เรื่องย่อตอน "รอยอาฆาต"
ตอนที่ 7 ออกอากาศวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2562 เวลา 20.20 น. ทางช่อง 7 HD
ภาพในความฝันของอัณศยา พิรุณมาหาเธอ ขอโทษเธอที่ทำให้เธอเสียใจ
อัณศยาสะดุ้งตื่น หัวใจเต้นแรง ดูนาฬิกาเป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว เดินไปดูที่ห้องพิรุณก็ยังไม่กลับมาจึงโทรศัพท์หาพิรุณ แต่เป็นคนอื่นรับ เธอได้ยินเสียงไซเรนและคนตะโกนโหวกเหวก แล้วสายก็ตัดไป พอโทรกลับไปอีกทีโทรศัพท์พิรุณก็ถูกปิดไปแล้ว
หญิงข้างบ้านมาตะโกนเรียกนงนารถ อัณศยาเดินไปเปิดประตูดู นงนารถตามมาสมทบ ป้าคนนั้นบอกนงนารถว่ามีคนถูกรถชน ไม่แน่ใจว่าใช่พิรุณหรือเปล่า ให้นงนารถรีบไปดู
อัณศยากับนงนารถนั่งรถออกไปดู ในใจของทั้งคู่ภาวนาขอให้ไม่ใช่พิรุณ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ นงนารถวิ่งเข้าไปดูศพ พอเห็นว่าเป็นพิรุณก็เป็นลม อัณศยายืนจ้องนิ่งอยู่ซักพัก ก่อนค่อยๆถอยหลัง เดินเซจะล้มลง ภามเข้ามาประคองรับไว้ได้ทัน ภามมาที่เกิดเหตุเพราะเจ้าหน้าที่โทรหาเขา เนื่องจากเบอร์สุดท้ายที่พิรุณติดต่อคือเบอร์ของเขา
ตำรวจมาเชิญภามไปสอบถามเกี่ยวกับพิรุณ เขาให้อัณศยาไปรอที่รถ แต่อัณศยาลุกขึ้นเดินไปกอดศพพิรุณ ร้องไห้คร่ำครวญจนหมดสติ
ที่ผับ ภิมลภากำลังดื่มและเต้นกับเพื่อนอย่างเมามัน ชายคนหนึ่งที่เพิ่งมาถึงสอดส่ายสายตามองหา เมื่อเจอโต๊ะของภิมลภา เขาเดินเข้ามากระซิบข้างหูเธอ ภิมลภามีสีหน้าพอใจ เธอหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปพร้อมชายคนนั้น
อัณศยานอนอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลด้วยฤทธิ์ยานอนหลับ ภามเฝ้าดูแลหญิงสาวคนที่นับว่าเป็นของต้องห้ามสำหรับเขา ภามจูบหน้าผากเธอ ขอโทษสำหรับทุกอย่าง
รุ่งสาง ธีรสิทธิ์กลับมาบ้าน แพรพิมพ์ถามว่าเขาหายไปไหนมาทั้งคืน แต่ธีรสิทธิ์ไม่สนใจจะตอบ เขาขึ้นห้องนอน หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย แพรพิมพ์เหนื่อยใจกับสามี
พัชระถูกปลุกจากเสียงกดออดหน้าห้องแต่เช้า เมื่อเปิดประตูก็เจอกรรณิการ์ยืนอยู่ในสภาพอิดโรย พัชระให้เธอเข้าห้องและดูแลอย่างดี พัชระเสนอให้กรรณิการ์พักอยู่กับเขาไปก่อน จนกว่าจะคิดหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้
งานศพของพิรุณจัดที่วัดใกล้บ้าน โดยมีภามช่วยจัดการทุกอย่างให้ รวมถึงดูแลนงนารถที่เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญว่าพิรุณไม่ควรกลับมา
อัณศยาฟื้นขึ้นมาพร้อมน้ำตา เธอฝันสับสนปนเปไปหมด พยาบาลเรียกดึงสติเธอกลับมา อัณศยาถามถึงพิรุณว่าอยู่ที่ไหน เธอต้องการไปลาเขา พยาบาลบอกจะไปหาให้
