เรื่องย่อ "นายยิ้มมะยมหวาน"
บทประพันธ์ :บุษยมาศ (ดัดแปลงจากบทประพันธ์เรื่อง เปลือกทอง)
บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ , วรรณพร รัฐพิทักษ์สันติ
กำกับการแสดง : ณรงค์ จารุจินดา
แนวละคร : โรแมนติก คอมเมดี้
ผลิต : บ.เสตปเพาเวอร์ทรี จำกัด
ผู้จัด : พัชนี จารุจินดา
วันเวลาออกอากาศ : ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 19.05-20.05 น. ทางช่องไทยทีวีสี 3, ช่อง 33 และรับชมผ่านทาง Application 3 Live
ระยะเวลาออกอากาศ : ตอนแรก วันพฤหัสบดีที่ 22สิงหาคม 2562
ประชาสัมพันธ์ : น้ำ รัชนี /081-4315121
#นายยิ้มมะยมหวาน #STEPPOWER3 #Ch3Thailand #lakornonlinefan #ลมหายใจคือละคร
เรื่องย่อ
‘ในสังคมที่เต็มไปด้วยเปลือก...มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนที่สร้างเปลือกสวยงามขึ้นมาห่อหุ้มตัวตนที่แท้จริง แทนการสร้างจิตใจที่ดีงาม...เมื่อเป็นเช่นนี้ปฏิบัติการกะเทาะเปลือกมนุษย์แบบเพี้ยนๆ เพื่อพิสูจน์ทองเนื้อแท้ ของภัสดา ภัทรราชย์ จึงเริ่มต้นขึ้น’
ภัสดา ภัทรราชย์ ชายหนุ่มวัย 30 ปี ผู้เพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ คุณสมบัติ และทรัพย์สมบัติ ขาดเพียงอย่างเดียวคือศรีภรรยา ทำให้ หม่อมสุภางค์ ผู้เป็นป้ากลัวว่า ราชสกุลภัทรราชย์ของตนจะสูญสิ้น จึงพยายามสรรหาสาวๆ ในแวดวงไฮโซที่มีฐานะทัดเทียมกันมาให้หลานชายเลือก โดยอาศัยงานเปิดตัวโรงแรมเทวฤทธิ์ ซึ่งดัดแปลงมาจากวังเก่าแก่ของตระกูลเป็นสถานที่เลือกคู่ ภัสดารู้ทันแผนการของหม่อมสุภางค์ ดังนั้นวันงานเขาจึงดับฝันผู้เป็นป้าด้วยการไม่ไปร่วมงาน
ในงานเดียวกัน...เบญจแขไข เจ้าของร้านขนมไทยประยุกต์วัย 22 ปี ได้รับการว่าจ้างให้มาสาธิตการทำขนมไทยแบบร่วมสมัย เธอมากับพิมพา อาแท้ ๆ ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำขนมไทยด้วยกัน ในงานนนี้ เบญได้พบกับพี่สาวและแม่ คือจตุชไม (สี่) พี่สาวแท้ๆ ของเบญจแขไข ที่ไม่ยอมรับเบญจแขไขเป็นน้อง และสั่งห้ามไม่ให้บอกใครว่าเป็นพี่น้องกัน เพราะอายที่ไฮโซอย่างตนมีน้องเป็นแม่ค้าขายขนม จตุชไมถือว่าตนเป็นลูกรักของพ่อแม่ ส่วนเบญจแขไขเป็นลูกชังซึ่งถูกเนรเทศไปให้ ย่าพิศ เลี้ยงที่บ้านสวนตั้งแต่แบเบาะ จตุชไมเกลียดขี้หน้าเบญจแขไขมาก
ความโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้งานของเบญจแขไขเกือบจะพังไม่เป็นท่า แต่ก็โชคดีที่ นายยิ้ม มะยมหวาน พนักงานเสิร์ฟของโรงแรม มาช่วยกู้สถานการณ์ไว้ได้ทัน ทุกอย่างจึงผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขกล่าวขอบคุณนายยิ้มอย่างจริงใจ ในขณะที่จตุชไมด่านายยิ้มยกใหญ่ ที่มาช่วยเบญแขไข และขู่ว่าจะไปฟ้องภัสดาเจ้าของโรงแรมให้ไล่นายยิ้มออก นอกจากนี้ยังดูถูกว่า นายยิ้มเป็นคนจนต่ำต้อย น่ารังเกียจอีกด้วย เบญจแขไขสงสารนายยิ้มที่ทำดีแต่กลับถูกด่าฟรี จึงออกหน้าปกป้องนายยิ้ม โดยการต่อว่าจตุชไมกลับไปแรงๆ ทำให้นายยิ้มรู้สึกประทับใจเบญจแขไขมาก ที่ยอมมีเรื่องกับจตุชไมเพื่อคนต่ำต้อยด้อยค่าอย่างตน
และที่งาน บุรินทร์ก็ได้พบกับพิมพา เขารู้สึกดีกับพิมพา เพราะเธอเป็นคนจิตใจดี อ่อนหวาน ธงทิว (ทิว) ชายหนุ่มที่เป็นเพื่อนชายคนพิเศษของเบญจแขไข เจ้าของบริษัทออแกนไนเซอร์ซึ่งเป็นคนจ้างเบญจแขไขมาทำงานนี้ ก็บอกกับเบญ ว่าทางโรงแรม เรียกร้องค่าเสียหาย ที่งานไม่เรียบร้อย เบญแขไขเสียใจมาก นอกจากจะไม่ได้ค่าแรงในวันนี้ ยังต้องหาเงินมาจ่ายให้กับโรงแรมอีก ธงทิว โยนความผิดให้ภัสดา โดยที่ไม่รู้ว่าแท้ที่จริง ภัสดา ก็คือนายยิ้ม ปลอมตัวมาเป็นพนักงานอยู่ในโรงแรมนั่นเอง ภัสดา ได้ยินเรื่องทุกอย่าง จึงรู้ว่า ธงทิวเป็นคนไม่ดี แต่เบญกลับไม่รู้ความจริง ยังคงมอบความไว้วางใจให้กับธงทิว
หม่อมสุภางค์ หลงกลสองแม่ลูกอย่าง สายสวาทและจตุชไม ถึงกับพาไปเลี้ยงอาหาร และชวนให้จตุชไมมาทำงานที่โรงแรม สองแม่ลูกดีใจมาก จตุชไมตั้งใจจะแต่งงานกับภัสดาให้ได้ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนก็ตาม ทางด้านหม่อมสุภางค์ก็ร้อนใจที่ภัสดาหายตัวไป ตั้งแต่วันงานเปิดตัวโรงแรม จึงสั่งให้บุรินทร์หาตัวให้พบบุรินทร์ พยายามติดต่อภัสดาทุกเครื่องมือการสื่อสารที่มีในโลก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ และในที่สุดภัสดาก็เป็นฝ่ายโทร. มาบอกบุรินทร์เองว่า เขาจะหายตัวไปสักระยะ เพราะต้องการหนีการจับคู่ของหม่อมสุภางค์
นายยิ้มวางแผนว่าถูกโจรปล้น หมดเนื้อหมดตัว ขอไปอาศัยอยู่ที่บ้านของเบญ ซ้ำเขายังขยันขันแข็ง ช่วยเบญส่งขนม จึงเป็นที่รักของย่าพิศ และพิมพา มีแต่สองผัวเมีย ตุ่น ต่วน และลูกชาย ไข่ ที่ไม่วางใจหาทางกลั่นแกล้งนายยิ้มสารพัด เพราะคิดว่านายยิ้มเป็นคนร้าย ระหว่างที่ช่วยงานในร้านขนม...นายยิ้มก็ได้เห็นว่า เบญจแขไขเป็นผู้หญิงที่ทำงานเก่ง และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสูตรขนมไทยให้มีความแปลกใหม่เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ทิ้งรากความเป็นไทย นายยิ้มชื่นชมแนวคิดของเบญจแขไข
