึ้นกระทันหันมาก ฉันยังต้องไหลตามไปด้วยเลย ฉุกละหุกจริงๆ"
"เอ่อ...ลุง ไม่ได้ตั้งใจ งานด่วนจริงๆ คือ"
"เหอะ!" เอมิงอน
หมอก้อยกระซิบแดน "ก็แค่ขอโทษค่ะ ง่ายๆ..เอง"
แดนอึกอัก "ลุง...ขอ...ขอโทษ"
เอมิกอดอก เบี่ยงตัวหลบไปทางอื่น หมอก้อยกระทุ้งศอกใส่แดน ส่งสายให้ไปคุยกับเอมิ
"เอ่อ.. มันสำคัญจริงๆ เรื่องใหญ่ แถมเป็นความเป็นความตายของคนอื่น..คือ"
เอมิหันมายิ้ม "โอเค กล้าขอโทษ...ก็กล้ายกโทษให้ แต่ต่อไปลุงมีอะไรต้องบอกเอมิตรงๆนะคะ สัญญานะ"
เอมิเกาะแขน แดนเริ่มเขินๆ อยู่ๆก็เสียงแข็งแก้เขินซะงั้น
"เอมิเองก็น่าจะโตพอที่จะรู้ว่าเรื่องไหนควรโกรธ เรื่องไหนไม่ควรโกรธนะ"
เอมิงง "อ้าว"
"เฮ้อ...เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว"
ซินรีบเปลี่ยนเรื่องให้ "เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ ท่านรองเลี้ยงอาหารทะเลมื้อบิ้กเบิ้มพวก
เราทั้งหมดนี้ ไถ่โทษแทนดีมั้ยทุกคน"
"ก็เค / ดีค่ะ / สุด!"
เอมิ ซิน แสนแสบ หลุดดีใจออกมาทั้งสามคน หมอก้อยและแดนหลุดขำ
"แต่ว่าต้องเป็นร้านที่เอมิเลือกเองเท่านั้นนะคะ คอยดูทำให้เอมิหิ้วท้องรอขนาดนี้ เอมิจะเลือกร้านที่แพงที่สุดในพัทยาไปเลย!"
"กลัวที่ไหน"
แดนจับมือไปโยกหัวเอมิอย่างเอ็นดู
แดนกลับจากการเดินเที่ยวทั้งวัน ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่ที่หน้ากระจกห้องพัก
เสียงโทรศัพท์ดัง แดนเดินไปดู เห็นเป็นรวีโทรมา
"ฉันไปสืบเรื่องที่แกขอมาแล้วนะ คิดว่ามีบางอย่างที่แกน่าจะสนใจ"
เสียงข้อความเข้าดังขึ้น แดนเห็นเป็นไลน์จากรวี กดดูเห็นรูปภาพของ “ยูจิ”
"นี่เป็นรูปของยูจิ นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจเปิดเต้นท์รถหรูอยู่ที่พัทยา ใครๆใน วงการก็บอกว่าเพิ่งเข้ามาค้าขายได้ไม่ถึงสองปี แต่กลับรวยมือเติบผิดปกติ"
"เงินพวกนี้อาจจะมาจากการเดิมพันที่ไฟท์คลับก็ได้"
"ฉันกลัวว่าจะไม่ได้มาจากไฟท์คลับอย่างเดียวน่ะสิ .. เพื่อนฉันบอกว่า.. ธุรกิจมืด ที่ยูจิทำไม่ได้มีแค่อย่างเดียว" รวีว่า
แดนฟังรวี สีหน้าเคร่งเครียด
แดนที่กำลังคุยโทรศัพท์กับรวีหน้าเครียด
"ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนายมาก"
