xs
xsm
sm
md
lg

เรื่องย่อ "Little Monsters" (ซอมบี้มาแล้วงับ)

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เรื่องย่อ "Little Monsters" (ซอมบี้มาแล้วงับ)

ชื่อเรื่อง : Little Monsters ซอมบี้มาแล้วงับ (ลิตเติ้ลมอนสเตอร์ ซอมบี้มาแล้วงับ)
ประเภท : Comedy / Horror
กำหนดฉาย : 7 พฤศจิกายน
บริษัทจัดจำหน่าย : โมโนฟิล์ม
ควบคุมงานสร้าง : บรูน่า พาแพนเดรีย (Warm Bodies, Gone Girl), คีธ คาลเดอร์ (You’re Next, Blair Witch)
กำกับ / เขียนบท : เอป ฟอร์ไซท์ (Down Under)
แสดงนำ : ลูพิต้า ยองโก (Black Panther, US), อเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์ (Down Under), จอช แกด (Pixels, Frozen)
เรื่องย่อ : เมื่อเกิดเหตุซอมบี้ออกอาละวาดในขณะที่โรงเรียนกำลังจัดกิจกรรมทัศนศึกษาคุณครูพี่เลี้ยงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเด็กอนุบาลจากฝูงซอมบี้กระหายเลือด

เกี่ยวกับตัวละคร :

เดฟ รับบทโดย อเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์
เดฟ ผู้ชายในวัย 35 ปี ที่ยังทำตัวทันสมัยอยู่ตลอดเวลา บทนี้เป็นเหมือนกับตัวแทนของ เอป ฟอร์ไซท์ “เดฟ กลัวการที่จะมีลูกเป็นของตนเอง ด้วยเหตุผลทั่วๆ ไป ที่ผู้ชายหลายคนมักกลัว

นักแสดงอย่างอเล็กซานเดอร์ กล่าวถึงตัวละครเดฟไว้ว่า “เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ฝังอยู่ในร่างของชายหนุ่ม เดฟ ไม่เคยเรียนรู้เกี่ยวกับความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและคนอื่น ไม่แคร์คนอื่นเว้นเสียแต่ตนเอง ความเป็นตัวตนของเขาได้นำพาสถานการณ์ร้ายแรงเข้ามาสู่ทุกคน เขาไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้แต่ความหมายในการมีชีวิตอยู่ ดังนั้นเขาจึงเอื้อมมือไปคว้าเมื่อมีบางสิ่งเริ่มมีความหมายให้แก่ชีวิตของเขา

“เดฟเป็นตัวละครคลาสสิกในแง่ของการเป็นตัวละคร coming of age” โจดิ แมทเทอร์สัน กล่าว “ครั้งแรกที่เราได้รู้จักเขา เขาเป็นคนที่สิ้นหวังอย่างมาก ไม่มีใครชอบเขา และพูดจาหยาบคาย เขามาร่วมทัศนศึกษากับเด็กๆ ด้วยเหตุผลที่อยากมีเซ็กส์กับครูอนุบาล แต่ถึงกระนั้นเมื่อถึงเหตุการณ์เข้าตาจน เขากลับสามารถค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตนเองได้

สำหรับ เอป ฟอร์ไซท์ การเป็นพ่อคน ได้นำมาซึ่งการสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา ”เมื่อนึกย้อนไปเมื่อผมได้อุ้มลูกชายของผมเป็นครั้งแรก การได้เห็นเขาลืมตาขึ้นมาบนโลกใบนี้ทำให้ความคิดในสมองของผมได้เปลี่ยนไป” เดฟ ได้ค้นพบว่าสิ่งที่เขากลัวมากที่สุดกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของเขา ถ้าเขาไม่ได้เข้ามาร่วมทัศนศึกษา เขาก็จะไม่มีวันรู้เลยว่าความหมายที่แท้จริงของชีวิตคืออะไร
“สิ่งที่อเล็กซานเดอร์ อิงแลนด์ทำกับตัวละครนี้เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ” แมทเทอร์สัน กล่าว “นอกจากความตลกแล้ว เขายังมีทั้งความลึกซึ้งและงดงามอยู่ในการแสดงของเขา”

เพื่อนนักแสดงอย่าง ลูพิต้า ยองโก ได้กล่าวว่า “ครั้งแรกที่ได้ฉันได้เจอกับอเล็กซ์ คือวันที่ฉันไปที่ออสเตรเลียเพื่อซ้อมบท นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันมาที่นี่ ฉันก็ประหม่าเล็กน้อย แต่แล้วฉันก็เห็นอเล็กซ์เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับรอยยิ้มของเขา มันช่วยได้มากกับความกังวลเล็กๆ ของฉัน เรานั่งและซ้อมบทไปด้วยกัน เขานั้นมีความสามารถและมีจิตใจที่งดงาม ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงได้รับบทเดฟ”