วันหนึ่งธงทิวรู้ข่าวว่าจะมีทางด่วนตัดผ่านที่ดินแถบบ้านสวนของย่าพิศ และราคาที่ดินแถบนั้นก็จะต้องพุ่งปรี๊ดสูงขึ้นอีกหลายสิบเท่า ดังนั้นธงทิวจึงรบเร้าเบญจแขไขเรื่องการแต่งงานหนักขึ้น เพื่อหวังฮุบที่ดินและสมบัติทั้งหมด แต่เบญจแขไขก็บ่ายเบี่ยงเพราะยังไม่แน่ใจตัวเองว่ารักธงทิวจริงหรือไม่ ทั้งที่เธอคบหาดูใจกับธงทิวมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย ธงทิวมาหาเบญจแขไขที่ร้านบ่อยๆพร้อมทั้งมีของกำนัลมากมายมาฝากย่าพิศและพิมพาเพื่อเอาใจ แต่ถูกนายยิ้มกับเด็กชายไข่ที่หันมาร่วมมือกันปกป้องเบญจแขไขเล่นงานสะบักสะบอมกลับไปทุกครั้ง
เวลาผ่านไป บุรินทร์เริ่มทนไม่ได้ที่ภัสดาหายตัวไป เพราะตอนนี้เขาต้องรับศึกหนักหลายด้าน ทั้งหม่อมป้าสุภางค์ ทั้งจตุชไมที่พอตามหาภัสดาไม่เจอก็พากันมารุมเขา และที่สำคัญทางโรงแรมกำลังจะจัดงานเทศกาลขนมนานาชาติซึ่งเป็นงานใหญ่ระดับเอเชียอาคเนย์ และครั้งนี้ภัสดาจะต้องมาคุมงานด้วยตัวเอง บุรินทร์สงสัยจึงไปที่ร้านขนมของเบญจแขไข แล้วก็ได้เห็นภัสดาอยู่ที่นั่นในฐานะนายยิ้มมะยมหวาน ลูกจ้างร้านขนม บุรินทร์ ดีใจที่ตามหาภัสดาเจอ สองคนหลบออกไปคุยกันในที่ลับตาคนภัสดาเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้บุรินทร์ฟังโดยไม่ปิดบังอีก และสารภาพว่า เขาคิดจะจีบเบญจแขไขอย่างจริงจัง บุรินทร์ใช้เรื่องนี้มาเป็นข้อต่อรองให้ภัสดากลับไปดูแลงานเทศกาลขนมนานาชาติ ภัสดากลัวความลับเรื่องที่เขาโกหกเบญจแขไขว่าเป็นนายยิ้ม มะยมหวานแตก จึงต้องยอมกลับไปทำงานที่โรงแรมตามเดิม แต่ก็ยื่นเงื่อนไขให้บุรินทร์ติดต่อเบญจแขไขไปเปิดซุ้มขนมไทยในฐานะตัวแทนของโรงแรมในงานนี้ด้วย บุรินทร์ตอบตกลงทันที แต่สิ่งที่ทำให้บุรินทร์ตกใจ คือรู้ว่า พิมพา เป็นอาแท้ ๆ ของเบญจแขไขนั่นเอง
บุรินทร์แนะนำให้เบญจแขไขและพิมพารู้จักกับหม่อมสุภางค์อย่างเป็นทางการ หม่อมสุภางค์รู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูเบญจแขไขมากเป็นพิเศษ จตุชไมแกล้งทำเป็นไม่รู้จักเบญจแขไขกับพิมพา แต่ก็แอบส่งสายตาอาฆาตให้เบญจแขไขที่ได้คะแนนนิยมจากหม่อมสุภางค์มากกว่าตน
ภัสดารู้สึกรังเกียจนิสัยมองคนแต่เปลือกของคนบ้านเปรียบทอง และอยากจะให้บทเรียนแก่จตุชไมบ้าง จึงวางแผนสั่งสอนโดยการแกล้งพูดจาให้ความหวังต่างๆ นานาจนจตุชไมคิดว่าภัสดามีใจให้ แต่ที่จตุชไมขัดใจมากก็คือภัสดามักจะนัดไปพบในสถานที่แปลกๆ บรรยากาศแปลกๆ และแต่ละครั้งจตุชไมก็จะไม่เคยได้พบภัสดาเลยสักครั้ง เพราะภัสดาสร้างสถานการณ์ให้คลาดกันตลอด จตุชไมเกือบจะเจอตัวภัสดาจังๆ ในงานเทศกาลขนมฯ อยู่หลายครั้ง แต่ก็ถูกบุรินทร์สกัดดาวรุ่งจนต้องล่าถอยกลับไป