พ.ต.ต.สุขุม เจ้าของคดีของพิรุณเข้ามาคุยกับอัณศยา เขาเอาภาพตัวอักษรสีเลือด ภ ม มาให้อัณศยาดู เขาถามความเห็นของอัณศยาว่าพิรุณน่าจะหมายถึงอะไร แว่บแรกอัณศยานึกถึงชื่อ ภาม และ ภิมลภา เธอเชื่อว่า 2 คนนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการตายของพิรุณ
อัณศยาบอกสุขุมตามที่เธอคิด ว่าตัวอักษรน่าจะหมายถึงภามและภิมลภา เธอเชื่อว่าการตายของพิรุณไม่ใช่อุบัติเหตุ ถึงเธอจะไม่แน่ใจว่าภามและภิมลภารู้สึกยังไงกับการแบ่งมรดก แต่เธอแน่ใจว่าภิมลภาเกลียดพิรุณ อัณศยาเล่าเรื่องที่พิรุณเจอหลักฐานการฆาตกรรมเจ้าสัวไพศาลให้สุขุมฟังด้วย เธอสงสัยว่าฆาตกรอาจจะต้องการกำจัดพิรุณ สุขุมรับปากว่าจะตรวจสอบเรื่องนี้และหารือกับสารวัตรคมกริชให้อีกที
อัณศยาขอให้สุขุมช่วยโทรแจ้งข่าวกับอินทิรา หลังสุขุมวางสาย เขาบอกว่าอินทิราจะขับรถไปเชียงใหม่และจะรีบบินมาหาเธอให้เร็วที่สุด พยาบาลกลับมาบอกสถานที่จัดงานศพพิรุณให้อัณศยาทราบ พร้อมบอกว่าภามบอกไว้ว่าจะกลับมารับเธอไปงาน แต่อัณศยาไม่รอ
เมื่อภามมาถึงโรงพยาบาล เขาก็ไม่เจออัณศยาแล้ว
อัณศยานั่งรถ Taxi มางานศพของพิรุณ ตลอดทางเธอนึกถึงความผูกพันระหว่างเธอกับเขา เมื่อรถผ่านจุดเกิดเหตุ อัณศยายิ่งร้องไห้หนัก
สุขุมมาหาคมกริชและนรีเพื่อปรึกษาในเรื่องของคดีที่มีความเชื่อมโยงกัน ความจริงแล้วทั้ง 3 คนสนิทสนมคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะคมกริชกับสุขุมเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมา ส่วนนรีนั้นสุขุมเคยได้ร่วมงานอยู่บ่อยๆ
คมกริชค่อนข้างมั่นใจว่าการตายของพิรุณไม่น่าใช่อุบัติเหตุธรรมดาๆ ทุกคนในครอบครัวจิรการพาณิชย์สามารถตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้ เพราะทุกคนล้วนมีผลประโยชน์ในมรดกของเจ้าสัวไพศาลจากการตายของพิรุณทั้งสิ้น โดยเฉพาะ ภาม กับ ภิมลภา ซึ่งมีชื่อตรงกับตัวอักษรที่พิรุณเขียนทิ้งไว้ คมกริชนึกถึงภาพวันที่พิรุณพบรอยกระสุน แล้วเขากับนรีเข้าไปเก็บหลักฐาน เขาจำแววตาอันเจ็บปวดของภามที่มองตามพิรุณกับอัณศยาออกไปได้ จึงเสนอความคิด ว่าจะเป็นไปได้มั้ยที่ภามตัดสินใจฆ่าพิรุณเพราะเรื่องชู้สาว สุขุมคล้อยตามในข้อสันนิษฐานของคมกริชแต่นรีเสนออีกแง่มุมว่าหากไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นทะเบียนรถก็มีความเป็นไปได้ แต่สุขุมแย้งว่าพยานในละแวกที่เกิดเหตุให้ปากคำว่า ภายหลังได้ยินเสียงชน ก็เห็นรถไม่มีหมายเลขทะเบียนวิ่งผ่านไป คมกริชคิดว่าอักษรที่พิรุณทิ้งไว้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นชื่อ หรือ ทะเบียนรถก็ได้ เพราะยังไงรถก็ต้องเคยมีทะเบียนมาก่อน เป็นหน้าที่ของสุขุมที่จะต้องหาคำตอบต่อไป ส่วนตัวเขาและนรีจะลุยหาหลักฐานในคดีของเจ้าสัวไพศาลต่อไปเช่นกัน และหากใครมีความคืบหน้าของคดีที่คิดว่าน่าจะเกี่ยวพันกันให้รีบแจ้งอีกฝ่าย