แดนกดตัดสาย ก่อนจะต่อสายไปหาจ่าวาว
"จ่าวาว ช่วยสืบแบคกราวน์ของเจ้าของกิจการเต้นท์รถพัทยาชาวญี่ปุ่น ที่ชื่อ “ยูจิ” ให้ฉันหน่อย ด่วนที่สุด"
ภายในไนต์คลับแห่งหนึ่ง หนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งถามเฮีย
“มีไรมาเสนอผมอีกอะ”
“ผมมียาใหม่ตัวแรงๆมาเสนอ ขายดีมากในยุโรป เชื่อว่าน่าจะไปได้ดีที่นี่ด้วย มันชื่อว่ายา ซอมบี้”
เฮียยื่นถุงยาเม็ดสีฟ้าให้วัยรุ่น
“น่าสนใจดีนะครับ”
“ผมจะให้เด็กผม ขายยาให้กับนักท่องเที่ยวพัทยา ลองดูก่อน”
“แล้วธุรกิจละ”
“60 /40”
“50/50 ผมจะต้องแบ่งให้นายผมด้วย” วัยรุ่นบอก
“ได้ตกลงตามนี้ ผมจะปล่อยยาล๊อตแรกเลยนะ”
ทั้งสองคนจับมือกัน
ภายในร้านอาหารทะเล ที่พัทยา
อาหารทะเลดูราคาแพงวางอยู่เต็มโต๊ะ เอมิ ซิน แสนแสบ หยิบมากินอย่างเอร็ดอร่อย
หมอก้อยหักก้ามปูส่งให้เอมิ
“ขอบคุณค่ะ” เอมิยิ้มตอบ
และหมอก้อยก็หักก้ามปูส่งให้แดน แสนแสบเลิกโม้แล้วตั้งหน้าตั้งตาเคี้ยว
แดนปฏิเสธ “ไม่เป็นไร คุณทานเถอะ ผมไม่ชอบเท่าไร”
“ฉันรู้ว่าอาหารทะเลที่ญี่ปุ่นคงสดกว่านี้ แต่ไหนๆ คุณก็เป็นสปอนเซอร์ใหญ่แล้ว อย่างไงก็ควรทานซะหน่อย ไม่งั้นคนที่กินฟรีอย่างพวกฉันจะอึดอัดเอา”
แสนแสบพูดทั้งอาหารเต็มปาก “อั่นอิอั้บ อมอู้อึกอึดอัดอะเอี่ยอี่อานอรี”
ซินว่า “ฉันว่าแกกินให้หมดปากก่อนเหอะ ก่อนที่จะบอกว่าเสียใจที่กินฟรี”
“เมื่อวานเรื่องที่ลุงไปทลายคลับมวยเถื่อนดังมากเลย เสียดาย ถ้าผมตามไป ผมต้องได้ออกข่าวด้วยแน่ๆ” แสนแสบทำมือเก๊ก
“นี่! เลิกฝันเถอะ” แล้วพยักเพยิดหน้าไปทางหมอก้อย “สวยขนาดนี้ยังไม่ได้ออกกล้อง แล้วประสาอะไรกับนาย”
“แต่หมอก็บู๊เก่งผิดกับบุคลิกมากเลยนะครับ เห็นเป็นสาวหวานแบบนี้ ไม่คิดจะบู๊ ขนาดตามไปที่คลับด้วย”
หมอก้อยยิ้มเขินที่ซินชม แดนเห็นแล้วอดไม่ได้
“ไม่ได้เต็มใจพาไป แต่ไม่มีทางเลือก ตอนนั้นมันฉุกเฉิน”
หมอก้อยหันหาแดน “แต่เรื่องสาลี่เนี่ยเป็นผลงานที่ฉันช่วยคุณตำรวจอย่างพวกคุณให้ทำงานได้นะ”
หมอก้อยมองค้อนแดน
“เรื่องนั้น... ผมให้เครดิตคุณนิดนึงก็ได้”
“ยอมรับแล้วใช่มั้ยละว่าฉันเองก็มีประโยชน์กับงานคุณเหมือนกัน”
“ก็แค่ครั้งนี้แหละ ผมว่า.. คราวหน้าคุณไม่ต้องช่วยหรอก”
หมอก้อย “หึ!”