ในที่สุดงานเทศกาลขนมนานาชาติก็ผ่านไปด้วยดี เบญจแขไขหน้าบานยิ้มไม่หุบ เพราะขนมสูตรมะยมยิ้ม ที่มีแรงบันดาลใจมาจากนายยิ้ม มะยมหวานได้รับความสนใจจากลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจนมีออเดอร์เข้ามากมายจนแทบทำไม่ทัน เป็นเหตุให้ลุงเผือกเจ้าของร้านขนมคู่แข่งเกิดความอิจฉา จ้องจะทำลายล้างร้านของเบญจแขไขให้ได้
ในขณะที่ชีวิตของเบญจแขไขกำลังไปได้สวย คุณนายสายสวาทก็เป็นหนี้การพนันเสี่ยหลักชัย จำนวน 10 ล้านบาท และเมื่อถูกทวงมากๆ แล้วไม่มีเงินใช้หนี้ เสี่ยหลักชัยรู้มาว่าที่ดินบริเวณนั้นกำลังจะมีทางด่วนตัดผ่านและราคาจะสูงมากในอนาคต เสี่ยหลักชัยจึงบุกไปทวงหนี้ถึงที่บ้านสวนและขู่บังคับให้ย่าพิศยกที่ดินผืนนี้ให้ตน เพื่อล้างหนี้ให้คุณนายสายสวาท แต่ย่าพิศไม่ยอมง่ายๆ เสี่ยหลักชัยจึงส่งลูกน้องไปคุกคามย่าพิศ เบญจแขไขและพิมพาต่างๆ นานา ย่าพิศต่อสู้จนตกบันไดต้องเข้าห้อง ICU อาการหนักมาก หมอสั่งให้ญาติทำใจ ระหว่างที่อยู่ในห้อง ICU ย่าพิศก็เพ้อบอกให้เบญจแขไขเอาที่ดินคืนมาให้ได้
ลุงเผือกเจ้าของร้านคู่แข่งได้ที จึงติดต่อธงทิวให้เป็นนายหน้าไปเจรจาขอซื้อที่ดินบ้านสวนจากเบญจแขไข ธงทิวพยายามหว่านล้อมเบญจแขไขให้ขายแต่เบญไม่ยอม สุดท้าย ธงทิวถอดใจว่าไม่ได้เงินจากเบญแน่ อีกทั้งเบญก็หมดเนื้อหมดตัว ต้องหาเงินใช้หนี้ให้แม่อีก ธงทิว จึงตีตัวออกห่างทันที
นายยิ้มเป็นห่วงกลัวว่าเบญจแขไขจะได้รับอันตรายจากเสี่ยหลักชัย จึงบอกเบญจแขไขว่าภัสดายินดีจะช่วยเหลือเบญจแขไข โดยจะจ้างเบญจแขไขไปเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ มีหน้าที่คิดสูตรขนมไทยแปลกใหม่ให้กับโรงแรมเทวฤทธิ์ เบญจแขไขทุ่มเทเวลาในการทำงานแบบไม่ยอมพักผ่อนโดยมีนายยิ้มแอบมาเป็นลูกมือและให้กำลังใจอยู่เสมอ จนเบญจแขไขต้องไล่ให้ไปทำงาน เพราะกลัวว่านายยิ้มจะถูกภัสดาเล่นงานอีก
ธงทิวรู้ว่าเบญจแขไขไปทำงานที่โรงแรมเทวฤทธิ์และได้เงินค่าจ้างสูงและมีแนวโน้มว่าจะรักษาบ้านสวนไว้ได้ ก็หันกลับมาทำดีกับเบญจแขไขอีกครั้ง แต่เบญจแขไขไม่ดีด้วย และบอกเลิกเป็นแฟนกับธงทิว ภัสดาไม่ไว้ใจธงทิวจึงสั่งย้ายเบญจแขไขให้มาอยู่ที่บ้านพักของตนแทน เบญจแขไขเองก็อยากจะหลบหน้าธงทิวที่ตามตอแยไม่เลิกอยู่แล้ว จึงยอมย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของภัสดา
เมื่อนายธงทิวตามหาเบญจแขไขไม่เจอก็เครียด ธงทิวจึงนัดจตุชไมมากินเหล้าที่ผับแห่งหนึ่งสองคนเมาหนัก เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีเรื่องกลุ้มใจ ธงทิวหัวเสียเรื่องที่เบญจแขไขกำลังจะตีจากไปหานายยิ้มส่วนจตุชไมก็อารมณ์เสียที่จับภัสดาไม่ติดสักที ยิ่งระยะหลังภัสดาก็หายเงียบไป ติดต่อไม่ได้เลยและแล้วพิษแอลกอฮอล์ก็ทำให้ธงทิวและจตุชไมตกเป็นของกันและกันอย่างไม่ตั้งใจ แต่จตุชไมก็ไม่ได้เรียกร้องให้ธงทิวรับผิดชอบ เพราะถือว่าธงทิวเป็นแค่ทางผ่าน ส่วนเป้าหมายใหญ่ของจตุชไมอยู่ที่ภัสดา
