xs
xsm
sm
md
lg

ความรักบทใหม่ของ “มะเดี่ยว” !

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ความรักบทใหม่ของ “มะเดี่ยว” !

ภาพยนตร์ : “ดิว ไปด้วยกันนะ”
อำนวยการสร้าง: ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
กำกับและเขียนบท: มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล
นักแสดง: เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ, ญารินดา บุนนาค, ปั๋น-ดริสา การพจน์, นนท์-ศดานนท์ ดุรงคเวโรจน์, โอม-ภวัต จิตต์สว่างดี, อุ๋ม-อาภาศิริ นิติพน, แจง-วราพรรณ หงุ่ยตระกูล
เข้าฉาย: 31 ตุลาคม 2562

คุณมีมั้ย? ใครสักคนที่รู้สึกเหมือนถูกลิขิตมาให้พบกัน และคงมีหลายเรื่องราวในชีวิตคุณ ที่อยากจะกลับไปแก้ไข “อดีต” นั้นๆ อย่างน้อยเพื่อให้คุณรู้สึกผิดและเจ็บปวดน้อยลงกับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ...

ในปี 2539 “ภพ” (นนท์) เด็กหนุ่มในเมือง “ปางน้อย” ได้พบกับ “ดิว” (โอม) เด็กชายอีกคนที่ย้ายมาจากเมืองเชียงใหม่ ทั้งคู่ผ่านความเป็นคนแปลกหน้ามาสนิทกันอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกและความสัมพันธ์ของพวกเขาเติบโตจนเกินกว่าที่สังคมในยุคสมัยนั้นจะยอมรับ ทั้งคู่จึงต้องคอยปกปิดมันไว้และเฝ้ารอวันที่พวกเขาจะเลือกทางเดินให้กับชีวิตตัวเองได้ แต่ก็กลับมีเหตุการณ์บางอย่างเข้ามาและแยกเส้นทางชีวิตของทั้งคู่ออกจากกัน
23 ปีต่อมา ภพ (เวียร์) เติบโตเป็นผู้ใหญ่และได้แต่งงานกับ “อร” (ญารินดา) เขากลับมาที่ปางน้อยอีกครั้งในฐานะครูที่โรงเรียนเก่าสมัยมัธยม ที่นั่นเขาได้เจอกับ “หลิว” (ปั๋น) นักเรียนหญิงม.ปลายคนหนึ่งที่มีอะไรบางอย่างทำให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตที่กลายปมผิดพลาดในใจ และยิ่งเขาอยากกลับไปแก้ไข…
อดีตที่เจ็บปวดของภพจะถูกรักษาหรือจะทำให้ปัจจุบันพังทลายลง? บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร?

เกร็ดของหนังเรื่องนี้

1.นี่คือหนังที่มะเดี่ยวทำเพื่อรำลึกถึงความรุ่งเรืองของหนังวัยรุ่นยุค 90’s หนังที่กล่อมเกลาเขาให้เป็นคนทำหนังเช่นทุกวันนี้

2.หนังเรื่องนี้พูดถึงความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มสองคนที่อาจจะทำให้คุณนึกไปถึง “รักแห่งสยาม” (2007) ผลงานก่อนหน้านี้ของมะเดี่ยวที่ได้รับการยอมรับอย่างมาก แต่มะเดี่ยวบอกว่า “ดิว ไปด้วยกันนะ” เป็นมุมมองความรักของเขาที่เติบโตขึ้น นิยามความรักของมะเดี่ยวในหนังเรื่องนี้จึงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

3.หนังเล่าเรื่องการเติบโตของ ภพ โดยในวัยเด็กซึ่งมีความทรงจำกับเพื่อนชายคนสนิทที่งดงาม บทนี้รับหน้าที่โดย นนท์-ศดานนท์ กับ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คนแรกเพิ่งเล่นหนังเรื่องแรก คนหลังเพิ่งคว้ารางวัลสุพรรณหงส์ นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม แต่ทั้งคู่ใช้เวลาทำการบ้านกับตัวละครร่วมกันจนสนิทกันในชีวิตจริง และมีบางสิ่งบางอย่างเชื่อมโยงกันอย่างไม่น่าเชื่อ

4.ผลงานเรื่องแรกของ ปั๋น-ดริสา การพจน์ นักวาดภาพประกอบเจ้าของนามสมมติว่า Riety ที่กำลังมาแรง เธอรับบท หลิว ลูกศิษย์ของภพในยุคปัจจุบัน

5.หนังมีฉากหลังเป็นเชียงใหม่ โดย “ภพ” คือตัวละครที่มีเชื้อสายจีนซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่นั่น ทว่า นนท์-ศดานนท์ กับ เวียร์-ศุกลวัฒน์ ผู้รับบทภพ เป็นครอบครัวชาวใต้และอีสาน (ตามลำดับ)

6.นนท์-ศดานนท์ ต้องพูดจีนกับครอบครัวในเรื่อง เขาต้องหัดใช้ภาษาจีนใหม่จากพื้นฐานที่มีอยู่เล็กน้อย

ความรักบทใหม่ของ “มะเดี่ยว”!