หมอก้อยงอนแดนหันไปไม่สนใจอีก แดนแอบเหลือบมองหมอก้อย ก่อนจะอมยิ้มบางๆ
ในห้องมืดๆ มีชาวต่างชาติเอายาเม็ดสีฟ้า เข้าปากไป หลังจากนั้นไม่นานเริ่มมีอาการหายใจถี่ อาการคล้ายซอมบี้
ระหว่างที่ทุกคนกำลังมีความสุข ก็มีเสียงกรีิ้ดของผู้หญิงดังลั่น แดนรีบวิ่งไปดูทันที
แดนวิ่งมาจนถึงหน้าประตู ก่อนรีบผลักเข้าไป
แดนเห็นแม่บ้านทรุดนั่งลงที่พื้น ร้องไม่เป็นภาษา
ก่อนจะเห็นชายหนุ่มจีน คลุ้มคลั่งวิ่งออกมาจากห้อง เอาหัวโขกกำแพงอย่างแรง
ทุกคนอึ้ง
ชายหนุ่มมีอาการคล้ายซอมบี้ วิ่งชนกำแพงครั้งแล้วครั้งเล่าจนเลือดอาบร่าง
ทุกคนวิ่งตามแดนเข้ามาก่อนจะช็อกกับภาพที่เห็น แดนได้สติรีบเข้าไปชาร์จ แต่สู้แรงไม่ไหว ซินกับแสนแสบเข้าไปช่วยก็ยังไม่ไหว แถมกัดแขนแสนแสบจนร้องจ๊าก!!
ชายหนุ่มสะบัดตัว วิ่งตรงไปที่บันได ก่อนโดดหัวโหม่งพื้นแน่นิ่งไปอย่างสยดสยอง
เอมิกรีดร้อง
หมอก้อยหน้าซีด “เอมิ ออกไปกันก่อนเถอะ”
หมอก้อยประคองเอมิออกไป
ซินกับแดนมองภาพนี้แบบอึ้่งๆ
แดนส่งคลิป ให้เนมดู
“นายรู้จักไอ้นี้มะ”
“ฟักกา (Flakka) หรือ ยาซอมบี้ ตัวนี้สายแข็ง ของแรง ลูกค้าระดับ วีไอพี ไฮโซ ชอบถามหากัน ไม่คิดว่าจะแพร่จากยุโรปมาไทยเร็วขนาดนี้”
“มันไม่ใช่แค่ระบาด แต่มันเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่มีเงินด้วย มันเริ่มขยายขึ้นมาเรื่อยๆ อยากรู้ว่ามาเอเชียได้ไง”
“ลูกค้าเป็นรายใหญ่ของเดอะซัน เอฟเฟค ยาตัวนี้ ทำลายประสาทการรับรู้ความเจ็บปวด”
“ฉันจะไปดูในพื้นที่ อยากให้นายแฝงตัวไปกับเด็กเดินยาด้วย”
“ครับ”
บริเวณล็อบบี้ แดนเดินเก็บโทรศัพท์ก่อนเดินเข้ามาหาทุกคน
ซินเอายาดมให้เอมิ
แสนแสบโอดโอย หมอก้อยช่วยทำแผล
“ไอ้นั่นมันเป็นบ้าอะไร คลั่งอย่างกับผีบ้า โอยโคตรเจ็บอ่ะ”
“นั่นสิคะ เหมือนซอมบี้เลย”
“ห๊ะ...นี่ผมโดนกัด ผมจะเป็นซอมบี้ด้วยมั้ยเนี่ย”
“ไม่หรอก....นี่เป็นอาการจากยาเสพติดแบบนึง”
“เมายาเนี่ยะนะครับ ยาอะไรมันคลั่งได้ขนาดนี้ ยาบ้าอัพเลเวลเหรอ” ซินบอก
“ยิ่งกว่านั้นอีก ..เมืองนอกเรียกว่ายาซอมบี้”