มิส แคโรไลน์ รับบท โดย ลูพิต้า ยองโก
หนึ่งในสิ่งที่ ฟอร์ไซท์และ แมทเทอร์สัน ต้องการนำเสนอเมื่อพูดถึงบทภาพยนตร์เรื่องนี้ นั่นก็คือพวกเขาอยากที่จะทำหนังแอ็คชั่นที่มีฮีโร่ในรูปแบบที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อน โดยการเปลี่ยนครูอนุบาลให้กลายมาเป็น สาวฮีโร่อย่างริปลีย์ ใน Alien หรือ ซาร่า คอนเนอร์ จาก Terminator

เมื่อฝูงซอมบี้ได้เริ่มแพร่กระจาย มิส แคโรไลน์ อยู่ท่ามกลางเด็กน้อยที่ต้องการคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเองก็ไม่รู้ซึ่งนั่นก็เหมือนกับเป็นการบังคับให้ต้องก้าวมาเป็นฮีโร่ในหมู่เด็กๆ ซึ่งรวมไปถึงฮีโร่ของผู้ใหญ่บางคนด้วย

“คุณครูอนุบาลที่ใจดี แต่งตัวน่ารักๆ พร้อมกับมือที่ถืออูคู่เลเล่” ฟอร์ไซท์กล่าว “และคุณเองก็อยากให้เธอมาเป็นผู้นำด้วยเมื่อเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ล้างโลก”

ลูพิต้า ยองโก อธิบายคาแรกเตอร์ของ มิส แคโรไลน์ เพิ่มเติมว่า “เธอเหมือนกับครูสาวมาเรีย จากเรื่อง The Sound of Music เธอทุ่มเทให้กับนักเรียนของเธอในฐานะคุณครู และ ในฐานะผู้ปกป้อง เธอเป็นคนที่มีระเบียบสูง และ สามารถดูแลตนเองและคนอื่นได้ดี เธอเปรียบเสมือนดวงตะวัน เพราะเธอพยายามทำให้ทุกอย่างดูสว่างไสว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม

ฟอร์ไซท์ และ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ลีออน คราเซนสไตน์ ต้องการให้สี กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งในการเล่าเรื่อง เด็กๆ แต่งกายในสีฟ้า มิส แคโรไลน์ ในสีเหลือง ตัดกับเดฟ ที่เครื่องแต่งกายคือสีดำ

การให้ มิส แคโรไลน์ ใส่สีเหลืองนั้นเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ โดยที่มีเด็กๆ ที่เป็นสีฟ้า นั่นหมายถึงท้องฟ้าที่อยู่ รอบๆ ดวงอาทิตย์

มิส แคโรไลน์ ตัดสินใจที่จะอธิบายให้เด็กๆ ฟังว่าทุกสิ่งที่เด็กๆ มองเห็นนั้น มันเป็นเกม เธอสามารถที่จะควบคุมเด็กๆ ได้ เมื่อจริงๆ แล้วสถานการณ์นั้นเลวร้ายเกินกว่าจะควบคุม
โปรดิวเซอร์อย่าง สตีฟ ฮูเทนสกี้ อธิบายว่า “มันเป็นเรื่องราวอำนาจกับผู้หญิง และเป็นคาแรกเตอร์ของผู้หญิงที่แท้จริงซึ่งเป็นศูนย์กลางของเรื่อง มิส แคโรไลน์ มีเสน่ห์ และ อ่อนไหว แต่แล้วเธอจำเป็นต้องกลายมาเป็นฮีโร่ สำหรับผม เธอเป็นฮีโร่ของทุกคน เพราะเธอไม่ใช่ เจมส์ บอนด์ หรือ สาวแกร่งอะไร แต่เธอใช้ความฉลาด ทักษะการควมคุมเด็กๆ และ การร้องเพลง เพื่อที่จะปกป้องเด็กๆ ให้พ้นจากซอมบี้ มันเป็นบทบาทที่น่าสนใจมาก”

เทดดี้ แมคกิกเกิ้ล รับบทโดย จอช แกด
เทดดี้ เป็นนักให้ความบันเทิงระดับซูเปอร์สตาร์ ให้แก่เด็ก แต่งกายโดยชุดโพลก้าดอท ขนาดใหญ่เกินตัว มาพร้อมกับเน็คไทสีแดง เขากลายมาเป็นที่โด่งดังทั่วโลกด้วยฝีมือการแสดงหุ่นมือที่ชื่อว่า ฟร็อกซี่ ทั้งสองสอนเด็กๆ ในเรื่องความรับผิดชอบ และ การควบคุมอารมณ์