จตุชไมไม่วางใจที่เบญจแขไขไปทำงานที่โรงแรมเทวฤทธิ์ และได้อยู่ใกล้ชิดกับภัสดา เพราะกลัวภัสดาจะหลงเสน่ห์ความสวยของเบญจแขไขจึงคิดหาทางกำจัด โดยการหลอกมอมยาแล้วพาไปให้ธงทิวปล้ำ ธงทิวตกใจเมื่อรู้ว่าน้องสาวของจตุชไมก็คือเบญจแขไข เบญจแขไขเกือบเสียทีธงทิว แต่นายยิ้มก็มาช่วยไว้ได้ทัน ธงทิวหลบหนี แต่นายยิ้มกับบุรินทร์จับตัวไว้ได้แล้วพาส่งตำรวจ เบญจแขไขเสียใจมากที่จตุชไมเกลียดตนถึงขนาดวางแผนทำร้ายกันถึงขนาดนี้ แต่นายยิ้มก็ปลอบใจและทำให้เบญจแขไขรู้สึกดีขึ้น และวันนี้เองที่เบญจแขไขรู้ใจตัวเองว่าเธอรักนายยิ้ม มะยมหวาน
เบญจแขไขไปหาหลักชัยที่บ้านเพื่อขอซื้อที่คืน แต่หลักชัยบอกว่า ขายที่ของย่าพิศให้คนอื่นไปแล้วเบญจแขไขตกใจมาก และคิดว่าเป็นพวกลุงเผือก จึงไปหาลุงเผือกที่บ้าน แต่ลุงเผือกปฏิเสธว่าตนไม่ได้เป็นคนซื้อ ทางด้านพิมพาก็ให้บุรินทร์ช่วยสืบว่าใครเป็นนายทุนคนใหม่ที่ซื้อที่ดินบ้านสวนของย่าพิศไป แถมยังใจดีให้ทุกคนอยู่ต่อเหมือนเดิมอีก ตอนแรกภัสดาจะปิดเรื่องที่เขาซื้อที่คืนมาจากเสี่ยหลักชัยไว้เป็นความลับ แต่ก็กลัวว่าอาการของย่าพิศจะทรุดหนัก จึงยอมบอกความจริงกับพิมพาและให้พิมพาไปบอกย่าพิศว่าได้ที่ดินกลับคืนมาแล้ว ย่าพิศจะได้สบายใจและหายเร็วขึ้น
พิมพาจะขอซื้อที่ดินคืนเพราะไม่ชอบรับของใครเปล่าๆ แต่ภัสดาบอกว่าไม่ต้องซื้อเพราะยังไงเขาก็ต้องคืนให้อยู่แล้ว และถ้าพิมพาไม่สบายใจก็ให้คิดซะว่าที่ดินผืนนี้เป็นสินสอดล่วงหน้าของเบญจแขไข ภัสดาตั้งใจจะสารภาพความจริงกับเบญจแขไขที่บ้านสวน จะขอเบญจแขไขแต่งงานพร้อมกับมอบโฉนดที่ดินคืนให้เป็นของขวัญในวันนั้นด้วย
หม่อมสุภางค์แปลกใจที่จู่ๆ ภัสดาก็ซื้อที่ดินบ้านสวนในราคาแพงลิบ แถมวันๆก็เอาแต่หมกตัวอยู่ที่นั่น เพื่อตกแต่งร้านขนมจนลืมงานที่โรงแรม หม่อมสุภางค์ถามบุรินทร์ แต่บุรินทร์กลับตอบแบบกำกวมว่า ภัสดาจะสร้างเรือนหอ หม่อมสุภางค์ดีใจมากที่จะมีหลานสะใภ้แต่ก็ยังไม่วางใจ เพราะกลัวได้คนไม่ดีจึงเรียกภัสดามาซักฟอกเป็นการด่วน ว่าไปแอบรักสาวที่ไหน ภัสดาบอกว่าเขาหลงรักหลานสาวย่าพิศ เจ้าของที่ดินที่เขาซื้อมา แต่ยังไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร หม่อมสุภางค์อยากรู้ใจจะขาดจึงจ้างนักสืบไปสืบว่าผู้หญิงที่ภัสดารักเป็นใครกันแน่?