“ดิว ไปด้วยกันนะ” ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุลเป็นทั้งกำกับฯ และเขียนบทภาพยนตร์
มะเดี่ยวเล่าว่า “สิ่งที่มันมีอยู่คือความเจ็บปวดในอดีต มันส่งผลมาถึงปัจจุบันที่ยังต้องการความรักนั้นอยู่ เขายังคงอยู่กับรักแรกที่อาจเคยทำผิดพลาดไป พอเขามีโอกาสอีกครั้งก็ดันเป็นช่วงชีวิตที่มีความรู้สึกผิดและล้มเหลวเข้ามาด้วย คือในวัยเด็กของหนังถึงแม้จะเป็นความรักที่ต้องห้าม แต่โลกมันสดใสมากเลยนะ เต็มไปด้วยความอบอุ่น สดใส สว่าง นั่งกลางแดดตลอดเวลา แต่พอตัวละครโตขึ้น ต่อให้ทุกอย่างมันถูกครรลองคลองธรรม เหตุการณ์ในวัยเด็กมันก็กลับมาเมื่อตัวละครได้มาอยู่ในโลกเดิมๆ ที่เคยเป็น เขากลับมาที่ปางน้อยด้วยความรู้สึกล้มเหลว พอความเครียดมันประเดประดังเข้ามามากๆ เมื่อเจอแสงสว่างจากอดีตส่องเข้ามาเพียงน้อยนิด เขาก็เลยพยายามที่จะเดินเข้าไปหา”

สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนดูเทใจกับ ‘รักแห่งสยาม’ คือการที่หนังตั้งคำถามต่อความรักในเพศเดียวกัน ใน “ดิว ไปด้วยกันนะ” เองก็เช่นกัน ด้วยการวางเพศสถานะนี้ในสังคมไทยชนบทของเด็กมัธยมชาย ช่วง พ.ศ.2539 อันเป็นช่วงเวลาที่สังคมยังไม่เปิดรับเรื่องความหลากหลายทางเพศมากนัก

“ความรักในเพศเดียวกันในยุคนั้นมันเป็นความผิดร้ายแรง ประเด็น LGBT ในหนังเรื่องนี้บางทีเด็กรุ่นนี้อาจจะไม่เก็ต แน่นอนเพราะเราผ่าน ‘รักแห่งสยาม’ มาแล้ว แต่ถ้าคนรุ่นเดียวกับเราไปดูน่าจะรู้สึกอะไรบางอย่าง ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง และเคยเกิดขึ้นจริงๆ ในสังคมที่เราเคยผ่านมา เขาปฏิบัติกันแบบนั้น เป็นแล้วต้องรักษา เพราะเมื่อก่อนเรื่องโรคเอดส์มันเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมาก ใครเป็นกะเทยมีความเสี่ยงจะเป็นเอดส์ทันที”

เมื่อหนังมีช่วงเวลาสำคัญเป็นสังคมมัธยม พ.ศ.2539 มะเดี่ยวจึงเลือกที่จะเล่าหนังในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยทิศทางแบบหนังวัยรุ่นไทยยุค 90’s อันเป็นยุคทองของหนังกลุ่มนี้
“เราโตมาในยุคนั้น และเราก็มองโลกในมุมที่สดใส หนังวัยรุ่นในยุคนั้นมันใสมากเลยนะ มันไร้เดียงสา มันกล่อมเกลาให้เราเป็นคนดี ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเลวร้ายแค่ไหนก็ตามแต่ สุดท้ายมันจะปลูกฝังให้เราเป็นคนดี ทำให้เรามองโลกสดใส มีเพื่อน มีคนรัก มีครอบครัว ที่คอยอยู่เคียงข้าง ดราม่าแค่ไหนสุดท้ายก็จะจบสวย รู้สึกว่าจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวละครน่ะมันหม่น แต่เราอยากให้โลกมันสดใสในแบบหนังที่เราเคยดู ‘หวานมันส์ฉันคือเธอ’, ‘แบบว่าโลกนี้มีน้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ’, ‘กระโปรงบาน..ขาสั้น’ หรือแม้กระทั่ง ‘บุญชู’ ในหนังพวกนี้ไม่ได้พูดถึงคนที่มีเพศสภาพนี้เลยนะ ถ้ามีก็เป็นตัวประกอบตลกโปกฮา เราเลยเอาสีสันแบบนั้นมา แล้่วเอาตัวละครเราไปอยู่ตรงนั้น ได้สร้างโลกใหม่ให้กับตัวละครชายรักชายขึ้นมาในยุคนั้น”