ตลอดการพูดคุย คมกริชมีปฏิกิริยาแปลกๆกับนรี จนสุขุมจับสังเกตได้ว่าคมกริชน่าจะมีความรู้สึกพิเศษให้กับนรี ก่อนกลับสุขุมเขาแอบถามคมกริชถึงเรื่องนี้ แต่คมกริชยังปากแข็งปฏิเสธ สุขุมตั้งปณิธานไว้ว่าเขาจะหาโอกาสแกล้งคนปากแข็งให้เข็ด
แล้วคมกริชก็ต้องเจอเรื่องเครียด เมื่อนักข่าวรู้เรื่องการผ่าพิสูจน์ศพเจ้าสัวฯ รวมถึงเรื่องการตายของพิรุณซึ่งเป็นทายาทของเจ้าสัวฯ จึงมาดักรอสัมภาษณ์ แม้คมกริชจะยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อคลี่คลายทุกคดี และขอให้รอฟังแถลงข่าวทีเดียวแต่นักข่าวก็ไม่ยอมเลิกรา ดีที่นรีใช้ไหวพริบช่วยดึงตัวคมกริชออกมาจากวงล้อมนักข่าวได้
สุขุมตั้งใจจะเริ่มสืบคดีจากคนที่มีเปอร์เซ็นต์จะเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด นั่นก็คือ ภาม เขานำภาพวงจรปิดที่สถานีตำรวจจากคมกริช ซึ่งเป็นสถานที่สุดท้ายที่พิรุณพบกับภามมาตรวจสอบดู แล้วสุขุมก็ได้เห็นภาพการพูดคุยอย่างมีอารมณ์ระหว่างภามกับพิรุณ สุขุมจึงเดินทางไปที่วัด เพื่อจะสอบปากคำภาม
ข่าวการตายของพิรุณแพร่ภาพออกทุกสถานี แพรพิมพ์ได้ดู ก็รีบขึ้นไปปลุกธีรสิทธิ์ขึ้นมาถาม ว่าเขาเกี่ยวข้องกับการตายของพิรุณหรือไม่ ธีรสิทธิ์ปฏิเสธ แพรพิมพ์ขู่ว่าถ้าเขาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เธอจะลากเขาเข้าคุก ธีรสิทธิ์หงุดหงิดนอนต่อไม่ได้แล้วเลยลุกขึ้นแต่งตัว ไถเงินแพรพิมพ์ แล้วออกไปบ่อน
ด้านภิมลภา หลังรู้ข่าวการตายของพิรุณ ก็ดีใจ แต่งตัวออกไปช็อปปิ้งอย่างอารมณ์ดี เธอโทรนัดใครคนหนึ่งไปกินข้าวและปาร์ตี้ฉลอง
ส่วนพัชระเมื่อรู้ข่าว ก็โทรหาภาม สอบถามเส้นทางไปวัดจนเรียบร้อยก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาบอกกรรณิการ์ว่าเตรียมกับข้าวไว้ให้แล้ว ถ้าหิวก็อุ่นกินได้เลย แล้วให้นอนพักผ่อน ไม่ต้องรอเขา เสร็จงานแล้วเขาจะรีบกลับ กรรณิการ์รับคำ
ที่วัด สุขุมสอบปากคำภาม ถึงการพูดคุยที่เขาได้เห็นจากกล้องวงจรปิด ภามบอกสุขุมว่าเป็นแค่การเข้าใจผิดกัน แต่สุขุมยืนยันว่าเขาจำเป็นต้องรู้ เพราะคู่สนทนาของภามถูกฆาตกรรม และหากภามไม่เล่า เขาจะส่งให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านปากช่วยถอดคำพูดให้ ช้าหรือเร็วเขาย่อมรู้อยู่ดี หากภามบริสุทธิ์ใจก็ควรช่วยเขาจับฆาตกร ภามจึงยอมบอกสุขุม ว่าในภาพวงจรปิด พิรุณโกรธเขาเพราะรู้เรื่องที่เขาเคยคบกับอัณศยาเมื่อหลายปีก่อน ภามยืนยันกับสุขุมว่าสิ่งที่พิรุณรู้มันเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เขากับอัณศยาไม่มีอะไรต่อกันแล้ว สุขุมถามภามว่าหลังจากแยกจากพิรุณแล้วเขาไปไหนต่อ ภามบอกว่าเขากลับคอนโด สุขุมโทรสั่งลูกน้องให้ขอหมายไปขอภาพจากกล้องวงจรปิดจากคอนโดของภามเพื่อยืนยัน หลังวางสาย สุขุมถามหาอัณศยา เขาต้องการสอบปากคำเธอเพิ่มเติมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพิรุณ ภามรู้ว่าสุขุมกำลังสงสัยอะไร เขาไม่ต้องการให้มีอะไรไปกระทบกระเทือนจิตใจอัณศยาอีก ภามจึงขอร้องสุขุม ว่าขอให้ผ่านเรื่องงานศพของพิรุณไปก่อน เพื่อให้จิตใจของอัณศยาเข้มแข็งขึ้น แล้วเขาจะพาอัณศยาไปพบสุขุมที่สถานีตำรวจเอง