ภัสดาให้คนโทร. นัดเบญจแขไขมารับโฉนดที่ดินคืนที่บ้านสวนย่าพิศ แต่ยังไม่บอกว่าคนซื้อเป็นใคร ระหว่างรอให้ถึงวันนัด ภัสดาก็ยิ้มแย้มมีความสุขกับการตกแต่งร้าน เพราะมั่นใจว่าเบญจแขไขต้องชอบแต่แล้วทุกอย่างก็ไม่เป็นดังฝัน เมื่อเบญจแขไขสืบจนรู้ว่าคนที่ซื้อที่ดินบ้านสวนของย่าพิศไปจากเสี่ยหลักชัยก็คือภัสดานั่นเอง เบญจแขไขเข้าใจผิดคิดว่าภัสดาต้องการซื้อที่รวมถึงร้านขนมของตัวเองไปเพื่อจะเอาไปตีตราเป็นแบรนด์ของโรงแรมก็โกรธมาก จึงบุกไปหาภัสดาที่โรงแรม แต่เลขาหลุดปากบอกว่าภัสดาอยู่บ้านสวน เบญจแขไขจึงรีบตามไปที่บ้านสวนทันที
หม่อมสุภางค์เข้าใจผิด คิดว่าภัสดา ไปชอบจตุชไม ส่วนจตุชไมเองก็รู้ความจริงว่านายยิ้ม คือภัสดา เขาเป็นคนเดียวกันก็ตกใจมาก ทางด้านจตุชไมหลังจากที่รู้ความจริงแล้วก็ยังคงตามจับภัสดาไม่หยุดหย่อน ยิ่งพอรู้ตัวว่าตัวเองกำลังตั้งท้องกับธงทิวก็ยิ่งตามล่าอย่างหนักหน่วงมากขึ้น จนภัสดาต้องพูดกับจตุชไมตรงๆ ว่าตนชอบเบญจแขไข จตุชไมกับธงทิวร่วมกันสร้างสถานการณ์และหลักฐานเท็จตบตาภัสดาว่า เบญจแขไขสมคบกับธงทิวเข้ามาหลอกเอาเงินของภัสดามาตั้งแต่ต้น
แล้วในที่สุด เบญก็รู้ความจริงเช่นเช่นเดียวกัน ตอนแรกเธอโกรธมาก แต่ตอนหลังก็เข้าใจว่า นายยิ้มทำไปเพราะความจริงใจทั้งสิ้น ภัสดาก็ขอโทษเบญจแขไขต่อหน้าทุกคนสำหรับเรื่องโกหกทั้งหมดที่ผ่านมา แล้วก็บอกรักและขอแต่งงานอีกทั้งยังสัญญากับเบญจแขไขต่อหน้าทุกคนว่า ต่อไปนี้เขาจะไม่โกหกเบญจแขไขแม้แต่คำเดียว เบญจแขไขยอมใจอ่อนและยอมแต่งงานด้วย ท่ามกลางความยินดีของทุกคนที่ในที่สุดคู่รักคู่นี้ก็ลงเลยกันได้เสียที
ด้านคุณนายสายสวาทเมื่อรู้ว่าลูกชังอย่างเบญจแขไขจะแต่งงานกับภัสดาก็รับไม่ได้มาโวยวายกับย่าพิศ ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกรักอย่างจตุชไมที่ตนเลี้ยงดูมาอย่างดีกลับได้พวกที่มีแต่เปลือกมาเป็นคู่ชีวิต
ในที่สุดภัสดากับเบญจแขไขก็แต่งงานกัน ภัสดารู้สึกภูมิใจที่เขามองคนไม่ผิด เขากราบขอบคุณคุณย่าพิศที่เลี้ยงเบญจแขไขมาเป็นอย่างดี จึงทำให้เติบโตมาเป็นคนที่มีจิตใจงดงาม เป็นทองเนื้อแท้ที่แสนบริสุทธิ์ไม่ใช่มีแต่เปลือกฉาบฉวย หม่อมสุภางค์ยิ้มหน้าบาน ในที่สุดก็ได้หลานสะใภ้สมใจแต่หม่อมสุภางค์ก็ยังไม่พอใจอยากให้ภัสดามีลูกเยอะๆ เป็นมะยมดกอีกด้วย
ความรักทองเนื้อแท้ที่แสนบริสุทธิ์ของเบญจแขไข กับนายยิ้มมะยมหวานก็จบลงด้วยประการฉะนี้ ความรักที่ไม่ได้มากจากการคบกันแค่เปลือกนอก แต่เป็นความรักที่มีแต่เนื้อแท้ของความรักที่บริสุทธิ์ของกันและกัน
รายชื่อนักแสดง
สรวิชญ์สุบุญ : ภัสดา