“ฉันเคยได้ยินค่ะ แต่มันระบาดในต่างประเทศไม่ใช่เหรอคะ เป็นยาที่ทำลายประสาทขั้นรุนแรง มาถึงเมืองไทยแล้วเหรอเนี่ย”
“นั่นแหละที่ผมสงสัย เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแน่ๆ”
แดนใช้ความคิดหนักอย่างกังวล
บนสถานีตำรวจ นายตำรวจกำลังสอบปากคำ เฮียกวง ไกด์ลุคกวนประสาทของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เสพยาตาย
“ยาเสพติดอะไร ผมจะไปรู้จักที่ไหนอ่าคุณตำรวจ ผมมันก็คนหาเช้ากินค่ำ”
“ก็เฮียเป็นไกด์ นักท่องเที่ยวในความดูแลของเฮียได้ยาร้ายแรงขนาดนั้นมาเสพ เฮียไม่รู้ไม่เห็นเลย เป็นไปได้ยังไง” ตำรวจว่า
“โธ่ คุณตำรวจ.. พูดยังกับว่านักท่องเที่ยวคุมง่ายที่ไหนล่ะ บางทีผมบอกให้กิน ข้าวร้านนี่ ไปโผล่ถัดไปอีกสองซอยยังมีเลย แถมขอนอนคนเดียวอีก ผมจะไปตามติด รู้ได้ไงว่าใครไปเล่นยาอะไร ตอนไหน นี่ทั้งคณะเค้าไปถึงเกาะกันแล้ว ไอ้นี่มาโผล่ที่นี่ได้ไง ผมยังงงอยู่เลยเนี่ย”
ตำรวจฟังแล้วก็เริ่มคล้อยตาม
“แต่เป็นคนสุดท้ายที่มีคนเห็นอยู่กับเขา”
“ใครมันก็พูดไป! ผมเป็นไกด์ ส่งแขกถึงโรงแรมเสร็จก็แยกย้ายแล้ว ผมอายุก็ป่านนี้แล้วจะไปหายาเสพติดจากที่ไหน”
เฮียกวงยิ่งพูดก็ยิ่งมัน คิดว่ารอดชัวร์ แต่กลับไม่รู้ด้านหลังของตัวเอง มีเงาดำของนักเที่ยวจีนที่เพิ่งตาย จ้องเขม็งตาแดงก่ำใส่อย่างน่ากลัว
เฮียกวง เอามือแคะขี้มูกกวนๆ ไม่สนใจอะไร
“ก็บอกแล้วไงว่าผมไม่รู้”
เฮียกวงนั่งตรงข้ามตำรวจ กำลังโดนสอบสวนอยู่ ตำรวจปิดแฟ้มอย่างเซ็งๆ
“ลูกทัวร์หนีจากเกาะมาพัทยา เป็นไกด์แล้วไม่รู้เรื่องได้ยังไง”
“ผมนอนเฝ้าได้ที่ไหนล่า ใครจะจับเรือออกมาตอนไหน ผมจะไปห้ามได้ยังไง”
“นี่เฮีย.. ถ้ายังตอบอย่างงี้ ไม่ให้ข้อมูลอะไรเลย ก็นั่งอยู่ด้วยกันยันเที่ยงคืนนี่แหละ ไม่ต้องไปไหนหรอก”
“โห คุณตำรวจ.. ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่รู้ๆ กักตัวไว้แบบนี้ผมเสียหายนา ลูกทัวร์บนเกาะรออยู่ ผมก็ขาดรายได้ ถ้าผลออกมาผมไม่เกี่ยวข้องนี่ตำรวจต้องจ่ายค่าเสียหายนะคร๊าบ”