เพราะ ‘ดิว ไปด้วยกันนะ’ มีแก่นคือเรื่องรักระหว่างวัยรุ่นชายสองคน ทำให้ยากที่จะเลี่ยงหากมีคนดูนำหนังไปเทียบกับผลงานที่มีลักษณะคล้ายกันนี้ของมะเดี่ยวอย่าง ‘รักแห่งสยาม’ เขามองว่า
“มันเทียบกันไม่ได้หรอก มันเป็นการเติบโตอีกแบบนึงนะ ในวันนี้เราอาจจะทำหนังแบบ ‘รักแห่งสยาม’ ไม่ได้แล้วก็ได้ เพราะครั้งนั้นมันเป็นหนังที่เต็มไปด้วยไฟแห่งคนหนุ่มที่ยังมองผ่านสายตาของวัยรุ่นอยู่ มีความรู้สึกว่าโลกนี้ยังมีความรัก มีความหวัง มีทางแก้ไขอะไรบางอย่างให้ชีวิตมันดีขึ้นด้วยความเข้าใจกัน แต่พอมาถึงเรื่องนี้เราเป็นผู้ใหญ่อีกแบบแล้ว ถ้าอะไรมันพังมันก็พังเลยเว้ย แก่ป่านนี้มันแก้อะไรไม่ได้แล้ว ถึงตอนนี้เราจะไม่เชื่ออะไรแบบใน ‘รักแห่งสยาม’ ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่มนุษย์อยากเชื่ออะไรแบบนั้นนะ แล้วมันก็พิสูจน์แล้วว่าคนยังอยากเห็นความสวยงามแบบนั้นอยู่ ซึ่งเราคงย้อนกลับไปทำสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ เพราะเราก็โตแล้วในระดับหนึ่ง เราอยากทำในสิ่งที่เราเชื่อมั่น ทุกวันนี้เรามองย้อนไปในสิ่งที่ได้ทำก็ยังภูมิใจกับมันนะ แต่ในวัยที่มันผ่านมาแล้วเราก็จะมองหนังเรื่องนั้นอีกแบบหนึ่ง และเราก็ทำหนังเรื่องใหม่ด้วยความคิดอีกแบบหนึ่งแล้ว”

ปัจจุบันมะเดี่ยวมีมุมมองเรื่องความรักอย่างไร เขาตอบว่า
“มันก็ยังเป็นอมตะ ความรักเป็นสิ่งที่ไม่มีวันตายนะ อย่างแฟนเราเพิ่งเสียไป เราก็ยังรักเขาอยู่ สมมติเรารักใครคนหนึ่ง เมื่อวันที่เขาไม่อยู่แล้วเราก็ไม่รู้จะไปรักใคร สิ่งที่เราให้เขามันไม่มีคนรับอีกแล้ว เราเคยให้เงินใคร เราเคยกินข้าวกับใคร มันไม่มีคนคนนั้นอยู่แล้ว แต่ความรักมันจะยังอยู่ เรายังอยู่ว่ายังคงให้ความรักกับคนคนนี้อยู่ตลอดเวลาทุกวันไม่เคยเปลี่ยน มันก็เจ็บปวดทรมาน มันก็ทุกข์ มันมีความเศร้าที่มีความรู้สึกผิดอีกหลายอย่าง ในชีวิตเรากับแฟนทำงานด้วยกัน ทำหลายอย่างมาด้วยกัน แม้แต่หนังเรื่องนี้ แต่พอเราไม่มีแล้วก็อดไม่ได้ที่จะมีความรู้สึกอย่าง ‘ไม่น่าเลยนะ เราไม่น่าปล่อยให้เขาทำงานหนัก’ หรือ ‘ถ้าวันนั้นเราดูแลกันดีกว่านี้ ก็คงไม่…’ มันมีความรู้สึกแบบนี้วูบวาบมาตลอด แต่มันเป็นสิ่งที่เราต้องผ่านมันไปให้ได้แหละ”
ร่วมพิสูจน์ ความรักบทใหม่ “ดิว ไปด้วยกันนะ” ได้แล้ววันนี้ ... คนรุ่นนี้จะประทับใจกับเรื่องราวที่ได้ดู ส่วนคนที่มีประสบการณ์ในชีวิต หรือรุ่นเดียวกับ “ภพ” ก็อาจจะตีความจากเรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้

ผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมา
2004 - คน ผี ปีศาจ (กำกับ, เขียนบท)
2006 - 13 เกมสยอง (กำกับ, เขียนบท)
2007 - รักแห่งสยาม (กำกับ, เขียนบท)
2007 - บอดี้ ศพ#19 (เขียนบท)
2008 - ฝัน หวาน อาย จูบ, ตอน “จูบ” (กำกับ, เขียนบท)
2008 - ช็อคโกแลต (เขียนบท)
2011 - หลุดสี่หลุด, ตอน “ฮูอากง” (กำกับ, เขียนบท)
2012 - Home ความรัก ความสุข ความทรงจำ (กำกับ, เขียนบท)
2013 - เกรียนฟิคชั่น (กำกับ, เขียนบท)
2014 - The Eyes Diary คนเห็นผี (กำกับ, เขียนบท)
2017 - ของขวัญ ตอน “เมฆฝนบนป่าเหนือ” (กำกับ, เขียนบท)
2019 - แสงกระสือ (เขียนบท)
2019 - ดิว ไปด้วยกันนะ (กำกับ, เขียนบท)











กำลังโหลดความคิดเห็น