ชายหนุ่ม อายุ 28 ปี เจ้าของโรงแรมเทวฤทธิ์ รวยมาก รูปร่างหน้าตาดีมีเสน่ห์ เป็นที่หมายปองของสาวๆ เกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่เคยลำบาก เป็นคนจริงจังกับชีวิต ไม่ชอบคนสอพลอ เอาอกเอาใจ เบื่อสังคมที่ให้ความสำคัญกับเปลือกมากกว่าความดี เพราะเคยมีปมเรื่องครอบครัวที่เห็นชื่อเสียงของตระกูลเป็นใหญ่จนไล่แม่ออกไปผจญความลำบากนอกวัง พอเจอเบญจแขไขก็ชอบเพราะเหมือนแม่ของตัวเอง เลยเข้าไปจีบในฐานะ ‘นายยิ้ม มะยมหวาน’ ผู้ชายจนๆ คนหนึ่ง เพื่อลองใจ (ตัวละครเดียวกับนายยิ้ม)
สรวิชญ์สุบุญ : นายยิ้ม
ชายหนุ่ม อายุ 28 ปี ฐานะยากจน เป็นลูกจ้างร้านขนมของเบญจแขไข เป็นคนอารมณ์ดีแบบโอเวอร์ ขี้เล่น กวนประสาท พูดมาก พูดไม่หยุด พูดได้ทั้งวัน มองโลกในแง่ดีสุดๆ คอยช่วยงานเบญจแขไขไม่ห่างยิ่งกว่าเงาตามตัว เวลาเบญจแขไขเครียด ก็จะพยายามทำให้ยิ้ม พูดจาปลอบใจแบบอ้อมๆ กวนๆ (สรุปเป็นผู้ชายกวนสุดๆ)
มิเชล เบอร์แมนน์ : เบญจแขไข
หญิงสาว อายุ 22 ปี เป็นแม่ค้าขนมหวาน ทำขนมไทยอร่อยมาก หน้าตาดี นิสัยติดดิน แต่งตัวทะมัดทะแมง ห้าวๆ ลุยๆ ไม่ยอมคน ตรงไปตรงมา เกลียดคนโกหก ขยันทำงานเพื่อเก็บเงินเป็นค่ารักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดให้ย่า จริงจังกับทุกเรื่อง จนบางครั้งดูเป็นคนเครียดเกินไป
ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ : พิมพา
สาวโสด อายุ 35 ปี เป็นคนธัมมะ ธัมโม ชอบเข้าวัดปฏิบัติธรรม พูดจาอ่อนหวาน พูดช้าๆ เนิบนาบ ใสซื่อ หัวอ่อน เชื่อคนง่าย ใครอำอะไรก็เชื่อเขาหมด เป็นคนซื่อแต่ไม่โง่ มองคนในแง่ดี เคยอกหักจากความรักครั้งแรก ทำให้ฝังใจไม่ยอมมีความรักอีก จนมาเจอความรักที่แท้จริงจากบุรินทร์
อัครณัฐ อริยฤทธิ์วิกุล : บุรินทร์
ชายหนุ่มผู้เป็นมือขวาของภัสดา เป็นคนสองบุคลิก เวลาอยู่ต่อหน้าพนักงานจะเป็นผู้บริหารที่เนี้ยบ ภูมิฐาน น่าเชื่อถือ แต่เวลาอยู่กับภัสดาก็จะเป็นคนขี้เล่น กวนๆ คิดเร็ว พูดเร็ว ทำอะไรเร็ว คล่องแคล่ว คอยแก้ปัญหาให้ภัสดาทุกอย่าง เป็นเด็กที่หม่อมสุภางค์อุปการะไว้ในวัง และเป็นลูกไล่ของภัสดามาตั้งแต่เด็กๆ
ศิระ แพทย์รัตน์: ธงธิว
เจ้าของบริษัทออแกนไนเซอร์ รับจัดงานทุกประเภท บริษัทกำลังจะเจ๊ง เลยต้องตามตื๊อจีบเบญจแขไข เพราะหวังฮุบที่ดินของย่าพิศที่มีราคาสูง เป็นคนเห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน เอาเปรียบเบญจแขไขทุกอย่าง
ณิชาวรินทร์ อรุณรุ่งไพศาล : จตุชไม(สี่)
หญิงสาว อายุ 24 ปี เป็นผู้หญิงสวยประดิษฐ์ แต่งตัวจัด ของใช้ทุกอย่างตั้งแต่หัวจรดเท้าต้องเป็นแบรนด์เนมเท่านั้น เป็นคนเห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรต้องได้ ต่อให้ต้องแย่งชิงก็ทำ นิสัยไม่ดีเพราะได้รับการเลี้ยงดูแบบผิดๆ จากคุณนายสายสวาท ทำทุกวิถีทางเพื่อจับภัสดามาเป็นสามีให้ได้
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล : สายสวาท
หญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 45-50 ปี เป็นคุณนายถังแตก แต่ไม่ยอมรับความจริง ยึดติดกับความร่ำรวยในอดีต ภาคภูมิใจในความเป็นผู้ดีเก่าของตัวเอง ไม่ยอมใช้นามสกุลสามี เพราะเป็นนามสกุลชาวสวน สร้างภาพเป็นคุณนายไฮโซปกปิดความกลวงของตัวเอง ทำทุกวิถีทางเพื่อจะจับภัสดามาแต่งงานกับจตุชไมให้ได้ เกลียดเบญจแขไขเข้ากระดูก ชอบดุสามี (พนัส)
อุทุมพร ศิลาพันธ์ : หม่อมสุภางค์
หญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 45-50 ปี เป็นป้าของภัสดา รักหลานมาก เป็นคนมีความยุติธรรม อยากให้ภัสดาแต่งงานกับผู้หญิงดีๆ ชอบแต่งตัวแบบจัดเต็ม เหมือนตู้เพชรเคลื่อนที่ เป็นผู้ใหญ่ใจดี มีเมตตา พูดจาไพเราะ นุ่มนวล แม้แต่เวลาที่โกรธจัดๆ ก็ยังดูนุ่มนวล สมเป็นผู้ดี
ชลิต เฟื่องอารมย์ : ปู่เผือก
อายุประมาณ 65-70 ปี เป็นคู่กัดตลอดกาลของย่าพิศ (ทะเลาะกันแบบน่ารักๆ ขำๆ) เปิดร้านขายขนมไทยอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับร้านของย่าพิศ เป็นคนแก่ขี้อิจฉา หัวโบราณ ต้นตระกูลเป็นห้องเครื่องในวัง จึงยึดมั่นในขนบธรรมเนียมแบบเดิมๆ ว่าขนมไทยจะประยุกต์ ดัดแปลงรูปแบบไม่ได้ เดี๋ยวบรรพบุรุษจะสาปแช่ง ชอบพูดจาจิกกัดด้วยภาษาโบราณที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ
ปิยะมาศ โมนยะกุล : ย่าพิศ
อายุประมาณ 65-70 ปี เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดแบบเรื้อรัง ต้องรักษาด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ แต่ไม่ยอมรักษาเพราะไม่อยากให้ลูกหลานเสียเงิน เป็นคนแก่ที่กายป่วยใจไม่ป่วย มักแสดงออกว่าแข็งแรง แต่ลับหลังคนอื่นก็แอบหอบ แอบเหนื่อย ชอบเล่นโยคะ เป็นคุณย่านักกิจกรรม วันๆ ไม่อยู่นิ่ง เป็นคนถ่ายทอดวิชาทำขนมไทยให้เบญจแขไข รักเบญจแขไขมาก และหวงที่ดินบ้านสวนมาก ไม่ยอมขายให้ใครเด็ดขาด
น้อย โพธิ์งาม : ตุ่น
หญิงวัยกลางคน อายุประมาณ 45 ปี คนรับใช้ประจำตัวย่าพิศ คอยดูแลย่าพิศ และทำงานบ้านทุกอย่าง มีนิสัยสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้าน ชอบเมาท์ แต่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เป็นภรรยาของต่วน เป็นแม่ของเด็กชายไข่
อาไท กลมกิ๊ก : ไข่
เด็กผู้ชาย อายุ 9 ขวบ เป็นลูกสมุนของเบญจแขไข เรียนอยู่ชั้น ป. 4 เป็นเด็กฉลาด แก่น ซน เป็นคู่ปรับนายยิ้ม คอยกันท่าไม่ให้นายยิ้มและธงทิวเข้าใกล้เบญจแขไข ตอนหลังกลายเป็นคู่หูนายยิ้ม
กล้วย เชิญยิ้ม : ต่วน
ชายวัยกลางคน อายุประมาณ 45 ปี เป็นคนขับรถบ้านย่าพิศ ช่วยงานทุกอย่างในบ้าน มีนิสัยสนุกสนานเฮฮา เป็นสามีของตุ่น เป็นพ่อของเด็กชายไข่
นักแสดงรับเชิญ
รอน บรรจงสร้าง : มนัส
มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ : แม่ภัสดา