เฮียกวงทำเป็นเลื่อนเครื่องคิดเลขมากดๆ
“นี่คิดคร่าวๆ ค่าจ้างผมวันละสองพัน ค่าโอทีอีกห้าร้อย ก็สองพันห้า ลืมๆ ค่าอาหารด้วย ตีซะสองมื้อ แบบราคาตามสั่งข้างทาง 50 บาท รวมน้าจับเลี้ยงแล้ว คร่าวๆ 2620”
“เขี้ยวลากดินจริงๆ” ตำรวจว่า
เฮียกวงพูดบอกตำรวจเสร็จแล้ว ก็นั่งพิงสบายๆ แนวกวนๆเหนือกว่า
แดนแอบมอง เห็นท่าทางมั่นใจเกินไปของเฮียกวง แล้วก็สงสัย
ต่อมา ตำรวจท้องที่กำลังยืนมุงดูคลิปอะไรบางอย่างจากมือถือ
ตำรวจ1 “อู้หูย เลือดเต็มๆ”
ตำรวจ2 “เฮ้ยๆ นี่คือคนจริงๆหรอวะ.. ทำไมเหมือนซอมบี้เลย”
แดนเดินออกมาจากแถวห้องสอบสวนพอดี เห็นตำรวจยืนดูคลิปอยู่
แดนเสียงเข้ม “ดูอะไรกันอยู่”
ตำรวจ2 “อุ้ย.. ขอโทษครับ” แล้วรีบซ่อนมือถือ “เอ่อ ท่านรองแดเนียลจากหน่วย DEI ที่จะมา
สอบปากคำเรื่องนักท่องเที่ยวโอเวอร์โดสใช่มั้ยครับ....สวัสดีครับท่าน!” แล้วทำความเคารพ
แดนพยักหน้า “ใช่...สรุปดูอะไรกันอยู่”
ตำรวจ2 “เอ่อ.. ท่านลองดูเองดีกว่าครับ” แล้วส่งมือถือ
แดนรับไปดู ในคลิปเห็นชาวต่างชาติอาการคลุ้มคลั่ง กำลังไล่กัดคนอื่น เป็นคลิปที่ใครเห็นก็ขนลุก
ตำรวจเล่าให้แดนฟัง
ตำรวจ1 “ยาเสพติดตัวใหม่ครับ เพิ่งระบาดแถบพัทยาไม่นานมานี้เอง คนที่กินเข้าไปนะ จะกลายเป็นคนคลุ้มคลั่ง หลอน มีอาการแบบนี้ครับ นักท่องเที่ยวที่ตายไปในโรงแรมก็น่าจะยาตัวเดียวกันครับ”
“ยาซอมบี้อีกแล้วหรอ มันระบาดหนักขนาดไหนกันแน่”
ตำรวจ1 “คือถ้าประเมินสถานการณ์ตอนนี้นะครับ..เกรงว่า”
โทรศัพท์มือถือตำรวจดัง ตำรวจทำความเคารพก่อนหันกลับไปรับมือถือ
ตำรวจ 2 ฟังในโทรศัพท์ “ครับ..อีกศพแล้วหรอครับ! ได้ครับ ผมจะไปที่เกาะเดี๋ยวนี้”
ตำรวจ 2 วางสาย แดนกับตำรวจอีกคนหนึ่งรอท่า ดูว่าสถานการณ์จะแย่ลงอีก
ตำรวจ 2 “มีนักท่องเที่ยวจีนตายเพิ่มที่เกาะอีกแล้วครับ มีตำรวจไปที่เกาะกำลังพยายามลำเลียงคนออกมาจากเกาะ เพื่อควบคุมสถานการณ์ครับ”
แดนพยักหน้าให้ ตำรวจ2 อึกอักๆ ก่อนจะรายงานต่อ
“แต่ว่า..มีปัญหานิดหน่อยครับ”
แดนถาม “ปัญหาอะไร ?”
อ่านต่อตอนที่ 4