แต่เมื่อไรที่กล้องได้หยุดถ่ายลง เท็ดดี้จะกลายมาเป็นอีกคน เขาจะกลายเป็นคนบ้าบอ เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างอันตราย ทั้งอารมณ์และการกระทำอย่างอันตราย และเมื่อเขา เดฟ และ มิส แคโรไลน์ ติดอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องสู้กับฝูงซอมบี้ เท็ดดี้ได้กลายเป็นบุคคลที่ทำให้ตัวเขาและทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย
สำหรับแรงบันดาลใจในการคิดค้นตัวละครนี้ขึ้นมา เอป ฟอร์ไซท์ ได้กล่าวว่า “เท็ดดี้ แมคกิกเกิ้ล มาจากการที่ผมได้ดูทีวีโชว์สำหรับเด็กมาอย่างมากมาย ทุกคนนั้นดูแสร้งแกล้งมีความสุขกันทุกคน แต่คือเราดูออกว่าเขาเองก็มีปัญหาในชีวิตส่วนตัวเหมือนกับเราๆ ทุกคน มันดูเป็นเรื่องของการอธิบายว่าบุคคลที่มารับหน้าที่สอนลูกของเราเรื่องความผิดชอบชั่วดีในจอทีวีนั้น จริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น จริงๆ แล้วเขาอาจจะไม่ใช่คนที่เราควรไว้เนื้อเชื่อใจเลยเสียด้วยซ้ำ”

จอช แกด ได้กล่าวถึงตัวละครนี้เอาไว้ว่า “เท็ดดี้ เป็นตัวละครที่มีนิสัยแย่ เขาใช้ความเป็นผู้ชายในทางการพยายามทำตัวมีอำนาจและใช้ชื่อเสียงอย่างผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นการพยายามหลอกล่อ มิส แคโรไลน์เพื่อไปหลับนอนด้วย หรือ การที่ทำตัวเหมือนจะแคร์เด็กๆ หรือจริงๆ แล้วคือไม่เลย ซึ่งการที่ เอป ส่งตัวละครแบบนี้ไปอยู่ท่ามกลางฝูงซอมบี้ พร้อมกับ เด็กๆ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจว่าสุดท้ายแล้ว เขาจะได้รับผลอะไร”

เหล่าเด็กๆ ที่โรงเรียน
ด้วยความที่ลูกชาย ในวัย 11 ของ เอป ฟอร์ไซท์ เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว ฝ่ายจัดหานักแสดงของภาพยนตร์เรื่อง Little Monsters จึงเป็นความท้าทายอย่างหนึ่ง แต่ความท้าทายนี้เป็นแรงกระตุ้นและสร้างความตื่นเต้นให้ เอป เป็นอย่างมาก

“ช่วงที่ผมเลี้ยงลูกขึ้นมา ผมมีความโชคดีอย่างหนึ่งนั่นคือการที่ผมได้ทำงานทั้งภาพยนตร์และโฆษณาร่วมกันเด็ก ตั้งแต่อายุ 5 ขวบลงไป หลายครั้ง” ฟอร์ไซท์ กล่าว “มันมีความงดงาม และไร้เดียงสาของเด็กในวัยนั้น ผมจึงได้สร้างบทที่ทำให้เราได้เห็นความไร้เดียงสานั้นลงไปในบทภาพยนตร์ เพื่อที่จะจับภาพความไร้เดียงสาเหล่านั้นจริงๆ ในภาพยนตร์”

ทีมงานได้รับเทปการออดิชั่นจากเด็กๆ กว่า ร้อยชิ้น แล้วพวกเขาก็ได้คัดเลือกออกมา ตามด้วยการแคสติ้งจริงๆ แล้วก็ทำการเวิร์คชอปเพื่อให้เห็นการตอบสนองและการสื่อสารของเด็กแต่ละคน “เราต้องการให้การแสดงนั้นถูกต้อง เราต้องการเด็กๆ พอเข้าใจว่าการทำงานของกล้องเป็นอย่างไร และเราต้องการพลังงานจากพวกเขาอย่างมาก” เอป กล่าว “เด็กเหล่านี้จำเป็นต้องทำอะไรซ้ำๆ เดิมๆ หลายๆ รอบ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีความเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา มันจะง่ายกว่านี้ถ้าเราใช้เด็กอายุ 7-8 ปี แต่สำหรับภาพยนตร์เรื่อง Little Monsters เราจะเป็นต้องเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ มันมีความต่างอย่างมากสำหรับเด็ก 5 ขวบ และ 8 ขวบ”








กำลังโหลดความคิดเห็น