สภาพเหม่อลอยของอัณศยาที่มีน้ำตาไหลเป็นทางไม่ขาดสายอยู่หน้าโลงศพของพิรุณ ทำให้สุขุมพอจะเข้าใจในสิ่งที่ภามพูด จึงยอมล่าถอยกลับไป
ภิมลภามาถึงร้านที่โทรนัดไว้ ชายคนที่เดินออกมารับภิมลภาที่หน้าร้าน ก็คือ ใหญ่ อดีตนายแบบที่เธอเคยรู้จัก ภิมลภาได้เจอกับใหญ่อีกครั้งในวันที่เธอทะเลาะกับเสือแล้วออกมาเที่ยว หลังจากนั้นมา ทุกครั้งที่ภิมลภารับโทรศัพท์แล้วหายไป คือเธอมาอยู่กับใหญ่
งานศพคืนแรกผ่านไป โดยมีภามคอยดูแลจัดการทุกอย่าง แพรพิมพ์และพัชระมาร่วมงานสวดศพด้วย ทนายวิวัฒน์นำพวงหรีดมาแสดงความเสียใจ พร้อมแจ้งแก่อัณศยาว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของพิรุณ เขาจะมาพบเธออีกครั้งเพื่อจัดการเรื่องมรดกให้
เมื่อจบงาน อัณศยาเดินมาส่งแพรพิมพ์และพัชระที่รถ เธอขอบคุณทั้งคู่ที่มาอโหสิกรรมให้พิรุณเป็นครั้งสุดท้าย ภามอาสาไปส่งนงนารถกับอัณศยาที่บ้าน อัณศยาปฏิเสธ นงนารถบอกภามว่าเธอกลับกับคนแถวบ้านได้ แต่ขอให้เขาช่วยพาอัณศยาไปรับพี่สาวที่สนามบินเพราะดึกแล้ว อัณศยาขัดนงนารถไม่ได้ จึงจำใจต้องไปกับภาม
ระหว่างเดินไปขึ้นรถ อัณศยาถามสิ่งที่คาใจว่าภามเป็นคนฆ่าพิรุณใช่หรือไม่ ภามแอบน้อยใจจึงประชดรับข้อกล่าวหานั้น แต่สุดท้ายอัณศยาไม่เชื่อ ทั้งคู่ถกเถียงกัน ภามพยายามอธิบายในแง่มุมของธรรมชาติในการเขียนภาษาไทยให้อัณศยาฟัง ว่าหากสิ่งที่พิรุณเขียนเป็นชื่อตนจริง ทำไมพิรุณถึงเขียน ม. มาก่อน สระอา อัณศยาเริ่มคล้อยตามว่าพิรุณอาจจะไม่ได้เขียนชื่อคน แต่อาจจะเขียนทะเบียนรถ ตามที่ภามกล่าว แถมภามยังตั้งข้อโต้แย้งอีกหนึ่งประเด็น ว่าจริงๆแล้วอัณศยาต่างหาก ที่ควรจะตกเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเธอเป็นคนที่จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุดหากพิรุณตาย อัณศยาช็อคไปเพราะไม่คิดว่าภามจะมองเธอในแง่ร้ายแบบนี้ เธอท้าให้เขาจับเธอไปหาสุขุม เมื่อเห็นภามนิ่งไม่ตอบโต้อะไร อัณศยาจึงบอกว่าเธอจะไปสนามบินเอง แล้วจะเดินหนีไป ด้วยความเป็นห่วงภามรีบดึงแขนรั้งอัณศยาไว้แต่อัณศยาไม่ทันตั้งหลัก จึงเซจะล้ม ภามคว้าตัวเธอไว้ได้ทัน ภามขอโทษอัณศยาและขอร้องให้เธอขึ้นรถ เพียงแว่บหนึ่งที่ความห่วงหาปรากฏในแววตาของภาม อัณศยาจึงยินยอมขึ้นรถไปกับเขาโดยดี โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า มีนักข่าวแอบถ่ายรูปขณะที่ภามประคองกอดอัณศยาไว้ได้
เมื่อกลับถึงคอนโด ภิมลภาและใหญ่เจอสุขุมมารอสอบปากคำอยู่ ภิมลภาไม่อาจปฏิเสธการตอบคำถามได้